เรตติ้งซีรีส์อินเดีย – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 02 Feb 2018 07:48:03 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 มาแล้ว ! เรตติ้งเดือนแรก โมโนเฉือนขึ้นเบอร์ 3 เวิร์คพอยท์จัดทัพปรับผังใหม่ ส่งซีรี่ส์อินเดียฟอร์มใหญ่-The show ประกวดร้องเพลงเข้าสู้ https://positioningmag.com/1155388 Thu, 01 Feb 2018 23:15:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1155388 แค่เดือนมกราคม เดือนแรกของปี อันดับเรตติ้งช่องทีวีดิจิทัลก็ต้องขยับกันใหม่แล้ว เมื่อช่อง “โมโน” ได้เรตติ้งเฉือนเวิร์คพอยท์อย่างหวุดหวิด แซงขึ้นที่ 3 ในเรตติ้งประจำเดือน เป็นครั้งแรก (ดูตารางอันดับจากเพจ)

โมโนส่งสัญญาณเดินหน้าลุยมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ได้เรตติ้งจี้ตามเวิร์คพอยท์มาชนิดหายใจรดต้นคอมาโดยตลอด มีแพ้ชนะในบางสัปดาห์อย่างสูสี เพิ่งมาสำเร็จแซงได้ในเดือนมกราคมปีนี้ ด้วยผลงานภาพยนตร์และซีรีส์ต่างประเทศล้วนๆ

แต่งานนี้ เวิร์คพอยท์ก็เตรียมตั้งทัพใหม่ พร้อมลุยสู้เต็มที่ในเดือนกุมภาพันธ์ด้วยการเริ่มรายการใหม่ๆ หลายรายการด้วยกัน ตั้งแต่ซีรีส์อินเดีย ”ศึกสองราชันย์ โปรุส อเล็กซานเดอร์” ที่ออกอากาศถึง 2 รอบ 16.30-17.30 และ 21.45-22.30 เรียกว่าเอาใจทั้งกลุ่มเด็กในรอบเย็น และผู้ใหญ่ในรอบดึกของวันจันทร์ถึงศุกร์ และวาไรตี้ ”The Show” รายการใหม่ที่เวิร์คพอยท์ครีเอต ว่ากันว่าเป็นลูกผสมระหว่างรายการร้องเพลง และการแสดงความสามารถของศิลปินที่มาร่วมในรายการเหมือน Battle กันของสองกลุ่ม วางไว้ในช่วงไพรม์ไทม์หลังข่าวทุกวันอังคาร

ผังใหม่ที่วางไว้นี้ ไฮไลต์ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ คือ วันอังคาร-พฤหัส ด้วยรายการ The Show, I can see your voice และ The Mask Singer

นอกจากนี้ รายการกลุ่ม ”ไมค์ทองคำ” ประกวดร้องเพลงที่ทำเรตติ้งให้เวิร์คพอยท์ต่อเนื่องยาวนาน ไม่วูบวาบ โดยเฉพาะ ”ไมค์ทองคำ 6” ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ที่เข้ารอบชิงชนะเลิศแล้ว เรตติ้งกำลังมาแรงมาก สัปดาห์ที่ผ่านมาทำเรตติ้งสูงสุดถึง 6.195 ในรอบวันอาทิตย์มาแล้ว

ส่วนในศุกร์ ยังเริ่มรายการแข่งขันอีสปอร์ตเกม ROV ในช่วงดึกทุกวันศุกร์ หลังจากที่เคยถ่ายทอดสดรายการอีสปอร์ตไปแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วมาครั้งหนึ่ง ซึ่งได้เรตติ้งกลุ่มวัยรุ่นเข้ามาชัดเจน

ส่วนโมโนผังรายการใหม่ ยังคงดึงปักหลักคอนเทนต์แม่เหล็ก ภาพยนตร์ พรีเมียม บล็อกบัสเตอร์ ช่วงไพรม์ไทม์ก่อนข่าวและต่อเนื่องไปยังหลังข่าว ก่อนที่จะต่อด้วยพรีเมียมซีรีส์ อยู่ที่ว่าช่องจะจัดหนังเรื่องอะไร ฟอร์มใหญ่ขนาดไหนเข้าสู้ในแต่ละช่วงเท่านั้น

สำหรับช่องอันดับ 5 อย่างช่อง 8 เมื่อเรตติ้งซีรีส์อินเดีย ”หนุมาน สงครามมหาเทพ” เรตติ้งดีขึ้นเรื่อยๆ จนได้เรตติ้งสูงสุดอยู่ที่ 4.873 ก็ประกาศตั้งความหวังเป็นอันดับ 3 ภายในปีนี้ทันที พร้อมทุ่มทุนกว่า 500 ล้านบาทซื้อซีรีส์อินเดียอีกกว่า 10 เรื่อง ลงจอภายในปีนี้

รายการของช่อง 8 นอกจากซีรีส์อินเดียแล้ว ยังมีรายการแม็กซ์มวยไทยทุกวันอาทิตย์ เป็นรายการหลักอีกรายการ ที่ได้เรตติ้งช่วงเวลาหลังข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วไปที่ 3.196

ส่วนช่องวัน ยังยึดผังเดิมที่หลังข่าวมีช่วง ”ละครดีสี่วันรวด” เรื่อง ”เรือนเบญจพิษ” และ ”ละครหลังสามทุ่มยี่สิบ” เรื่อง ”ล่า” ที่เข้าไคลแม็กซ์จะจบในสัปดาห์หน้าแล้ว นำเรตติ้งสูงสุดของช่อง ในวันอังคารที่ผ่านมา “ล่า” ได้เรตติ้งสูงถึง 3.213 แถมยังมีซิทคอมในช่วงก่อนข่าว “บ้านสราญแลนด์” นำดาราเบอร์ใหญ่จัดลงเต็มที่ ทำเรตติ้งได้ดีพอสมควร ในระดับ 1.4-1.5 มาแล้ว

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการแข่งขันกันชนิดไม่มีใครยอมใครของช่องในระดับเทียร์ 1 ที่ประกอบไปด้วย 6 ช่องหลัก ในอันดับ 1-6 ช่องแล้ว ในระดับเทียร์ 2 ช่องพีพีทีวี ที่ปัจจุบันอยู่ในอันดับ 11 ก็มีการปรับผังใหม่ หลังจากที่ประกาศลงทุนร่วมพันล้านบาทในการนำคอนเทนต์ใหม่เข้ามา โดยเฉพาะจัดภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์มาลงในช่วงวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15-22.00 น. ชนกับภาพยนตร์ช่วง พรีเมียม บล็อกบัสเตอร์ของโมโนเต็มๆ คอหนังฝรั่งเริ่มมีทางเลือกมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ต้องอย่าลืมช่องใหญ่ ทั้งช่อง 7 และช่อง 3 ที่ยังคงมีทีเด็ดในฐานะผู้นำ มี “ละคร” เป็นอาวุธสำคัญ กวาดเรตติ้งในทุกช่วงเวลาได้อย่างมั่นคง

]]>
1155388
ล้วงลึกเรตติ้งซีรี่ส์อินเดีย “นาคิน VS หนุมาน” เทียบกันหมัดต่อหมัด https://positioningmag.com/1151604 Mon, 25 Dec 2017 07:28:51 +0000 https://positioningmag.com/?p=1151604 เมื่อซีรี่ส์อินเดียกำลังมาแรง สองช่องหลักอย่างช่อง 3 ดัน ”นาคิน” ซีรี่ส์ดราม่าของงูสาวที่สามารถแปลงร่างเป็นคน สู้กับ ”หนุมาน สงครามมหาเทพ” ซีรี่ส์แฟนตาซีของหนุมานทหารเอกของพระราม ของช่อง 8 วันนี้จึงขอเปิดรายละเอียดเรตติ้งของทั้งสองเรื่อง ที่ออกอากาศเวลาใกล้เคียงกันในช่วงเย็นก่อนข่าวสองทุ่ม ตั้งแต่ออกอากาศจนถึงวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา 

นาคินออกอากาศครั้งแรกเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2560 ถือเป็นซีรี่ส์อินเดียเรื่องแรกที่ออกอากาศทางช่องหลักอย่าง 33 HD ซึ่งช่อง 3 เลือกให้ลงช่วงเย็นก่อนละครไทย วันจันทร์ถึงศุกร์ หลังจากที่ได้แรงหนุนจากละคร ”นาคี” ที่เอามารีรันในช่วงเย็นในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้เรตติ้งสูงถึง 6.7 ทำให้ฐานเรตติ้งละครเย็นช่อง 3 ดีขึ้นมาทันที และเป็นแรงหนุนต่อเนื่องทำให้ละครเย็นของช่องหลังจากนาคีรีรัน (ครั้งที่3) จบลง อยู่ในตัวเลขประมาณ 3-4 มาโดยตลอด

ดูเหมือนช่อง 3 จะถูกกับ ”งู” เมื่อนำเอาซีรี่ส์งูอย่างนาคิน มาลงจอเพื่อสร้างกระแสละครเกี่ยวกับ ”งู” ต่อเนื่อง แต่ในตอนแรกได้ไปเพียง 2.111 เมื่อออกอากาศได้หนึ่งเดือน ก็ส่งสัญญาณในทางบวก ด้วยผลเรตติ้งแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนช่อง 3 ตัดสินใจทำปฏิทิน ”นาคิน” ฉบับพิเศษ เอานักแสดงหลักของละครนาคีและภาพยนตร์นาคีมาถ่ายปฏิทิน เพื่อโปรโมตสร้างความต่อเนื่องกับซีรี่ส์ ”งู” ครั้งนี้ โดยภาพยนตร์นาคี เตรียมออกอากาศกลางปีหน้า รวมถึงตัดสินใจเตรียมสร้างละครนาคี ภาค 2 ต่อทันที โดยที่บรรดาผู้บริหารช่องต้องบินไปคำชะโนดไหว้ขอบคุณและขอพรพ่อปู่แม่ย่า หลายต่อหลายครั้งด้วยกัน

ในขณะที่ หนุมาน สงครามมหาเทพ ออกอากาศวันจันทร์ถึงพฤหัส ได้แรงหนุนเปิดกลุ่มซีรี่ส์อินเดียจาก “สีดาราม ศึกรักมหาลงกา” มาก่อน ทำให้การออกอากาศครั้งแรก เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา ได้เรตติ้งอยู่ที่ 2.459 โดยที่เวลาออกอากาศของทั้งสองเรื่อง เหลื่อมเวลากันเล็กน้อย นาคินอออกอากาศก่อนในช่วงเวลาประมาณ 18.00-18.50 ได้เรตติ้งเฉลี่ยจนถึงวันที่  21 ธันวาคมอยู่ที่ 2.813 แต่หนุมานฯ ออกอากาศ 2 ช่วง 18.50- 20.00 และช่วงที่ 2 เวลา 20.00-21.30 มีเรตติ้งเฉลี่ยทั้งสองช่วงอยู่ที่ 3.151

หากเทียบการออกอากาศในช่วงเวลาใกล้เคียงกันเฉพาะช่วงเย็น เรตติ้งหนุมานฯ นำหน้านาคินมาโดยตลอด แต่นาคินเริ่มแซงหน้าหนุมานฯ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม และตกลงไปอีก จนกระทั่งมาแซงต่อเนื่องอีกครั้งเมื่อวันที่  18 ธันวาคม จนถึง 21 ธันวาคม

จากข้อมูลของนีลเส็น นาคินตอบโจทย์ฐานคนดูของช่อง 3 เมื่อได้ฐานคนดูในเมืองมากกว่าต่างจังหวัด โดยมีเรตติ้งเฉลี่ยของคนกรุงเทพฯ และปริมณฑลอยู่ที่ 3.152 แต่ได้ในต่างจังหวัดแค่ 2.753 ส่วนหนุมานฯ จับกลุ่มคนดูในต่างจังหวัดมากกว่า โดยได้เรตติ้งเฉลี่ยไปที่ 3.273 และได้เรตติ้งในกรุงเทพฯ ไป 2.441

ในขณะเดียวกันนาคินซึ่งเป็นละครแนวดราม่า จับกลุ่มผู้ชมผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยได้เรตติ้งกลุ่มผู้หญิงอยู่ที่ 3.653 และผู้ชายที่ 1.933 ส่วนหนุมานฯ ละครแนวแอคชั่น แฟนตาซี จับกลุ่มผู้ชายมากกว่าผู้หญิงเล็กน้อย ได้เรตติ้งกลุ่มผู้ชมผู้ชายเฉลี่ยไปที่ 3.173 ส่วนกลุ่มผู้หญิงอยู่ที่ 3.131

ข้อมูลเรตติ้งยังบอกด้วยว่ากลุ่มวัยทีนและวัยทำงานตั้งแต่อายุ 15-29 ปี คือกลุ่มที่ดูซีรี่ส์อินเดียทั้งสองเรื่องน้อยที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชมอายุ 20-24 ปี เป็นตัวเลขเรตติ้งรับชมน้อยที่สุด ส่วนผู้ชมช่วงอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปเป็นช่วงที่นิยมดูซีรี่ส์อินเดียมากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มที่มาอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป เป็นช่วงที่มีเรตติ้งดีที่สุดในทั้งสองเรื่อง

นี่เป็นเพียงแค่ยกเริ่มต้นของศึกชิงเรตติ้งซีรี่ส์อินเดีย ต้องดูกันยาว ๆ ไป.

]]>
1151604
ถอดรหัสซีรีส์อินเดียแผลงฤทธิ์ เบียดละครไทย https://positioningmag.com/1150093 Wed, 13 Dec 2017 22:59:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1150093 ซีรีส์อินเดียช่วงนี้ แผลงฤทธิ์แย่งผู้ชมหน้าจอทีวีจากละครไทย วาไรตี้ไปได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งพลังหนุมาน และ แรงแค้นงูสาวนาคิน กำลังมาแรง ชนิดที่ว่าบางวันมีคนดูเฉลี่ยต่อนาทีสูงกว่าละครไพรม์ไทม์แล้วโดยเฉพาะหนุมานฯ ของช่อง 8 มีโอกาสชนะช่อง 7 และทุกช่องที่นำซีรีส์อินเดียมาออกอากาศ

ทั้งช่อง 3 เอชดี ช่อง 3 แฟมิลี่ ช่อง 8 อาร์เอส และช่องไบรท์ นั้น ต่างค้นพบแล้วว่าซีรีส์อินเดียเป็นตัวดันเรตติ้งช่อง เพราะแต่ละเรื่องได้เรตติ้งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของช่อง ขณะที่ต้นทุนการซื้อรายการเฉลี่ยถูกกว่าผลิตละครเองอย่างน้อย 3 เท่า

ซีรีส์อินเดียจะมาถึงจุดสุดฮอต ที่บ่งบอกได้ว่ายังมีเนื้อหารายการอีกมากมาย ที่ผู้ชมในยุคดิจิทัลต้องการ

 ***หนุมานฯ ช่อง 8 แผลงฤทธิ์แซงละครช่อง 7

และแล้วพลังลิงน้อย “มารุติ” หน้าตาน่ารัก มีพุงน้อย ๆ ของบรรดาแม่ ๆ สาวกแฟนคลับ ก็ส่งให้ช่อง 8 ได้สัมผัสเรตติ้งอันดับ 1 ช่วงไพรม์ไทม์ หลัง 2 ทุ่ม จากเรื่อง “หนุมาน สงครามมหาเทพ” ในการออนแอร์วันที่ 29 พ.ย.2560

เรียกได้ว่าช่อง 8 ใช้กลยุทธ์เลือกเวลา และโปรดักต์ได้ถูกที่ถูกจังหวะกับที่ “กลุ่มเป้าหมาย” รออยู่อย่างมาก การเลือกเวลา ด้วยการยิงยาว เพื่อพยุงเรตติ้งในรายการที่มีผู้ชมจำนวนมากให้นานที่สุด ที่อาร์เอสตัดสินใจปรับผังรายการของช่อง โดยเคลียร์เวลาให้ “หนุมาน สงครามมหาเทพ” ตั้งแต่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ออนแอร์ตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงไพรม์ไทม์ โดยแบ่งเป็นช่วงแรกเวลา 18.50-20.00 และช่วงที่สองคือหลังจบข่าวพระราชสำนัก ออนแอร์เวลา 20.30-21.30  น.ทุกวันจันทร์-พฤหัส

จนถึงจุดพีคคือเมื่อค่ำวันที่ 29 พ.ย.ในการออนแอร์ช่วงที่สอง หนุมานฯ ได้เรตติ้งไป 4.196 หรือหากคำนวณคร่าว ๆ ได้คนดูไปกว่า 2.5 ล้านคน จากปกติหนุมานฯ จะได้เรตติ้งประมาณ 3 กว่า ๆ

การได้ 4.196 คือวันที่ช่อง 7 แผ่วพอดี แม้จะเป็นแชมป์ตลอดกาล แต่วันดังกล่าวไม่ใช่ของวันของช่อง 7 เพราะละครใหม่คือ “วังนางโหง” ทำเรตติ้งได้แค่ 4.010 จากปกติมาตรฐานช่อง 7 จะได้อยู่ที่ประมาณ 5-6

นอกจากนี้หนุมานฯ ยังชนะ “สายธารหัวใจ” ของช่อง 3 แต่ไม่ได้เซอร์ไพรส์ เพราะหนุมานฯ มาเหนือช่อง 3 เกิดขึ้นบ่อยในระยะหลัง

อย่างไรก็ตาม ที่หนุมานฯ ส่งให้ช่อง 8 ได้สัมผัสอันดับ1 บ้างนั้น ก็ทำให้พอมีลุ้นอีกว่า จะไม่ใช่เพียงแค่สัมผัสครั้งเดียว จากนี้อาร์เอสจึงมั่นใจ และเดินหน้าซีรีส์อินเดียต่อแน่นอน เพื่อเป็นอีกหนึ่งรายได้สานฝันให้รายได้แตะ 2,000 ล้านบาทในปีหน้า

เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นอกจากกระแสหนุมานฯ เวลานี้ ยังมีข่าวเช้าเป็นจุดเด่นของช่อง ทำให้อาร์เอสเน้นรายการช่วงไพรม์ไทม์ 2 ช่องคือช่วงเช้าเวลา 06.00-09.00 น. และช่วงค่ำ 18.00-22.00 น. ทำให้ปีนี้คาดทำรายได้รวม 1,200 ล้านบาท และปีหน้าคาดว่าจะทำได้ถึง 2,000 ล้านบาท

แน่นอนว่าจะมีการปรับอัตราค่าโฆษณาเพิ่ม 45% จากราคาเฉลี่ยนาทีละ 30,000 บาท เป็นประมาณ 45,000 บาท

ขณะนี้กระแสหนุมานฯ ดีมาก การขายโฆษณาก็ได้ราคาดี โดยราคาเรตการ์ด หนุมานฯ อยู่ที่นาทีละ 3 แสนบาท สูงกว่าละครที่ได้ราคา 1.8 แสนบาท และข่าวเช้าได้ 1 แสนกว่า

คำเฉลยจากการเลือกรายการลงผังนั้น ยังสะท้อนให้เห็นว่าสอดคล้องกับกลุ่มธุรกิจที่กำลังทำรายได้หลัก คือ อาหารเสริม สกินแคร์ ที่เฮียฮ้อเปิดเผยว่าได้เน้นกลุ่มลูกค้า อายุ 35 ปี นี่คือการรองรับเทรนด์สังคมผู้สูงอายุ

ดร.องอาจ สิงห์ลำพอง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ดิจิทัลทีวี กล่าวว่า ผู้ชมซีรีส์อินเดียส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงทำงาน และแม่บ้าน ที่อยากดูอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่ใช่กลุ่มที่ดูละครไทยอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องหนุมานฯ ทำให้แฟนประจำช่องเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

ความสำเร็จของช่อง 8 ที่ดึงคนดูซีรีส์อินเดียได้นั้น ปูทางมาจากเรื่องสีดาราม ศึกรักมหาลงกา มีกระบวนการผลิตดี อลังการ จนมาถึงหนุมานฯ และปีหน้าจึงได้เตรียมไว้ออนแอร์อีก 3 เรื่อง

***งูนาคินแผ่พลัง

ทางฟากช่อง 3 ก็มี นาคิน” เรื่องราวของแรงแค้นงูสาว เป็นความหวัง ที่ช่อง 3 ลงผังออนแอร์ในเวลาประมาณ 18.15-19.00 น.จันทร์-พฤหัส และเวลา 18.00-19.00 น.วันศุกร์ ผ่านไปแล้วเกือบเดือนที่เรื่องราวเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ แฟนตาซีด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิกแรง ๆ เรตติ้งก็เริ่มมา

จากวันแรกที่ออนแอร์เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ทำได้ 2.111 บางวันหล่นไปที่ 1.979 จนวันที่ 27-28-29 พ.ย.เรตติ้งทะลุ 3 มาได้ จนมาแรงสุดคือวันที่ 29 พ.ย.ที่ได้เรตติ้งนิวไฮไป 3.649 ทำให้เกือบเฉลี่ยทั้งเดือน นาคินได้เรตติ้ง 2.528

ช่อง 3 ไม่อยากส่ง นาคิน ชน หนุมาน ของช่อง 8 จึงเลือกเวลาออนแอร์ก่อนประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ชนกับ อโศกมหาราช ที่อยู่ในเครือด้วยกัน คือช่อง 3 แฟมิลี่ บริษัทเซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เป็นคนซื้อลิขสิทธิ์จากเจเคเอ็น โกลบอลมีเดีย และยังมีอีกหลายเรื่องในมือ

อีกช่องที่พยายามจะสร้างเรตติ้งจากซีรีส์อินเดีย คือ ไบรท์ทีวี ที่แม้จะอยู่ในประเภททีวีดิจิทัลช่องข่าว แต่ช่วงเย็นของทุกวันก็ปูพรมซีรีส์อินเดีย 3 เรื่อง ยิงยาวตั้งแต่เวลา 17.00 น.

ซีรีส์อินเดียทุกเรื่องของทุกช่อง หากวัดความสำเร็จว่ามากน้อยเพียงใด ชัดเจนว่า “สำเร็จ” เพราะเรตติ้งแต่ละเรื่องสูงกว่าค่าเฉลี่ยของช่อง ไม่เฉพาะช่องเล็ก แต่ช่องท็อป 5 ก็ยังต้องใช้พลังซีรีส์อินเดียช่วยดัน อย่างช่อง 8 เรตติ้งประจำเดือน พ.ย. เฉลี่ยอยู่ที่ 0.666 แต่หนุมานฯ ทำเรตติ้งได้ถึง 3.269ช่อง 3 เอชดี เรตติ้งช่องเฉลี่ย 1.252 แต่นาคินทะลุไป ได้ถึง 2.565

หากย้อนไปประมาณ 2 ปีที่แล้วมีช่องเวิร์คพอยท์ และช่อง 5 ที่นำซีรีส์อินเดียมาออนแอร์ ซึ่ง น.ส.ณัฐชญา ทวีวิทย์ชาครียะ จากสำนักนโยบายและวิชาการกระจายเสียงและโทรทัศน์ สำนักงาน กสทช. วิเคราะห์ข้อมูลค่าความนิยมเฉลี่ยของรายการซีรีส์อินเดีย ปี 2558-2560 พบว่า แต่ละช่องจัดวางผังทั้งช่วงไพรม์ไทม์ตอนต้น ประมาณ 18.30-20.30 น.และตอนปลาย 20.30-22.30 นั้น เป็นการตัดสินใจที่ประสบความสำเร็จ เพราะได้รับความนิยมจากผู้ชมสูง

ส่วนกลุ่มผู้ชมส่วนใหญ่พบว่าเป็นผู้หญิง อายุ 35 ปีขึ้นไป อยู่ในเขตต่างจังหวัด ซึ่งสอดคล้องกับการวางผังที่ผู้ชมในต่างจังหวัด จะกลับบ้านเร็ว ขณะที่การวางผังในช่วงที่ไม่ใช่ไพรม์ไทม์จะไม่ค่อยสำเร็จ อาจเป็นเพราะผู้ชมส่วนใหญ่ทำงาน หรือออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน

นอกจากนี้การนำเสนอคอนเทนต์ที่เคยได้รับความนิยม และห่างหายไปนาน เมื่อกลับมาใหม่ก็ได้รับผลตอบดี อย่างหนังอินเดียที่คนไทยเคยนิยมดูเมื่อกว่า 30-40 ปีก่อน แต่ห่างหายไปเพราะมีหนังจากชาติอื่น อย่างจีน ฮอลลีวูด ญี่ปุ่น เกาหลี มาแทน เมื่อกลับมาใหม่ด้วยเรื่องราวที่คนไทยคุ้นเคย อย่างศาสนา ประวัติศาสตร์ ชีวประวัติ จึงได้รับความนิยมกลับมาได้ไม่ยาก

 **เจเคเอ็นเจ้าตลาดคลังซีรีส์อินเดีย

สำหรับแหล่งที่มาของซีรีส์อินเดีย ที่ซื้อลิขสิทธิ์จากผู้ผลิตในอินเดีย และนำมาจัดสรรขายต่อให้ทีวีดิจิทัล รวมถึงเคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียมช่องต่าง ๆ นั้น คือ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) ที่มี “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์’’ เป็นซีอีโอ

แอน จักรพงษ์ อธิบายถึงความนิยมของซีรีส์อินเดียที่ตอนนี้ถูกจริตคนไทย ว่า เพราะคนไทยคุ้นเคยเกี่ยวกับวัฒนธรรมอินเดียเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องเกี่ยวกับภาษาสันสกฤต ศาสนา ประเพณี วรรณกรรมอย่างเรื่องรามเกียรติ์ วัดพระแก้วที่เราเห็นตั้งแต่เด็ก หรือชื่อของหลายอย่าง มีจุดกำเนิดที่มาจากประเทศอินเดีย

ที่สำคัญยังต้องดูว่าโปรดักชันดีไหม การเลือกเรื่องที่เหมาะ และคาดว่าคนดูน่าจะชอบ นับเป็นความเชี่ยวชาญของเจเคเอ็นอยู่แล้ว เพราะอยู่ในธุรกิจค้าคอนเทนต์มาหลายสิบปี จึงมองเห็นเทรนด์ที่มาจากทั่วโลกก่อนคนอื่น

“เราเดินทางเยอะมาก ไปดูงาน ดูตลาดต่างประเทศ ดูงานสถานีโทรทัศน์ทั่วโลก คุยกับดาราศิลปิน และเป็นคนอ่านเยอะ จึงมาบรรจบกับความคิดที่ว่า Content is Culture และนี่คืออาหารสมองของคน”

ตลาดนี้ไม่ได้อยู่ที่ “ผู้ซื้อ” หรือสถานีทีวีเลือกฝ่ายเดียวว่าอยากได้เรื่องไหน เพราะความเชี่ยวชาญอยู่ที่ “เจเคเอ็น” มาถึงจุดที่สามารถจัดเรื่องได้ว่าเรื่องไหนควรออนแอร์ช่องใด เช่น เรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ อย่างอโศกมหาราช อยู่ในช่อง 3 แฟมิลี่ และเรื่องแฟนตาซี อย่างนาคิน อยู่ช่อง 3 เอชดี

ส่วนช่อง 8 ที่เริ่มเดินมาด้วยกันก่อนกับสีดาราม ที่ประสบความสำเร็จ และตามด้วยหนุมาน ทำให้เจเคเอ็นนึกถึงช่อง 8 ก่อนเมื่อได้เรื่องแนวมหากาพย์ วรรณกรรม และแฟนตาซี ถ้าช่อง 8 ไม่ซื้อ ก็มีทางเลือกไปช่องอื่น ๆ อีกได้ เพราะเวลานี้ทุกช่องต่างต้องประหยัดต้นทุน เพราะซื้อซีรีส์อินเดีย แม้จะใช้เงินก้อนใหญ่ เพราะแต่ละเรื่องยาวหลายตอน แต่ถ้าคิดเฉลี่ยต่อตอนแล้วถูกกว่าการผลิตละครเองเฉลี่ย 3 เท่า

แอน จักรพงษ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้กี่เรื่อง ๆ ก็หมดเกลี้ยง เพราะทุกคนเจ็บจากการผลิตรายการเอง ยิ่งผลิตยิ่งใช้เงินเยอะ ต้องมีบุคลากรจำนวนมาก เฉลี่ยละครไทยอาจต้องใช้งบตั้งแต่ 8 แสนบาท -1.23ล้านบาท เมื่อทุนไม่สูงพอก็ทำให้ต้องออกจากอุตสาหกรรมนี้ไป ขณะที่เจเคเอ็นมีคอนเทนต์ระดับโลก ที่ง่ายสะดวก ประหยัด และประสบความสำเร็จ เพราะมีเรตติ้ง การผลิตได้มาตรฐานระดับโลก เวลาขายให้ช่องต่าง ๆ เฉลี่ยก็คิดราคาประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ของต้นทุนผลิตละครไทย ราคาถูกกว่า แต่เรตติ้งออกมาแล้วดี อย่าง สีดาราม และหนุมาน ก็เรตติ้ง 5 กว่า

ปรากฏการณ์ซีรีส์อินเดียนี้ ทำให้เห็นว่าเวลานี้ผู้ชมกลุ่มซีรีส์ต้องการดูอะไรที่คุ้นเคย โปรดักชันดี ความสำคัญยังอยู่ที่คนขายอย่างเจเคเอ็น ที่ต้องดีลกับคนขายในอินเดียให้ได้ใจ จนหลายรายเลือกขายผ่านเจเคเอ็น ไม่ขายตรงให้ช่อง นอกจากนี้เจเคเอ็นก็มีบริการให้ช่องที่มาซื้ออย่างครบวงจร ทั้งตัดต่อ พากย์ และทำตลาด เรียกได้ว่าช่องซื้อไปเพียงแค่จัดลงผังออนแอร์เท่านั้น

นี่คือการประสานกันอย่างลงตัวของคนผลิต คนขาย และเจ้าของช่อง ในยุคทีวีดิจิทัล ที่ต้องรู้จักตัวเองอย่างดีว่าจุดแข็งคืออะไร เพื่อให้ทุกคนที่ร่วมอุตสาหกรรมอยู่รอดเติบโตไปด้วยกัน

เจเคเอ็น ได้รับลิขสิทธิ์ จากเจ้าของคอนเทนท์ ทั้งจากเกาหลีใต้ อินเดีย จีน ฟิลิปปินส์ และอเมริกา โดยรายได้จากการขายคอนเทนท์ในไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นับจากปี 2557 มีรายได้ 222 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 73 เปอร์เซ็นต์ของรายได้รวม   ไตรมาส 3 ปี 2560 มีรายได้กว่า 832 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ โดยเจเคเอ็นได้เข้าจดทะเบียนเพื่อระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ เมื่อวันท่ี 30 ..ที่ผ่านมา.

]]>
1150093
ศึกชิงเรตติ้งซีรี่ส์อินเดีย “นาคิน ช่อง 3” ท้ารบ “หนุมานฯ ช่อง 8” https://positioningmag.com/1146255 Mon, 13 Nov 2017 12:15:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1146255 ซีรี่ส์อินเดียบนจอทีวีดิจิทัล กำลังมาแรง และเวลานี้ต้องยกให้กับช่อง 8 อาร์เอส ที่ปักธงสร้างเรตติ้งจากหนังอินเดียได้ก่อนใคร แต่เกมธุรกิจบันเทิงในการชิงผู้ชมจะไม่สนุกถ้าไม่มีคู่แข่งมาร่วมสนาม และขณะนี้ช่อง 8 ก็มีเบอร์ใหญ่อย่างช่อง 3 ส่งนาคินมาสู้แล้ว

อาร์เอสประสบความสำเร็จแบบเซอร์ไพรส์จากเรื่องสีดาราม ศึกรักมหาลงกาที่ออนแอร์ตั้งแต่ ม.. – ..2560 โดยออนแอร์ได้เพียงสองเดือนเรตติ้งก็มา ทะลุไป 1 กว่าเกือบจนเฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ซีอีโอ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) สั่งเพิ่มเวลาออนแอร์ จาก 1 ชั่วโมงเป็น 1 ชั่วโมงครึ่ง ลากยอดชมยาว ๆ ไป จนพีคสุดในเดือน มิ.. ที่บางวันเรตติ้งทะลุไปถึง 4.2

พอเรื่องต่อมา คือ หนุมาน สงครามมหาเทพ ที่กำลังออนแอร์อยู่ ก็ลากเวลาออนแอร์นานขึ้น และข้ามช่วงเวลาจากเย็นไปจนถึงค่ำ ถึงเวลาไพรม์ไทม์หลังสองทุ่ม จนเฉลี่ยเรตติ้งทะลุ 2-3 ได้อีก

อย่างเช่นเมื่อวันที่ 1 .. 2560 หนุมาน สงครามมหาเทพได้เรตติ้งเฉลี่ยออนแอร์ทั้งสองช่วง อยู่ที่ 2.94 หากแยกเป็นช่วงแรก คือเวลา 18.50-19.55 . ทำเรตติ้งได้ 2.84 ช่วงที่สองเวลา 20.07-21.17 .ได้เรตติ้งไป 3.02 ได้เรตติ้งเหนือละครช่อง 3 อีกครั้ง ทั้งที่เป็นละครล็อตใหม่ และออนแอร์วันแรกอย่างเรื่องสายธารหัวใจได้เรตติ้ง 2.75

ขณะที่การมาวันแรกของนาคินที่ช่อง 33 หรือ 3 HD ที่ผู้บริหารเลือกปักลงผัง เวลา 18.19-19.00 .ได้เรตติ้งไป 2.11 ถ้าวัดกับเฉพาะตัวเลข ก็จัดว่าแพ้ช่อง หนุมานฯ ของอาร์เอสชัดเจน 

จริง ๆ แล้วอาร์เอสไม่ใช่เจ้าแรกที่นำซีรีส์อินเดียบุกฐานผู้ชมทีวีดิจิทัล ก่อนหน้านี้ เวิร์คพอยท์ทีวี นำเรื่องพระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลกมาฉาย เมื่อปี 2558 โดยมีการจัดทำเพลงประกอบ คำร้อง โดยประภาส  ชลศรานนท์ผู้ถือหุ้นใหญ่ ผู้ก่อตั้ง และผู้บริหารของเวิร์คพอยท์ด้วย ที่ในยูทูปปัจจุบันคนดูเอ็มวีนี้แล้วกว่า 8 ล้านครั้ง แต่เวิร์คพอยท์เลือกใช้บริการซีรีส์อินเดียเพียงเรื่องเดียว และเดินแนวถนัดของตัวเองในการผลิตรายการต่าง ๆ ด้วยตัวเองมากกว่า  

จากนั้นก็มีทรูโฟร์ยู นำเรื่องพระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก ไปฉายอีกในปี 2559 ขณะที่กลุ่มช่อง 3 นอกจากมีนาคินแล้ว ยังมีอโศกมหาราช ที่บรรจุในผังช่วงเย็น ทางช่อง 13 แฟมิลี่ด้วย

ดร.องอาจ สิงห์ลำพอง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ดิจิทัลทีวี กล่าวว่า คนดูตอบรับซีรี่ส์อินเดียตั้งแต่สีดารามฯ มาจนถึงหนุมานฯ เพราะอยากได้ดูอะไรใหม่ๆ หลักการเลือกเรื่องคือให้คนดูรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่มีปฏิสัมพันธ์ เช่น รู้เรื่อง หรือเคยเรียนมาก่อน คุ้นเคย อย่างเรื่องสีดารามฯ ที่เป็นเรื่องส่วนหนึ่งของรามเกียรติ์ และการผลิตที่ดี มีคุณภาพ

ถือว่าช่อง 8 เลือกได้แจ็กพ็อต และพบว่าคนดูเป็นผู้หญิง และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ไม่ดูละครไทย พอมาเรื่องหนุมานฯ ก็ได้แฟนช่องเพิ่ม เรตติ้งดีขึ้นเรื่อยๆ และในปีหน้ามีซีรี่ส์อินเดียที่เตรียมไว้ 3 เรื่อง  ดร.องอาจกล่าวและว่าเรตติ้งดี ก็ทำให้สามารถปรับอัตราค่าโฆษณาได้อีก

สำหรับนาคินช่อง 33 เพิ่งออนแอร์ ตั้งแต่วันที่ 1 ..ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่ายังต้องใช้เวลา โดยวันที่ 1 และ 2 ..ได้เรตติ้งเท่ากัน ส่วนวันศุกร์ที่ 3 ..ได้เรตติ้ง 1.59

จอนนี่ แอนโฟเนรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้ซื้อลิขสิทธิ์ และทำตลาดนาคินให้ช่องตอบคำถามที่ว่าทำไมเรตติ้งน้อยกว่าเรื่องหนุมานฯ ว่า ต้องเข้าใจ เพราะเพิ่งออนแอร์ไม่กี่วัน และยังเชื่อมั่นว่าเรตติ้งจะดีขึ้นเรื่อย ๆ

ซีรี่ส์อินเดีย ปัจจุบันมีการลงทุนสูงเฉลี่ยเรื่องละประมาณ 1,000 ล้านบาท บางเรื่องมีถึง 500-600 ตอน ปัจจุบันมีผู้ซื้อลิขสิทธิ์รายใหญ่ คือบริษัท เจเคเอ็น โกบอลมีเดีย จำกัด (มหาชนที่ซื้อจากค่ายหนังในอินเดียหลายราย และนำมาบริหารลิขสิทธิ์ขายต่อให้ช่องต่าง ๆ โดยหลักการลงทุนของแต่ละช่องแล้ว แม้ว่าการซื้อทั้งเรื่องจะมีราคาสูง แต่หากหารเฉลี่ยการลงทุนต่อตอนที่ออนแอร์ ถูกว่าผลิตละครเองประมาณ 2-3 เท่า ขณะที่ได้เรตติ้งไม่แพ้กัน.

]]>
1146255