เจ๊จู – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 11 May 2016 20:00:00 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 รู้จักกับ “เจ๊จู” ตัวจริง! https://positioningmag.com/1090939 Wed, 04 May 2016 09:00:59 +0000 http://positioningmag.com/?p=1090939 1090939 บทสรุปความสำเร็จของ “เจ๊จู วัสดุก่อสร้าง” https://positioningmag.com/1090936 Wed, 04 May 2016 07:35:19 +0000 http://positioningmag.com/?p=1090936 1090936 ถอดรหัส ปรากฏการณ์ “เจ๊จู” คลิปไวรัลไปต่อได้มั้ย ? https://positioningmag.com/1090902 Wed, 04 May 2016 05:35:54 +0000 http://positioningmag.com/?p=1090902 กลายเป็นอีกหนึ่งกระแสที่เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ สำหรับปรากฏการณ์ “เจ๊จู” คลิปไวรัลที่โด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน ด้วย 1 แสนไลค์ภายใน 1 สัปดาห์ มียอดวิว 2.5 ล้าน ภายใน 2 วัน “ไผท ผดุงถิ่น” ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้ จะผลักดันให้ “ เจ๊จู” ไปต่ออย่างไร เรามีคำตอบ

ไผท ผดุงถิ่น ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Builk.com และนายกสมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ ผู้อยู่เบื้องหลังโปรเจกต์นี้ บอกว่า คลิปเจ๊จูโด่งดังเป็นกระแสไวรัล ผไทบอกว่า เป็นความฟลุกจริงๆ เพราะความตั้งใจในตอนแรกคือเราต้องการทำคลิปวิดีโอแนะนำวงการก่อสร้างในอีกมุมหนึ่งว่า การนำไอทีเข้ามาช่วยเปลี่ยนวิธีการทำงานคือให้ร้านขายวัสดุก่อสร้างได้อย่างไร อีคอมเมิร์ซมาช่วยอะไรได้บ้าง

เนื่องจาก Builk.com บุกหนักด้านอีคอมเมิร์ซมากขึ้น หลังจากกลุ่มผู้ลงทุนเพิ่มก็คือ บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) (ไม่เปิดเผยตัวเลขการลงทุน) และ ป้อม ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ (ลงทุนส่วนตัว) จึงได้ความรู้ในด้านการทำอีคอมเมิร์ซจากภาวุธมาพอสมควร

2_ju

ภาพรวมของโปรเจกต์การโปรโมต เริ่มมาตั้งแต่ต้นปี แต่เริ่มมาทำคลิปวิดีโอช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยการตั้งเพจของเจ๊จู หรือ I-JU วัสดุก่อสร้าง เมื่อวันที่ 22 เมษายน เป็นร้านที่สมุมติขึ้นมา โดยมีเจ๊จูเป็นคาแร็กเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้น พร้อมกับสื่อสารด้วยคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับคำคม พร้อมแฝงด้วยการขายสินค้าวัสดุก่อสร้างเป็นมุกตลก

3_ju

“อีคอมเมิร์ซกับก่อสร้างยังเป็นอะไรที่อธิบายยากอยู่ บิลค์จึงต้องดีไซน์การนำเสนอให้เข้าใจง่ายมากที่สุด เลยออกมาเป็นรูปภาพ และวิดีโอ ตอนทำคลิปยังบอกกับทีมงานเลยว่ามันไม่ไวรัลหรอก อย่าไปคิดอะไรให้มันไวรัลนะ แค่ให้กลุ่มเป้าหมายเราดูแล้วเข้าใจก็พอแล้ว”

ปรากฏว่าคลิปเริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้นเรื่อยๆ มีคนแชร์คอนเทนต์ภายในเพจ หลังจากนั้น 3 วันทางทีมงานของบิลค์ก็ได้ปล่อยคลิปวิดีโอเพื่อรู้จักกับเจ๊จูให้มากขึ้น

4_ju

“เรื่องคลิปวิดีโอเราเคยประสบความสำเร็จกับคลิปเฮียอู๋เมื่อ 3 ปีก่อน เป็นคลิปที่อธิบายชีวิตผู้รับเหมาคนหนึ่งว่าเคยลำบากยังไง แล้วใช้ไอทีเข้ามาดีขึ้นอย่างไร คลิปนั้นไม่ไวรัล แต่คนในวงการก่อสร้างยิ้มและเข้าใจ เราต้องการให้เป็นแบบนั้น เราเลยต่อยอดมาเป็นเจ๊จู ตอนแรกเราก็คิดว่าให้เท่าเฮียอู๋ก็ดีแล้ว แต่ปรากฏว่าไปไกลกว่าเฮียอู๋อีก”

สำหรับนางเอกของโปรเจกต์นี้อย่าง “เจ๊จู” ไผทบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจาก “เจ๊จง” เจ้าของร้านข้าวหมูทอดชื่อดังย่านพระราม 4 เพราะมีคาแร็กเตอร์ที่ชอบไอทีอย่างที่ต้องการพอดีพอดี

“ตอนแรกจะใช้ชื่อว่าเจ๊กวง เพราะอยากได้ชื่อแบบจีนๆ แต่มาดูแล้วมันไม่ติดปากเท่าไหร่ และพอดีได้ไปทานข้าวร้านหมูทอดเจ๊จง แล้วเห็นเจ๊จงกำลังหัดเล่น Facebook Live เลยมาคิดว่านี่เป็นคาแร็กเตอร์ที่เราต้องการ อยากได้เจ๊ที่เล่นไอทีหน่อย เลยมาเป็นเจ๊จู เป็นคุณป้าฮิปสเตอร์ ชอบสตีฟ จ็อบส์ คืออยากให้มันตรงข้ามกับคาแร็กเตอร์มนุษย์ป้า”

ไผท บอกว่า ในตอนแรกทางทีมงานได้เขียนบทให้เจ๊จูไม่ประสบความสำเร็จในการขายของบนโลกออนไลน์ บนเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม เพื่อที่จะสื่อว่าให้เจ๊มาใช้บริการเว็บไซต์ของ Builk.com จะขายของง่ายกว่า แต่พอมีกระแสขึ้นมา เพจดัง ร้านดัง เหมือนกับว่าร้านเจ๊จูประสบความสำเร็จในการขายของ ทำให้ทางทีมงานต้องปรับการสื่อสารเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์

“ถึงแม้ร้านจะดังแค่ไหน แต่เจ๊จูก็ขายของออนไลน์ไม่ได้ คนไปคิดว่าจะไปฝากร้านตามอินสตาแกรมของดารา แต่ทำไม่ได้ เพราะไม่ถูกที่ถูกเวลา ควรมาขายในคอมมูนิตี้ที่มีแต่ผู้รับเหมาอย่าง Builk เจ๊จูจะได้ออเดอร์เต็มๆ เป็นตัวอย่างให้คนขายวัสดุก่อสร้างเห็นว่าควรขายให้ถูกที่”

สำหรับในอนาคตคาแร็กเตอร์ของเจ๊จูก็ยังคงอยู่ เพจของเจ๊จูก็ยังคงอยู่ แต่จะแยกออกจาก Builk ชัดเจน ให้เป็นคาแร็กเตอร์ของเจ๊จูต่อไป ไผทบอกว่า หรืออาจจะพาเจ๊จูไปออกงานอีเวนต์บ้าง อย่างที่ล่าสุดได้พาไปงานสถาปนิก 59 และงาน Startup Thailand เจ๊จูก็ได้รับความนิยมอย่างมาก มีคนเข้ามาขอถ่ายรูปพร้อมทำท่าจับคางที่เป็นสัญลักษณ์ประจำเจ๊จู

“เราเชื่อว่า Life cycle ของเจ๊จูคงไม่นาน ไม่มีเน็ตไอดอลคนไหนอยู่ได้นานอยู่แล้ว คนจะมีประสบการณ์กับอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดแน่ๆ บนโลกโซเชียล แต่เราอยากให้เจ๊จูเป็นคุณป้าที่น่ารักก็จะมีโพสต์คอนเทนต์บ้าง แต่เราไม่คิดรายได้จากตรงนี้ ตอนนี้มีเอเจนซี่ หรือแบรนด์เข้ามาถามเต็มไปหมดเรื่องจะให้เจ๊จูโฆษณาสินค้าให้ แต่เราไม่เอา ไม่ได้อยากหารายได้ตรงนี้ แต่ว่าในปีนี้จะมีโปรเจกต์เซอร์ไพรส์ของเจ๊จูอย่างแน่นอน”

Builk เตรียมบุกอีคอมเมิร์ซ

บิลค์เป็นสตาร์ทอัพที่มีอายุได้ 6 ปีแล้ว โดยที่ผ่านการสร้างโมเดลธุรกิจมาหลายสเต็ปพอสมควร เริ่มต้นจากสเต็ปแรกที่ได้ทำโปรแกรมฟรีให้ใช้ และบิลค์ก็จะได้รายได้จากค่าโฆษณา สเต็ปสองพอมีคนใช้งานเยอะขึ้นก็มาทำบิ๊กดาต้าส่งให้กับแบรนด์ เอาข้อมูลเรื่องการก่อสร้าง ผู้รับเหมาใช้แบรนด์อะไรเยอะ มาถึงสเต็ปที่สามได้เข้าเรื่องอีคอมเมิร์ซ เริ่มขายเองก่อนจากการดูออเดอร์ของผู้รับเหมา แล้วสั่งรวมกันทีเดียวทำให้ลดต้นทุนได้ และสเต็ปที่สี่ทีจะทำคือมาร์เก็ตเพลส

“บิลค์ได้เริ่มทำอีคอมเมิร์ซเริ่มเมื่อปีที่แล้ว เป็นช่วงทดลองโมเดลธุรกิจอยู่ว่าจะขายวัสดุก่อสร้างอย่างไร ปีที่แล้วมี 30 รายการที่เอาขึ้นมาขายก่อน ปีนี้มีของมาขายเยอะขึ้น ปีนี้เราก็มาคิดว่าจะเชิญพวกร้านวัสดุก่อสร้างรายเล็กๆ จริงๆ เราอยากจะเป็นมาร์เก็ตเพลสมากๆ แต่มันยังไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ เลยถอยออกมาลองขายเองดูก่อน เลยเปิดร้านจำลองชื่อว่า Yello พอเราขายเป็น รู้ว่าคนซื้อคนขายต้องการอะไร เราก็จะเปิดมาร์เก็ตเพลส แผนในการเปิดมาร์เก็ตเพลสอยู่ในปีนี้อยู่ในไตรมาส 4 แต่คลิปเจ๊จูทำให้เรามาเร็วขึ้น จะใช้ชื่อว่า Builkmarketplace คลิปเจ๊จูทำให้เราง่ายขึ้น ก็มีร้านค้าส่วนหนึ่งที่มาจากเจ๊จูอยากฝากขาย”

บิลค์มองโอกาสสำคัญจากการบุกตลาดของห้างโมเดิร์นเทรดต่างๆ ตามต่างจังหวัดอาจจะทำให้ร้านเล็กๆ ปิดตัวลงได้เหมือนกัน บิลค์จึงพยายามที่พลักดันให้ร้านกลุ่มนี้เข้ามาขายออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มของบิลค์ และมีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศมากมาย ทำให้ช่วยแข่งขันกันได้

“ความท้าทายใน Builk ยังมีอีกเยอะ ตอนนี้เราเพิ่งเข้าถึงกลุ่มผู้รับเหมาที่เป็น Under 40 อยู่เอง มีสองทางคือรอให้รุ่นใหญ่ๆ ส่งธุรกิจมาให้รุ่นลูก หรือจะดึงคนรุ่นใหญ่ๆ มาปรับใช้ไอที จากจำนวนผู้รับเหมาทั้งหมดในไทย 80,000 ราย มีผู้ใช้ไอที 10,000 รายและไม่แอ็กทีฟด้วย เราต้องการเพิ่มจำนวนผู้ใช้ ของบิลค์ที่แต่เดิมมีจำนวน 45,000 ร้าน จากจำนวนทั้งหมดในไทย 1 ล้านร้านค้า ทำให้มีโอกาสอีกเยอะ ทำได้อีกหลายปีเลย”

“สตาร์ทอัพ” ยังไงก็ต้องใช้เวลา

ในฐานะที่ไผทเป็นนายกสมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ด้วย จึงได้ฉายภาพวงการสตาร์ทอัพในยุคปัจจุบันว่าคึกคัก และตื่นตัวกันดี แต่ยังมีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง

5_ju

“วงการสตาร์ทอัพในบ้านเราตอนนี้ตื่นตัวกันดี แต่เราเป็นประเทศสุดท้ายแล้วจริงๆ ที่พูดเรื่องสตาร์ทอัพ ในบรรดาประเทศดาวรุ่ง เมืองไทยพูดเรื่องสตาร์ทอัพเป็นกลุ่มเล็กๆ ตอนปี 2012  เราเสียโอกาสไปเยอะแล้ว ถ้าจะทำต้องเอาประสบการณ์จากประเทศเพื่อนบ้าน ปัญหาพื้นฐานยังเป็นเรื่องกฎหมายมันยังล้าหลังอยู่ ทำให้นักลงทุนต่างชาติ หรือหุ้นส่วนต่างๆ จะกังวล กฎหมายพื้นฐานด้านการออกหุ้น

เราไม่ค่อยมีความต่อเนื่องในเรื่องนโยบาย สิ่งที่พูดกับรัฐบาลก็คือ ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย ปัญหาของคนไทยอย่างจราจร หรือการพูดคุยกัน การสื่อสาร จะถูกสตาร์ทอัพต่างประเทศเข้ามาตี และพวกนี้มาเร็วและแรง เงินก็ไหลออก ทุกวันนี้เงินก็ไหลไปให้เฟซบุ๊ก หรอืกูเกิลกันหมดแล้ว”

ส่วนในด้านเงินลงทุนจากวีซีนั้น มีจำนวนเยอะขึ้นปีละ 100% ปี 2558 ที่ผ่านมามีมูลค่าประมาณ 100 ล้านเหรียญ แต่น้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านที่ปาเข้าไป 500 ล้านเหรียญแล้ว ปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้นอีกเพราะรัฐบาลสนับสนุน

6_ju

“ในประเทศไทยตอนนี้มีจำนวนสตาร์ทอัพประมาณ 1,000 ราย อัตราการตาย 90% เราเห็นเยอะว่าที่เปิดมา 6 เดือน แต่โมเดลธุรกิจไม่เกิดก็เลยเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น ซึ่งส่วนใหญ่สตาร์ทอัพเป็นในกลุ่มของไอที เพราะทำให้ขยายตัวได้เร็ว คือการนำไอทีมาใส่ในธุรกิจอื่นๆ เป็นเรื่องที่แก้ปัญหาอะไรอย่างหนึ่ง

โดยที่เทรนด์สตาร์ทอัพในช่วง 2-3 ปีทีแล้วคนคิดว่าทำแอปพลิเคชั่นอะไรก็รวย แอปอะไรก็ได้ บ้าๆ บอๆ ที่ไม่แก้ปัญหาอะไรให้มนุษย์ อย่างที่สองอีคอมเมิร์ซ อย่างปีทีแล้วเป็นอูเบอร์ ฟอร์ซัมติง มาร์เก็ตเพลส IoT เป็นไอตามกระแสไอทีของโลก

สุดท้ายไผทได้ฝากคำแนะนำในการที่จะลงมือทำสตาร์ทอัพโจทย์ต่อไปของสตาร์ทอัพในไทย “คีย์เวิร์ดคือการค้นหา รู้จักลองผิดลองถูก ทดลอง ปรับแผน พอสำเร็จก็ทำอีก ไม่สำเร็จก็หยุด ทีมงานเริ่มต้นต้องมีสกิลครบ คนทำธุรกิจ เทคโนโลยี ดีไซน์ มีโอกาสให้สตาร์ทอัพไปต่อได้ ในการลงทุนเบื้องต้นมีการลงทุนในระดับหลักแสนก่อนก็พอแล้ว”

7_ju

8_ju

]]>
1090902
สองปรากฎการณ์ไวรัลการตลาด พัง-ปัง ดีเจแตกใน VS เจ๊จู วัสดุก่อสร้าง https://positioningmag.com/1090340 Wed, 27 Apr 2016 02:21:06 +0000 http://positioningmag.com/?p=1090340 จากกรณีคลิปเสียงหลุดของดีเจชื่อดัง โทร.อ้อนแฟนสาวพร้อมบทสนทนาสุดสยิว โดยมีการพูดถึงเรื่อง “แตกใน” ราวกับฝ่ายชายไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัยขณะร่วมเพศ สุดท้าย ดีเจออกมายอมรับว่า คือการ “แหกตา” เพราะคลิปเสียงหลุดนั้นเป็นแค่ “ไวรัล” การตลาดโฆษณาเท่านั้น จึงก่อเกิดกระแสต่อต้านมากมาย เพราะเป็นช่วงที่มาชนกับไวรัล “เจ๊จู วัสดุก่อสร้าง” ที่โด่งดังถล่มทลายในโลกโซเชียลฯ แต่ไวรัลเจ๊จู กลับเป็นการตลาดเชิงสร้างสรรค์ ไม่โกหกผู้บริโภค ไอเดียปัง คอนเทนต์เลิศ แน่นอน ไวรัล คือการตลาดที่ลุกลามเร็วแบบไฟป่า แต่หากไม่ถูกใจผู้บริโภค สินค้าก็อาจจะแท้งก่อนวางขายได้เช่นกัน

การตลาดเล่นกับความรู้สึก “ผู้บริโภค”

แม้จะโดนสับเละแต่หลายแบรนด์ยังคงนิยมการตลาดแบบไวรัลโกหกผู้บริโภคซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะทำให้ชื่อสินค้ากลายเป็นที่รับรู้ จดจำชื่อได้ แต่อาจจะไม่ถูกใจผู้บริโภคที่โดนหลอกมากนัก

“สิ่งที่ทุกคนได้รับรู้ทางโซเชียลฯ และทางคลิปต่าง ๆ ถ้าเรียกเป็นภาษามาร์เก็ตติ้ง ก็คือ ไวรัลคลิป นั่นเอง เป็นไวรัลที่ทำขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนช็อกกับเหตุการณ์ และรับรู้ถึงสินค้าที่จะขายให้เร็วมากขึ้น”

ดีเจพล่ากุ้ง วรชาติ ธรรมวิจินต์ อธิบายถึงคลิปเสียงหลุด “แตกใน” ที่หลายคนพูดถึงในช่วงเวลาที่ผ่านมา หนำซ้ำยังมีคลิปเสียงหลุดซ้ำ โดยน้ำเสียงคล้ายไม่พอใจที่มีการปล่อยคลิปดังกล่าว สรุป คือ ไวรัลโฆษณายางรถยนต์มอเตอร์ไซค์ ชี้คำว่าแตกในไม่เกี่ยวกับเซ็กซ์ แต่เกี่ยวกับยางไม่แตก คอนเซ็ปต์ตรงสินค้า

559000004384607

วันที่ 25 เมษายน 2559 ดีเจพล่ากุ้งได้นัดสื่อมวลชน ระบุว่า พร้อมแถลงเปิดใจทุกเรื่องในคลิปเสียง ปรากฏว่า เมื่อไปถึงสถานที่นัดหมาย กลายเป็นงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยางรถมอเตอร์ไซค์ AIR LOCK ซึ่งดีเจพล่ากุ้งรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ โดยเจ้าตัวยังเต้นประกอบเอ็มวี ซึ่งมีท่าเต้นและเนื้อหาเพลงล่อแหลมอีกด้วย งานนี้เจ้าตัวยกมือไหว้ตลอดทั้งการให้สัมภาษณ์ ก่อนเปิดใจเป็นแค่ไวรัลโฆษณาเท่านั้น

“ก็ยอมรับว่าในคลิปเสียงภาษาค่อนข้างรุนแรง เพราะในคลิปมีคำว่าแตกใน แต่จริง ๆ แล้วคำ ๆ นี้ มันคือกิมมิกของสินค้าตัวนี้ชัดเจนเลย ไม่ได้มีการดัดแปลงให้คำมันลงล็อกใด ๆ ทั้งสิ้น มันเป็นคำที่ชัดเจน และก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องใช้คำอื่น”

ใช้สื่อเป็นเครื่องมือแหกตา!?

อย่างไรก็ตาม ดีเจพล่ากุ้ง ยังเล่าต่อว่า ไม่คิดว่าจะเกิดกระแสแรงขนาดนี้ ย้ำ 5 วันกับการเข้าใจผิด ไม่น่าจะมีคนเดือดร้อนอะไรมากมายจากไวรัลตัวนี้

“จริง ๆ แล้วตั้งแต่คลิปนี้เผยแพร่ออกไป มันก็มีระยะเวลาประมาณ 5 วัน อีกอย่างตอนแรกผมไม่คิดว่ามันจะมีกระแสด้วย เพราะผมไม่ใช่ดาราดัง แต่เผอิญว่าโซเชียลยุคนี้มันเร็ว ก็เลยทำให้มีคนเข้ามาถามผมเยอะเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะทุกคนเป็นห่วง แต่พอผมได้เล่าเจตนาต่างๆ เล่าคอนเซ็ปต์ต่างๆ ให้เขาฟัง เขาก็โอเคนะครับ ดังนั้นผมคิดว่า 5 วันกับการเข้าใจผิด และมันมีตอนจบที่ออกมาชัดเจน ก็ไม่น่าจะมีคนเดือดร้อนอะไรมากมายจากไวรัลตัวนี้ครับ

ผมคิดว่ามันช็อกคนดูมากกว่า เพราะพอมีการเฉลยออกมามันก็ไม่ได้ขัดอะไร อีกอย่างสำหรับตัวผมเองตอนที่ผมนั่งอยู่หลังเวที ผมก็เกรงใจพี่ ๆ สื่อมวลชนทุกท่านนะครับ เพราะผมเองก็ไม่ชอบบรรยากาศที่ทุกคนอยากรู้คำตอบ บางคนเข้าใจผมผิด แต่ก็ครับเข้าใจผิดได้ เพราะว่าทางสื่อที่มีการนำเสนอออกไปมันก็มีหลายแง่มุม

สุดท้ายเมื่อถูกถามถึงการใช้สื่อเป็นเครื่องมือหรือเปล่า ดีเจคนดัง กล่าวว่า “ไม่แน่ใจ” แต่ขอใช้คำว่าเดี๋ยวนี้คนที่ดู คนที่เสพสื่อ เขาก็เชื่ออะไรยากขึ้น

“ถ้าจะมีคนประณามผมยอมรับและกราบขอโทษคุณจริง ๆ ครับ ถือว่าความคิดเราไม่ตรงกัน งานศิลปะชิ้นหนึ่ง คนดูสิบคน ตีความไม่เหมือนกัน ดังนั้น สิ่งนี้ผมถือว่าเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่งละกันครับ”

ปรากฏการณ์ “เจ๊จู วัสดุก่อสร้าง” ไอเดียสุดสร้างสรรค์!

559000004384601

ในช่วงเวลาเดียวกันกับคลิปเสียงดังกล่าวหลุด กระแส “เจ๊จู วัสดุก่อสร้าง” ก็เกิดขึ้นเช่นกัน แต่กลับเรียกเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม เกิดการบอกต่อ เป็นการตลาดไวรัลที่ประสบความสำเร็จในโลกโซเชียลอย่างมาก กับเฟซบุ๊กแฟนเพจ I-JU วัสดุก่อสร้าง หรือ เจ๊จู วัสดุก่อสร้าง ที่มีลีลาการขายแปลกใหม่ โดยการนำภาพของหญิงสูงวัยสวมแว่น ผมตีกระบัง ฉากหลังสีดำ และเสื้อคอเต่าแขนยาวสีดำ ท่าทีจริงจังราวกับสตีฟ จ็อบส์ เจ๊จูภาพเดียวแต่ใส่ข้อความหลากหลาย เปรียบเปรยความรักกับวัสดุก่อสร้าง ที่อ่านแล้วฮา ก่อนทิ้งท้ายขายวัสดุก่อสร้าง พร้อมเบอร์โทรชัดเจน เช่น

“ความเข้าใจเป็นรากฐาน ของชีวิตคู่ ต้องปูด้วยกระเบื้องแผ่น แกรนิตโต้ (เจ๊จู วัสดุก่อสร้าง โทร 080 070 3514) i-ju ,ตกหลุมรักเธอทุกวัน กลบหลุมฝัง เช่ารถแบล็คโฮล (เจ๊จู วัสดุก่อสร้าง โทร 080 070 3514) i-ju , ความรักที่ไม่มั่นคง อย่าเพิ่งปลง ให้ซื้อเหล็กมวลเบามาค้ำ (เจ๊จู วัสดุก่อสร้าง โทร 080 070 3514) i-ju , การเรียนมืดมน ลองมาใช้ราง LED สว่างยันอนาคต (เจ๊จู วัสดุก่อสร้าง โทร 080 070 3514) i-ju , แฟนเก่าคอยก่อกวน ใช้ฉนวนกันความร้อน (เจ๊จู วัสดุก่อสร้าง โทร 080 070 3514) i-ju ,ห่างกันสักพัก ให้ใช้เหล็กดัด ปิดหน้าต่าง (เจ๊จู วัสดุก่อสร้าง โทร 080 070 3514) i-ju ” หลายคนอ่านแล้วฮา แชร์ส่งต่อและมีการพูดถึงกันจนโด่งดังข้ามคืน และพยายามโทรไปเบอร์ดังกล่าวแต่โทรไม่ติด

559000004384602

ล่าสุด เฟซบุ๊กแฟนเพจ I-JU วัสดุก่อสร้าง ได้ทำคลิปวิดีโอขึ้นมา เพื่อเปิดเผยว่า เจ๊จู วัสดุก่อสร้าง เป็นใคร ซึ่งแท้จริงแล้วก็คืองานไวรัลจาก ‘Yello smart purchase’ ของ ‘Builk.com’ เว็บไซต์ที่จำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างจากโรงงานพร้อมจัดส่งให้ทั่วประเทศ

ไผท ผดุงถิ่น ซีอีโอ เจ้าของบริษัท บิลค์ เอเชีย จำกัด และนายกสมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ และเป็นเจ้าของเพจ I-JU วัสดุก่อสร้าง กล่าวถึงการทำไวรัลโฆษณาชิ้นนี้ในสื่อหนึ่ง เพราะหลายคนชื่นชมและอยากรู้จักคนคิดไอเดีย และคอนเทนต์ เป็นอย่างมาก

“เจ๊จูเป็นแผนการตลาด ผมทำ บริษัท บิลค์ เอเชีย จำกัด เป็นธุรกิจเกี่ยวกับซอฟต์แวร์วงการก่อสร้าง และอีคอมเมิร์ซการก่อสร้าง จุดเริ่มต้นมาจาก ก่อนหน้านี้ ได้สร้างหนังโฆษณาของตัวละครชื่อเฮียอู๋ ซึ่งโพสต์เป็นกระแสไวรัลผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กของ builk thailand มาก่อน หลังจากนั้นก็เริ่มคิดเรื่องต่อไปเป็นเรื่อง เจ๊จู แต่คราวนี้อยากให้เนื้อหามันสมจริงสมจัง ก็เลยสร้างเพจขึ้นมาใหม่ และบังเอิญมีคนสนใจและแชร์กันเยอะ ก็เลยต้องคิดต่อให้ครบ ล่าสุดแฟนเพจเจ๊จูก็ได้ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอเฉลยแล้วว่า เจ๊จูเป็นใคร เรียกว่าเป็นสีสันทางการตลาดดีกว่าครับ

จริงๆ คาแร็กเตอร์ของเจ๊จู มาจาก “เจ๊จง หมูทอด” เขาเป็นคนที่ไฮเทค ใช้สังคมออนไลน์อยู่ตลอดเวลา ประกอบกับเอาคาแร็กเตอร์ของผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างที่ไม่ไฮเทคเข้ามาผสมด้วย จึงออกมาเป็น เจ๊จู”

อย่างไรก็ดี แม้เจ๊จูในภาพ จะคือ นักแสดงเอ็กซ์ตร้าที่จ้างมา แต่ชื่อเจ๊จูน่าจะมีคนพูดถึงไปสักพัก และนี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างไวรัลโฆษณาที่ประสบความสำเร็จ อย่างน่าชื่นชม แม้จะเป็นร้านวัสดุก่อสร้างก็ตาม

กุญแจสู่ความสำเร็จ…ต้องจริงใจกับผู้บริโภค

ทว่า เมื่อย้อนกลับไปศึกษาถึงกรณีของไวรัลคลิปที่ถูกต่อต้าน อย่างคลิปออม สุชาร์ เหวี่ยงแฟนคลับ แม้ไวรัลคลิปจะถูกแชร์กระจาย แต่สุดท้ายเมื่อเฉลยว่าเป็นโฆษณาขนมสนิกเกอร์ส จึงเกิดกระแสต่อต้านอย่างหนัก บางรายถึงขนาดไม่ขอซื้อกิน

จิณณ์ เผ่าประไพ และ สหรัฐ สวัสดิ์อธิคม ผู้บริหารของบริษัท CJ WORX ดิจิตอลเอเจนซี่ ให้ความเห็นในบทความของ positioning ถึงกรณีศึกษา จากความเข้าใจผิดของนักการตลาดบางรายที่อาจมองว่า ไวรัลที่ดีต้อง Unbrand ไม่เปิดเผยแบรนด์ในช่วงต้นของการปล่อยคลิป แต่ในความเป็นจริงแล้ว แมสเสจที่แบรนด์ต้องการสื่อสารควรบอกผู้บริโภคไปเลยตรงๆ ซึ่งทั้งสองมองว่า ไวรัลมาร์เก็ตติ้งก็คือหนึ่งในงานโฆษณา มีเป้าหมายเพื่อสื่อสารถึงสินค้า ไม่จำเป็นต้องปิดบังเพื่อทำให้คนดูประหลาดใจ

สิ่งสำคัญคือ ไวรัลมาร์เก็ตติ้งห้ามทำ Negative Viral ในเชิงหลอกผู้บริโภค

559000004384603

“ผมเชื่อว่า ทุกแบรนด์ในอเมริกาเคยทำไวรัลโกหกกันมาหมดแล้วนะ อเมริกาเป็นต้นฉบับของเทคโนโลยี เขาจะล้ำหน้าเราไป 2-3 ปี ซึ่งไวรัลโกหกถูกทำมาตั้งแต่ปีที่ 2-3 ตั้งแต่ยูทิวบ์เกิด (2007-2008) และเมื่อเข้าสู่ปีที่ 3 ปั๊บมันก็ล่มสลาย อย่างในอดีตก็มีเคส “โซนี่” ในอเมริกาที่ต้องการโปรโมตเกมด้วยเรื่องซากไดโนเสาร์ที่ถูกพบบริเวณชายหาดแห่งหนึ่ง จนเป็นข่าวใหญ่โต สำนักข่าวมาทำข่าว พอพบว่าเป็นไวรัล เป็นเรื่องหลอก โซนี่ถูกโจมตีอย่างหนัก จนต้องปิดเว็บและออกมาแถลงข่าวขอโทษ”

ความจริงแล้ว คลิปไวรัลจะโกหกก็ได้ ไม่ผิด หากว่าเฉลยในฟิล์มเดียวกัน เพื่อไม่ให้เข้าใจผิด และถึงแม้จะเฉลยทันทีก็ต้องพิจารณาว่า เป็นการทิ้งคำถามให้ติดค้างในใจผู้บริโภคอยู่อีกหรือไม่ ซึ่งหากจริงใจกับผู้บริโภค และผลิตคอนเทนต์ที่มีสื่อเมสเสจตรงๆ สังคมก็จะช่วยแชร์ เช่น CSR ไวรัล หรือให้ความบันเทิง หรือสร้างความแปลกใหม่

“อย่างไวรัลคลิปที่เราทำให้กับหนังเรื่อง Last Summer ที่ออกไปแค่วันเดียวได้ 1 ล้านวิว ซึ่งทำให้รู้เลยว่าเป็นคลิปที่ทำขึ้น ใส่เนื้อหาให้เขาดูสนุก อยากติดตาม ไม่จำเป็นต้องไปหลอกเขา”

เช่นเดียวกับ นุวีร์ เลิศบรรณพงษ์ Head of Invention บริษัทมายด์แชร์ ที่ย้ำว่า ไอเดียเป็นสิ่งสำคัญ

“ไวรัลมาร์เก็ตติ้งไม่ใช่แค่ทำให้ดัง แต่ต้องทำให้คนดูชอบด้วย เพราะเมื่อมีโฆษณาคลิปไวรัลหลอกๆ ออกมามาก คนก็จะเริ่มเดามุกได้ และหากมาจบที่โปรดักต์ด้วย เขาก็จะผิดหวัง อ๋อ! กะแล้วเชียว ดังนั้นจึงต้องเน้นที่ไอเดียเป็นสำคัญ”

ที่มา: http://manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9590000042502

]]>
1090340