Adidas แบรนด์เสื้อผ้าและรองเท้ากีฬาดังจากเยอรมนี วางแผนที่จะดึงผลการดำเนินงานขึ้นด้วยการเปลี่ยนกลยุทธ์การขายมามุ่งเน้นแพลตฟอร์มดิจิทัล หลังจากยอดขายในช่วงที่ผ่านมาลดลง 19% เนื่องจากหน้าร้านออฟไลน์ 70% ของแบรนด์ยังปิดทำการอยู่จากมาตรการรับมือโรคระบาดเชื้อไวรัส COVID-19

ผู้บริหารของ Adidas ให้สัมภาษณ์กับ Business Insider ว่า บริษัทเริ่มมุ่งเน้นการใช้แผน “เร่งการเติบโตด้วยดิจิทัล” แล้ว โดยรายละเอียดของแผนมีดังนี้

1) ‘Creating the New’ แผนระยะ 5 ปีที่เริ่มใช้เมื่อปี 2015 ของ Adidas จะถูกนำมาปรับใหม่ด้วยการนำกระบวนการดิจิทัลไปใช้กับทั้งห่วงโซ่อุปทาน

2) บริษัทวางแผนจะนำ AI ไปช่วยในการจัดการซัพพลายเชน ก่อนหน้านี้บริษัทพบว่าความพยายามที่จะประเมินดีมานด์ไซส์รองเท้าก่อนสั่งออเดอร์ผลิตนั้นยากลำบากและช้าเกินไป เนื่องจากตัวเลขจะแตกต่างกันไปในแต่ละตลาด แต่เมื่อมี AI เข้ามา มันจะช่วยบริษัทประเมินจำนวนรองเท้าแต่ละไซส์ที่ควรสั่งผลิตได้ในเวลาไม่กี่นาที ผ่านการประมวลผลข้อมูลที่น่าเชื่อถือ

3) สำหรับรองเท้าวิ่งรุ่น Adidas 4D นั้น บริษัทจะผลักดันการใช้เครื่องพิมพ์สามมิติในการช่วยผลิตชั้นกลางของรองเท้า (midsole) ตามคอนเซ็ปต์ของรุ่นที่จะออกแบบ midsole รองเท้าตามรูปแบบเท้าและการลงน้ำหนักของผู้สวมใส่ ทำให้รองเท้าถูกปรับแบบให้เหมาะกับคนคนนั้น

ด้านการขายออนไลน์ Adidas กล่าวว่าแบรนด์จะยิ่งลงทุนให้กับช่องทางนี้ โดยเมื่อปีที่แล้วนับเป็นปีที่ช่องทางออนไลน์ของแบรนด์เติบโตสูงสุด จากยอดขายออนไลน์ที่ก้าวกระโดด 34% ขณะที่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ยอดขายออนไลน์เติบโต 55%

บริษัทจะผลักดันเทรนด์การเติบโตออนไลน์ต่อไป โดยรวมผู้เชี่ยวชาญทั้งจากทีมขายรีเทล ผู้พัฒนาแอปฯ Runtastic ของแบรนด์และทีมงานไอที เพื่อมุ่งมั่นการสร้างระบบอีคอมเมิร์ซให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงจะเป็นพันธมิตรอย่างต่อเนื่องกับแพลตฟอร์มขายออนไลน์ เช่น Zalando, Asos, Zappos และ Tmall

ส่วนกลยุทธ์การขายระยะสั้น เมื่อผู้คนยังติดอยู่กับบ้านท่ามกลางไวรัสระบาด ทำให้แบรนด์เลือกผลักดันสินค้าที่เหมาะกับการอยู่บ้านเป็นพิเศษคือ รองเท้าแตะ Adilette Slides โดยรองเท้ารุ่นนี้มียอดขายสูงขึ้นคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 3 หลัก ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ในแง่การทำการตลาด บริการออนไลน์อย่างแอปฯ adidas Running และ adidas Training แบรนด์ได้เปิดให้ทุกคนเข้าใช้บริการระดับพรีเมียมได้ฟรีตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เพื่อส่งเสริมให้ผู้ใช้หลายแสนคนทั่วโลกเข้าถึงวิดีโอเทรนนิ่งมากกว่า 250 รายการ คำแนะนำการออกกำลังกาย และแผนการออกกำลังกายเมื่อลูกค้ายังต้องอยู่แต่ในบ้าน

พร้อมกับเปลี่ยนการลงทุนด้านการตลาดมาสู่โลกดิจิทัล กระตุ้นให้เกิดการพูดคุยระหว่างกันผ่านแฮชแท็ก #hometeam โดยให้แบรนด์แอมบาสเดอร์จำนวนมากรอบโลกช่วยแชร์เรื่องราวการอยู่บ้านตามคอนเซ็ปต์ “ใช้เวลาอยู่บ้านให้คุ้มค่าที่สุด และแน่นอน…เพื่อออกกำลังกายต่อไป” ด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ ให้แรงบันดาลใจกับผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดีย

Source

กลุ่มสื่อจีน รายงานว่าศูนย์วิศวกรรมการก่อสร้างแห่งรัฐจีน (China State Construction Engineering Corp) เริ่มสร้างอาคารสูงสองชั้นด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติในมณฑลก่วงตง

รายงานระบุว่า เครื่องพิมพ์สามมิติได้รับการติดตั้งแท่นบรรจุปูนซีเมนต์ เพื่อทำการพิมพ์กำแพงและเสาต่างๆ สูงขึ้นไปทีละขั้นๆอาคารดังกล่าวได้รับการออกแบบให้มีความสูง 7.2 เมตร และมีพื้นที่แต่ละชั้นกว้าง 230 ตารางเมตร โดยชั้นล่างจะจัดแสดงเป็นห้องตัวอย่าง ในขณะที่ชั้น 2 จะเป็นที่ทำการสำนักงานกำแพงที่พิมพ์โดยเครื่องพิมพ์สามมิตินี้จะมีลักษณะกลวง เพื่อเว้นช่องว่างให้คนงานนำวัสดุที่จำเป็นใส่ไว้ข้างในภายหลัง

การพิมพ์อาคารชั้นแรกซึ่งมีความสูง 30 เมตรจะใช้เวลาพิมพ์ทั้งหมด 30 ชั่วโมง ก่อนจะเริ่มการพิมพ์ชั้นสองต่อไป โดยเทคโนโลยีการก่อสร้างชนิดนี้ทำให้สามารถก่อสร้างอาคารได้อย่างรวดเร็วและลดการสิ้นเปลืองทรัพยากร