เพอร์ร่า – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 28 Dec 2020 14:26:24 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “เพอร์ร่า” จัดหนักส่งท้ายปี ดึง “แม่ชม” แบรนด์แอมบาสเดอร์ พร้อมฉลากดีไซเนอร์แฟชั่น https://positioningmag.com/1312110 Fri, 25 Dec 2020 08:06:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1312110 เพอร์ร่า” รุกหนักตลาดน้ำแร่ จัดหนักส่งท้ายปี 2020 เล่นใหญ่เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ชมพู่ อารยา ร่วมออกแบบฉลากคอลเลกชั่นพิเศษ เขย่าตลาดน้ำแร่ผ่านโลกของแฟชั่น

ดึงตัวแม่แฟชั่น กับฉลากแฟชั่น

เพอร์ร่า ตอกย้ำความสำเร็จของ “ผู้นำ” ตลาดน้ำแร่ ด้วยกลยุทธ์แฟชั่นแบรนด์ เดินหน้าทำตลาดโค้งสุดท้ายของปี 2563 ดึงตัวแม่แห่งวงการแฟชั่นไทย ชมพู่ – อารยา เอ ฮาร์เก็ต” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ พร้อม 6 ดีไซเนอร์คู่ใจ Kloset, Vatanika, Tohns, Theatre,  Pony Stone และ Janesuda ร่วมสร้างสรรค์ฉลากพิเศษ 6 แบบ กับแคมเปญ “Purra X Chompoo Araya”

ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล (ซ้าย) หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มการตลาดแบรนด์ (Chief Marketing Officer – Brand) ภูริต ภิรมย์ภักดี (ขวา)ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด
ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล (ซ้าย) หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มการตลาดแบรนด์ (Chief Marketing Officer – Brand)
ภูริต ภิรมย์ภักดี (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด

ภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า

“เพอร์ร่า ถือเป็นแบรนด์น้ำแร่ที่ทำตลาดมาเพียง 8 ปี สามารถแจ้งเกิดและก้าวไปอยู่ในใจของผู้บริโภคจนเป็นผู้นำตลาดได้สำเร็จ โดยอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เป็นหัวใจสำคัญในการทำตลาดคือ การใช้กลยุทธ์ Collaboration สู่การเป็น Fashion Brand จนสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด”

จากแบรนด์น้ำแร่ สู่แบรนด์แฟชั่น

กลยุทธ์การปั้นแบรนด์น้ำแร่เพอร์ร่าสู่ Fashion Brand เริ่มต้นเมื่อปี 2559 โดยร่วมมือกับดีไซเนอร์ชั้นนำของเมืองไทยออกแบบฉลากน้ำแร่เพอร์ร่า Limited Edition บนขวด ซึ่งจะแตกต่างกันไปในทุกปี การสร้างความต่างให้เกิดขึ้นด้วยการนำ “แฟชั่น” มาผสานการทำตลาดน้ำแร่ เจาะกลุ่มเป้าหมาย จนทำให้น้ำแร่เพอร์ร่าเข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคมากขึ้น

ที่ผ่านมาน้ำแร่เพอร์ร่าได้ร่วม Collaborate กับศิลปินและแบรนด์แฟชั่นมากมาย อาทิ  Disaya, Issue , Asava, Vatanika, Poem ฯลฯ โดยในปี 2561 ร่วมกับศิลปินระดับอินเตอร์เนชั่นแนลอย่าง “จี๊ป – ภาสินี คงเดชะกุล” นักออกแบบชื่อดังที่เคยมีผลงานกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Louis Vuitton และ Rimowa ดีไซน์ฉลากคอลเลกชั่นพิเศษ

ในปี 2562 ได้มีการร่วมมือกับแบรนด์แฟชั่น Sirivannavari Bangkok ดีไซน์ฉลากลวดลาย คอลเลกชั่นพิเศษ และปี 2563 ร่วมมือกับศิลปินระดับโลกชาวฝรั่งเศส “Jennifer Bouron” ส่งคอลเลกชั่นพิเศษ Little Happiness Collection 2020 เพื่อสร้างความสุขและรอยยิ้มเล็กๆ ให้ผู้บริโภค

สำหรับ ช่วงโค้งสุดท้ายปี 2563 เพอร์ร่ายังคงทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสีสันให้วงการตลาดน้ำแร่ ล่าสุด ได้ตอกย้ำกลยุทธ์ Collaboration ร่วมกับ “ชมพู่ – อารยา เอ ฮาร์เก็ต” แฟชั่นไอคอนตัวแม่ของวงการแฟชั่นไทย ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ด้วยสไตล์การแต่งตัวที่โดดเด่น ลุยแคมเปญ “Purra X Chompoo Araya” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Goddess of Styles” เป็นการดึงตัวแม่แห่งวงการแฟชั่นตลอดกาล มาเสริมจุดแข็งให้เป็นแบรนด์น้ำแร่ที่โดดเด่นและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

น้ำแร่เพอร์ร่าเลือกจับมือกับแฟชั่นไอคอนเบอร์ 1 ของเมืองไทย อย่างชมพู่ อารยา มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ พร้อมดึง 6 ดีไซเนอร์ไทย มาร่วมออกแบบฉลากคอลเลกชั่นใหม่ สะท้อนสไตล์แฟชั่นของชมพู่ สร้างความแปลกใหม่ให้กับน้ำแร่เพอร์ร่าอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญทำให้ผู้บริโภคเห็นว่าน้ำแร่เพอร์ร่าไม่ได้เป็นเพียงน้ำแร่ธรรมชาติ แต่ยังเป็นแฟชั่นไอเทม

สำหรับน้ำแร่เพอร์ร่าลวดลายคอลเลกชั่นพิเศษ “Purra X Chompoo Araya” ทั้ง 6 แบบ จะอยู่บนขวดขนาด 600 มิลลิลิตร โดยวางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ ถึง เดือนกุมภาพันธ์ 2564 ผ่านช่องทาง 7-Eleven, Tops, Tesco Lotus, Big C, Family Mart และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ Singha Online Shop

]]>
1312110
อ่านเกม “เพอร์ร่า” สร้างความต่างด้วยแฟชั่นแบรนด์ ทำขวดให้สวยที่สุดในตู้แช่ https://positioningmag.com/1250674 Tue, 22 Oct 2019 13:24:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1250674 กรณีศึกษาน้ำแร่เพอร์ร่าของค่ายสิงห์ คอร์เปอเรชั่น กับการสร้างแบรนด์น้ำแร่ที่เป็นน้องใหม่ในตลาด ต้องสร้างความแตกต่างด้วยอีโมชันนอล และเดินเกมด้วยการโคแบรนด์กับแบรนด์แฟชั่นไทย สร้างขวดสวยให้เด่นบนชั้นวาง

เป็นน้องใหม่ ต้องสร้างความต่างด้วยอีโมชันนอล

ตลาดน้ำแร่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะได้อานิสงส์จากเทรนด์การดูแลสุขภาพมากขึ้น คนใส่ใจเรื่องการดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำแร่มากขึ้นเช่นกัน มีการคาดการณ์ว่าในปีนี้ตลาดน้ำแร่จะมีมูลค่า 4,800 ล้านบาท มีการเติบโต 7-8%

ในตลาดมีผู้เล่นใหญ่ 4 รายด้วยกัน ได้แก่ มิเนเร่, เพอร์ร่า, ออร่า และมองเฟลอ ส่วนแบรนด์อื่นๆ จะเป็นแบรนด์น้ำแร่นำเข้า และเป็นเฮาส์แบรนด์ของร้านค้า โดยที่มิเนเร่เป็นผู้ครองตลาดด้วยส่วนแบ่งตลาด 26.5%

ทางค่ายสิงห์ฯ เองนอกจากจะมีน้ำดื่มสิงห์แล้ว ยังมีแบรนด์น้ำแร่เพอร์ร่าอีกเช่นกัน ได้ทำตลาดมา 8 ปีแล้ว แต่ก็ถือว่าเป็นน้องเล็กที่ยังอายุน้อยอยู่ แต่สามารถสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดจนตอนนี้ขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ในตลาดได้ และตั้งเป้าที่จะขึ้นอันดับ 1 ในไม่ช้านี้

ด้วยความที่เป็นน้องใหม่ การตลาดของเพอร์ร่าจึงต้องแตกต่างจากคู่แข่งเพื่อสร้างความแตกต่างให้ได้ อีกทั้งตลาดน้ำดื่ม และน้ำแร่เป็นตลาดที่ขึ้นชื่อว่า Loyalty ต่ำมาก ผู้บริโภคสามารถพ่ายแพ้ให้กับโปรโมชั่น ณ จุดขายได้ทุกเมื่อ

แบรนด์ใหญ่ๆ ในตลาดน้ำแร่ส่วนใหญ่จะมีวิธีการสื่อสารด้วยฟังก์ชันนอล หรือการพูดถึงคุณสมบัติของน้ำแร่ พูดถึงแหล่งที่มาของน้ำแร่ คุณประโยชน์ด้านสุขภาพต่างๆ เมื่อทุกแบรนด์พูดถึงกันเรื่องนี้ ถ้าเพอร์ร่าลงไปเล่นเกมตรงนี้อีกก็คงยากที่จะสร้างจุดยืนของตัวเองได้

วิธีการของเพอร์ร่าจึงเลือกการสื่อสารด้วยอีโมชันนอลเน้นพูดเรื่อวงความรู้สึกเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้แตกต่าง

ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาด ธุรกิจนอนแอลกอฮอลล์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด เล่าว่า

ถ้าเทียบกับแบรนด์น้ำแร่อื่นๆ ในตลาด เพอร์ร่าเข้ามาคนสุดท้าย ด้วยความเป็นน้องใหม่จึงต้องความแตกต่างจากคู่แข่ง แต่ก่อนพูดเรื่องฟังก์ชันนอล แต่เชื่อว่าผู้บริโภครู้เรื่องคุณค่าของน้ำแร่กันหมดแล้ว จากนั้นก็มาดูข้อมูลพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของเพอร์ร่า 70% เป็นผู้หญิง จึงอยากทำให้เป็นแบรนด์ในใจ เลยมาเล่นเรื่องอีโมชันนอล

โดยที่ทางเพอร์ร่าได้ทำผลสำรวจพบว่า คนที่ดื่มน้ำแร่คือ คนรักสวยรักงาม รักสุขภาพ จากนั้นก็มาดูอีกว่ามาดูว่าคนที่ดื่มน้ำแร่ชอบอะไร มีไลฟ์สไตล์อะไร ก็พบว่าชอบแฟชั่น การแต่งตัว คำตอบของเพอร์ร่าจึงการวางจุดยืนให้เป็นแฟชั่นแบรนด์เรียกว่าเป็นการพลิกตำราการสื่อสารของตลาดน้ำแร่เลยก็ว่าได้

ยึดกลยุทธ์โคแบรนด์ สร้างจุดยืนเป็นน้ำแร่สุดแฟชั่น

เพอร์ร่าอยู่ในตลาด 8 ปี ในช่วงแรกก็ได้ใช้กลยุทธ์ที่ไม่แตกต่างจากเจ้าอื่นมากนัก พูดถึงคุณภาพของน้ำ และมีการใช้พลอย เฌอมาลย์เป็นพรีเซ็นเตอร์ต่อเนื่อง 4 ปีแล้ว แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเพอร์ร่าได้จับจุดยืนของตัวเองได้สำเร็จ ด้วยกลยุทธ์การ Collaboration หรือโคแบรนด์กับเหล่าแบรนด์ไทยแฟชั่น ในการสร้างขวดที่เป็น Limited Edition

เพอร์ร่าได้เริ่มมีการโคแบรนด์ตั้งแต่ปี 2016 มีการร่วมงานกับดีไซเนอร์ไทยมากมาย ได้แก่ Disaya, Issue, Asava, Vatanika, Poem และเมื่อต้นปีได้ออกคอลเลกชั่นกับจี๊ป ภาสินี คงเดชะกุลศิลปินชื่อดังที่เคย Collaborate ออกคอลเลกชั่นพิเศษกับแบรนด์ดังอย่าง Louis Vuitton และ Rimowa

เหตุผลที่เพอร์ร่าเลือกโคแบรนด์กับดีไซเนอร์แบรนด์ไทยนั้นธิติพรบอกว่า พอคนดื่มน้ำแร่สนใจเรื่องความสวยความงาม เรื่องแฟชั่นจึงสนใจเรื่องไทย ดีไซน์เป็นแฟชั่นที่มาแรงในยุคนี้ คนไทยนิยมมากขึ้นจึงอยากสนับสนุนแบรนด์ไทย

อีกหนึ่งความสำคัญของการโคแบรนด์ก็คือการที่สร้างการจดจำมากขึ้น ลูกค้าสามารถจำขวดเพอร์ร่าได้ง่าย ทำให้เด่นที่สุดเมื่ออยู่บนชั้นวาง ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของแบรนด์

การทำคอลเลกชั่นใหม่ทำให้คนรู้จักเพอร์ร่ามากขึ้น เพราะสิ่งสำคัญเมื่อสินค้าอยู่บนเชลฟ์ หรือตู้แช่ ต้องดึงดูดให้ลูกค้าซื้อให้ได้ พอขวดสวยกว่าก็ทำให้ลูกค้าอยากหยิบมากขึ้น ถึงแม้จะเป้นลูกค้าที่ไม่ได้ดื่มมาก แต่พอเป็นขวดพิเศษก็อยากหยิบ เพราะเป็นแบรนด์เดียวที่มีขวดพิเศษ

การออกขวดคอลเลกชั่นพิเศษจะไม่ได้อยู่แค่ช่วงฤดูร้อนที่เป็นช่วงของการขายน้ำดื่ม แต่จะเป็นช่วงฤดูกาลแฟชั่นที่จะมีคอลเลกชั่น Spring/Summer และ Autumn/Winter ทำให้ในแต่ละปีเพอร์ร่าจะมีขวดคอลเลกชั่นพิเศษ 2 ครั้ง

ในปีนี้เมื่อต้นปีได้จับมือกับจี๊ป ภาสินี คงเดชะกุล เป็นคอลเลกชั่นที่ขายดีที่สุด ขายหมดในเวลาเดือนครึ่ง และล่าสุดได้โคแบรนด์กับ “SIRIVANNAVARI BANGKOK” จะจำหน่ายตั้งแต่เดือนตุลาคมธันวาคม 2562

ธิติพรยังเสริมอีกว่า การโคแบรนด์ยังทำให้แบรนด์แฟชั่นเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะธุรกิจไทยดีไซน์ยังมีการสื่อสารไม่ครอบคลุมทั่วประเทศ สื่อเฉพาะในวงจำกัด แต่พออยู่บนขวดมีการกระจายไปทั่วประเทศ ทำให้คนรู้จักมากขึ้น ถือเป็นการช่วยโปรโมตแบรนด์ไทยให้่เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย

เดินเกมถูกทาง สร้างการเติบโตก้าวกระโดด

ตลาดน้ำแร่ที่มีการโตเฉลี่ย 7-8% แต่เพอร์ร่ามีการเติบโต 40%

ธิติพรบอกว่า เพอร์ร่ามีการเติบโตมากกว่าตลาดมาตลอด ในปี 2018-2019 มีการเติบโต 47% ส่วนในปีนี้เติบโต 40% จนตอนนี้เริ่มไล่เบอร์หนึ่งมาแบบหายใจรดต้นคอ มีส่วนแบ่งการตลาดจาก 17% ในปีก่อน เพิ่มขึ้นเป็น 22.8% ส่วนมิเนเร่ลดลงจาก 29.8% เหลือ 26.5%

เมื่อดูส่วนแบ่งการตลาดช่วง 9 เดือนแรกของปี มิเนเร่ 26.5% เพอร์ร่า 22.8% ออร่า 16.9% มองเฟลอ 16.2% และอื่นๆ 17.6% ตลาดมีมูลค่า 4,800 ล้านบาท

ส่วนในสิ้นปีนี้ตั้งเป้ามีส่วนแบ่งการตลาด 23% และในปีหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 35% หวังขึ้นเบอร์หนึ่งในตลาดให้ได้…

]]>
1250674
หนีดัมพ์ราคา “เพอร์ร่า” สานต่อ Collaborate แบรนด์แฟชั่น ออกแพ็กเกจลิมิเต็ด กระตุ้นอารมณ์ซื้อ https://positioningmag.com/1134779 Tue, 01 Aug 2017 18:56:05 +0000 http://positioningmag.com/?p=1134779 นับเป็นการสานต่อกลยุทธ์ Collaboration Marketing ของน้ำแร่ “เพอร์ร่า” ค่ายสิงห์ ในการดึงดีไซเนอร์ 4 ดีไซเนอร์แบรนด์ไทยมาออกแบบฉลากอีกครั้งเป็นคอลเลกชั่นที่ 2 ได้แก่ Vickteerut, Vatanika, La Boutique และ POEM มาร่วมออกแบบฉลาก บรรจุภัณฑ์ขวดน้ำแร่ เพอร์ร่า รุ่น ลิมิเต็ด อิดิชั่น โดยจำหน่ายแค่ในเครือเดอะมอลล์ และเซเว่นอีเลฟเว่น

ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาด ธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่ม บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า เหตุที่ยังเลือกสานต่ออกลยุทธ์ดังกล่าว เนื่องจากภาพรวมตลาดน้ำแร่ครึ่งปีแรก 2560 ที่ผ่านมา หลายแบรนด์จะมุ่งทำโปรโมชั่นด้านราคา บางแบรนด์ลดราคาลงมา 40-50% จนทำให้ราคาใกล้เคียงกับราคาน้ำดื่ม

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตลาดน้ำแร่มีการเติบโตในอัตรา 2 หลักมาโดยตลอด แต่ในปีนี้มีการคาดการณ์ว่าจะโตแค่ 8% เพราะจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้น ผู้เล่นในตลาดไม่มีการทำตลาดที่แอคทีฟ แม้จะมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาถึง 2 แบรนด์แต่ก็ยังไม่ได้ทำกิจกรรมชัดเจน จึงยังไม่เห็นผลกระทบในการสร้างการเติบโต ทำให้คาดการณ์ว่าตลาดจะเติบโตน้อยลงจากปีก่อนที่โต 14%

นอกจากนี้ คาดการณ์ตลาดน้ำแร่ มูลค่า 3,800 ล้านบาทจะโตได้แค่ 8% จากปีที่ผ่านมาโต 14% เพราะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้น ผู้เล่นในตลาดไม่มีการทำตลาดที่แอคทีฟ แม้จะมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาถึง 2 แบรนด์แต่ก็ยังไม่ได้ทำกิจกรรมชัดเจน

อย่างไรก็ตาม แต่โอกาสในตลาดยังคงมีอยู่เพราะผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมจากดื่มน้ำเปล่าธรรมดามาดื่มน้ำแร่มากขึ้น จึงยังต้องสร้างการรับรู้ต่อเนื่อง

โดย “น้ำแร่” เพอร์ร่า จะไม่เน้นทำโปรโมชั่นราคา เพราะไม่เป็นผลดีนระยะยาว ยังคงสานต่อกลยุทธ์ “อีโมชันนอล” ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์ โดยเน้นไปที่ผู้หญิงที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ที่มีสัดส่วนการดื่มถึง 80% ผู้ชาย 20% และยังสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องของ “ฟังก์ชันนอล” หรือคุณสมบัติของน้ำแร่เป็นหลัก

โดยก่อนหน้านี้ เพอร์ร่าได้ปูทางเรื่องอีโมชั่นผ่านแคมเปญดื่มให้ทุกความรู้สึกเมื่อ 3 ปีก่อน พร้อมกับดึงพลอย เฌอมาลย์เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์ เพื่อสร้างความจดจำ และใช้ต่อเนื่องมาตลอด 3 ปีเพื่อคงความต่อเนื่อง

จากนั้นในปีที่แล้ว เพอร์ร่า ได้นำใช้กลยุทธ์ Collaboration Marketing เป็นการออกแบบฉลากให้เป็นลิมิเต็ด อิดิชั่น ได้ดึง 4 ดีไซเนอร์ไทย ISSUE, Asava, Patinya และ Irada มาร่วมออกแบบ ได้การรับผลตอบรับจากผู้บริโภคดีมาก ในช่องทางขายผ่านกลุ่มเดอะมอลล์จากยอดขายปกติเติบโตขึ้น 66% และในกลุ่มร้านสะดวกซื้อ โตขึ้น 15% จากยอดขายปกติ

ปีนี้จึงตอกย้ำกลยุทธ์ที่สร้างคุณค่าทางความรู้สึกให้ผู้บริโภคเมื่อดื่มน้ำแร่เพอร์ร่า เพราะจากการศึกษาตลาดผู้ดื่มน้ำแร่ส่วนใหญ่ที่เป็นผู้หญิง นอกจากจะดื่มเพื่อดูแลสุขภาพแล้วให้ดูดีจากภายใน ภาพลักษณ์ภายนอกก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคเลือกดื่มและพกติดตัวได้

แฟชั่นกับผู้หญิงเป็นของคู่กัน การได้ลวดลายแฟชั่นมาอยู่บนขวด เป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคอยากถือติดตัวมากขึ้น ให้เป็นเหมือนเครื่องประดับชิ้นหนึ่งในร่างกายที่สามารถมิกซ์ แอนด์ แมตช์กับลุคในชีวิตประจำวัน

ในปีนี้เพอร์ร่าใช้งบการตลาดรวม 80 ล้านบาท ตั้งเป้าการเติบโต 46%   คิดเป็นยอดขาย 51 ล้านลิตร หรือประมาณ 550 ล้านบาท โดยตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเเป็น 15% จากปัจจุบันมี 11.7% และจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 25% ให้ได้ใน 3 ปี

  1. Purra X Vickteerut ออกแบบขวดน้ำแร่ลวดลาย Cubism
  2. Purra X VATANIKA ออกแบบลายขวดน้ำที่เล่นแสงของการสะท้อนของผิวน้ำมาผสมผสานรูป Geometric 
  3. Purra X LA BOUTIQUE ออกแบบลวดลายขวดน้ำแร่เพอร์ร่าจากหนึ่งในลายเซ็นของลาบูทีคส์ คอลเลกชั่น ประจำฤดูหนาว 2017 และ
  4. Purra X POEM ใช้แรงบันดาลใจในการออกแบบเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปีของโพเอ็ม

]]>
1134779
“เพอร์ร่า” Collaboration จับมือ 4 ดีไซเนอร์ไทย เขย่าตลาดน้ำแร่ https://positioningmag.com/1111632 Thu, 22 Dec 2016 00:55:19 +0000 http://positioningmag.com/?p=1111632 เมื่อน้ำแร่ “เพอร์ร่า” มาจับมือกับแฟชั่นแบรนด์ดังของไทย ภายใต้ กลยุทธ์ Collaboration Marketing ด้วยการดึง 4 ดีไซเนอร์แบรนด์ดังของเมืองไทย ASAVA- IRADA- PATINYA-ISSUE เปิดตัวน้ำแร่ฉลาก “Limited Edition” ในแคมเปญ “The Woman Effect” ปลุกกระแสตลาดน้ำแร่

หลังจากเดินฉีกเกมการตลาด ด้วยการนำกลยุทธ์อีโมชั่นแนลมาร์เก็ตติ้ง มาใช้สร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ น้ำแร่ “เพอร์ร่า” โดยมีผู้หญิงเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดน้ำแร่ ที่มักจะแข่งกันฟังก์ชันแนลมาแล้ว

เมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายของปี ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ น้ำแร่เพอร์ร่า จึงใช้โอกาสนี้ ในการออกรุ่น ลิมิเต็ด อิดิชั่น เพื่อตอบโจทย์ในเรื่องไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค

ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล
ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล

ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาด ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดน้ำแร่ในเมืองไทย มีการเติบโตขยายตัวอย่างต่อเนื่อง  เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคปัจจุบัน ที่หันมาเอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพของตัวเองมาก  น้ำแร่ “เพอร์ร่า” ต้อง ตอบสนองความต้องการของตลาด และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบัน พฤติกรรมผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและแบรนด์น้ำแร่ ไม่ใช่เพียงเพื่อดับกระหาย สร้างความสดชื่น และคำนึงถึงคุณประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องตอบโจทย์ สอดคล้องไปตามไลฟ์สไตล์ ที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ ดีไซน์ที่แตกต่าง และสะท้อนตัวตนของตัวเองได้อีกด้วย”

น้ำแร่ “เพอร์ร่า” จึงปลุกสีสันตลาดน้ำแร่ โดยการเลือกใช้กลยุทธ์ Collaboration Marketing ผนึก 4 ดีไซน์เนอร์ชื่อดัง  เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นชั้นนำ ของเมืองไทย  4 แบรนด์  ประกอบด้วย “พลพัฒน์ อัศวะประภา” หรือ “หมู อาซาว่า” เจ้าของแบรนด์ ASAVA , “ปุ้น-ชนาภา ตรีรัตนชาติ” จากแบรนด์ IRADA , “ปฏิญญา เกี่ยวข้อง” เจ้าของแบรนด์ PATINYA และ “โรจน์-ภูวภวิศ กฤตพลนารา” ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ ISSUE มาทำตลาดร่วมกัน โดยทั้ง 4 ดีไซเนอร์ ได้มาร่วมดีไซน์ลวดลายบนบรรจุภัณฑ์น้ำแร่เพอร์ร่า รุ่น “Limited Edition” ในแคมเปญ “The Woman Effect” เพื่อสะท้อนคุณค่าดีๆจากธรรมชาติของผู้หญิง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของวงการน้ำแร่ในเมืองไทย กับวงการแฟชั่น ที่มาเจอกันและผสานกันได้อย่างลงตัว

ที่มาแนวคิด

ที่มาของแนวคิดการดึงความเป็นแฟชั่นมาอยู่บนผลิตภัณฑ์ น้ำแร่ ”เพอร์ร่า” นอกจากจะสร้างความแตกต่าง  ตอกย้ำความเป็นพรีเมี่ยมแบรนด์ สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นคนทันสมัยที่ใส่ใจสุขภาพ สะท้อนความเป็นตัวของตัวเอง และยังสามารถขยายฐานไปสู่เหล่าแฟชั่นนิสต้า รวมถึงแฟนๆผู้ที่ชื่นชอบในแบรนด์นั้นๆ และกลุ่มนักสะสมอีกด้วย  รวมทั้งดีไซน์ต่างๆยังช่วยทำให้แพ็คเกจจิ้งดูทันสมัยมากขึ้น

4 แบรนด์ดีไซน์เนอร์บนขวดน้ำแร่

การดีไซน์  น้ำแร่ “เพอร์ร่า” รุ่น “Limited Edition” มีทั้งหมด 4 ดีไซน์ จาก 4 ดีไซแนอร์ ทั้ง 4 แบรนด์ดัง

1-1_purra

“ASAVA มาจากมุมมองที่มองเห็นผู้หญิง คือ ความเข้มแข็ง  จึงได้ออกแบบ ด้วยลายเส้นแนวกราฟฟิคและรูปทรงเรขาคณิต ออกมาเป็นลวดลายที่ดูแปลกใหม่ ผสมผสานกับลายเส้นริบบิ้น สะท้อนถึงความเรียบง่าย ตามแบบฉบับของ Asavaรวมไปถึงการเลือกใช้โทนสีน้ำเงิน ซึ่งบ่งบอกถึงความแข็งแกร่ง ตามไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงในเมืองใหญ่

1-2_purra

ส่วนแบรนด์ IRADA มองว่าผู้หญิงมีความช่างเลือก มักจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองเสมอไม่ว่าจะเป็นเรื่องแฟชั่นหรือความเป็นอยู่ จึงถ่ายทอดลวดลายผ่านการผสมผสานระหว่างแฟชั่น และสถาปัตยกรรม โดยการนำ เส้นโค้งเว้าที่เป็นเอกลักษณ์ และสัดส่วนที่เป็นธรรมชาติของผู้หญิง มาผสานกับการจัดวางแบบโครงสร้างของสถาปัตยกรรม ออกมาเป็นลวดลายที่สวยงามและลงตัว

1-3_purra

“PATINYA มองเห็นความอ่อนไหวเป็นในตัวผู้หญิงเป็นสิ่งแรก แต่ความอ่อนไหวนั้น แฝงไปด้วยความอ่อนหวาน ไร้เดียงสา โดยใช้แรงบันดาลใจจากลวดลายผ้าลูกไม้ในคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าของแบรนด์เอง มาอยู่บนขวดน้ำแร่เพอร์ร่า สะท้อนความงดงามหรูหรา ปราณีต ซึ่งลายดอกไม้ยังแสดงถึงความเป็นผู้หญิงได้อย่างดี ทั้งรูปทรงต่างๆก็ดูแตกต่างและซับซ้อนเหมือนผู้หญิง ที่มีความแตกต่างด้านบุคคลิกและอารมณ์ที่แฝงภายในตัวเอง

1-4_purra

ส่วนแบรนด์ “ISSUE” มองผู้หญิงคือ ความน่าค้นหา เป็นโลกที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ โลกที่เต็มไปด้วยมุมเหลี่ยมของความแปลกใหม่น่าค้นหา รูปแบบการดีไซน์จึงเป็นการต่อยอดจากธรรมชาติ ทั้งสีสันและลวดลาย ที่ได้รับการออกแบบและตัดทอนเป็นรูปทรงเลขาคณิต จากลายคอลเลคชั่นหลักของ ISSUE AW16 ทำให้เกิดลวดลายที่มีสีสัน สวยงาม โดดเด่น แปลกตา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญและน่าติดตามเหมือนผู้หญิง

ขยายช่องทางขายห้างหรู

เมื่อนำแฟชั่นแบรนด์ดังมาใช้ในการออกแบบแพคเกจจิ้ง ทำให้ช่องขายของน้ำแร่ “เพอร์ร่า” รุ่น “Limited Edition” ที่จะเริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ถึงเดือนมีนาคม 2560  โดยเป็นราคาเดียวกับสินค้าปกติ จึงไม่จำกัดอยู่ในร้านสะดวกซื้อ เช่น 7/11 เท่านั้น แต่ยังนำไปวางขายในห้าง Paragon, Emporium,Emquartierและ The mall และร้านอาหารชั้นนำ

โดยในปีหน้าจะกิจกรรมการตลาดเต็มรูปแบบ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี รวมถึงการขยายช่องทางการขายใหม่ๆ ให้ครอบคลุมผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันน้ำแร่ “เพอร์ร่า” เป็น 1 ใน 3 ของผู้นำตลาด โดยหลังจากการรุกตลาดในครั้งนี้ คาดว่าจะ กระตุ้นยอดขายให้เติบโตมากขึ้น โดยตั้งเป้าก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดน้ำแร่ ภายในระยะเวลา 3 ปี   

]]>
1111632