ถือเป็นข่าวดีสำหรับ “ตลาดเครื่อใช้ไฟฟ้า” มูลค่า 2.5 แสนล้านเลยก็ว่าได้ เมื่อสถานการณ์ในช่วงครึ่งปีแรก 2019 ภาพรวมมีการเติบโตราว 3% ถือเป็นตัวเลขที่ดีที่สุดในรอบ 3 ปี หลังจากที่ก่อนหน้านี้มักจะโต 1 – 2% เท่านั้น
แต่อย่างไรก็ตาม ใช้ว่าทุกหมวดสินค้าจะได้รับ “ข่าวดี” เหมือนกันหมด เพราะบางกลุ่มสินค้ายังคงต้องค้นหา Turning Point เพื่อทำให้ยอดขายกลับมาเติบโตอีกครั้ง ทั้งหมดทั้งมวล “จักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล” Chief Business Officer – Specialty Business บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ประเมินให้ Positioning ฟังดังต่อไปนี้
ย้อนกลับไปในปี 2016 ถือเป็นปีที่ดีที่สุดของตลาดเครื่องปรับอากาศ เพราะตลาดที่ร้อนกระตุ้นให้ผู้บริโภคต้องหาตัวช่วยคลายร้อน ขณะเดียวกันรุ่น inverter หรือประหยัดพลังงานก็เลือกทำราคาขายถูกลงทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น จนหลายฝ่ายประเมินว่า เครื่องปรับอากาศนี่จะเป็นดาวเด่นที่ทำให้ภาพรวมของตลาดเครื่อใช้ไฟฟ้าเติบโตได้
แต่ในปีถัดมาภาพเหล่านั้นกลับไม่เกิดขึ้น เพราะแทนที่อากาศจะร้อนแต่ฝนกลับเทลงมาตั้งแต่ต้นปี ลากยาวไปจนหน้าร้อนซึ่งเป็นช่วงที่เครื่องปรับอากาศขายดีที่สุด จนสุดท้ายปีนั้นภาพรวมหดลงไปราว 20 – 30% และในปี 2018 สถานการณ์เดียวกันก็เกิดขึ้นอากาศไม่ร้อนเหมือนที่เคย ตัวเลขจึงอยู่ในภาวะแดนลบอีกครั้ง
สำหรับครึ่งปีแรก 2019 “จักรกฤษณ์” บอกว่า ตลาดเครื่องปรับอากาศเติบโตถึง 30% สาเหตุหลักๆ มาจากอากาศที่ร้อน และผู้เล่นในตลาดต่างขนสินค้าออกมาประชันกันอย่างคึกคัก คาดว่าทั้งปีการเติบโตคงอยู่ราว 30%
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ตลาดเติบโตคือ “Smartphone” เซ็กเมนต์ใหญ่ที่สุด ซึ่งขณะนี้ทุกแบรนด์ต่างประครองการเติบโตให้เป็นแบบออร์แกนิก ส่วนจุดขายยังคงชูเรื่อง “กล้อง” มาเป็นตัวนำ และราคาที่ขายดีที่สุดคือ 20,000 บาท
โดยกลุ่มแบรนด์ที่เข้ามากระตุ้นนอกเหนือจาก Samsung เปิดตัว Galaxy S10 ราคา 31,900 บาท ยังมีกลุ่มแบรนด์จีนทั้ง Huawei ที่มีรุ่น P30 กับจุดขายซูม 30 เท่าราคา 31,990 บาท และ OPPO ที่ตั้งเป้ารุกตลาดพรีเมียมมากขึ้น ไม่กี่วันก่อนหน้านี้เพิ่งเปิดตัว Reno 10x Zoom ราคา 28,990 บาท ชูซูมขั้นสุดถึง 60 เท่าด้วยซอฟต์แวร์
ส่วนตลาด Smartphone จะกลับมาโตหวือหวาในระดับ 30% เหมือนก่อนหน้านี้ไหม? คงต้องรอให้ 5G เปิดใช้อย่างเป็นทางการเสียก่อน
กลุ่ม TV กลายเป็นอีกกลุ่มที่เติบโตได้ดี ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะพบเจอความท้าทายไปบ้าง แต่ปีที่ผ่านมาได้ฟุตบอลโลกมาช่วยไว้ ส่วนครึ่งปีแรกกลับมาเติบโตราว 10% ตลาดรวมราว 30,000 ล้านบาท แม้จะไม่มีการแข่งขันกีฬามาช่วย
สาเหตุหลักคือการที่ทีวีจอใหญ่ในกลุ่ม 4K ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคมากขึ้น ตัวอย่างเช่นยอดขายของ “เพาเวอร์ มอลล์” กว่า 40% มาจากขนาด 65 – 70 นิ้ว
แนวโน้มในปี 2019 จะเติมโตได้มากแค่ไหนคงต้องลุ้นจากการทำตลาดของ “ทีวี 8K” ที่เริ่มทำตลาดกันอย่างคึกคักทั้ง Samsung, LG และล่าสุด Hisense แบรนด์จากจีนก็กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้เช่นกัน
ก่อนหน้านี้ตลาด Notebook ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการเข้ามาของ Tablet จนถูกมองว่าจะสามารถเข้ามาทดแทนกันได้เลยทีเดียว ซึ่งกลวิธี “แก้เกม” ของบรรดาค่าย Notebook ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จึงต่างยกเครื่องกันยกใหญ่
ทั้งปรับดีไซน์ให้ทันสมัย ลดขนาดเครื่องให้เล็กลงมีน้ำหนักเบาพกง่าย ชิปประมวลผลมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและทรงพลังมากยิ่งขึ้น พร้อมกับจอ OLED และ 240Hz ที่มีขอบจอที่เล็กลง ทั้ง Acer – HP – ASUS
ขณะเดียวกันก็มุ่งไปจับกลุ่ม Gaming ซึ่งมีราคาที่สูงกว่าเฉลี่ย 20 – 30% บางสูงมากกว่า 50% จนในที่ก็ทำให้ผู้บริโภครู้ว่า Tablet ไม่สามารถทำแทนได้ทุกอย่าง ตลาดจึงกลับมาเติบโต 5 – 10% โดยในส่วนของเพาเวอร์ มอลล์ราคาที่ขายดีเฉลี่ย 20,000 บาท
อย่างไรก็ตาม มีขึ้นก็ต้องมีลง ถ้าไม่นับตลาดเครื่องเสียงวิดีโอที่กำลังติด “ตัวแดง” กันอยู่ ตลาด “กล้อง Digital” คือส่วนที่น่าห่วงมากที่สุด เพราะตกลงถึง 30% ซึ่ง “จักรกฤษณ์” บอกว่าจากที่คุยกับผู้ประกอบการรายหนึ่งพบเมืองไทยติดลบมากที่สุดในเอเชีย
หากยังจำกันได้เมื่อ 10 ปีก่อนตลาดกล้อง Digital เคยมีมูลค่า 14,000 – 15,000 ล้านบาท ผ่านการขับเลื่อนด้วย “กล้อง Compact” แต่หลังจากการเกิดของ Smartphone ที่มาพร้อมกับ “กล้อง” ที่ใช้งานได้ดีไม่แพ้กัน ภาพรวมตลาดจึงหดตัวก่อนที่ 4 – 5 ปีที่ผ่านมา
ก่อนจะหาจุด Turning Point ด้วยการออก “กล้อง Mirrorless” ที่มาพร้อมคุณสมบัติน้ำหนักเบา แต่สามารถถ่ายได้คมชัดเหมือนกล้อง DSLR ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ตลาดขึ้นไปถึงหลัก “หมื่นล้านบาท” ก่อนจะถูกประเมินว่าจะมีมูลค่าลดเหลือ 7,000 ล้านบาทในปี 2019
ทั้งนี้ทั้งนั้นภาพรวมของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 2019 เชื่อว่าจะเติบโตราว 3% โดยเทรนด์ที่มาแรงในตอนนี้คือ IoT และ AI ที่มาพร้อมกับโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับเรียบร้อย โดยเฉพาะความเร็วของอินเทอร์เน็ต นอกเหนือจากราคาที่ต่างจากรุ่นปรกติประมาณ 10 – 15% ฟากแบรนด์เองก็ออกสินค้าพร้อมกับสร้างการรับรู้ในเรื่องของประโยชน์แก่ผู้บริโภคมากขึ้น
ด้านยอดขายของ “เพาเวอร์ มอลล์” ครึ่งปีแรกโต 9% มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5% อันเป็นผลจากการวาง Direction ที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง 3 – 4 ปี โดยเน้นให้ความสำคัญทั้งด้านเทรนด์สินค้าที่ทันสมัย และการให้บริการที่ดีแก่ลูกค้าทั้งก่อนและหลังการขาย โดยกลุ่มที่ขายดีอยู่ในเซ็กเมนต์พรีเมียม ทั้งปีคาดว่าจะเติบโตราว 5%
ขณะเดียวกันเทรนด์ออนไลน์ที่ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าในช่องทางนี้มากขึ้น และแบรนด์เองก็ชอบไปจับมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เพื่อเข้าให้ถึงพฤติกรรมของลูกค้า แต่ “จักรกฤษณ์” บอกว่าไม่กระทบกับ “เพาเวอร์ มอลล์” เนื่องจากส่วนใหญ่สาขาทั้งหมดที่มี 10 แห่งอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเดินทางลูกค้า
และทาง “เพาเวอร์ มอลล์” เองก็ปรับตัวโดยการฝึกพนักงานให้เชี่ยวชาญในการแนะนำสินค้า และทำโปรโมชั่นไม่ด้อยกว่าออนไลน์ แต่ทั้งนี้ก็วางแผนรุกออนไลน์ด้วยเช่นกัน เพื่อทำให้เป็น Omni Channel วางแผนเปิดตัวเร็วๆ นี้.
]]>
ต้องเจอกับเหตุการณ์เพลิงไหม้เป็นครั้งที่สอง สำหรับ ไดโนซอร์ แพลนเน็ต ธีมพาร์คไดโนเสาร์ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ริมถนนระหว่างซอยสุขุมวิท 22-24 บนเนื้อที่ 1.2 หมื่นตารางเมตร
เพลิงไหม้ได้ลุกลามบริเวณด้านในสวนสนุก ซึ่งเป็นอาคารที่อยู่ระหว่างรื้อถอน โดยเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมเพลิงได้แล้ว และอยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุ
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ที่สวนสนุกแห่งนี้เกิดเพลิงไหม้ เพราะช่วงบ่ายของวันที่ 30 เมษายน ปี 2559 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้กระเช้า Dino Eye ชิงช้าสวรรค์ มาแล้ว แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต คาดว่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
สวนสนุกไดโนซอร์แพลนเน็ต เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2559 เป็นการร่วมมือ ร่วมลงขัน ระหว่าง บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ของวินิจ เลิศรัตนชัย, บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไร้ท์แมน จำกัด กระแสข่าวว่าลงทุนมูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท (ไม่รวมที่ดิน) โดย ได้เช่าที่ดินจากบริษัท ดิเอ็มโพเรียม กรุ๊ป จำกัด ของกลุ่มเดอะมอลล์ มีระยะเวลา 2 ปี
เพิ่งครบสัญญาเช่าไปเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา กลุ่มเดอะมอลล์มีแผนจะนำที่ดินไปพัฒนาเป็นโครงการตามแผนงานที่วางไว้ เพื่อให้ครอบคลุมโซนสุขุมวิท.
]]>“ราคา” เจ้าไหน แบรนด์ไหนมีของดีราคาถูก คนก็จะแห่แหนไปยังร้านนั้นๆ ตามด้วย “โปรโมชั่น” ซึ่งเป็นตัวแปรที่ปรับขึ้นลงกับเรื่องราคา เพราะการจัดโปรโมชั่น หมายถึงการได้สินค้าในราคาที่ลด แลก แจก หรือแถมแน่ๆ ส่วน “ประสบการณ์” ช้อปปิ้ง มาเป็นอันดับ 4 นั่นคือภาพพฤติกรรมผู้บริโภคเดิมๆ แต่ปัจจุบัน “ประสบการณ์” กลายเป็น Factor สำคัญที่ผู้บริโภคตัดสินใจว่าจะไปช้อปปิ้งที่ไหน
“ปัจจุบันผู้บริโภคกังวลเรื่องราคาน้อยลง เพราะเชื่อว่าราคาสินค้าทุกที่ไม่ต่างกัน ดังนั้นสิ่งที่อยากเจอในการช้อปปิ้งที่ซูเปอร์มาร์เก็ตจึงเป็นสิ่งแปลกใหม่ ที่ไม่เจอมาก่อน ทำให้ผู้ประกอบการต้องแข่งขันด้วยไอเดียใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสบการณ์การช้อปปิ้ง” “บุญชัย ปลื้มสืบกุล” ผู้จัดการใหญ่บริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต บ.เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าว
ขณะที่สินค้าหมวดที่สร้าง “ประสบการณ์ช้อปปิ้ง” ยุคนี้ยังต้องแตกต่างกันด้วย เพราะถ้าเหมือนกันทุกที่ ผู้บริโภคก็เข้าห้างร้านไหนก็ได้ จึงเห็นผู้ประกอบการไม่แค่ซูเปอร์มาร์เก็ต แต่เป็น “ค้าปลีก” เกือบทุกฟอร์แมต ที่หันมาให้น้ำหนักอาหารสด ของกิน กันถ้วนหน้า แทบทุกแบรนด์ ตั้งแต่ไฮเปอร์มาร์เก็ตอย่าง “บิ๊กซี-เทสโก้ โลตัส” ร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น อีเลฟเว่น-แฟมิลี่มาร์ท-ลอว์สัน108” ซูเปอร์มาร์เก็ตทั้ง “กูร์เมต์ มาร์เก็ต-ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต”
ยิ่งมาโฟกัสซูเปอร์มาร์เก็ต “บุญชัย” ย้ำเลยว่า ถ้าลูกค้าเดินมาที่ร้าน สิ่งแรกทีนึกถึงอันดับแรกคือ “อาหารสด” กลยุทธ์ของกูร์เมต์ มาร์เก็ตจึงต้องหาสินค้าไฮไลต์ วัตถุดิบที่ขาย “Exclusive” ที่นี่ที่เดียว มาเป็นแม่เหล็กดึงดูดคนเข้าร้านมากที่สุด
จะเห็นว่าปัจจุบันพื้นที่โปรโมชั่น 30-40 ตารางเมตร (ตร.ม.) ของกูร์เมต์ มาร์เก็ต สาขาสยามพารากอน จะมีสินค้าอาหารสด “ไฮไลต์” มาสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนขายทุกๆ 15 วัน ล่าสุด เป็นคิวของ “อาหารทะเล” ซึ่งสภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์หนึ่งในผู้ส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่ของโลก จับมือกับบริษัท ธรรมชาติ ซีฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหารเคาน์เตอร์อาหารทะเลรายใหญ่ของไทยจัดมหกรรมอาหารทะเล “The Incredible Flavours of Norway” และตราสัญลักษณ์อาหารทะเลนอร์เวย์ : SEAFOOD FROM NORWAY เอาใจคนรักซีฟู้ด
ก่อนหน้านี้ มีการนำทั้งผลไม้เกาหลี จาก “วัชมนฟู้ด” มาจำหน่ายเป็น Exclusive มีอาหารทะเลจากออสเตรเลียเข้ามาขาย เป็นต้น
ปัจจุบันสินค้าอาหารสดมีสัดส่วนยอดขาย 40% และเป็นสินค้า Grocery อื่นๆ สัดส่วน 60% แต่ถ้าเทียบอัตราการเติบโต อาหารสดโตแรงกว่า
“สินค้า Grocery หาซื้อที่ไหนก็ได้ เหมือนกันหมด แต่ของสดทั้งอาหาร ผลไม้ เบเกอรี่ ช้อปคีออสอาหารญี่ปุ่น ที่นั่งทานได้ จะเป็นตัวที่สร้างความแตกต่างได้ ซึ่งเกณฑ์การเลือกสินค้ามาจัดบริเวณพื้นที่โปรโมชั่น จึงต้องเอ็กซ์คลูซีฟ ขายที่นี่ที่เดียว เราเลือก Fresh First หาที่ซื้ออื่นไม่ได้เพื่อดึงให้ลูกค้ามาจับจ่ายใช้สอย”
บุญชัย ย้ำ อีกการขยับตัวของรีเทล นอกจากโฟกัสขายของกิน อาหารสดแล้ว การเปิด “โซนบริการปรุงอาหารสด” ยังมาแรง เพราะได้เห็นทั้งเทสโก้ โลตัส ที่ใช้ชื่อ “You Shop We Cook” ส่วน กูร์เมต์ ใช้ “You Hunt We Cook” นี่เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ห้างพยายามนำมาเสนอลูกค้าให้ได้สัมผัสสิ่งแปลกใหม่กว่าเดิม
ส่วนทิศทางการขยายสาขา แน่นอนว่า “ฟอร์แมต” ใหม่ๆ เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการซูเปอร์มาร์เก็ต พยายามจะขยาย อย่างกลุ่มท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต มีทั้งหมด 4 รูปแบบ ส่วน “กูร์เมต์ มาร์เก็ต” มีประมาณ 3 รูปแบบ คือเปิดในห้างค้าปลีกของเครือเดอะมอลล์ สาขานอกห้างในเครือ เช่น กูร์เมต์ มาร์เก็ต เทอร์มินอล 21, ห้างพรอมมานาด และ เดอะ คริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ เป็นต้น และ “กูร์เมต์ ทูโก” (Gourmet TO-GO) ซึ่งปัจจุบันมี 2 สาขา ที่ MRT ลาดพร้าว และเพชรบุรี ซึ่งยังเป็นสาขาที่ทดลง (Trial) เปิด โดยสินค้าที่จำหน่ายมีกลิ่นอายสะดวกซื้อ แต่พรีเมียมกว่า
กลุ่มเดอะมอลล์ มีการขยายห้างค้าปลีกอย่างระมัดระวัง (Consernvative) และยังมีสาขาน้อย หากกูร์เมต์ มาร์เก็ตรอแค่ให้บริษัทแม่ลุยลงทุนเปิดห้างเอง ย่อมทำให้เจาะกลุ่มเป้าหมาย “สปีด” ไม่ทันคู่แข่งที่เปิดโครมๆ นอกจากนี้ ยังต้องจับตาการเปิดฟอร์แมตใหม่ๆ ในโครงการ “ดิเอ็มสเฟียร์” และ “แบงค็อกมอลล์” ด้วย
สำหรับภาพรวมยอดขายกูร์เมต์ มาร์เก็ต ไตรมาสแรก ยังคงขยายตัวได้ดี ขณะที่ยอดซื้อสินค้าต่อบิลเฉลี่ย 400 บาท สำหรับสาขาหรูใจกลางกรุงอย่างสยามพารากอน ส่วนสาขารอบนอกยอดซื้อต่อบิลฉลี่ย 300-400 บาท หรือต่างกันราว 20-30% นั่นเอง
ปัจจุบันซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นหนึ่งในรีเทลที่เติบโตสูง เพราะผู้บริโภคเน้นซื้อของกิน ของสด และของใช้ เช่นเดียวกับร้านสะดวกซื้อโตพุ่ง เพราะการขยายสาขาแต่ละปีทุกรายรวมกันมากถึงหลายร้อยสาขา อีกทั้งผู้บริโภครักความสะดวกสบาย สาขาเล็กใกล้บ้าน บริการครบ จึงตอบโจทย์ดังกล่าวอย่างดี ส่วนไฮเปอร์มาร์เก็ตเริ่มเอ็นจอยการแห่มาช้อปลดลง.
]]>นายธีรพจน์ โชคอนันตัง ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ นางณัฐศมน วงศ์กิตติพัฒน์ ผู้จัดการใหญ่การตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ต่อยอดแคมเปญ “Happy Go Lucky” ภายใต้กิจกรรม “Lucky Day” มอบโชคสุดคุ้มให้กับสมาชิกเคทีซี ทุกวันที่ 13 ของเดือน ตลอดปี 2013 โดยวันที่ 13 มิถุนายนนี้ ดีเดย์โปรโมชั่นช้อปปิ้ง สุดเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อสมาชิกบัตรเคทีซีโดยเฉพาะ เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต สามารถใช้คะแนนสะสม Forever Rewards เท่ายอดใช้จ่าย แลกรับส่วนลดเพิ่มทันที 30% โดยไม่จำกัดจำนวนการแลกคะแนนและยอดใช้จ่ายขั้นต่ำ ที่ห้างสรรพสินค้าในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด อาทิ เดอะมอลล์ ดิเอ็มโพเรียม และ สยามพารากอน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC Phone โทรศัพท์ 0-2665-5000 หรือเว็ปไซต์ www.ktc.co.th
เป็นโอกาสดีสำหรับสมาชิกบัตร M Card และบัตรเครดิต Citi M Visa ที่ได้รับสิทธิพิเศษชมฟรีภาพยนตร์รอบพิเศษ เรื่อง Fast & Furious 6 ภาพยนตร์แนวแอ๊คชั่นทริลเลอร์สุดมันส์ระดับโลกที่หลายคนรอคอย ที่ โรงภาพยนตร์ SFX Cinema ชั้น 6 ดิ เอ็มโพเรียม จากแคมเปญSuper M Power ที่ เดอะมอลล์, ดิ เอ็มโพเรียม และพารากอนจัดขึ้น
ซึ่งนอกจากการชมภาพยนต์ ยังมีเกมส์สนุกจากภาพยนต์มาให้ร่วมสนุก โดยงานนี้ คุณวรรณา เพิ่มสุวรรณ, คุณณัฐศมน วงศ์กิตติพัฒน์, คุณนงลักษณ์ โลหะมาณพ ผู้บริหารจากเดอะมอลล์ และคุณสุพรทิพย์ พงศาชำนาญกิต จากธนาคารซิตี้แบงก์ ให้การต้อนรับลูกค้าอย่างเป็นกันเอง
ทั้งนี้ สมาชิก M Card สามารถติดตามกิจกรรมดีๆ อีกมากมายที่ M Card เตรียมไว้ตลอดปีสำหรับสมาชิกคนพิเศษ ที่ www.mcardmall.com หรือ www.facebook.com/mcardforall
แอพฯ โตโยต้า ความสนุก คือฟังก์ชัน
ไม่ใช่ผลิตรถให้ดีเท่านั้น แต่ขับแล้วต้องได้ความ “สนุก” ตื่นเต้นด้วย นี่คือความหมายภายใต้สโลแกน “Fun to drive” ที่โตโยต้าเลือกนำเสนอผ่านแอพพลิเคชั่น “Toyota smart G-BOOK”
ไทยเป็นประเทศแรกนอกตลาดญี่ปุ่น ที่โตโยต้านำแอพพลิเคชั่นที่บริษัทแม่พัฒนาขึ้นใช้งานทั้งไอโอเอส และแอนดรอยด์มาให้บริการ โดยใช้โอกาส่โตโยต้าครบรอบ 50 ปี และจังหวะที่สมาร์ทโฟนของไทยกำลังเติบโตเต็มที่ และสร้างความเชื่อมั่นหลังจากเพิ่งผ่านพ้นกับวิกฤติภัยพิบัติมามาหมาดๆ
แน่นอนว่า ถ้าเป็นประเทศไทยแล้ว เรื่องของรถกับปัญหาจราจรเป็นของคู่กัน ฟังก์ชันแอพฯ สมาร์ทจีบุ๊กในไทยจึงถูกตีโจทย์ออกมาเป็น 3 บริการหลักๆ ระบบตรวจสอบสภาพจราจร และแจ้งสถานะการจราจรแบบเรียลไทม์ และยังเพิ่มบริการให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนเมือง คือหาสถานที่สุดฮิต ร้านน่ากิน สถานที่ท่องเที่ยว ฟังก์ชันนี้จะเป็นเหมือนผู้ช่วยส่วนตัว อัพเดตสภาพการจราจร เส้นไหนควรใช้ เส้นไหนควรเลี่ยง ช่วยลดเวลาการเดินทาง
เวอร์ชั่นในไทย ยังเพิ่มฟังก์ชัน G-Road และ G-Life โทรขอความช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ระบบจะเชื่อมต่อกับสัญญาณจีพีเอส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อมีอุบัติเหตุ โอเปอเรเตอร์ที่รับแจ้งเหตุ จะประสานงานให้ความช่วยเหลือได้ทันที
แอพฯ นี้อาจแปลกหน่อยตรงที่ นอกจากข้อมูลที่ขอมาจะถูกบันทึกไว้แล้ว ทั้งการสอบถามเส้นทาง หรือแจ้งเหตุฉุกเฉิน ทำผ่านโอเปอเรเตอร์ ตลอด 24 ชั่วโมง เรียกว่า ไม่เน้นไฮเทคอย่างเดียว แต่ดูสภาพการใช้งานจริงด้วย
นี่คือ ความสนุกในการขับขี่ สไตล์โตโยต้า แม้จะพยายามผนวกเรื่องไลฟ์สไตล์มาบ้าง แต่ก็ยังคงเน้นฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก ทำแอพฯ มาแล้วต้องกระตุ้นให้คนมาโหลด โตโยต้าจึงจัดเต็ม ทุ่มโปรโมตทั้งสื่อดั ทีวี สิ่งพิมพ์ วิทยุ และออนไลน์ แถมยังมี แอฟ-ทักษอร สุขภักดิ์เจริญ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์
ทางออนไลน์ ก็ให้สิทธิ์ 5,000 รายแรกลงทะเบียนใช้ฟรีผ่านเว็บ ส่วนอีก 50,000 แอพฯ จะให้กับลูกค้าโตโยต้า จะพ่วงด้วยการกิจกรรมการตลาดตลอดทั้งปี ถ้าเป็นลูกค้าทั่วไป โหลดใช้ในราคา 31.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 999 บาท) โดยได้รับสิทธิประโยชน์รับบริการผ่าน smart G-BOOK Call Center ฟรี 1 ปี
เซ็นทรัลออกแอพฯ กระตุ้นช้อป
ค่ายเซ็นทรัลฯ ออกแอพฯ shop@centra เอาใจนักช้อป และเป็นอีกแบรนด์ที่ต้องการเชื่อมโลกออนไลน์มาสู่โลกแห่งการช้อปจริง โดยให้แบรนด์ติดตามผู้บริโภคไปได้ทุกที่ทุกเวลา
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บอกว่าแอพฯ นี้จะสร้างช่วยความคุ้นเคยระหว่างลูกค้าและห้างด้วยข้อมูลที่ลูกค้าสนใจ เช่น เทรนด์แฟชั่น และใช้กิจกรรมส่งเสริมการขาย ชิงโชค แจกคูปอง ส่วนลด เพื่อกระตุ้นให้มาช้อปที่ห้าง โดยยอดโหลดแอพฯ บางส่วนจะมาจากฐานลูกค้าที่เป็นแฟนเพจอยู่ในเฟซบุ๊กของ CPN จำนวน 2แสนคน
ในอนาคตเขาหวังว่าแอพฯ จะเป็นเครื่องมือใช้สร้างการทำตลาดให้กับแบรนด์และสินค้าต่างๆ ที่มาเช่าพื้นที่ห้างฯ ด้วย
เดอะมอลล์ ทำแล้วต้องทอล์ก
ถึงธุรกิจค้าปลีกจะมี “บัตรรอยัลตี้การ์ด” ไว้ดึงดูดลูกค้าเหนียวแน่นกับห้างฯ แต่การแข่งขันยุคนี้บัตรอย่างเดียว “เอาไม่อยู่” ต้องมีโมบายล์แอพฯ มาช่วยเข้าถึงลูกค้าคนรุ่นใหม่ ทำให้ค่ายเดอะมอลล์กรุ๊ป ต้องพัฒนาแอพฯ ให้ทั้งข้อมูล ข่าวสาร โปรโมชั่น ส่วนลดพิเศษ รองรับกับห้างฯ ในเครือเดอะมอลล์ สยามพารากอน หรือเอ็มโพเรียม ซึ่งข้อมูลและลูกเล่นในแอพพลิเคชั่น หวังถึงขั้นให้ป็น Viral Marketing หรือบอกต่อปากต่อปาก
ขายตรงยุคนี้ต้องมีแอพฯ
หลังจาก แอมเวย์ ประกาศใช้ “แอพฯ” เป็นช่องทางสื่อสาร นักธุรกิจแอมเวย์ติดต่อสื่อสารกับลูกค้าแบบเรียลไทม์แล้ว และยังสร้างเป็นแคมเปญ ซีเอสอาร์ ได้น่าตื่นตาตื่นใจไปแล้ว
นู สกิน ค่ายขายตรงอีกแห่ง ที่แอพพลิเคชั่นบนมือถือตามมาติดๆ ภายใต้ชื่อ Nu Skin Opportunityเป็นเครื่องมือให้ผู้แทนจำหน่าย ไม่ต้องพกเอกสารเป็นเล่มๆ แล้ว เพราะแอพฯ ตัวนี้จะมีข้อมูลผลิตภัณฑ์ ข่าวสารความเคลื่อนไหว และยังผนวกเอา age LOC ME age LOC ME แอพพลิเคชั่น ทำนายอายุผิวบนมือเข้าไว้ด้วยกัน
ติดต่อหาสมาชิก พกแค่สมาร์ทโฟน นอกจากเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้สะดวกขึ้น ยังทำให้แบรนด์ดูดี นาเชื่อถือ
“ลองไปดูสิ ที่ Dean&Deluca คนใช้ไอโฟน ไอแพด ออนไลน์กันทั้งนั้น” ภาพนี้สำหรับ “ศุภลักษณ์ อัมพุช” ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป ทำให้ไอเดียของเธอบรรเจิดได้อีก
ไลฟ์สไตล์คนอยู่ในโลกออนไลน์มากขึ้น พลังของโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คที่เติบโตไม่หยุด ทำให้การลงทุนต่ออีก 100 ล้านบาทสำหรับ “ศุภลักษณ์” มั่นใจว่าจะคุ้มค่า กับ “ธุรกิจ” ใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์”โซเชี่ยลคอมเมิร์ซ” ที่ mglobemall.com ซึ่งเป็นอีคอมเมิร์ซภาคต่อจากที่เดอะมอลล์ลงทุนไปเกือบ 100 ล้านบาทเมื่อปี 2554 ในคอนเซ็ปต์ห้างสรรพสินค้าออนไลน์ บนเว็บไซต์ mods.co.th
ในปี 2555 สำหรับเดอะมอลล์กรุ๊ป จะพาคนช้อปปิ้งทั้ง On Ground OnAir และ Online โดยดึงลูกค้าเข้ามาในศูนย์, การช้อปผ่านทีวีที่เดอะมอลล์กรุ๊ปร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่มทรูฯในช่อง “ทรูซีเล็คท์ โฮมช้อปปิ้ง ชาแนล”
ส่วนออนไลน์ทำผ่านโมเดล “โซเชี่ยลคอมเมิร์ช” คือเสนอขาย Voucher สินค้าและบริการแบบยิ่งมีกลุ่มคนซื้อมากก็ได้ส่วนลด หรือมีจำกัดช่วงเวลาการเคาะดีล ”
การช้อปปิ้งในห้างนั้น เดอะมอลล์กรุ๊ปมียอดขายเพิ่มอย่างน้อย 10% ทุกปี โดยปี 2554 ยอดขายแตะ 50,000 ล้านบาท ด้วยยุทธศาสตร์ปรับปรุงศูนย์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นที่สยามพารากอน ดิ เอ็มโพเรียม และเดอะมอลล์สาขาต่างๆ
แต่สำหรับออนไลน์แล้ว “ศุภลักษณ์” บอกว่ายังไม่หวังยอดขายในปีนี้ แต่อีก 3-5 ปีได้เห็นแน่นอน การลงทุนวันนี้สำหรับออนไลน์จึงเป็น Communication Tools สื่อแบรนด์เดอะมอลล์กรุ๊ป
นี่คือเหตุผลที่ปีที่แล้ว การทำตลาดของ Mods จึงเน้นกลุ่ม Niche อย่างแฟชั่นนิสต้า เทรนด์เซตเตอร์ เป็นหลัก กลุ่มคนทั่วไปจึงยังไม่รู้จัก ทำมีมูลค่าช้อปปิ้งผ่านออนไลน์เพียง 30 ล้านบาท ส่วนปีนี้ mglobemall.com เน้นดึงลูกค้าให้มาสนใจมากที่สุด โดยดึงพันธมิตรองค์กรใหญ่มาร่วมเพื่อดึงลูกค้าของพันธมิตร (Cross Segment Target ) ให้สนใจเดอะมอลล์กรุ๊ป
ดีลนี้สำหรับ “ศุภลักษณ์” จึงย้ำกว่า “แค่ Reaach Social หาฐานลูกค้ามาดูก็ Happy แล้ว”
www.mglobemall.com | |
Launched | 30 มกราคม 2555 เปิดตัวพันธมิตร 7 ราย เช่นแบงก์กรุงเทพ ปตท. ไทยประกันชีวิต เมเจอร์ซินีเพล็กซ์ หวังผล Cross Segment Target มีแผนเปิดตัวบริการในไตรมาสที่ 2/2555 |
Positioning | “Social Shopping Lifestyle” เป็นโซเชี่ยลคอมเมิร์ซ ที่เน้นขาย Premium Voucher เช่น ร้านอาหาร แฟชั่น แบรนด์เนม จับกลุ่ม B+ |
Market Analysis | คนไทยออนไลน์ และเข้าโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คเพิ่มขึ้น ขณะที่ห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่ตลอดเวลา ทั้งขนาดใหญ่และแบบไลฟ์สไตล์มอลล์ ขณะเดียวกันคนรุ่นใหม่ สนใจช้อปปิ้งแบบโซเชี่ยลคอมเมิร์ซมากขึ้น |
Marketing Strategy | การวางตัวเป็นพรีเมียมทำให้ต่างจากคู่แข่งในตลาดอย่าง เอ็นโซโก้ หรือกรุ๊ปออนที่มีหลากหลายระดับราคา ขณะเดียวกันการรุกเข้าออนไลน์ในแบบที่คนรุ่นใหม่ชอบ ทำให้แบรนด์เดอะมอลล์ไม่ตกกระแส แม้จะได้ยอดขายไม่มากแต่คุ้มค่าเมื่อคิดว่าเป็น Communication Tools ที่สามารถสื่อแบรนด์เข้าไปในไลฟ์สไตล์กลุ่มเป้าหมายได้ |
Dean&Deluca ก่อตั้งโดย Joel Dean และ Giorgio Deluca ในเดือนกันยายน 1977 ในย่านโซโห นิวยอร์ก เน้นดีไซน์โปร่งโล่ง กำแพงสีขาว หลังคาสูง ทำให้รู้สึกว่าแม้จะมีคนเต็มร้าน แต่ยังให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว ไม่อึดอัด ด้วยจุดขายนำสินค้าที่มาจากทั่วโลก ตั้งแต่กาแฟไปจนถึงผักผลไม้ ปัจจุบันมีสาขาในเมืองไทย 2 แห่ง สาขาแรกที่มหานคร ตรงสถานีรถไฟฟ้า ช่องนนทรี และสาขา 2 ที่ ปาร์คเวน เจอร์ เพลินจิต
ค่ายเดอะมอลล์ กรุ๊ป จัดกิจกรรมเก๋ๆอย่างต่อเนื่อง รับไตรมาสสุดท้ายของปี 54 จับมือ ผู้จัดการดาราชื่อดัง เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร และ เจ ออร์การ์ไนท์เซอร์ ประเดิมงานแรก “ซุปตาร์พาเที่ยว” ครั้งที่ 1 โดยเนรมิตพื้นที่จัดงานที่รวบรวมสินค้าหลากหลาย และสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทยไว้ในงานเดียว อาทิ ตลาดสามชุก, เกาะเกร็ด, ตลาดน้ำ 4 ภาค, สินค้า OTOP, การท่องเที่ยวไทย, รถโบราณ ฯลฯ พร้อมเชิญดาราชื่อดัง อาทิ อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ, ธันวา สุริยจักร, ใบเฟิร์น พิมชนก รวมถึงชมคอนเสิร์ตศิลปินชื่อดัง โตโน่ เดอะสตาร์, พิชญ์ วงซีควิ้นท์ เป็นต้น พลาดไม่ได้ 30 กันยายน ถึง 2 ตุลาคมนี้ ที่ Mcc Hall ชั้น 4 ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ บางกะปิ
นายบัญชา ฉันทดิลก ผู้จัดการใหญ่กิจกรรมการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการร่วมสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการขายของห้างสรรพสินค้าในกลุ่มเดอะมอลล์กรุ๊ป ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 นี้ ทางห้างฯ จึงได้จัดให้มีกิจกรรมที่น่าสนใจในบริเวณพื้นที่ขายพิเศษอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ร่วมกับ คุณเอ ศุภชัย ศรีวิจิตร และบริษัทเจ ออกาไนท์เซอร์ จำกัด เพื่อร่วมจัดกิจกรรมที่ชื่อว่า “ซุปตาร์พาเที่ยว” ขึ้น โดยครั้งที่ 1 จะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 30 กันยายน ถึง 2 ตุลาคม 2554 ที่ บริเวณ Mcc Hall ชั้น 4 ภายใต้แนวคิดการพาลูกค้าเที่ยวชมไฮไลท์สำคัญทั่วไทย จึงได้เชิญร้านค้า และผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อจากพื้นที่ต่างๆของตลาดทั่วประเทศ อาทิ ตลาดสามชุก, เกาะเกร็ด, ตลาดน้ำ 4 ภาค, สินค้า OTOP รวมถึงการนำการท่องเที่ยวทั่วไทยมาแนะนำให้กับลูกค้า นอกจากนี้ยังมีการโชว์รถโบราณ รวมถึงมีกิจกรรมพิเศษอีกมากมายตลอดช่วงจัดกิจกรรม นอกจากนี้
“การจัดงานเพื่อร่วมส่งเสริมการขายในพื้นที่ของเดอะมอลล์กรุ๊ป ในลักษณะกิจกรรมของซุปตาร์พาเที่ยว จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 กันยายน ถึง 2 ตุลาคม 2554 ที่ บริเวณ Mcc Hall ชั้น 4 ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าในพื้นที่ และประชาชนทั่วไปในการเข้าร่วมงานอย่างเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้คาดว่าจะมีร้านค้าผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากกว่า 200 ร้านค้า หรือคาดว่าในช่วง 3 วันที่จัดงาน จะมีมูลค่าการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าในห้างและในพื้นที่รวมราว 300 ล้านบาท ” นายบัญชา กล่าว
นายศุภชัย ศรีวิจิตร ในฐานะผู้จัดการศิลปิน ดารา ที่มีชื่อเสียงของเมืองไทย กล่าวเสริมว่า ในช่วงนี้กระแสเกี่ยวกับศิลปินดาราที่มีชื่อเสียงนั้น ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชน และแฟนคลับได้มีโอกาสร่วมทำกิจกรรมกับศิลปินและดาราที่ชื่นชอบ จึงได้ตอบรับการเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มเดอะมอลล์กรุ๊ป ในพื้นที่ของห้างสรรพสินค้า ตลอดระยะเวลาทั้ง 3 วัน โดยได้จัดคิวให้กับศิลปินดาราที่มีชื่อเสียงระดับแถวหน้าของเมืองไทย เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมภายในงาน อาทิ อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ, ธันวา สุริยจักร, ใบเฟิร์น พิมชนก ที่จะไปร่วมกิจกรรมต่างๆ มากมาย
นางสาวธนวันต์ ภิตินันท์นันทกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ ออร์การ์ไนท์เซอร์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมถึงการจัดงานซุปตาร์พาเที่ยว ในพื้นที่ของห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางกะปิ การนำสถานที่ท่องเที่ยว และผลิตภัณฑ์ที่เป็นไฮไลท์เด่น จากพื้นที่สำคัญทั่วไปมาแสดงแล้ว ภายในแต่ละงานยังมีไฮไลท์เด็ดอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ การแสดงของกระทรวงศิลปวัฒนธรรมเข้าร่วมด้วยเช่นการแสดงโขน ซึ่งเป็นศิลปที่หาดูยาก และควรอนุรักษ์ และเพื่อให้ภายในงานซุปตาร์พาเที่ยวมีสีสัน และได้รับการตอบรับจากลูกค้าและประชาชนทั่วไปมากยิ่งขึ้น จึงได้เสริมเรื่องของการจัดมินิคอนเสิร์ตโดยศิลปินที่มีชื่อเสียง อาทิ โตโน่ เดอะสตาร์, พิชญ์ วงซีควินท์ เป็นต้น
สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ หรือข้อมูลเกี่ยวกับงานต่างๆ ติดตามได้ที่ www. j_organizer.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ คุณณรกร บริษัทเจ ออกาไนท์เซอร์จำกัด.โทร. 080-019-7527
เดอะมอลล์ กรุ๊ป ร่วมกับ เจ ออร์การ์ไนท์เซอร์ เอาใจคนรักรถ เนรมิตร MCC Hall ชั้น 4 เดอะมอลล์ บางแค จัดงาน Motor Car Exclusive Show 2011 งานแสดงรถยนต์ที่ได้รวบรวมสุดยอดยนตรกรรมชั้นนำสุดหรูไฮไลท์ของงานกว่า 10 คัน และค่ายรถต่าง ๆ ส่งรถยนต์มากมายกว่า 100 คัน ดึงดูดความสนใจลูกค้า นำทีมโดย แลมโบว์กินี่ ปอร์เช่ โลตัส ฯลฯ นอกจากนี้ยังรวบรวมรถยนต์ทุกรุ่นทุกแบบ รถจักรยานยนต์ และอุปกรณ์ประดับยนต์ต่าง ๆ ไว้ในที่เดียวกัน เพื่อให้ลูกค้าสามารถชมและเลือกสรร ตามความพอใจ รวมถึงให้ผู้ประกอบการได้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าอย่างทั่วถึง
โดยในวันเปิดงานได้รับเกียรติจากพลเอกเชษฐา ฐานะจาโร เป็นประธานในพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งคุณปริญญา ทวีแก้ว ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และคุณอั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ มาร่วมเป็นเกียรติในงานด้วย นอกจากนี้ยังมีโชว์จากเหล่าพริตตี้สาวสวยสุดเซ็กซี่เกือบ 10 คนมาโชว์ล้างรถสร้างสีสันในงาน
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่จองรถยนต์ภายในงานยังมีโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะในงาน จากบริษัทรถยนต์ต่าง ๆ ที่มาร่วมงาน อาทิ นิชคาร์, ซูซูกิ, บริษัท แชมป์ ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด, บริษัท ริชมอนด์ ออโต้ จำกัด,บริษัท แอล เอ ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด ,บริษัท พระนครยนตรการ จำกัด, บริษัท เค พี วัฒนามอเตอร์ จำกัด,บริษัท เลนโซ่ วีล จำกัด,เมืองไทย ประกันภัย ,รถยนต์เชฟโรเลต, ประดับยนต์ ซึ่งแต่ละค่าย ก็จะนำรถที่มีราคาแพงที่สุดและราคาที่ถูกอย่างไม่น่าเชื่อในตระกูลเบนซ์มาร่วมงานด้วย งานนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 10-18 กันยายน ที่ผ่านมา
เดอะมอลล์ กรุ๊ป ร่วมกับ เจ ออร์การ์ไนท์เซอร์ จัดกิจกรรมเอาใจคนรักรถ เนรมิตร MCC Hall ชั้น 4 เดอะมอลล์ บางแค เป็นแหล่งรวมรถหรู ภายใต้ชื่องาน “Motor Car Exclusive Show 2011” ดึงอั้ม-พัชราภา พร้อมเซเลบไฮโซมากมายอวดโฉมรถหรูคู่ใจ และเหล่าพริตตี้สุดเซ็กซี่โชว์ลีลาล้างรถ คาดเงินสะพัดกว่า 1,000 ล้านบาท พบกัน 10-18 ก.ย. นี้
Motor Car Exclusive Show 2011 งานแสดงรถยนต์ที่ได้รวบรวมสุดยอดยนตรกรรมชั้นนำสุดหรูไฮไลท์ของงานกว่า 10 คัน และค่ายรถต่าง ๆ ส่งรถยนต์มากมายกว่า 100 คัน ดึงดูดความสนใจลูกค้า นำทีมโดย แลมโบว์กินี่ แฮมเมอร์ โลตัส ฯลฯ นอกจากนี้ยังรวบรวมรถยนต์ทุกรุ่นทุกแบบ รถจักรยานยนต์ และอุปกรณ์ประดับยนต์ต่าง ๆ ไว้ในที่เดียวกัน เพื่อให้ลูกค้าสามารถชมและเลือกสรร ตามความพอใจ รวมถึงให้ผู้ประกอบการได้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าอย่างทั่วถึง คาดผู้เข้าชมงานกว่า 50,000 คน เงินสะพัดกว่า 1,000 ล้านบาท
โดยไฮไลท์ของวันเปิดงาน อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ มาอวดโฉมเคียงข้างรถสปอร์ตสุดหรูคู่กายคันใหม่ล่าสุด พร้อมทั้งเหล่าพริตตี้สาวสวยสุดเซ็กซี่เกือบ 10 คนมาโชว์ล้างรถสร้างสีสันในงาน นอกจากนี้ยังมีรถของเหล่าเซเลบคนดังกว่า 10 คัน มาโชว์ด้วย อาทิ รถ Porsche ของคุณอั้ม พัชราภา, รถ Lamborghini ของ บริษัท นิชคาร์ จำกัด, รถคู่ใจของคุณไพบูลย์ กนกวัฒนาวรรณ ผู้บริหารเดอะมอลล์ฯลฯ มาสร้างความตื่นตาตื่นใจ ทำให้มั่นใจว่างาน Motor Car Exclusive Show 2011 บรรลุตามเป้าหมายแน่นอน
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่จองรถยนต์ภายในงานจะได้รับโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะในงาน จากบริษัทรถยนต์ต่าง ๆ ที่มาร่วมงาน อาทิ นิชคาร์, ซูซูกิ, บริษัท แชมป์ ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด, บริษัท ริชมอนด์ ออโต้ จำกัด,บริษัท แอล เอ ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด ,โตโยต้า ธนบุรี,บริษัท พระนครยนตรการ จำกัด, บริษัท เค พี วัฒนามอเตอร์ จำกัด,บริษัท เลนโซ่ วีล จำกัด,เมืองไทย ประกันภัย ,รถยนต์เชฟ, ประดับยนต์ ซึ่งแต่ละค่าย ก็จะนำรถที่มีราคาแพงที่สุดและราคาที่ถูกอย่างไม่น่าเชื่อในตระกูลเบนซ์มาร่วมงานด้วย
งานนี้ห้ามพลาดงาน Motor Car Exclusive Show 2011 โดยในงานจะมีรถสปอร์ตหรู อาทิ ลัมโบกินี่ (Lamborghini) โลตัส (Lotus) ฮัมเมอร์ (Hummer) รุ่นใหม่ๆ มาให้ชมอย่างแน่นอน พบกันที่ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 4 เดอะมอลล์ บางแค 10-18 กันยายน 54