เงินตราดิจิทัล – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 09 Mar 2018 11:09:16 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ไร้เงินสด ! FashionTV ออสเตรีย เปิดตัวสกุลเงินคริปโตของตัวเอง ให้ใช้จ่าย โรงแรม คาเฟ่ คลับในเครือข่าย https://positioningmag.com/1161030 Fri, 09 Mar 2018 10:50:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1161030 FashionTV จากประเทศออสเตรีย ประกาศจำหน่ายโทเคน FTV Coin Deluxe ในการเสนอขายเงินตราดิจิทัลต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (ICO) รอบพรีเซล รวมทั้งประกาศรับชำระเงินด้วยบิตคอยน์ และแผนรับชำระเงินด้วย FTV Coin Deluxe สำหรับผลิตภัณฑ์และบริการของ FashionTV และสำหรับการใช้บริการที่ F Cafe, F Hotel, F Club และ F Residence ในเร็วนี้ 

Michel Adam ประธาน FashionTV ได้เปิดตัวสกุลเงินคริปโตด้วยตนเอง ต่อหน้าบรรดาเศรษฐีเงินคริปโตชั้นแนวหน้า ตลอดจนที่ปรึกษาของ FashionTV ซึ่งรวมถึง Magdalena Isbrandt จาก House of Nakamoto, Dr. Oliver Volker จาก Stadler Volkel Attorneys และทีมงานของ FashionTV

FTV Media GmbH ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ FashionTV จะออกโทเคน “FTV Coins Deluxe” จำนวนสูงสุด 1.5 พันล้านโทเคน โดยส่วนหนึ่งจะจำหน่ายในรอบพรีเซลในราคา 0.18 ยูโร และอีกส่วนหนึ่งจะจำหน่ายในภายหลังในราคา 0.25 ยูโร อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงและเงื่อนไขได้ที่ http://www.ftv.com/ico

Michel Adam กล่าวว่า “FTV Coins Deluxe เป็นโทเคนมาตรฐาน ERC20 ที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนอีเธอเรียม ผู้ครอบครองสามารถใช้โทเคนนี้ซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆของ FashionTV   ซึ่งบริษัทมีผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นบริการทีวี สตรีมมิ่ง หรือวิดีโอออนดีมานด์ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องการนำเสนอแพลตฟอร์มสินค้าและบริการหรูให้แก่ชุมชนบล็อกเชน

โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำเทคโนโลยีบล็อกเชนให้เข้ามาใกล้ชุมชนแฟชั่นมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ FashionTV จึงกำลังพัฒนาโซลูชั่นบล็อกเชนเพื่อสร้างความโปร่งใสให้แก่นางแบบและผู้ดูแลนางแบบ เพื่อสร้างหลักประกันว่าพวกเขาจะได้รับค่าตอบแทนมากขึ้นและได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม.

ที่มา : FashionTV /พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

]]>
1161030
เมื่อสตาร์ทอัพเมินตลาดหุ้น หันมาระดมทุนเงินตราดิจิทัลของตัวเอง https://positioningmag.com/1132902 Fri, 14 Jul 2017 09:20:51 +0000 http://positioningmag.com/?p=1132902 กลายเป็นกระแสร้อนแรงของโลกที่วงการสตาร์ทอัพต้องจับตามอง เมื่อทุกวันนี้บริษัทสตาร์ทอัพเกิดใหม่จำนวนมากทั่วโลกกำลังเมินการเข้าตลาดหุ้นเพื่อระดมทุนผ่าน IPO แต่หันมาระดมเงินหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยการออกเหรียญเงินตราดิจิทัลใหม่ของตัวเอง เทรนด์นี้นำไปสู่ทั้งความตื่นเต้นและความกังวล บนความแรงสุดขีดเพราะเม็ดเงินมากกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐหลั่งไหลเข้ามาสู่วงการที่เรียกกันว่า ‘Initial Coin Offering’ (ICO) แล้วตั้งแต่ต้นปีนี้

โดยเทรนด์แรงที่กำลังเกิดขึ้นคือสตาร์ทอัพจะสร้างเหรียญเงินตราดิจิทัลของตัวเอง ไม่ผูกติดกับเงินดิจิทัลที่ค่าเงินโตกระฉูดไปแล้วก่อนหน้านี้อย่างบิตคอยน์ (Bitcoin) รวมถึงเงินสกุลอันดับ 2 และ 3 อย่าง Ethereum และริปเปิล (Ripple)

แม้ว่าค่าเงินดิจิทัลเหล่านี้จะสุดสูง แต่นาทีนี้ค่าเงินกลับลดลงจนมูลค่าเงินรวมในตลาดเหลือเพียง 8.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จากที่เคยพุ่งสูง 1.14 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

วันนี้เงินสกุลใหม่จึงไม่ได้มีแค่ Bitcoin, Ethereum และ Ripple แต่มีเงินสกุลใหม่อย่าง Steem, Dash, AntShares และ Dogecoin โดยหากประเมินให้เห็นภาพ มูลค่าตลาด Bitcoin ในวันนี้คิดเป็นเพียง 45.5% ของตลาดเงินตราดิจิทัลรวมเท่านั้น ลดลงจาก 94% ที่เคยมีการบันทึกไว้เมื่อปีที่ผ่านมา

ริชาร์ด คาสเทเลน (Richard Kastelein) แห่งบริษัทคริปโตแอสเซ็ตส์ดีไซน์กรุ๊ป (Cryptoassets Design Group) ผู้ช่วยให้บริษัทเกิดใหม่สามารถเปิดขาย ICO ได้ง่าย เป็นผู้ให้ข้อมูลนี้กับสำนักข่าวบิสสิเนสอินไซเดอร์ ว่ายอดเงินระดมทุนของสตาร์ทอัพผ่าน ICO ในขณะนี้มีมากกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว ตัวเลขนี้รวมกรณีของบริษัทโอมิเซะ (Omise) น้องใหม่ฟินเทคชื่อดังของไทยที่เข้าซื้อกิจการเพย์สบาย (Paysbuy) หลังจากขาย ICO ระดมทุนได้ 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพียงไม่กี่วัน

ไม่เพียง Omise ยังมีบริษัทเทคโนโลยีทำนายทิศทางค่าเงินสกุลเอเธอเรียม (Ethereum) อย่าง Gnosis ที่สามารถเพิ่มทุนมากกว่า 12 ล้านเหรียญสหรัฐในเวลา 10 นาทีหลังประกาศ ICO เมื่อเดือนเมษายน และยังมีบริษัทชื่อ Brave สตาร์ทอัปผู้พัฒนาเว็บเบราว์เซอร์ของผู้ก่อตั้งมอสซิลา (Mozilla) ที่สามารถระดมทุน 35 ล้านเหรียญสหรัฐในเวลาไม่ถึง 30 วินาที ในการขายเหรียญดิจิทัลชื่อเบสิคแอเทนชันโทเคนส์‘ (Basic Attention Tokens) เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

สำหรับการระดมทุนผ่าน ICO บริษัทนั้นจะใช้วิธีเปิดตัวเงินดิจิทัลสกุลใหม่ซึ่งจะสามารถใช้ในระบบของบริษัท และสามารถนำไปแลกเปลี่ยนมือ หรือนำกลับมาขับเคลื่อนธุรกิจได้ด้วย

ตัวอย่างที่น่าสนใจของการขาย ICO ในสัปดาห์ที่ผ่านมาคือคิกแมสเสนเจอร์ (Kik Messenger) แอปพลิเคชันรับส่งข้อความสนทนายอดนิยมจากแคนาดา ที่ประกาศทำสกุลเงินของตัวเองชื่อว่าคิน‘ (Kin) สกุลเงินนี้ถือเป็นสกุลเสมือนที่อยู่บนระบบของ Ethereum อีกชั้น โดยสกุลเงิน Kin จะถูกนำไปใช้ในระบบของ Kik Messenger ที่มีผู้ใช้ประจำราว 300 ล้านคน (15 ล้านรายต่อเดือน) เหมือนเงินดิสนีย์แลนด์ดอลลาร์ที่ใช้ซื้อสินค้าภายในสวนสนุกได้

เพื่อความชัดเจน วงการเงินดิจิทัลจึงเรียกสกุลเงินเสมือนสไตล์ Kin ว่า โทเคน (Token) ดังนั้นการขาย ICO จึงเป็นการเสนอขาย Token เหล่านี้ต่อสาธารณชนและนักลงทุน

เงิน Kin สามารถใช้ซื้อสิ่งของและบริการบนเครือข่ายสังคม Kik เช่น อีโมจิ สติกเกอร์ บริการโฮสติง และบริการอื่นเช่นระบบตอบคำถามอัตโนมัติ ซึ่งเป้าหมายสูงสุดในอนาคต คือเงิน Kin อาจจะสามารถใช้ซื้อขายบริการอื่นนอกแอปพลิเคชัน Kik ได้

แต่ไม่ใช่ว่าทุกบริษัทจะต้องเปิดเงินสกุลของตัวเอง บางบริษัทสามารถใช้บริการแพลตฟอร์มเงินดิจิทัลเพื่อระดมทุนได้รวดเร็วขึ้น จุดนี้ แจน ไอซาโกวิก (Jan Isakovic) ซีอีโอบริษัทให้บริการแพลตฟอร์ม ICO ชื่อโคฟาวด์ (Cofound.it) ประเมินว่าการระดมทุนในระบบ VC นั้นใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือนในการเตรียมการ แต่ ICO นั้นสามารถทำได้เลย

โดยเฉพาะเมื่อ Ethereum เป็นระบบบล็อกเชนแบบเปิด (blockchain-based public system) ที่ให้ทุกคนสามารถสร้างชุดคำสั่งหรือพัฒนาเงินสกุลเสมือนได้ง่าย ซึ่งผู้ที่อยู่ในวงการนี้เชื่อว่า ทั้งหมดกำลังเข้าสู่ช่วงการขยายตัวอย่างยั่งยืน ไม่ใช่ฟองสบู่


ที่มา : http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000071566

]]>
1132902