เอปสัน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 16 Dec 2022 08:15:12 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘เอปสัน’ ประกาศเลิกขาย ‘เครื่องพิมพ์เลเซอร์’ ภายในปี 2023 หวังช่วยลดโลกร้อน https://positioningmag.com/1412667 Fri, 16 Dec 2022 05:43:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1412667 จากผลการสำรวจปริมาณการใช้พลังงานของสำนักงานทั่วไปพบว่า การใช้เครื่องพิมพ์ นั้นกินพลังงานมากเป็นอันดับ 4 รองจากเครื่องปรับอากาศ ไฟ และคอมพิวเตอร์ ขณะที่ เครื่องพิมพ์เลเซอร์ นั้นใช้พลังงานมากกว่า เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท ดังนั้น เอปสัน (Epson) จึงประกาศว่าจะยุติการจัดจำหน่ายเครื่องพิมพ์เลเซอร์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปี 2023

จุนคิชิ โยชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจเครื่องพิมพ์ บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น อธิบายว่า หนึ่งในเหตุผลที่ เอปสัน ตัดสินใจยุติการจำหน่ายและกระจายสินค้าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ก็เพราะวิสัยทัศน์ใหม่ Epson 25 Renewed รวมถึงเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ เป็นลบและไม่มีการใช้ทรัพยากรใต้ดินให้ได้ภายในปี 2050

ดังนั้น เอปสันจึงพยายามที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ การให้บริการ และซัพพลายเชน รวมทั้งนำระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ยั่งยืนเข้ามาใช้ และลงทุนกับกระบวนการใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ที่ผ่านมา เอปสันหันไปพัฒนาเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทที่สามารถสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในระยะยาวได้มากกว่า

สำหรับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทของเอปสันนั้นมีเทคโนโลยี Heat-Free ที่สามารถช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ได้มากถึง 85% ดังนั้น เอปสันจึงเตรียมยุติการจำหน่ายและกระจายสินค้าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในสิ้นเดือนธันวาคมปี 2023 โดยจากนี้จะขายเฉพาะเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทเท่านั้น

ยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเครื่องพิมพ์ทั่วโลกกำลังไปที่ตลาดอิงค์เจ็ท มีเพียงตลาดเกิดใหม่ที่เครื่องพิมพ์เลเซอร์ยังเติบโตได้ อย่างไรก็ตาม หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ลูกค้ายังไม่เปลี่ยนจากเครื่องพิพม์เลเซอร์มาเป็นอิงค์เจ็ทเพราะ ภาพจำ เนื่องจากผ่านมา อิงค์เจ็ทมีข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นความเร็วที่น้อยกว่าเลเซอร์ คุณสมบัติกันน้ำต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเทคโนโลยีของอิงค์เจ็ทล้ำหน้าเลเซอร์แล้ว และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้เอปสันพยายามสื่อสารไปยังตลาด หรือลูกค้าให้เปลี่ยนมาใช้เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท

“เราคงฟันธงไม่ได้ว่าอิงค์เจ็ทจะแทนที่เลเซอร์ 100% ได้เมื่อไหร่ แต่สินค้าเราตอนนี้มีพร้อมที่จะแทนที่ได้ ตอนนี้ขึ้นอยู่กับลูกค้าแล้วว่าพร้อมที่จะเปลี่ยนไปอิงค์เจ็ทได้เมื่อไหร่ ซึ่งปัจจุบันความสามารถของอิงค์เจ็ทมันดีกว่าเลเซอร์ไปแล้ว และไลน์อัพสินค้าเรามีครบ สามารถทดแทนเครื่องพิมพ์เลเซอร์ได้ 100%”

แม้ว่าเอปสันจะตั้งเป้ายกเลิกการจำหน่ายเครื่องพิมพ์เลเซอร์ แต่บริษัทจะยังซัพพอร์ตลูกค้าเดิม โดยจะซัพพอร์ตหมึกไปอีก 7 ปี และซัพพอร์ตอะไหล่อีก 6 ปี อย่างไรก็ตาม เอปสันมองว่าคงออกมาตรการใหม่ ๆ มารองรับลูกค้าเรื่อย ๆ จนกว่าสินค้าจะหมดอายุขัย

“ทั่วโลกพูดถึง Paperless มานาน แต่ปัจจุบันก็ยังทำไม่ได้ และในหลายส่วนมีการพิมพ์ที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีความต้องการในหลายอุตสาหกรรม อาทิ โลจิสติกส์ การเงิน และการศึกษา ที่ยังไม่สามารถไปดิจิทัลได้ 100% ดังนั้น เราจึงพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างเทคโนโลยีการสแกน เทคโนโลยีการรีไซเคิลกระดาษที่ใช้น้ำน้อยกว่าคู่แข่งถึง 99%”

]]>
1412667
‘วัด-พิพิธภัณฑ์’ น่านน้ำใหม่ขาย ‘โปรเจคเตอร์’ ตัวแพงของ ‘เอปสัน’ https://positioningmag.com/1410119 Sun, 27 Nov 2022 05:43:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1410119 หากพูดถึงตลาด ‘โปรเจคเตอร์’ หลายคนคงหวนนึกถึงตอนเป็นนักเรียน-นักศึกษา แต่เมื่อปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาทดแทน อย่าง จอกระดานอัจฉริยะ เอปสัน ที่เป็นเบอร์ 1 ในตลาดเลเซอร์โปรเจคเตอร์ ก็ได้ออกมายอมรับว่าตลาดกลุ่มการศึกษานั้นหดตัวอย่างมาก ดังนั้น เอปสันจึงหันไปโฟกัสที่ตลาดพรีเมียม ที่เอาไปใช้ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมากขึ้น

ตลาด Entry ดร็อป บอลโลกก็ไม่ช่วย

ยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน ตลาดเลเซอร์โปรเจคเตอร์กำลังเข้ามาแทนที่โปรเจคเตอร์แบบหลอดภาพ จากในปี 2558 เลเซอร์โปรเจคเตอร์มีสัดส่วนเพียง 4% แต่ปัจจุบันมีสัดส่วนถึง 86%

โดยตลาดเลเซอร์โปรเจคเตอร์ปีนี้คาดว่าจะมีจำนวน 42,500 เครื่อง โดยจะแบ่งตลาดตามความสว่าง ได้แก่

  • ความสว่าง 2,000-5,000 ลูเมน (ความสว่างต่ำ, Entry) 76%
  • ความสว่าง 5,000 ลูเมนขึ้นไป 8%
  • ความสว่าง 5,000 ลูเมนขึ้นไป เปลี่ยนเลนส์ได้ (High Brightness) 2%
  • ใช้ภายในบ้าน (Home) 6%
  • อื่น ๆ 6%

ในด้านการเติบโตของจำนวน คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 5% เนื่องจากตลาด Entry ที่มีสัดส่วนใหญ่สุดนั้นเริ่มดร็อป เนื่องจากส่วนใหญ่จะใช้ในโรงเรียน, ห้องประชุม แต่ตอนนี้มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาทดแทน นอกจากนี้ก็มีกลุ่มร้านอาหาร เช่น ร้านหมูกระทะ ซึ่งปกติช่วงบอลโลกจะกระตุ้นยอดมาก แต่ปีนี้กลับไม่ค่อยหวือหวา

“เมื่อก่อนตลาดโปรเจคเตอร์ใหญกว่านี้ เพราะมีตลาดการศึกษา แต่ตอนนี้ลดลงเรื่อย ๆ เพราะเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีอื่น หรือปกติมีบอลโลกร้านอาหารจะเปลี่ยนใหม่เลย เพราะเครื่องละไม่กี่หมื่นบาท แต่บอลโลกปีนี้ไม่แน่ใจว่าคนไม่ค่อยสังสรรค์หรือร้านหมูกระทะปิดตัว ทำให้ตลาดไม่ค่อยหวือหวา”

‘วัด-พิพิธภัณฑ์’ น่านน้ำใหม่

แม้ในด้านจำนวนจะเติบโตน้อย แต่ในด้าน มูลค่า คาดว่าจะเติบโตได้ 10% มีมูลค่าราว 1,340 ล้านบาท เนื่องจากกลุ่ม High Brightness เป็นกลุ่มที่มีการเติบโตมากที่สุด โดยปัจจุบันกลุ่ม High Brightness แม้จะมีสัดส่วนในด้านจำนวนเพียง 2% แต่ในแง่มูลค่ามีสัดส่วนถึง 31% ส่วนกลุ่ม Entry มีสัดส่วนด้านมูลค่า 40%

“กลุ่ม High Brightness แม้มีจำนวนน้อยแต่มูลค่าสูงมาก เพราะราคาเริ่มต้นที่ 5 แสน – 10 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตเรื่อย ๆ”

ปัจจุบันที่ทำให้กลุ่ม High Brightness เติบโตขึ้นเนื่องจากภาคการ ท่องเที่ยว ฟื้นตัว เนื่องจากโปรเจคเตอร์กลุ่ม High Brightness ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่สามารถฉายภาพบนพื้นผิวที่ไม่เรียบได้ ดังนั้น จะถูกนำไปใช้ในการแสดงแสง สี เสียง เพิ่มความตื่นตาตื่นใจ ดึงดูดผู้ชม อาทิ การ Mapping อาคารต่าง ๆ

สำหรับกลุ่มลูกค้าของเอปสันในปัจจุบัน หลัก ๆ จะเป็นโรงแรม, พิพิธภัณฑ์, ศูนย์การประชุมขนาดใหญ่ และ วัด นอกจากนี้ยังเห็นเทรนด์ในอีกหลายอุตสาหกรรม เช่น รีเทล และ ร้านอาหาร

“ตอนนี้เราเห็นวัดใช้ไปฉายภาพบนกำแพงหรือโบราณสถานเพื่อบอกเล่าเรื่องราว นอกจากนี้ เทรนด์ของกลุ่มรีเทลก็กำลังมา อย่างในอิเกียต่างประเทศก็มีการใช้ฉายภาพลงบนเฟอร์นิเจอร์ เพื่อจำลองแนวทางการออกแบบการตกแต่งบ้าน”

จากการเติบโตดังกล่าว ดังนั้น ทิศทางของเอปสันจากนี้จะเน้นเจาะไปที่กลุ่ม High Brightness เพื่อรักษาตำแหน่ง เบอร์ 1 ในตลาดเลเซอร์โปรเจคเตอร์ ครองส่วนแบ่งตลาด 38% ล่าสุดได้เปิดตัวโปรเจกเตอร์พร้อมกัน 3 รุ่นในซีรีส์ EB-PU2200 ได้แก่ รุ่น EB-PU2213B ที่มีความสว่าง 13,000 ลูเมน, รุ่น EB-PU2216B ความสว่าง 16,000 ลูเมน และรุ่นไฮไลต์ EB-PU2220B ความสว่าง 20,000 ลูเมน

]]>
1410119
ผ่ากลยุทธ์เอปสัน “แย่งแชร์คู่แข่ง-กินตลาดทดแทน” ทางรอดธุรกิจพรินเตอร์ ในยุคผู้บริโภคเมินการพิมพ์บนกระดาษ https://positioningmag.com/1159548 Thu, 01 Mar 2018 23:15:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1159548 โลกของดิจิทัลได้ Disrupt ธุรกิจหลายเซ็กเตอร์ หนึ่งในนั้นคือธุรกิจ “พรินเตอร์” เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภค องค์กรธุรกิจต่างๆลดใช้ “กระดาษ” น้อยลง ทำให้ช่วง 2- 3 ปีที่ผ่านมา ตลาดพรินเตอร์มูลค่า 1.3 ล้านเครื่อง หรือประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท อยู่ในภาวะ “ทรงตัว” ต่อเนื่อง

“เอปสัน” หนึ่งในผู้เล่นตลาดพรินเตอร์รายสำคัญ จึงต้องหาทางสร้างการเจริญเติบโตให้ธุรกิจทั้ง กลุ่ม โดยเฉพาะธุรกิจพรินเตอร์ ซึ่งเป็นเรือธงที่ทำรายได้สูงสุดให้บริษัทสัดส่วน 80% ขณะเดียวกันก็พยายามหา “โอกาส” จากสินค้าพระรองทั้ง โปรเจคเตอร์ และหุ่นยนต์แขนกลเพื่อเข้าทำตลาดเพิ่มเติมด้วย

“ยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไปด้านการขาย ผลิตภัณฑ์ และการตลาด บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด ฉายภาพการขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2561 สำหรับกลุ่มเครื่องพิมพ์ (พรินเตอร์) พฤติกรรมผู้บริโภครายย่อยมีการใช้พิมพ์กระดาษ พิมพ์ภาพน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะคนยุคนี้เก็บรูปไว้ในระบบดิจิทัล มือถือ และโลกโซเชียลกันหมดแล้ว เมื่อตลาดขาลงก็ต้องหันไปโฟกัสลูกค้าที่เป็น “องค์กร” มากขึ้น เพราะยังมีโอกาสให้เข้าไปเก็บเกี่ยวยอดขาย

ถึงแม้ว่าองค์กรก็เริ่มให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนกระดาษ นโยบายใช้กระดาษน้อยลง แต่บริษัทเหล่านั้นก็ยังมองหาพรินเตอร์อิงเจ็ทที่มีคุณภาพ ราคาเหมาะสม พิมพ์เร็ว ซึ่งเอปสันมีผลิตภัณฑ์ที่มีฟังก์ชันหลากหลายสนองความต้องการได้ รวมถึงการมองโอกาสเข้าไปแทนที่พรินเตอร์เลเซอร์ และเครื่องถ่ายเอกสารมากขึ้นด้วย

อีกตลาดที่น่าสนใจ คือตลาดดิจิทัลแล็บหรือร้านล้างอัดรูปต่างๆ ที่มีประมาณ 3,000 แห่งทั่วประเทศ แอคทีฟกว่า 2,000 แห่ง ที่บริษัทต้องนำสินค้าเข้าไปทดแทนเครื่องล้างอัดภาพให้ได้ เสนอต้นทุนการได้ผลลัพธ์ด้านภาพที่ “ถูกกว่า” ล้างอัดภาพแบบเดิม  

“โลกการพิมพ์จะเป็นยังไง ธุรกิจพรินเตอร์จะเจ๊งไหม? มองว่าทั้ง ยังจำเป็นต่อภาคธุรกิจ แต่รูปแบบการพิมพ์และเทคโนโลยีการพิมพ์จะเปลี่ยนไป ผู้ผลิตจะต้อง Disrupt ตัวเองก่อน เช่น อิงค์เจ็ทของเราพิมพ์ได้ 100 แผ่นต่อนาที อนาคตจะต้องพัฒนาให้พิมพ์ได้ 200 แผ่นต่อนาที และเราต้องไปกินตลาดเครื่องถ่ายเอกสาร ตลาดอื่นๆ มากขึ้น”   

การ Disrupt ตัวเองก่อนปัจจัยภายนอกมากระทบธุรกิจ ทำให้ต้องทุ่มงบใกล้เคียงปีก่อนที่ 5.4 หมื่นล้านเยน หรือคิดเป็น 5.2% ของรายได้ เพื่อวิจัยและพัฒนาสินค้า (R&D) นวัตกรรม มีประสิทธิภาพตอบสนองลูกค้าให้ได้

“ยรรยง มุนีมงคลทร” ผู้จัดการทั่วไปด้านการขาย ผลิตภัณฑ์ และการตลาด เอปสัน (ประเทศไทย)

ส่วนธุรกิจโปรเจคเตอร์ จะหาช่องว่างตลาดในกลุ่มโรงเรียน เพื่อนำสินค้าใหม่เลเซอร์โปรเจคเตอร์ซึ่งเป็นสินค้าระดับกลางบนเข้าไปแทนที่สินค้าเดิมมากขึ้น (Replace) รวมถึงการขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้าเจาะตลาดระดับแมสไปยังกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดเล็ก และใช้ตามบ้าน จากเดิมสินค้ากระจุกตัวและจับเฉพาะตลาดบน

และในปีนี้จะเห็นการเดิมเกมเชิงรุกคือกลุ่มหุ่นยนต์แขนกล เนื่องจากเทรนด์ภาคอุตสหากรรมต่างๆ ขานรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 นำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมาใช้ในสายการผลิตเพิ่ม นอกจากช่วยเรื่องประสิทธิภาพ ยังลดต้นทุนได้ด้วย ที่สำคัญ ประเทศไทยไม่ได้ใช้แรงงานข้มข้น (Labor intensive) เหมือนในเดิมอีกต่อไปแล้ว

ขณะที่กลยุทธ์การทำตลาดปีนี้วางไว้ ด้าน ได้แก่ 1.Customer Solutions รวมเทคโนโลยีและออกแบบสินค้า บริการเป็นโซลูชั่นให้ลูกค้าแต่ละรายโดยเฉพาะ เรียกว่าลูกค้าอยากได้แบบไหนก็สั่งได้เพื่อให้ตรงความต้องการจริงๆ 2.Customer Value พยายามสื่อสารตลาดชี้ให้เห็นถึงความคุ้มค่า ความน่าเชื่อถือ และประหยัด เมื่อใช้สินค้าของบริษัท เพราะยุคนี้ของดูต้องมาพร้อมราคาที่เหมาะสม จึงจะซื้อใช้ลูกค้าได้ 3.Convenience Channel ขยายตัวแทนจำหน่ายให้ครอบคลุมตลาดเป้าหมาย ข้อนี้สำคัญ เพราะถ้าลูกค้าต้องการซื้อสินค้า แต่ช่องทางไปไม่ถึง ก็ปิดโอกาสทำเงินทันที 4.Communications การสื่อสารตลาด และสร้างแบรนด์เป็นสิ่งจำเป็นมาก และข้อนี้ไม่ได้ทำกันระยะสั้นแล้วแจ้งเกิด แต่ต้องทำต่อเนื่องหลายปีจึงจะทำให้แบรนด์เข้าครองใจ (Top of Mind) ของผู้บริโภคได้

การจะขายสินค้าให้เติบโตข้ามคืนทำไม่ได้ เราต้องทำตลาดสร้างแบรนด์ให้ลูกค้ามั่นใจในผลิตภัณฑ์ การกระจายต้องเพิ่มการเข้าถึงไม่ใช่หาซื้อยาก มีบริการหลังการขาย สิ่งเหล่านี้ต้องสื่อสารต่อเนื่อง เพราะจะช่วยเสริมความมั่นใจว่าเราเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ” 

การทำตลาดและสร้างแบรนด์ยังช่วยขจัด Pain Point ของผู้บริโภคชาวไทยที่มองพรินเตอร์แบรนด์อิงค์เจ็ทมีจุดอ่อนทั้งคุณภาพการพิมพ์ ราคาหมึกที่ใช้พิมพ์แพง ให้เปลี่ยนวิธีการคิด (Mindset) ใหม่ด้วย  

จากแผนดังกล่าวเอปสันตั้งเป้ารายได้ปี 2561 เติบโต 7% แบ่งป็นตลาดในประเทศโต 5% และต่างประเทศภายใต้การดูแลของเอปสันได้แก่ ลาว กัมพูชา เมียนมา ปากีสถาน โต 15% จากปี 2560 รายได้เติบโต 7% แบ่งเป็นตลาดในประเทศโต 6% และตลาดต่างประเทศโต 14% โดยรวมกับรายได้จากเวียดนามด้วย.

]]>
1159548