เครื่องดื่มน้ำดำ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 25 Apr 2018 03:15:05 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ยอดขาย Coca-Cola พุ่งอานิสงส์ Diet Coke ฟื้นตัว https://positioningmag.com/1167253 Wed, 25 Apr 2018 01:08:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1167253 Coca-Cola เจ้าพ่อเครื่องดื่มน้ำดำเผยผลประกอบการไตรมาสทะลุเป้า Wall Street เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผลจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในสินค้ากลุ่ม Coke Zero Sugar หรือเครื่องดื่มไร้น้ำตาล และรสชาติใหม่ภายใต้แบรนด์ Diet Coke ส่งผลให้รายได้โดยรวมของบริษัททยานเหนือความคาดหมายประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า กำไรสุทธิของ Coca-Cola ในไตรมาสล่าสุดนั้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1 เซนต์ต่อหุ้น ส่งให้หุ้นของ Coca-Cola เพิ่มขึ้นทันทีประมาณ 1% เป็นเลขสวย 44.44 เหรียญสหรัฐ เมื่อวันที่ 24 เมษายน

Coca-Cola ยอมรับว่าการเปิดตัว Diet Coke รุ่นใหม่ที่เน้นจุดยืนแคลอรีต่ำในกระป๋องที่เล็กลง และรสชาติใหม่อย่าง ginger-lime (ขิงมะนาว) และรสเชอรี่ มีส่วนทำให้แบรนด์ Diet Coke มียอดขายในเชิงปริมาณมากขึ้น 3% ซึ่งเป็นการเติบโตของแบรนด์ Diet Coke ที่ชัดเจนในตลาดอเมริกาเหนือ

ในภาพรวม ปริมาณยอดขาย Coke เพิ่มขึ้นราว 3% โดยมีการเติบโตทั้งกลุ่มเครื่องดื่มโซดา ชาและกาแฟ ที่ผลักดันผลกำไรมากขึ้น สำหรับ organic sale หรือยอดขายที่แท้จริงซึ่งไม่รวมกำไรจากการซื้อกิจการหรือธุรกิจอื่น นั้นมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 5% ในไตรมาสแรกของ Coca-Cola

*** มั่นใจสายสุขภาพ

James Quincey ประธานบริหารของ Coca-Cola แสดงภูมิใจในผลประกอบการล่าสุด โดยมั่นใจว่าบริษัทมีกลยุทธ์ที่ถูกต้อง นั่นคือการเน้นสินค้ากลุ่มน้ำตาลต่ำและแคลอรีน้อย ทำให้มีความเชื่อมั่นในความสามารถของบริษัท ว่าจะบรรลุแนวทางเต็มปีที่ Coca-Cola วางไว้ในมุมของสื่อ

หลายเสียงมองว่าผลประกอบการสวยงามนี้คือผลลัพธ์ของการกระจายไลน์สินค้าไปยังตลาดเครื่องดื่ม น้ำตาลต่ำแคลอรีน้อย เพื่อดึงดูดผู้บริโภคให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น ในขณะเดียวกัน Coca-Cola ก็ยังใช้จ่ายเงินเพิ่มมากขึ้นในการทำการตลาดแบรนด์หลักของตัวเอง

เบ็ดเสร็จแล้ว กำไรสุทธิของ Coca-Cola ซึ่งดูแลแบรนด์ Fanta และ Sprite ด้วยนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 1,370 ล้านเหรียญ หรือ 32 เซนต์ต่อหุ้น โดยไตรมาสแรกของบริษัทนั้นสิ้นสุดวันที่ 30 มี.. ที่ผ่านมา ตัวเลขกำไรสุทธินี้เพิ่มขึ้นจาก 1,180 ล้านเหรียญ หรือ 27 เซนต์ต่อหุ้นเมื่อปีที่แล้ว 

หากหักค่าใช้จ่ายหลายรายการ กำไรของ Coca-Cola อยู่ที่ 47 เซนต์ต่อหุ้น ถือว่ามากกว่าข้อมูลของ Thomson Reuters I / B / E / S ที่วิเคราะห์ไว้ว่า กำไรของ Coca-Cola จะอยู่ที่ 47 เซนต์ต่อหุ้น

อย่างไรก็ตาม รายได้สุทธิ Coca-Cola ลดลง 16% เหลือ 7,630 ล้านเหรียญ เนื่องจากการเลิกกิจการบรรจุขวดหลายสาขา แต่ตัวเลขนี้ก็ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประมาณไว้ราว 7.34 พันล้านเหรียญ

สำหรับไตรมาสที่เหลือตลอดปีนี้ Coca-Cola คาดว่ายอดขาย organic sale และกำไรต่อหุ้นตลอดทั้งปีจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง.

Source

]]>
1167253
ไม่ใช่แค่ “เหล้า” รวมเครื่องดื่มพันธุ์แปลกที่ “โค้ก” เคยเปิดตัวมาแล้ว https://positioningmag.com/1160800 Fri, 09 Mar 2018 04:59:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1160800 มีนาคม 2018 เจ้าพ่อเครื่องดื่มน้ำดำ Coca-Cola ประกาศให้โลกรู้ว่าจะเปิดตัว “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใหม่” เข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 125 ปีของบริษัท แต่แท้จริงแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ Coca-Cola เคยแจ้งเกิดโค้กพันธุ์แปลกเพื่อทดลองตลาดบางประเทศมาก่อนแล้ว 

ก่อนจะไปเปิดทำเนียบโค้กพันธุ์แปลก เราควรรู้ว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ Coca-Cola จะเปิดตัวล่าสุดนี้จะมีระดับแอลกอฮอล์ต่ำหรือที่เรียกว่า “Chu-Hi” ซึ่งเป็นตลาดเหล้าหวานที่แบรนด์เครื่องดื่มแดนปลาดิบอย่าง Kirin, Suntory และ Asahi ทดลองตลาดอยู่เช่นกัน

Jorge Garduno ประธานบริหารสาขาญี่ปุ่นยอมรับว่า Coca-Cola ยังไม่เคยทดลองผลิตสินค้าที่มีแอลกอฮอล์ต่ำมาก่อน แต่การทดลองครั้งนี้จะเป็นตัวอย่างในการหาโอกาสเติบโตนอกจากธุรกิจหลักที่ Coca-Cola มี ซึ่งคาดว่าจะมุ่งไปที่ตลาด “premium segment” เดียวกับตลาดคราฟต์เบียร์สำหรับผู้ใหญ่

เพื่อยืนยันว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Coca-Cola ทดลองกับรสชาติและรสนิยมของประชาชนในบางประเทศ ก่อนหน้านี้ Coca-Cola เคยเปิดตัวสินค้า 5 รุ่นแหวกแนวซึ่งบางรุ่นเลิกผลิตไปเรียบร้อย

Beverly

ภาพจาก : http://fortune.com

หลังจากเปิดตัวเมื่อ 1969 ไวน์อิตาเลียนที่ช่วยให้เจริญอาหาร (apertif) ชื่อ Beverly ถูก Coca-Cola ทำตลาดในฐานะเครื่องดื่มช่วยย่อยเพื่อบริโภคก่อนมื้ออาหาร คู่แข่งของ Beverly คือ Campari และ San Pellegrino โดย Beverly เลิกผลิตไปในปี 2009

New Coke

ภาพจาก : http://fortune.com

ในปี 1985 บริษัท Coca-Cola ซึ่งมีอายุ 99 ปีในเวลานั้น ตัดสินใจว่าจะเลิกใช้สูตรคลาสสิกเพื่อผลิตเป็นโค้กรุ่นใหม่ที่หวานกว่า และสดใหม่กว่าเพื่อแข่งขันกับ Pepsi ในการทดสอบรสชาติแบบปิดตา (blind taste test) กลุ่มตัวอย่างนิยมโค้กสูตรใหม่มากกว่าเมื่อเทียบกับสูตรเดิม แต่ 3 เดือนหลังจากการเปลี่ยน Coca-Cola กลับประกาศเปลี่ยนใจกลับมาใช้สูตรคลาสสิกเหมือนเดิม

OK Soda

ภาพจาก : http://fortune.com

Coca-Cola โชว์ OK Soda ด้วยรูปลักษณ์ใหม่เพื่อเอาใจผู้บริโภควัยรุ่นในปี 1993 ช่วงนั้นคือตลาด Generation X ซึ่งทำให้ Coca-Cola ออกแบบกระป๋องโซดาด้วยรูปประกอบดิบ ๆ พร้อมกับแคมเปญโฆษณาซึ่งตอบสนองต่อความคิดที่ว่า Generation X นั้นกลุ่มที่ไม่เหมือนใคร สโลแกนของ OK Soda คือ ”Things are going to be ok” หรือ เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีเอง โดย OK Soda ถูกยกเลิกไปในปี 1995

Coca-Cola Blak

ภาพจาก : http://fortune.com

กาแฟในโซดาที่ Coca-Cola พัฒนาสูตรมาเกือบ 2 ปี ในที่สุด Coca-Cola ก็เปิดตัวเครื่องดื่มกาแฟอัดลมในปี 2006 โดยหวังว่าจะสามารถเข้าถึงตลาดกาแฟระดับพรีเมียม แต่เพียง 1 ปีหลังจากนั้น Blak ก็หยุดผลิตไป

Coca-Cola Plus

ภาพจาก : http://fortune.com

บางทีก็เป็นขิง Coca-Cola Ginger บางทีก็เป็นใยอาหารที่อยู่ใน Coca-Cola Plus ทั้งหมดนี้รายงานของ Fortune ระบุว่าหลังจากวิจัยและพัฒนามานานนับ 10 ปี Coca-Cola ได้เปิดตัวสินค้าอัดลมรุ่นแรกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอาหารญี่ปุ่น FOSHU ทั้งในฐานะเครื่องดื่มไร้แคลอรี และไม่มีน้ำตาล แถมยังมีเส้นใยที่ช่วยระงับการดูดซึมไขมันและช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดด้วย

สินค้านี้ยังไม่ยกเลิกผลิต และยังไปได้ดีในตลาดญี่ปุ่น.

ที่มา :

]]>
1160800