เรียลลิตี้โชว์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 17 Mar 2020 14:24:33 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 คนกลุ่มสุดท้ายที่รู้เรื่องการระบาดของไวรัส COVID-19 : ผู้เข้าแข่งขัน Big Brother https://positioningmag.com/1268721 Tue, 17 Mar 2020 13:49:56 +0000 https://positioningmag.com/?p=1268721 หนึ่งในคนกลุ่มท้ายๆ บนโลกใบนี้ที่จะมีโอกาสทราบเรื่องการระบาดของไวรัส COVID-19 คือผู้เข้าแข่งขัน Big Brother เยอรมนี พวกเขาเข้าร่วมการแข่งขันที่ต้องถูกตัดขาดจากโลกภายนอกมาร่วม 1 เดือน และจนบัดนี้ก็ยังไม่ทราบเลยว่าเกิดอะไรขึ้นบนโลก (แต่โปรดิวเซอร์กำลังจะบอกพวกเขาวันนี้)

ผู้เข้าแข่งขันชายและหญิงจำนวน 14 คนอยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่เมืองโคโลญจน์ ทางตะวันตกของประเทศเยอรมนี เพื่อร่วมการเรียลลิตี้โชว์ Big Brother ซีซั่น 13 โดย 10 คนแรกเข้าบ้านไปตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. 63 ช่วงที่การระบาดของไวรัส COVID-19 เพิ่งจะเริ่มแพร่ขยายออกจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ส่วนอีก 4 คนที่เข้าไปทีหลัง เข้าบ้านในวันที่ 6 มี.ค. 63 เพียง 3 วันก่อนที่เยอรมนีจะประกาศพบผู้เสียชีวิตรายแรก

กติกาของรายการ Big Brother คือ ผู้เข้าแข่งขันต้องเข้าไปอาศัยร่วมกันในบ้านหลังหนึ่งเป็นเวลา 15 สัปดาห์ โดยถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เพราะในบ้านจะไม่มีสมาร์ทโฟน โทรทัศน์ วิทยุ หรือสื่อใดๆ และถูกกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ละสัปดาห์ผู้เข้าแข่งขันจะได้รับภารกิจให้ทำบางสิ่งบางอย่าง และผู้ชมจะเป็นคนโหวตว่าต้องการให้ผู้เข้าแข่งขันคนใดอยู่หรือออกจากบ้าน (ในไทยเคยมีการจัดแข่งขันนี้ 2 ครั้งเมื่อปี 2548)

ด้วยกติกาเช่นนี้ทำให้รายการ Big Brother กลายเป็นสถานที่กักกันตัวเองโดยบังเอิญ สำหรับผู้เข้าร่วมแข่งขัน และเป็นการกักกันแบบที่ไม่รู้ความเป็นไปของโลกด้วย

Big Brother เยอรมนี (photo: Sat.1)

หลังจากมีการระบาดของไวรัส โปรดิวเซอร์ของรายการนี้ชี้แจงกับหนังสือพิมพ์ Süddeutsche Zeitung ว่า กติกาของเกมระบุชัดเจนว่าจะต้องปิดกั้นข้อมูลข่าวสารทุกอย่างไม่ให้ผู้เข้าแข่งขันทราบ ยกเว้นมีเหตุร้ายแรงจริงๆ เช่น สมาชิกครอบครัวของผู้เข้าแข่งขันเจ็บป่วย และโปรดิวเซอร์ยังย้ำด้วยว่ารายการมีการรักษาสุขอนามัยในบ้านให้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม จากเสียงเรียกร้องในโซเชียลมีเดีย ทำให้ช่อง Sat.1 ผู้จัดฉายการแข่งขันต้องพิจารณาเรื่องนี้ใหม่ และประกาศว่า ก่อนการออกอากาศตามปกติในเวลา 19.00 น. วันที่ 17 มี.ค. 63 (ตามเวลาท้องถิ่น) ช่องจะให้มีช่วงเวลาถ่ายทอดสดพิเศษของรายการเพื่อประกาศให้ผู้เข้าแข่งขันทราบถึงวิกฤตในโลกภายนอก พวกเขาจะได้รับอนุญาตให้สอบถามถึงระดับความร้ายแรงภายในประเทศ และได้รับข้อความวิดีโอคลิปจากครอบครัว

ก่อนหน้าเหตุการณ์นี้ มีเพียงครั้งเดียวที่รายการ Big Brother จำเป็นต้องถอนกฎการปิดข้อมูลข่าวสาร เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ 9/11 ขึ้นในช่วงที่บ้าน Big Brother ซีซั่น 2 ในสหรัฐอเมริกาเหลือผู้แข่งขัน 3 คนสุดท้าย และญาติของผู้เข้าแข่งขันรายหนึ่งหายตัวไปหลังเกิดเหตุ 9/11

ผู้เข้าแข่งขัน Big Brother แคนาดา พูดคุยเรื่องความผิดปกติในวันคัดออก (photo: Big Brother Canada)

นอกจากในเยอรมนีแล้ว ยังมี Big Brother อีก 3 ประเทศที่ผู้เข้าแข่งขันบังเอิญถูกกักกันไปโดยปริยาย คือ บราซิล ซึ่งผู้เข้าแข่งขันเริ่มเข้าบ้านตั้งแต่เดือนมกราคม ออสเตรเลีย ที่ผู้เข้าแข่งขันเข้าบ้านเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ และใน แคนาดา ที่ผู้เข้าแข่งขันเข้าบ้านในวันที่ 4 มี.ค. 63

Big Brother แคนาดายังออกอากาศช่วงเวลาที่ผู้เข้าแข่งขันแสดงออกให้เห็นว่าพวกเขา “ไม่ทราบ” เรื่องราวใดๆ เลย เพราะพวกเขานั่งคุยกันเรื่องว่า ทำไมการคัดคนออกในสัปดาห์แรกนั้นมีผู้เข้าชมในห้องอัดจำนวนมากจนได้ยินเสียงเชียร์ ขณะที่การคัดคนออกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมากลับแทบไม่ได้ยินเสียงจากห้องอัดเลย (เนื่องจากสัปดาห์นั้นรายการสั่งงดไม่ให้ผู้ชมเข้าชมในห้องอัดแล้ว)

ปัจจุบันผู้เข้าแข่งขันทั้งในแคนาดาและออสเตรเลียได้รับข้อมูลอัปเดตเรื่องไวรัสในวันที่ 16 มี.ค. 63 เป็นการส่วนตัวส่วนในบราซิลยังไม่ทราบเรื่อง

ขณะที่เยอรมนีเลือกหยิบเหตุการณ์ผิดแผนนี้มาเป็นโอกาสด้วยการ “ถ่ายทอดสด” ทำให้ผู้ชมตั้งหน้าตั้งตารอดู “ปฏิกิริยา” ของผู้เข้าแข่งขันต่อข่าวไวรัสระบาดระดับโลก และดูการตัดสินใจว่าพวกเขาจะทำอย่างไร บางคนอาจจะละทิ้งเส้นทางแห่งชื่อเสียงเพราะเป็นห่วงคนในครอบครัว หรือพวกเขาจะอดทนกับความวิตกกังวลเพื่อเงินรางวัลกันต่อไป

Source

]]>
1268721
ปั้นดาราให้เป็น ”สตาร์ทอัพ” เรียลลิตี้โชว์บนแอปฯ เรื่องที่ไลน์ทีวี-ทีวีธันเดอร์ ต้องจับมือกันชิงคนดู https://positioningmag.com/1149312 Wed, 06 Dec 2017 15:09:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1149312 ละคร ดราม่า วาไรตี้โชว์ ยังไม่พอสำหรับ “ไลน์ทีวี” ในเวลานี้ ที่ยังต้องการมี “ออริจินัลคอนเทนต์” แนวให้ความรู้แต่ยังบันเทิง เพื่อดึงทุกกลุ่มในออนไลน์มาเพิ่มยอดวิว จึงลงตัวอีกครั้ง กับผู้ผลิตอย่าง “ทีวีธันเดอร์” ที่ยังต้องการหาช่องทางใหม่ๆ เพื่อส่งรายการถึงคนรุ่นใหม่ ที่แทบจะไม่ดูทีวี จนมาได้คำตอบล่าสุดคือ “เรียลลิตี้โชว์ สตาร์ทอัพ สตาร์ (ดารา 4.0)” ที่มีดาราที่ทำธุรกิจอยู่แล้ว 14  คนร่วมอยู่ในเรียลลิตี้โชว์

รูปแบบรายการที่เกาะตามเทรนด์ของธุรกิจในเวลานี้ คือ สตาร์ทอัพที่คนรุ่นใหม่มีความหวังว่าจะเริ่มและสำเร็จ ไม่เว้นแม้แต่ดารา รายการนี้จึงต้องมี Rise Accelerator & Academy สถาบันที่เป็นที่ปรึกษา และสร้างสตาร์ทอัพมาร่วมกันผลิตรายการ

กวิน ตั้งอุทัยศักดิ์ ผู้อำนวยการธุรกิจคอนเทนต์ บริษัทไลน์ ประเทศไทย กล่าวว่า ไลน์ทีวีมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนวิวให้มากกว่าปีนี้กว่า 100 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับยอดวิวปี 2559 ที่มากกว่าปี 2558 จำนวน 136 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเวลาที่คนดูมากที่สุดไม่ต่างจากทีวี คือช่วงเวลา 18.00-24.00 น. คอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมสูงยังคงเป็นละคร

พัลภา มาโนช หัวหน้าธุรกิจ ไลน์ทีวี เปิดเผยว่า ไลน์ทีวี มีเป้าหมายจะเพิ่มออริจินัลคอนเทนต์ ที่มีพันธมิตรผลิตเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ในปีหน้า จากปัจจุบันมีอยู่ 20-30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือเป็นละครรีรัน และคอนเทนต์ที่เปิดแชร์ทั่วไป โดยมีพันธมิตรคอนเทนต์ทั้งหมด 120 ราย ทั้งในกลุ่มละคร บันเทิง อนิเมชั่น กีฬา เพลง และกำลังพิจารณาอีสปอร์ตในปีหน้าด้วย

ส่วนความร่วมมือกับทีวีธันเดอร์ และ Rise ครั้งนี้กับรายการเรียลลิตี้โชว์ สตาร์ทอัพ สตาร์ (ดารา 4.0) เป็นรูปแบบร่วมลงทุน 3 ฝ่าย เพื่อเพิ่มรายการผลิตเฉพาะไลน์ทีวี หลังจากที่ได้ร่วมกันผลิตรายการเทคกายเอาท์มาแล้ว

หลักการผลิตรายการแนวให้ความรู้นี้ สำหรับทีวีธันเดอร์ โดย ณฐกฤต วรรณภิญโญ ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร สายพัฒนาธุรกิจ ทีวีธันเดอร์ กล่าวว่า กลุ่มคนในไลน์เป็นเจนเนอเรชั่นใหม่ วัยรุ่น ที่ส่วนมากสนใจทำธุรกิจ โดยหวังว่ารายการนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ในการทำธุรกิจได้ เพราะมีการให้ความรู้ วิธีคิดการทำธุรกิจด้วย แต่คอนเทนต์แนวความรู้ ก็ยังต้องมีความบันเทิง และดารา เซเลบริตี้ ยังมีอิทธิพลต่อคนดู

ความบันเทิงนี้ต้องวางแผนให้เกิดความบันเทิง งานนี้ ณฐกฤต ยืนยันว่าไม่มีการเขียนบทให้ดาราที่ร่วมในเกมทำตาม แต่ทีมงานจะคาดการณ์และวางแผน และคาดเดาว่าแผนนี้จะทำให้ผู้ร่วมเกมทำอะไรออกมาบ้าง  ซึ่งงบการผลิตแต่ละตอนรวม 10 ตอน ตอนละ 30 นาที นั้นใช้งบไม่ต่างจากการผลิตรายการในฟรีทีวี และทีมงานก็มีเป็นส่วนหนึ่งที่ทำรายการต่าง ๆ ที่ออนแอร์ช่อง 3 ด้วย

งานนี้มีรายได้จากสปอนเซอร์เป็นหลัก และใช้งบมากพอสมควร เพราะดาราแต่ละคนที่มาร่วมในโชว์หลายวันก็ต้องมีค่าใช้จ่ายให้

สำหรับวันออนแอร์รายการนี้ คือ พุธ-พฤหัส เที่ยงตรง ตั้งแต่ 17 ม.ค. 2561

น.พ.ศุภชัย ปาจริยานนท์ ซีอีโอ และผู้ก่อตั้ง Rise กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่าดาราจำนวนมากทำธุรกิจ และยังไม่สำเร็จเท่าที่ควรทั้งที่มีโอกาส ส่วนใหญ่เพราะขาดความเชี่ยวชาญการทำตลาด ซึ่งรวมถึงช่องทางการขายด้วย ทั้งที่มีโอกาสขายได้มากกว่านั้น ขณะที่แต่ละคนมีความต้องการต่างกัน บางคนต้องการเงินทุน และความรู้ในการทำตลาด ซึ่งรายการนี้จะแสดงให้เห็นว่า การทำธุรกิจสำเร็จนั้นต้องมีการพัฒนาอย่างไรบ้าง.

]]>
1149312