ก่อนที่จะเข้ามาทำงานในเอฟแอนด์เอ็น เลสเตอร์ แทน เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารในบริษัท เอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ หลายตำแหน่ง มานานถึง 21 ปี ตำแหน่งล่าสุดคือ กรรมการผู้จัดการ บริษัท APBABC ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของเอเชียแปซิฟิค บริวเวอรี่ ในการขยายตลาดเบียร์ไฮเนเก้นสู่ประเทศเมียนมา
เลสเตอร์ แทน เข้าร่วมงานกับเสริมสุขในช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมา ในตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ และดูแลรับผิดชอบงานด้านการตลาดและปฏิบัติการ ของเสริมสุขอย่างเต็มตัว
ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ เลสเตอร์ แทน จะนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจเครื่องดื่มในหลายประเทศมาต่อยอดการบริหารงานให้กับบริษัท เสริมสุข ด้วยการเดินหน้าสานต่อการบริหารงานด้านการขาย ปฏิบัติการทรัพยากรบุคคล การเงิน และการบริหารจัดการ
นอกจากนี้ เลสเตอร์ยังจะมีบทบาทในการผนึกกำลังและประสานความร่วมมือกับทุกกลุ่มธุรกิจในเครือไทยเบฟ เพื่อผลักดันวิสัยทัศน์ 2020 เพื่อเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มของอาเซียนที่มีความมั่นคงและยั่งยืน ทั้งนี้ ธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ของทั้งในเครือไทยเบฟและกลุ่มเอฟแอนด์เอ็นจะประสานความร่วมมือเพื่อขยายทั่วทั้งภูมิภาค
สำหรับวิเวก ชาห์บรา (Vivek Chhabra) ซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2558 ได้ผลักดันการเติบโตของบริษัท ซึ่งปัจจุบันเสริมสุขมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 80 สำหรับรอบระยะบัญชีสิ้นสุดเดือนกันยายน 2559
]]>ด้วยทั้งขนาดตลาดและฐานลูกค้า ที่มีขนาดใหญ่และกว้างกว่าภูมิภาคอื่น “อีสาน” จึงเป็นเป้าหมายและด่านแรกที่ “คริสตัล” ชิงชัยเพื่อเบอร์ 1 ในธุรกิจน้ำดื่มภายในปีนี้
โรงงานแห่งใหม่ในจังหวัดขอนแก่น มีกำลังการผลิตน้ำดื่มคริสตัลได้ 15 ล้านขวดต่อเดือน เน้นช่วยบริหารต้นทุนการผลิตและกระจายสินค้าได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ และยังได้เผยโฉมบรรจุภัณฑ์ขวดพีอีทีของคริสตัล โฉมใหม่เป็นครั้งแรก ให้หรูขึ้น เอาใจแฟนภาคอีสานก่อนใครในประเทศ
วิเวก ชาห์บรา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คริสตัลได้เตรียมแผนขยายกำลังการผลิตน้ำดื่มคริสตัลให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศภายในปี 2560 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการน้ำดื่มคุณภาพของผู้บริโภค
การเริ่มที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรืออีสานก่อน เพราะถือเป็นตลาดยุทธศาสตร์หลักที่เสริมสุขให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ และมีความต้องการบริโภคน้ำดื่มในระดับสูง ด้วยอัตราการเติบโตของยอดขายคริสตัลในปีนี้ที่เพิ่มขึ้นถึง 28%
น้ำดื่มคริสตัลถือเป็นแบรนด์หลักในการขับเคลื่อนกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้กำลังการผลิตของโรงงานเสริมสุข นครราชสีมา ผลิตน้ำดื่มคริสตัลไม่ทันต่อความต้องการของผู้บริโภค จึงได้ผนึกกำลังกลุ่มบริษัทในเครือไทยเบฟเปิดสายการผลิตน้ำดื่มคริสตัลใหม่ ณ โรงงานแก่นขวัญ อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เพื่อป้อนตลาดภาคอีสานตอนบนให้ทันความต้องการ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของศูนย์กระจายสินค้าของโมเดิร์นเทรดหลายแห่ง ที่จะช่วยให้สินค้าถึงมือผู้บริโภคได้รวดเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย
สายการผลิตใหม่ ได้รับการออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีด้านการผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่กระบวนการคินค้นและขึ้นรูปขวดพีอีทีที่มีน้ำหนักลดลง ทำให้สามารถลดการใช้พลังงานถึง 20% และลดการใช้พลาสติก 8.7 เปอร์เซ็นต์ หรือลดปริมาณการใช้พลาสติกได้ปีละกว่า 43,200 กิโลกรัม และผ่านรับรองมาตรฐานการผลิตตามข้อกำหนดของทางหน่วยงานราชการ
นอกจากนี้ คริสลัลยังได้เปิดตัวบรรจุภัณฑ์ขวดพีอีทีดีไซน์ใหม่เป็นภูมิภาคแรกในประเทศ ซึ่งถือเป็นการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ด้วยการเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ของขวดคริสตัล ด้วยลวดลายของผลึกคริสตัลบนขวดน้ำที่เน้นให้ดูมีมิติ สะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูมีความทันสมัยมากขึ้น ทั้งยังมีฉลากผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอมาตรฐาน NSF ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดขายให้เด่นชัดกว่าเดิม เพื่อความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคว่ากำลังเลือกดื่มน้ำดื่มที่มีคุณภาพสูง
“การขยายสายการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดของคริสตัล เพื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายในปี 2560 ด้วยการเปิดสายการผลิตแห่งใหม่ที่จังหวัดขอนแก่น รวมทั้งการปรับโฉมบรรจุภัณฑ์น้ำดื่มคริสตัลในครั้งนี้ จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งในการกระจายสินค้า เพิ่มยอดขายในภาคอีสาน และสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดโดยรวม ทำให้คริสตัลขึ้นเป็นแบรนด์น้ำดื่มอันดับ 1 ของประเทศไทย รวมทั้งเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันและสร้างการเติบโตให้กับกลุ่มธุรกิจเครื่องดี่มไม่มีแอลกอฮอล์ ให้บรรลุวิสัยทัศน์ 2020 ของไทยเบฟ นายวิเวกกล่าวทิ้งท้าย
]]>สำหรับไทยเบฟฯ นั้นได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรเล็กน้อยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยให้ทางเสริมสุขเป็นฝ่ายที่รับผิดชอบด้านการผลิตและจัดจำหน่าย ส่วนทางบริษัท ไทยดริ้งค์ จะดูทางด้านการตลาดของสินค้าในเครือ ทำให้ในตอนนี้มีสินค้าหลักในเครือทั้งหมด 7 แบรนด์ ได้แก่ คริสตัล, เอส, โออิชิ, 100 พลัส, จับใจ, แรงเยอร์ และพาวเวอร์พลัส
โดยที่ให้ “วิเวก ซาห์บรา” ควบที่นั่ง 2 ตำแหน่งด้วยกัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด สาเหตุหลักก็คือการนำ 2 หน่วยงานเข้ารวมกัน เพื่อความคล่องตัวในการทำธุรกิจที่จะช่วยลดขั้นตอนในการตัดสินใจไปได้อีกมาก
ในปีนี้เสริมสุขได้จัดทัพ 4 สินค้าหลักที่เป็นไฮไลต์ ได้แก่ เอส, คริสตัล, โออิชิ และ 100 พลัส เพื่อสู้ศึกในตลาด เพราะสินค้าทั้ง 4 แบรนด์อยู่ในตลาดใหญ่ มีมูลค่าสูง แบรนด์มีโอกาสเยอะ โดยเน้นในเซ็กเมนต์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเป็นพิเศษ ในปัจจุบันมีน้ำดื่มคริสตัล และ 100 พลัสที่อยู่ในกลุ่มนี้ เพราะด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มเบนเข็มมาทางเครื่องดื่มสุขภาพมากขึ้น ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการขายจากกลุ่มนี้จากเดิม 56% ให้เป็น 70% ภายในปี 2564
วิเวก ซาห์บรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปีนี้เราโฟกัสอยู่ที่ 4 แบรนด์ของเราก็คือ เอส คริสตัล โออิชิ และ100 พลัส เพราะมีการเติบโตที่ดี อยู่ในตลาดที่ใหญ่ ในช่วงไตรมาสที่ 1 มีการเติบโตดีทุกตัว แต่ต้องมีการจัดแคมเปญอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้บริโภคจดจำได้”
ใน 1-2 ปีนี้มีการลงทุนในการสร้างไลน์การผลิตเพิ่มเติม ในเดือนมิถุนายนจะเปิดที่ขอนแก่น และที่จังหวัดดสุราษฎ์ธานีในปี 2560 ด้วยงบลงทุนฉลี่ยปีละ 300-500 ล้านบาท
เสริมสุขแตรียมนำแบรนด์ “แรงเยอร์” กลับมาทำตลาดอีกครั้ง หลังงานที่ได้ได้ซื้อมาราว 2 ปีได้แล้ว เพราะต้องการมาเติมเต็มพอร์ตสินค้าให้ครอบคลุมทุกตลาด แต่ก็ไม่ได้แอคทีฟในการทำตลาดมากนัก ซึ่งในปีนี้จำมีการบุกหนักมาขึ้น เพราะมองเห็นโอกาสทั้งในเรื่องการดื่มของผู้บริโภค ซึ่งในครั้งนี้ได้ใช้กลยุทธ์ที่ถนัดมาตลอดก็คือการจัดจำหน่าย เพราะเสริมสุขเองก็แข็งแกร่งในเรื่องนี้ อาจจะใช้กลยุทธ์ในการขายพ่วงที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว หลังจากนี้ก็ต้องสร้างแบรนด์ สร้างการรับรู้ของแบรนด์ให้มากขึ้นด้วย
อีก 2 ปีจะมีสินค้าใหม่ในกลุ่มนมถั่วเหลืองและน้ำผลไมเข้ามาเสริมอย่างแน่นอนเป็นเครื่องดื่มจากทางเอฟแอนด์เอ็มเพื่อขยายตลาดไปสู่เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่กำลังเป็นกะแสอยู่ในตอนนี้
ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2016 เสริมสุขมีการเติบโต 15% และเอสยังครองส่วนแบ่งตลาด 10% คริสตัลครองส่วนแบ่งตลาด 17.3% โออิชิ ครองส่วนแบ่งตลาด 43% มีกำไรก่อนหนักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อม 87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 226%
]]>บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเสริมสุข ได้อนุมัติการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เครื่องดื่มแรงเยอร์ (2008) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง “แรงเยอร์” และ “พาวเวอร์ พลัส” โดยเสริมสุขจะซื้อหุ้นสามัญจำนวน 20 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 100 ของหุ้นที่ชำระแล้วของแรงเยอร์จากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ด้วยมูลค่าการเข้าซื้อกิจการเป็นจำนวนเงิน 248 ล้านบาท โดยจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือนพฤศจิกายน 2555
ฐิติวุฒิ์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ดีลการซื้อหุ้นครั้งนี้ เพื่อต้องการต่อยอดธุรกิจ ในตลาดเครื่องดื่มไม่อัดลม โดยเซ็กเม้นท์เครื่องดื่มชูกำลังมีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ สัญญาการเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าเครื่องดื่มชูกำลังภายใต้เครื่องหมายการค้า “คาราบาวแดง” ระหว่างเสริมสุขและบริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด ได้สิ้นสุดลงในวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา รวมเป็น10 ปี
การสับเปลี่ยนการถือหุ้นในบริษัทเครื่องดื่มแรงเยอร์ (2008) จากไทยเบฟฯ มาถือหุ้นโดยเสริมสุข จึงเท่ากับเป็นการเติมพอร์ตเครื่องดื่มให้กับเสริมสุข เพื่อมาชดเชยกับสัญญาการเป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง “คาราบาวแดง” ที่กำลังสิ้นสุดลง
เช่นเดียวกับที่สัญญาการจัดจำหน่าย เป๊ปซี่ ที่กำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ เสริมสุขได้ร่วมมือกับโออิชิ (ในเครือไทยเบฟ) ผลิตและจัดจำหน่าย ชาเขียวโออิชิ ชนิดขวดแก้ว แบบคืนขวด เพื่อเจาะช่องทางร้านอาหาร และร้านตู้แช่ทั่วไป 2 แสนแห่งทั่วประเทศ ยอดขายจากร้านอาหารมีสัดส่วนถึง 8,000 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดน้ำอัดลม 3.5 หมื่นล้านบาท เพื่อมาเสริมพอร์ต เครื่องดื่มอัดลม ขณะเดียวกัน ช่องทางร้านอาหาร และตู้แช่ก็เป็นช่องทางจำหน่ายหลักของเสริมสุขมาโดยตลอด
บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์เครื่องดื่มหนึ่งเดียวของเสริมสุข ทุ่มงบ 40 ล้านบาท รุกตลาดน้ำดื่ม เร่งเปิดไลน์การผลิตน้ำดื่มคริสตัล เพื่อตอบสนองความต้องการดื่มน้ำสะอาดในตลาดภาคใต้ให้รวดเร็วขึ้น พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาภาคต่อให้ทุกคนดูดีในสายตาของคนรอบข้างง่ายๆ ด้วยน้ำดื่มคริสตัล
นายปริญญา เพิ่มพานิช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและปฏิบัติการขาย บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมาน้ำดื่มคริสตัลของเสริมสุข ประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องของยอดขายที่มีอัตราการเติบโตสูงมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์อย่างต่อเนื่อง สูงกว่าการเติบโตของตลาดน้ำดื่มโดยรวมที่มีเพียง 3 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ความสำเร็จที่ผ่านมาดังกล่าว เป็นผลมาจากการที่ผู้บริโภคมั่นใจและเชื่อถือในความสะอาดและเทคโนโลยีการผลิตทันสมัย ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตจากสถาบัน NSF International แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ต้องผ่านมาตรฐานในการตรวจสอบของมาตรฐานมากถึง 320 ข้อ มากกว่ามาตรฐานปกติของน้ำดื่มภายในประเทศที่ตรวจสอบเพียงแค่ 120 หัวข้อเท่านั้น ควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมการตลาดที่ต่อเนื่องและโดนใจผู้บริโภค
“เพื่อต่อยอดความสำเร็จที่ผ่านมา ผนวกกับกระแสการบริโภคน้ำดื่มสะอาดที่เพิ่มมากขึ้นของคนไทยทั่วประเทศ เราจึงตอบสนองตลาดด้วย 2 กลยุทธ์ ได้แก่ 1) การผลิตสินค้าให้ทันความต้องการในการบริโภคทั่วประเทศ ด้วยการเพิ่มไลน์การผลิตน้ำดื่มที่ทันสมัย ที่โรงงานสุราษฎร์ธานี พร้อมทั้งร่วมกับบริษัทคู่ค้าหาแหล่งผลิตบรรจุภัณฑ์พีอีทีในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อช่วยย่นระยะทางการขนส่งตลาดในเขตภาคใต้ได้อย่างรวดเร็วทันความต้องการมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยลดภาระรายจ่ายด้านการขนส่งตรงจากโรงงานปทุมธานี ไปถึงภาคใต้ อันเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพพร้อมๆ กับลดต้นทุนไปในเวลาเดียวกัน”
“2) กลยุทธ์ด้านการสื่อสารที่โดนใจผู้บริโภค ที่เป็นการต่อย้ำแบรนด์คอนเซปต์ “เทคนิคดูดี” ของน้ำดื่มคริสตัล ด้วยการออกภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “แรงดึงดูด” ที่สะท้อนถึงอินไซค์ผู้บริโภคที่ว่าการดูแลตัวเองจากภายใน ด้วยการดื่มน้ำที่สะอาดปลอดภัยเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้ตัวเองดูดี ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ และประโยชน์ของการดูแลสุขภาพด้วยการดื่มน้ำสะอาด”
“เราเชื่อว่าการตอบโจทย์ความต้องการทั้งด้านการผลิตและการสื่อสารที่โดนใจ จะสามารถสร้างความแข็งแกร่งและสร้างความเติบโตให้กับแบรนด์น้ำดื่มคริสตัล และช่วยตอกย้ำจุดยืนของเสริมสุขในการเป็นบริษัทเครื่องดื่มเต็มรูปแบบที่ตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภค” นายปริญญากล่าวทิ้งท้าย