เข็มทิศชีวิต – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 22 Jun 2017 10:32:55 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ก.ล.ต. เตรียมสอบ “ครูอ้อย” ปมหลอกรายย่อยลงทุนหุ้น ABC ขาดทุนยับ https://positioningmag.com/1130221 Thu, 22 Jun 2017 08:47:35 +0000 http://positioningmag.com/?p=1130221 ยังเป็นปมฉาวให้ต้องติดตามต่อ สำหรับกรณีที่มีนักลงทุนออกมาร้องเรียนพฤติกรรมที่ไม่ชอบมาพากลด้วยการชักชวนนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของ ฐิตินาถ ณ พัทลุง หรือ “ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต” เจ้าของคอร์สอบรมการให้กำลังใจคลายปมชีวิตให้กับนักธุรกิจ ดารานักแสดง บุคคลผู้มีชื่อเสียง และเป็นผู้เขียนหนังสือขายดีระดับ Best Seller จนก่อให้เกิดความเสียหายนับสิบล้านบาท

ล่าสุด เกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า กรณีของ ครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง ที่พัวพันการซื้อขายหุ้นบริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ABC จนทำให้เกิดความเสียต่อนักลงทุนบางรายนั้น เป็นหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นผู้ตรวจสอบ เพราะมีอำนาจในการตรวจสอบได้หลายด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของเส้นทางการเงินที่เข้ามาลงทุน ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำหน้าที่ดูแลเรื่องของการซื้อขาย ซึ่งมีการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นเป็นปกติอยู่แล้ว

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุว่า สำนักงาน ก.ล.ต. อยู่ระหว่างตรวจสอบเรื่องดังกล่าว แต่ข้อเเท็จจริงที่ปรากฏยังสรุปไม่ได้ว่า มีการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายหลักทรัพย์หรือไม่ โดย ก.ล.ต. จะพิจารณาจากหลักฐาน และข้อเท็จจริง หากอยู่ในส่วนที่ ก.ล.ต. ดูแล ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป ซึ่งนักลงทุนที่ได้รับความเสียหาย หรือผู้ที่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์สามารถแจ้งมาที่ ก.ล.ต. ได้

“ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต. มีการตรวจสอบการซื้อขายหุ้น และระบบที่ดูแลเป็นปกติอยู่แล้ว หากพบการกระทำผิดกฎหมายจะดำเนินการอย่างเคร่งครัด แต่ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนหุ้น นักลงทุนเองควรมีความรอบคอบ และตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากจะลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก ควรขอคำแนะนำจากผู้ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.”

ปัจจุบัน ฐิตินาถ ณ พัทลุง หรือครูอ้อย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 ของ บริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น ABC โดยถือหุ้น 118,551,100 หุ้น หรือถือสัดส่วน 1.50% ของทุนจดทะเบียน

โดยเริ่มซื้อตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งเป็นถือหุ้นใหญ่เป็นอันดับ 3 ของบริษัท มีหุ้น 25,163,500 หุ้น หรือ 1.91% ณ เดือนสิงหาคม 2557 ราคาหุ้น ABC ปรับตัวสูงสุดระหว่างวันถึง 30% และปรับขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการ พุ่งกระฉูดถึง 249% ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม-22 สิงหาคม 2557 (โดยราคาปรับขึ้นจาก 18.20 บาทต่อหุ้น ไปสูงสุดที่ 63.50 บาทต่อหุ้น)

ต่อมาในปี 2558 ซื้อหุ้นเพิ่มเป็น 57,167,200 หุ้น ครองสัดส่วนถือหุ้น 2.17% จากการปรับราคาพาร์จากเดิม 1 บาท เหลือเพียง 0.10 บาท ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ครูอ้อยยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสามของ ABC จนถึงปัจจุบัน


ที่มา : http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9600000063608

]]>
1130221
เป็นขบวนการ ! “ครูอ้อย” ตั้งโต๊ะแถลง ถูกมือมืดทำเว็บไซต์ขู่รีดเงิน 11 ล้าน https://positioningmag.com/1129649 Sat, 17 Jun 2017 03:30:06 +0000 http://positioningmag.com/?p=1129649 “ฐิตินาถ ณ พัทลุง” ระบุถูกมือดีทำเว็บไซต์โจมตีอย่างเป็นระบบ ขู่หยุดสอน หยุดชวนคนทำบุญ เรียกค่าไถ่ 11 ล้าน แลกกับการหยุดแพร่ข่าว ยืนยันจัดหลักสูตรเข็มทิศชีวิตไม่คิดเงิน แต่เปิดสอนให้คนกลุ่มเล็ก คิดชั่วโมงละ 1,500 บาท

วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่โรงแรมสุโขทัย สาทร ฐิตินาถ ณ พัทลุง หรือ ครูอ้อย โค้ชชีวิตและผู้เขียนหนังสือเข็มทิศชีวิต เปิดแถลงข่าวเป็นครั้งแรกว่า หลายเดือนที่ผ่านมา ได้ถูกโจมตีอย่างเป็นระบบ จนกระทั่งเมื่อวานซืนได้รับลิงก์จากเว็บไซต์หนึ่งส่งข้อความเป็นเท็จทำลายตนและครอบครัวอย่างหนัก มาข่มขู่เพื่อขอเงิน 11 ล้านบาท หากไม่จ่ายเงินตามที่เรียกร้องจะส่งลิงก์เปิดโปงพฤติกรรมไปยังนักเรียน 7,000 คน ส่งให้นักข่าวและโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น บิดาของตนเป็นเสื้อแดง ปลูกฝังให้ตนเป็นคนไม่ดี พร้อมกับขู่ให้หยุดสอน หยุดชวนคนทำบุญ

โดยมีการทำเป็นขบวนการต่อเนือง สลับซับซ้อน เป็นมืออาชีพ อย่างที่ตั้งเว็บไซต์ก็อยู่ต่างประเทศ จึงได้นำเรื่องและหลักฐาน ไปร้องเรียนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และได้ขอความคุ้มครองตามกระบวนการยุติธรรม

ตนเองเป็นครู มีความรักและปรารถนาดีกับลูกศิษย์ทุกคน แต่หลายครั้งที่พูดตรงๆ ทำให้ทุกคนโกรธ สำหรับลูกศิษย์ที่โกรธ ตนขอขมาและขออโหสิกรรม ตนไม่คิดว่าการเผยแพร่ข่าวต่างๆ เป็นฝีมือของลูกศิษย์ ซึ่งข้อมูลต่างๆ ได้ส่งให้
ดีเอสไอแล้ว และแจ้งความให้ตำรวจประสานงานกับ ปอท. แล้ว

ส่วนเรื่องราคาของหลักสูตรนั้น ปกติจะมีหลักสูตรให้เรียนฟรี เช่น เข็มทิศมหาชน ฟรีหมด 4 วัน 3 คืน แม้แต่ค่าห้องพัก มีคนเรียนฟรีมากถึง 9 ล้านคน แต่มีหลักสูตร ทำให้คนที่ไม่อยากเบียดกับคนเยอะๆ มาเรียนเป็นกลุ่มเล็กๆ คิดชั่วโมงละ 1,500 บาท วันละ 8 ชั่วโมง 2 วัน (24,000 บาท) เหมือนกับการเรียนพิเศษ แต่ไม่ได้บังคับ เทียบกับต่างประเทศที่มีการสอน ราคาแพงมากถึง 3 แสนบาท

ส่วนที่ถูกวิจารณ์ว่า หลักสูตรเข็มทิศชีวิตไปคล้ายกับวัดพระธรรมกายนั้น ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นพระ ไม่ได้เปิดรับบริจาค ให้คนมาก็เหมือนมาซื้อข้าวกิน งานของเรา คือมาแก้ความทุกข์ให้กับคน

สำหรับ ข้อเรียกร้องของดารา ว่าครูอ้อยนำภาพจากผู้ที่มีชื่อเสียงไปใช้โปรโมทคอร์สโดยไม่ได้ขออนุญาตนั้น เธอได้ชี้แจงว่า ในขั้นตอนการสมัครระบุไว้ และรับทราบกันว่าภาพและเสียงเป็นลิขสิทธิ์ของหลักสูตร


ที่มา : http://manager.co.th/OnlineSection/ViewNews.aspx?NewsID=9600000061683

]]>
1129649
ชำแหละเครือข่ายธุรกิจ “เข็มทิศชีวิต” จากหลักสูตรดัง สู่เจ้าของอสังหาฯ–โกยหุ้น 200 ล้าน https://positioningmag.com/1129509 Fri, 16 Jun 2017 10:00:19 +0000 http://positioningmag.com/?p=1129509 กำลังเป็นที่สนใจ และถูกวิพากษ์ วิจารณ์อย่างหนัก สำหรับคอร์ส “เข็มทิศชีวิต” ของ ครูอ้อย-ฐิตินาถ ณ พัทลุง ที่มีดาราและนักธุรกิจดังเข้ามาร่วมคอร์สจำนวนมาก มีผลตอบรับทั้งในแง่ดีและแง่ลบเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

การมีคนดังการออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับหลักสูตรในช่วงเวลาติดๆ กัน สร้างความกังขาการเรียนการสอนในเชิงดราม่ามากมาย ที่วิจารณ์ในโลกโซเชียลถึงความไม่ชอบมาพากล ที่ช่วงหลังๆ จะเน้นดราม่า และรีวิวเรื่องความร่ำรวย มีการโชว์รูป ถ่ายคู่กับดารา นักธุรกิจ คนรวยมากมาย จนถูกนำไปเปรียบว่า กำลังเหมือนกับลัทธิเข้าไปทุกที

จนมีการชำแหละถึงค่าคอร์สหลักสูตรเข็มทิศชีวิต สร้างรายได้ให้กับครูอ้อย-ฐิตินาถ อย่างเป็นล่ำเป็นสัน เฉลี่ยปีละไม่ต่ำ 90 ล้านบาท ! ยังไม่รวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และยังเป็นเจ้าของพอร์ตหุ้นที่มีมูลค่า 200 ล้านบาท

เรามาดูกันว่า เครือข่ายธุรกิจเข็มทิศชีวิต จากการใช้กลไกการตลาด ที่อาศัยคนดังในการสร้างชื่อและเครือข่ายธุรกิจให้เธอได้ขนาดไหน จากข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า บริษัท เข็มทิศความสุข จำกัด จดทะเบียนวันที่ 1 กันยายน 2558 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ประกอบกิจการ จัดประชุมและสัมมนา ตั้งอยู่ที่ 64/2 หมู่ที่ 7 ต.ท่าสะอ้าน.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีกรรมการ 4 คน คือ นางสาวฐิตินาถ ณ พัทลุง, นางสาววรลักษณ์ ทองมาก นางสาว ศิริรัตน์ ต. สุวรรณ และนายไสว ณ พัทลุง 

แจ้งผลประกอบการ ปี 2558 (14 มิถุนายน 2560 ) ระบุว่า มีรายได้ 4,923,835 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,009,804 บาท สินทรัพย์รวม 10,002,600 บาท หนี้สินรวม 7,742,796 บาท

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของทีมข่าวผู้จัดการ LIVE ได้สำรวจคอร์สค่าเรียนของครูอ้อย ราคาเริ่มต้นที่ 25,000 บาท – 45,000 บาท ระยะเวลา 2-7 วันขึ้นไป อาทิ คอร์ส “อำนาจแห่งการคิดดี (The Power of good thoughts)” ซึ่งจัดขึ้นครั้งละ 2 วัน ราคา 25,000 รับ 100 คน (ส่วนใหญ่รับครั้งละไม่ต่ำกว่า 50 คน) คิดเป็นเงิน 2.5 ล้านบาท !!

โดยคอร์สดังกล่าวจัดเดือนละ 2 ครั้ง คิดเป็นเงิน 5 ล้าน ซึ่งเมื่อลองรวมรายได้ภายใน 1 ปีจากคอร์สนี้คอร์สเดียว เท่ากับครูอ้อยมีรายรับไปเหนาะๆ อยู่ที่ 60 ล้านบาท !!

ขณะที่ข้อมูลจากนักสืบพันทิป ออกมาเปิดเผยรายการคำนวณรายได้ของกลุ่มบริษัท เข็มทิศสัมมนา ดังนี้

คอร์สเข็มทิศ NLP 2 วัน ราคา [25,000 บาท/คน] x [นักเรียนขั้นต่ำ 200 คน/ครั้ง] x [1 เดือน เปิด 2 ครั้ง] x 12 เดือน = รายรับ 120,000,000 บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบล้านบาท) รายจ่ายในการอบรมหลักๆ จะมีแค่ค่าจัดการสถานที่ ประมาณ [1,200,0000 บาท/ครั้ง] x [1 เดือน เปิด 2 ครั้ง] x 12 เดือน = รายจ่าย 28,800,000 บาท (ไม่ถึง 1/4)

สรุปกำไรสุทธิจากการจัดคอร์สสัมมนาเข็มพิษ NLP (120,000,0000 – 28,800,000) = ประมาณ 90 ล้านบาท/ปี

แต่หลังจากที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล ทีมงานโค้ชชีวิต ต้านทานกระแสสังคมไม่ไหวจึงได้ลบทิ้งภาพคนดังที่ไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับไลฟ์โค้ช แล้ว ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก “เข็มทิศชีวิต ฐิตินาถ ณ พัทลุง” ก็ลบราคาค่าคอร์สห้องเรียนเข็มทิศชีวิตทั้งหมดแล้ว

ครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง เคยทำงานเป็นนักเศรษฐศาสตร์ให้กับบริษัทในเครือบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และที่บริษัท Gemopolis ก่อนจะออกมาร่วมหุ้น ตั้งบริษัทขายเพชร Working Diamond และโด่งดังมากในการออกหนังสือ How to ที่มีชื่อว่า “เข็มทิศชีวิต” ในปี 2547 ที่มีการโปรโมตเรื่องราวของเธอ ที่สามารถก้าวผ่านความยากลำบาก นอกจากจะต้องสูญเสียสามีแล้วเธอยังต้องเป็นหนี้กว่า 100 ล้านที่สามีก่อไว้โดยที่เธอไม่ได้รับรู้ด้วย แต่เธอก็สามารถปลดหนี้ที่มีร่วม 100 ล้าน ได้ภายใน 2 ปี

แม้ในความเป็นจริง การปลดหนี้ของเธอจะเป็นการขายทรัพย์สิน ตัดทิ้งขายกิจการ บริษัท ไดมอนด์ ทูเดย์ ออกไป และเนื้อหาของหนังสือส่วนใหญ่ก็เป็นการสรุปเนื้อหาจากหนังสือต่างประเทศแล้วเอามาปรับแนวคิดให้เข้ากับคนไทย แต่ปรากฏว่าเนื้อหาก็โดนใจคนจำนวนมาก กระทั่งมีการตีพิมพ์อยู่หลายครั้งก่อนที่จะมีเล่ม 2 (ตอนกฎแห่งเข็มทิศ พ.ศ.2551) และเล่ม 3 (ตอนกฎแห่งความสุข พ.ศ.2552) จนทำให้เธอมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ต่อมาเธอจึงเปิดคอร์สสอนหลักสูตรเข็มทิศชีวิตที่มีคนให้ความสนใจเข้าร่วมจำนวนมาก จนเป็นที่มาของภาพลักษณ์ของ “ครูอ้อย” ผู้ให้กำลังใจและช่วยคลายปมชีวิตของผู้ที่มีปัญหา ให้กับบรรดาลูกศิษย์ที่ล้วนแต่เป็นคนดัง เซเลบริตี้ ดารา นักร้อง นักธุรกิจ

วิธีที่เธอใช้ในการโปรโมตหลักสูตร คือ การเชิญ ดารา นักร้อง ให้มาทดลองเข้าคอร์สได้ “ฟรี” เพื่อที่ว่าจะอาศัยคนดังเหล่านี้เป็นช่องทางการโปรโมต หลักสูตรเข็มทิศชีวิตอีกที เพราะนอกจากคนดังเมื่อมาเข้าหลักสูตรแล้ว ก็มักจะโพสต์ลงในไอจี และเฟซบุ๊กของตัวเอง ทางหลักสูตรเข็มทิศชีวิตเอาภาพของเหล่าคนดังมาลงในเครือข่ายโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และสร้างการจดจำผ่านคนดังเหล่านี้ ตามกลไกการตลาดออนไลน์ผ่านคนดังในการจุดกระแส

จนเป็นที่มาของดาราดัง “เอ๋-มณีรัตน์ คำอ้วน” โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กสรุปความว่า ภาพของเธอที่ร่วมกิจกรรมคอร์สห้องเรียนเข็มทิศชีวิตนั้นเป็นภาพเก่าเมื่อ 3 ปีก่อนที่ถูกนำมาใช้โปรโมตวนเวียนจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตอนนั้นทางผู้จัดก็ไม่ได้บอกว่าจะนำมาใช้ในการโปรโมตด้วย

จากนั้น นที เอกวิจิตร หรือ อุ๋ย บุดดาเบลส และ ครูเงาะ-รสสุคนธ์ กองเกตุ ครูสอนนักแสดง โรงเรียนสอนการแสดง The Drama Academy ก็ออกมาชี้แจงกรณีมีภาพตนเองถูกนำไปอ้างขายคอร์สห้องเรียนเข็มทิศชีวิตด้วยเช่นกัน 

เจ้าแม่ธุรกิจอสังหาฯ-เล่นหุ้น

นอกจากเปิดการสอนหลักสูตรเข็มทิศชีวิต กลางปี 2559 ฐิตินาถ ยังมีธุรกิจหมู่บ้านจัดสรรที่มีชื่อว่า “เข็มทิศ วิลเลจ” บ้าน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ บริเวณหน้าจุดขึ้นลงทางด่วนมอเตอร์เวย์ บางวัว-ฉะเชิงเทรา ในราคาเริ่ม 3.95 ล้านบาท ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “สง่างาม ภูมิฐาน สังคมอบอุ่น ทรงพลัง” อีกด้วย โดยโปรโมตผ่านเฟซบุ๊กของเธอเอง และยังระบุถึงการใช้ทีมงานสถาปนิก วิศวกร ที่เป็นลูกศิษย์เข็มทิศชีวิต คนทั่วไปจึงรู้จักในนาม โครงการของครูอ้อย เข็มทิศชีวิต

เมื่อโครงการแรกไปได้สวย ปลายปี 2559 ครูอ้อย-ฐิตินาถ จึงผุดคอนโดมิเนียม ชื่อ คอมพาส เรสสิเดนซ์ กลางเมือง ด้วยคอนเซ็ปต์ ร่มรื่น สไตล์อังกฤษ อยู่กันน้อยๆ คน ในราคาพอๆ กับย่านนอกเมือง แต่ได้อยู่ใจกลางเมือง ตึกสวยๆ สไตล์อังกฤษ ในถนนเย็นอากาศ ย่านเงียบสงบหรูหรา ร่มรื่นย่านสาทร ราคาเริ่ม 3.9 ล้าน

การขายแทบไม่ต้องกลไกการตลาดเหมือนคอนโดมิเนียมทั่วไป แค่ประกาศผ่านเครือข่ายลูกศิษย์ที่เข้าอบรม ซึ่งมีทั้งคนดังและนักธุรกิจกระเป๋าหนัก ที่รักและศรัทธาในตัวครูอ้อย ให้มาพักใกล้กัน ที่พักของเธอซึ่งป็นเพนต์เฮาส์หรูอลังการ ที่ถูกเผยแพร่ลงในสื่อต่างๆ ปรากฏว่า โครงการ คอมพาส เรสสิเดนซ์ ก็ขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาเพียงแค่ 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น 

ลงทุน 12 ล้านสร้างกำไร 200 ล้าน หุ้น ABC ในตำนาน

นอกจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้ว เธอยังได้ชื่อว่า เป็นหนึ่งในนักเล่นหุ้นในตำนาน สร้างกระแสฮือฮาให้กับนักลงทุนหุ้น โดยในปี 2557 เมื่อเธอได้ซื้อหุ้นบริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ABC ที่ว่ากันว่า จากเงินลงทุน 12 ล้าน ทำกำไรถึง  200 ล้านบาท เพราะเป็นหุ้นที่ติด 1 ใน 5 ในเวลานั้นที่ให้ผลตอบแทนถล่มทลาย 

เดิมที บริษัท แอสเซท ไบรท์ คือ บางกอกไนล่อน (BNC) ซึ่งผลิตถุงเท้าในเครือสหพัฒน์ แต่ประสบปัญหาขาดทุน ในปี 2556 นายปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์ เข้ามาซื้อหุ้น และได้เปลี่ยนชื่อธุรกิจเป็นแอสเซท ไบร์ท และหันมาทำอสังหาริมทรัพย์ โดยซื้อห้องชุดเพื่อนำมาจำหน่ายต่อ เช่น โครงการบ้านสาทร เจ้าพระยา และบ้านนวธารา ริเวอร์ไลฟ์ และยังมีสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซด้วยโครงการ ABC Point

โดย ฐิตินาถ ณ พัทลุง ได้ถือหุ้นครองหุ้นอันดับ 3 มาตั้งแต่ปี 2557 ด้วยจำนวน 25,163,500 หุ้น สัดส่วน 1.91% ต่อมาในปี 2558 ซื้อหุ้นเพิ่มเป็น 57,167,200 หุ้น ครองสัดส่วนถือหุ้น 2.17% และต่อมาในปี 2559 จนถึงปัจจุบัน เธอยังถือครองหุ้นอันดับ 3 ด้วยจำนวนหุ้น 118,551,100  หุ้น สัดส่วน 1.50%

ชำแหละขุมทรัพย์หนังสือเข็มทิศชีวิต

ก่อนหน้านี้ ในปี 2553 ช่วงที่เธอเป็นคู่กรณีกับ “พระปราโมทย์” หนังสือพิมพ์ประชาชาติได้มีการหาข้อมูลรายได้จากหนังสือเข็มทิศชีวิต ที่พิมพ์ซ้ำนับร้อยครั้ง สร้างเม็ดเงินให้กับเธอได้ขนาดไหนนั้น และจากข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุ เธอมีธุรกิจบริษัท บอสตัน โปรเจค จำกัด เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2537 ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ประกอบธุรกิจบ้านจัดสรร ที่ตั้งเลขที่ 4/1 ซอย 18 ถนนราษฎร์อุทิศ ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ทำอยู่ 2 ปีก็จดทะเบียนเลิกกิจการ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2539

ต่อมาในปี 2547 ก่อตั้ง ห้างหุ้นส่วนจำกัด อาศรมสารนาถ ผลิตและจำหน่ายหนังสือเข็มทิศชีวิต ทุน 3 แสน เพิ่มเป็น 1 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 64/2 หมู่ที่ 7 ตำบลท่าสะอ้าน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา มีหุ้นส่วน 3 คน คือ  น.ส. ฐิตินาถ นายพิชาญ มหาชนก นางศิริรัตน์ ต. สุวรรณ

ปี 2551 ก่อตั้งบริษัท เข็มทิศชีวิต จำกัด ผลิตและจำหน่ายหนังสือ ทุนเริ่มแรก 3 แสน เพิ่มเป็น1 ล้านบาท ที่อยู่เดียวกัน โดย น.ส.ฐิตินาถ ถือหุ้น 66.6%  2. นางศิริรัตน์ ต. สุวรรณ 33.3%

ทั้งนี้ นางศิริรัตน์ ต. สุวรรณ เป็นเจ้าของสำนักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช และนางศิริรัตน์ และนายชยธร ต. สุวรรณ ได้ก่อตั้ง บริษัท เข็มทิศหัวใจ จำกัด เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2553 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ประกอบกิจการ ผลิตและจำหน่ายหนังสือ, สื่อการเรียนการสอนทุกชนิด

นับเป็นเส้นทางการสร้างเครือข่ายธุรกิจ จากพ็อกเก็ตบุ๊ก “เข็มทิศชีวิต” ที่พิมพ์ถล่มทลาย จนกลายมาเป็นหลักสูตร ที่สร้างรายได้ปีละเกือบ 100 ล้าน และต่อยอดมาเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และยังเป็นเจ้าของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ มูลค่า 200 ล้านบาท

จากนี้ไปต้องรอดูว่า แบรนด์ “เข็มทิศชีวิต” ของเธอ จะถูกสานต่อ หรืออาจจำเป็นต้อง “รีแบรนด์” ภายใต้สถานการณ์ที่คนในสังคมกำลังมีคำถามและข้อกังขา ถึงหลักสูตรเข็มทิศชีวิต ว่า กำลังหลงทิศไปแล้วหรือไม่

ภาพจาก : https://www.facebook.com/DDNARD/

]]>
1129509