แสตมป์ร้านสะดวกซื้อ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 10 May 2018 07:18:00 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ถอดบทเรียน 5 ปี “ลอว์สัน 108” ในไทย ต้องล้มลุกคลุกคลาน ฝ่าวงล้อมยักษ์ใหญ่ร้านสะดวกซื้อ เพื่อแจ้งเกิด! https://positioningmag.com/1169343 Wed, 09 May 2018 11:58:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1169343 แม้ “สห ลอว์สัน” ประกาศแคมเปญใหญ่ฉลอง 5 ปี ในการรุกธุรกิจค้าปลีกประเภท “ร้านสะดวกซื้อ” ในไทย ในชื่อ “LAWSON 108 : 5 Year Anniversary with Cinnamoroll” เพื่อสร้างสีสันให้กับตลาด มีการปรับกลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อดึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามาใช้บริการในร้านเพิ่ม ทว่าสถานการณ์ของ “เบอร์รอง” อันดับ 3 ยังเผชิญความยากลำบากในการขยายสาขา ทำตลาด และเพิ่มยอดขายอยู่ไม่น้อย

เมื่อถอดบทเรียน 5 ปีบน “สนามรบ Reatail” อย่าง “Convenience Store” ผู้บริโภคนไทยและญี่ปุ่นที่เป็น “พันธมิตร” ต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “เดินเกมผิด” ทำให้วิชั่นที่เคยวาดไว้เมื่อ 5 ปีก่อนที่ต้องการมีถึง 1,000 สาขา

ย้อนรอยราวปี 2556 ที่ LAWSON ร้านสะดวกซื้อที่มีสาขาเป็นอันดับ 3 ในประเทศญี่ปุ่น เข้ามาผนึก “เครือสหพัฒน์” ร่วมทุนตั้งบริษัทเพื่อเปิดร้านสะดวกซื้อแบรนด์ “ลอว์สัน 108” (LAWSON 108) ได้วางแผนขยายเปิดร้านเองและอาศัย “แฟรนไชส์” เป็นตัว “สปีด” เปิดร้านให้ทันคู่แข่งเบอร์ 1 และ 2 อย่างเซเว่น อีเลฟเว่นที่มีเกือบ 10,000 สาขาขณะนั้น (ปัจจุบันทะลุหมื่นแล้ว) และ “แฟมิลี่มาร์ท” ที่มี “พันสาขา”

ความได้เปรียบเวลานั้นของลอว์สัน 108 คือการได้แบรนด์ “108 Shop” ร้านสะดวกซื้อของสหพัฒน์ที่มีถึง 500 สาขา และดึงเพียง 200 สาขา มาเปลี่ยนเป็นแบรนด์ใหม่ร่วมลงทุน แต่ที่สุดสาขาก็ยังไม่มาก เพราะการฝ่าวงล้อม “ยักษ์ใหญ่” อย่าง “เซเว่น อีเลฟเว่น” ไม่ง่าย! เนื่องจากการเปิดสาขาแต่ละปีของเบอร์ 1 เรียกว่าออกตัวราว 500-700 สาขาต่อปี

เบอร์ 2 ที่ว่าแกร่งทั้งทุนหนา ทำเลทอง และแบรนด์ ยังหืดจับ! เบอร์ 3 ก็ต้องต่อคิวถ้าคิดจะขยับตำแหน่งขึ้น เพราะผู้นำคงไม่ยอม!

เวทิต โชควัฒนา (ซ้าย)

“เวทิต โชควัฒนา” กรรมการ บริษัท สห ลอว์สัน จำกัด บอกว่า 5 ปีที่ผ่านมาลอว์สัน 108 เผชิญอุปสรรคเยอะมาก อย่างแรกเลยคือการ “ค้นหาตัวตน” และ Positoning ของร้านสะดวกซื้อมีสาขาทั่วประเทศ หรือเป็น Mass กลับกันก็มองการเดินเกมแบบเจาะจง (Focus)

“เราพยายามแมส แต่ไม่ค่อยดี เลยหันมาโฟกัสทำตลาดว่าลอว์สัน 108 คือร้านที่มีสินค้าแปลกใหม่ สินค้าต้นตำรับจากญี่ปุ่น” นั่นจึงเห็นการเพิ่มสินค้า Original จากญี่ปุ่นเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นพุดดิ้งมันม่วงจากฮอกไกโด และดึงหมี “คุมะมง” มาทำแคมเปญการตลาดปีที่แล้ว ส่วนแคมเปญฉลอง 5 ปี ปีนี้นำสินค้าพุดดิ้งนมฮอกไกโด ราเมงฮอกไกโด ซอฟท์เสิร์ฟรสนมฮอกไกโดและรสข้าวโพดหวาน ชูส์ครีมนมฮอกไกโด พร้อมให้ชิงโชคไปเที่ยวฮอกไกโดด้วย

อีกโฟกัสคือ “กลุ่มเป้าหมาย” เมื่อไม่แมส ก็เลือกเจาะคนทำงาน (White Collar) เพราะกลุ่มนี้กำลังซื้อสูง ทำให้สามารถขายสินค้าได้ตลอดทั้งวัน และนั่นทำให้การขยายสาขาจึงเกาะติดผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเข้าไว้ ทั้งย่านอาคารสำนักงาน (ออฟฟิศ) รถไฟฟ้าบนดินใต้ดิน และแอร์พอร์ตลิงก์ และที่อยู่อาศัยนั่นเอง ส่วนสาขาที่จะเปิดทั่วไทยแมสๆ ก็เบรกไว้ก่อน

อีกแหล่งที่มีคนทำงานแม้จะไม่ใส่สูทผูกไท แต่ “โรงงาน” ก็เป็นอีกโอกาสทำเงิน จึงมีการเปิดสาขาที่จังหวัดชลบุรี

สินค้าและสาขาเป็นหัวใจแล้ว ที่ขาดไม่ได้คือ “การตลาด” ซึ่งฉลอง 5 ปีทั้งที “พลิกเกมรบ” ได้เปลาะหนึ่ง ตีโจทย์การรุกร้านสะดวกซื้อแตกแล้ว จึงดึง Loyalty Program “สะสมแสตมป์” และคาแร็กเตอร์การ์ตูน “ซินาโมโรล” (Cinnamoroll) ลิขสิทธิ์แท้จากซานริโอ มาให้สาวกได้สะสมแลกของรางวัล

“การใช้กลยุทธ์แสตมป์มาทำตลาด เพราะเบอร์ 1 เขาได้ Educate ตลาดไว้แล้ว จึงทำให้เอื้อต่อการกระตุ้นตลาด” 

ด้าน “โคอิชิ ฮิโรเซะ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สห ลอว์สัน จำกัด เล่าบทเรียนในการทำร้านสะดวกซื้อในไทยหลังจากยกโมเดลความสำเร็จในญี่ปุ่นมาใช้ที่ไทย ทำให้พบว่ายังทำการบ้านและเจาะ Insight ตลอดจนตลาดยังไม่ดีพอ การแข่งขันค้าปลีกไซส์เล็กก็ยากมาก ยังมีปัจจัยด้านเศรษฐกิจกำลังซื้อถาโถมอีก ส่งผลให้การขยายตัวยังห่างไกลความสำเร็จและเป้าที่วางไว้

5 ปีของลอว์สัน 108 ในประเทศไทย ภาพไม่เหมือนที่มองไว้ตอนแรกเลย และสิ่งที่ตั้งไว้วันแรกกับตอนนี้ เราทำสำเร็จ 20% เท่านั้น

บริษัทจึงปรับแผนธุรกิจ และเห็น Positioning ของตัวเอง ในการเปิดสาขาด้วยการโฟกัสทำเลในเมือง ย่านออฟฟิศ เจาะคนทำงาน นำสินค้าออริจินัลจากญี่ปุ่นมาสร้าง “จุดแข็ง” เพื่อเป็น “จุดขาย” จับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ปัจจุบันสินค้าต้นตำรับและตามฤดูกาลจากประเทศญี่ปุ่นมีขายในร้านราว 25-30% และอนาคตต้องการเพิ่มสัดส่วนให้มากขึ้น

การปรับดังกล่าวทำให้ยอดขายสินค้าบางสาขาเพิ่มขึ้น โดย 4 เดือนแรก ยอดซื้อต่อบิลของผู้บริโภคอยู่ที่ 50 บาท โต 7% หรือสขาเพลินจิต ทำเงินได้มากกว่า 80,000 บาทต่อวัน (ขนาดไม่เกิน 80 ตารางเมตร)

ปัจจุบันลอว์สัน 108 มีสาขา 102 สาขา สิ้นปีจะเปิดให้ครบ 123 สาขา และระยะยาวถึงปี 2563 จะขยายร้านปีละ 50 สาขา ซึ่งเป็นจำนวนที่ลดลงจากอดีตที่เคยตั้งเป้าเปิด 100 สาขาต่อปี แต่เมื่อพบว่าบางสาขาไม่ทำกำไร และมีคู่แข่งมาเปิดก็ต้องปิดไป แล้วหันไปโฟกัสลงทุนสาขาที่มีศักยภาพโตแทน

การสร้างแบรนด์สำคัญ ปีนี้ลอว์สัน 108 ได้ดึง “แจนจัง เจตสุภา เครือแตง” อดีตสมาชิกไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป “BNK48” และ “ทูตการท่องเที่ยวประจำจังหวัดฮอกไกโด” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์แคมเปญใหญ่ของปีเป็นเวลา 3 เดือน   

บทบทของทูตท่องเที่ยวล้วนตรงกับแบรนด์ลอว์สันที่มาจากญี่ปุ่น และแคมเปญก็เป็นธีมฮอกไกโด จึงคาดว่าจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดี นอกจากนี้ยัง “ติดใจ” ผลลัพธ์ที่ผ่านมาร้านเคยใช้สมาชิกคนอื่นๆ ในวง BNK48 อย่าง “ปัญ-ปัญสิกรณ์, โมบายล์ พิมรภัส และ เจน-กุลจิราณัฐ” มารีวิวสินค้าพบว่าทำให้ยอดขายสินค้านั้นๆ โตไม่ต่ำกว่า 20% และฐานแฟนคลับของลอว์สันบน Facebook เพิ่มจาก 1 แสนเป็น 1.3 แสนคน และสิ้นปีนี้คาดว่าจะแตะ 2 แสนคน เพราะเฉลี่ยทุกเดือนมีแฟนเฟจเพิ่มราว 1 หมื่นคน

ที่สำคัญเป็นการขยายฐาน “คนรุ่นใหม่ วัยรุ่น” ได้มากขึ้น จากลูกค้าหลักคือคนทำงานนั่นเอง

“ลูกค้าลอว์สันส่วนใหญ่ 70% เป็นผู้หญิง แต่โอตะของ BNK48 เป็นผู้ชายกว่า 60% การใช้แจนจังเป็นพรีเซ็นเตอร์ จึงช่วยเพิ่มทั้งฐานคนรุ่นใหม่ และผู้ชายให้เข้ามาบริการภายในร้าน” 

จากแผนธุรกิจข้างต้น “ฮิโรเซะ” คาดหวังว่าจะทำให้ธุรกิจของลอว์สัน พลิกฟื้นกลับมาทำรายได้เป็น “บวก” ภายในปี 2563 จากที่ผ่านมายอมรับว่าการลงทุนไปบรรทัดสุดท้าย (Bottom line) ยังเป็น “สีแดง” หรือติดลบ.

]]>
1169343
แสตมป์ฟีเวอร์ โลตัส เปิดศึกแสตมป์ส่งท้ายปี ด้วยเป็ด B.Duck- Buffy เพิ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า-ไอทีเติมแม่เหล็กของพรีเมียม https://positioningmag.com/1144838 Tue, 31 Oct 2017 08:37:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1144838 แคมเปญสะสมแสตมป์ ยังคงเป็นหนึ่งในกลไกการตลาดของร้านสะดวกซื้อยุคนี้ ที่ได้รับความนิยมต่อเนื่อง

การส่งแคมเปญแสตมป์รอบนี้ เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรสยังต่อยอดนำ B.Duck เป็ดน้อยสีเหลืองมาใช้ แต่เติมความสด ด้วย Buffy เป็ดน้อยสมาชิกในครอบครัว B.Duck

ศรีสกุล เลาหคุณากร รองกรรมการผู้จัดการ แผนกการตลาด เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส กล่าวว่า แคมเปญแสตมป์ ยังคงเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าที่จับจ่ายผ่านร้านค้าขนาดเล็กของเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส กว่า 1,500 แห่งทั่วประเทศ จากหลายๆ คอลเลกชั่น

สำหรับแคมเปญล่าสุดซึ่งเริ่มต้น 30ตุลาคมนี้ ได้นำคาแร็กเตอร์ใหม่มาเปิดตัวครั้งแรกในไทย “B.Duck- Buffy My Lovely Sister” ที่กำลังได้รับความนิยมในฮ่องกงซึ่งเป็นประเทศเจ้าของลิขสิทธิ์ ประกอบกับเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส ประสบความสำเร็จกับแคมเปญแสตมป์ B.Duck มาก่อนหน้านี้ จึงได้นำมาต่อยอดกับแคมเปญแสตมป์รอบใหม่

ส่วนของพรีเมียม ก็มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มขึ้น มีการนำเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าไอที มาสร้างแรงจูงใจเพิ่มเติมจากสินค้าประเภทของใช้ทั่วไป

ของพรีเมียม ประกอบไปด้วย ชุดเบนโตะ โดนใจ (มูลค่า590 บาท), กระเป๋าตะลอนโลก (มูลค่า 890 บาท), หม้อนึ่งอุ่นไอเลิฟ (มูลค่า 1,090 บาท), พาวเวอร์แบงก์แสนน่าดั๊ก (มูลค่า 1,690 บาท), ที่นอนบิ๊กเบิ้ม (มูลค่า 3,490บาท)

นอกจากนี้ คาดว่า คู่ค้าที่เป็นผู้ผลิตสินค้าจะนำสินค้ามาร่วมแคมเปญและเพิ่มจำนวนแสตมป์ที่ลูกค้าจะได้รับ ทำให้ลูกค้าสามารถแลกง่าย ได้เร็ว กว่าเดิม

กลยุทธ์แคมเปญแสตมป์ของเทสโก้ โลตัสครั้งนี้ ยังคงนำเอา “บีดัก” คาแร็กเตอร์การ์ตูนจากฮ่องกงมาใช้ เพราะได้รับการจดจำ และนิยมจากลูกค้าอยู่แล้ว ไม่ต้องโปรโมตมาก แต่ก็ต้องมีคาแร็กเตอร์ใหม่ที่อยู่ในตระกูลเดียวกันมาเพิ่มเพื่อไม่ให้จำเจ

นอกจากนี้ยังต้องเพิ่มความหลากหลายของพรีเมียม ด้วยสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า และไอที เพื่อให้แตกต่างและจูงใจมากยิ่งขึ้น

]]>
1144838
ศึกแสตมป์สนั่นร้านสะดวกซื้อ เซเว่นจัดดูโอ้ “ซานริโอ-ไลน์เฟรนด์” เทสโก้ฯ ติดใจคัมแบ็ก “โดราเอมอน” https://positioningmag.com/1098773 Mon, 01 Aug 2016 07:47:46 +0000 http://positioningmag.com/?p=1098773 ร้านสะดวกซื้อระเบิดศึกแสตมป์กันอีกครั้งในรอบปีนี้ โดยที่เซเว่นจัดหนักงัด 2 คาแร็กเตอร์ชื่อดัง “ซานริโอ” และ “ไลน์เฟรนด์” พร้อมผนึกพรีเซ็นเตอร์ตัวท็อป “ณเดชน์-ญาญ่า” ทางด้านเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส คัมแบ็กคาแร็กเตอร์สุดคลาสสิกตลอดกาลอย่าง “โดราเอมอน”

กลายเป็นแคมเปญคู่บุญสำหรับห้างค้าปลีกร้านสะดวกซื้อไปแล้วสำหรับ “แสตมป์” ที่กลายเป็นหมัดเด็ดในช่วงโลว์ซีซั่นในช่วงนี้ จากในตอนแรกผู้นำตลาดอย่างเซเว่นเป็นผู้ทำแคมเปญอยู่รายเดียว แต่ภายหลังได้เพิ่มการแข่งขันมากขึ้นเมื่อมีผู้เล่นรายอื่นลงมาทั้งเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส และแฟมิลี่มาร์ท

เซเว่นฯ จัดหนัก ดึง ณเดชน์-ญาญ่า ร่วมโปรโมต

ในปีนี้ดูเหมือนว่าเซเว่นจะจัดหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะได้ทุ่มทุนใช้คาแร็กเตอร์การ์ตูนมาประทับบนแสตมป์ถึง 2 คาแร็กเตอร์ โดยเลือกใช้คาแร็กเตอร์ “ซานริโอ” ที่นำทัพโดยเฮลโลคิตตี้ เคโระ แบดแบด เป็นต้น และคาแร็กเตอร์ “ไลน์เฟรนด์” จากแชตแอปพลิเคชั่นไลน์ นำทัพโดยบราวน์ โคนี่ แซลลี่ มูน เจมส์ เป็นต้น

2_stam

และเพิ่มดีกรีความปังมากขึ้นด้วย 2 พรีเซ็นเตอร์ตัวท็อปของวงการอย่าง “ณเดชน์” และ “ญาญ่า” ซึ่งเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับทรูมูฟ มาร่วมโปรโมตให้แคมเปญแสตมป์ปังยิ่งขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงการบุกหนักของเซเว่นในปีนี้ เพราะลำพังเพียงแค่คาแร็กเตอร์กับของพรีเมียมอาจจะไม่ดึงดูดใจมากพอ ต้องใช้ 2 พรีเซ็นเตอร์มาช่วยจุดกระแส

1_stam

ช่วงระยะเวลาแคมเปญของเซเว่น มีการแจกแสตมป์ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม – 25 พฤศจิกายน และแลกของพรีเมียมได้ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2559 เป็นระยะเวลามาตรฐานของเซเว่นเป็นประจำทุกปี

เทสโก้ กระหน่ำศึกแสตมป์ต่อเนื่องทั้งปี

ส่วนทางด้านของเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมามีการบุกตลาดด้วยแคมเปญแสตมป์ตลอดทั้งปี เรียกว่าจบแคมเปญหนึ่งต่อด้วยแคมเปญหนึ่งทันทีเลยทีเดียว และมีการใช้คาแร็กเตอร์ที่หลากหลายทั้งบีดั๊ก, มิกกี้เมาส์, ซูเปอร์ฮีโร่ และสนูปปี้

3_stam

แต่ที่เป็นคาแร็กเตอร์คู่บุญกับเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรสมากที่สุด เห็นจะเป็น “โดราเอมอน” ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่แคมเปญ เทสโก้จะต้องนำกลับมาคัมแบ็กเป็นประจำทุกปี โดยที่มีของพรีเมียมที่แตกต่างกันออกไป ในปีนี้เทสโก้ก็นำโดราเอมอนมาปัดฝุ่นอีกครั้ง เพราะด้วยความที่เป็นคาแร็กเตอร์ที่แมสมากที่สุด เข้าถึงได้คนทุกกลุ่ม ทุกเพศทุกวัย จึงกลายเป็นคาแร็กเตอร์อันดับหนึ่งของเทสโก้

แคมเปญแสตมป์ของเทสโก้ในปีนี้จะวางช่วงระยะเวลาที่แตกต่างจากของเซเว่น โดยการเริ่มก่อนสักระยะหนึ่ง แต่มีระยะเวลาที่สั้นกว่า มีระยะเวลาสะสมแสตมป์ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม – 12 ตุลาคม และแลกของพรีเมียมตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม – 19 ตุลาคม 2559

4_stamnew

แต่ในปีนี้ยังไม่เห็นความคืบหน้าของร้านสะดวกซื้ออีกแบรนด์หนึ่ง ก็คือ แฟมิลี่มาร์ท จากที่ปกติในช่วงเวลานี้จะเป็นสงครามแสตมป์เพื่อแย่งชิงผู้บริโภคกันแล้ว ต้องจับตาดูต่อไปว่าทางแฟมิลี่มาร์ทจะมีไม้เด็ดอะไรออกมาอีกหรือไม่

]]>
1098773
ถึงคิว “บีดั๊ก”เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส เทงบ 400 ล้าน เปิดศึกแสตมป์ รอบ 3 กระตุกยอดขายโค้งสุดท้ายปี 58 https://positioningmag.com/61810 Mon, 09 Nov 2015 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=61810

แสตมป์ อาวุธข้างกายที“เทสโก้โลตัส เอ็กซเพรส” ขาดไม่ได้ไปแล้ว เพราะหลังจากออกแคมเปญสะสมแสตมป์โดราเอมอน  ต่อด้วย แสตมป์มิกกี้ เมาส์ ที่เพิ่งจบแคมเปญไปไม่นาน ล่าสุด “เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส” ได้ออกแคมเปญสะสมแสตมป์ “B.Duck Be Playful”  เป็นลายการ์ตูนเป็ดเหลืองหรือ“บีดั๊ก (B.Duck)”จากฮ่องกงออกมาต่อเนื่องทันที

การออกแคมเปญครั้งนี้ เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส จะใช้งบลงทุน  400  ล้านบาท จากงบการตลาดทั้งปี 1,000 ล้านบาท เพื่อต้องการกระตุ้นยอดขายไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และรับกับเทศกาลปีใหม่

จักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการแผนกการตลาด เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส บอกว่า แคมเปญสะสมแสตมป์ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากลูกค้ามาตลอด  ที่สำคัญสามารถเพิ่มยอดขายและจำนวนการซื้อสินค้าในแต่ละครั้งก็เพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นจากปกติที่เคยจัดแคมเปญสะสมแสตมป์ปีละ 2 ครั้ง แต่ปีนี้ได้เพิ่มความถี่ในการจัดถึง 3 ครั้ง ซึ่งระยะเวลาแต่ละแคมเปญจะกิน 4 เดือน เท่ากับว่าเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส มีแคมเปญนี้ออกมาต่อเนื่องตลอดทั้งปี 

ในขณะที่คู่แข่งจะออกแคมเปญลักษณะเดียวกันนี้ จะทำแคมเปญออกมาเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น

เขา ยกตัวอย่าง สินค้าที่เข้าร่วมรายการเติบโตขึน เช่น แสตมป์โดราเอมอน  ( 5 มีนาคม- 24 มิถุนายน 2558) สามารถทำยอดขายให้กับสินค้าที่ร่วมรายการเติบโต 43%   ส่วนช่วงออกแสตมป์มิกกี้ เมาส์ (11 กรกฎาคม – 28 ตุลาคม 2558)  สินค้าร่วมรายการมียอดขายเติบโตถึง 99%  ซึ่งครั้งนี้เทสโก้ โลตัส ก็คาดว่าจะสามารถกระตุ้นยอดขายได้เป็นเท่าตัว โดยมีสินค้าเข้าร่วมรายการรอบนี้ 2,000 รายการ

นอกจากนี้ จากการสำรวจความต้องการผู้บริโภคยังพบด้วยว่า ช่วงเวลาที่มีแคมเปญสะสมแสตมป์นั้น สามารถกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาซื้อสินค้า และเพิ่มยอดขายในการซื้อที่เทสโก้ โลตัส เอ็กซเพรสเพิ่มขึ้น

แคมเปญสะสมแสตมป์การ์ตูน บีดั๊ก จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2558  ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2558 รวมเวลา 4 เดือน   เท่ากับว่า เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส มีแคมเปญสะสมต่อเนื่องตลอดทั้งปี มากกว่าคู่แข่งที่จัดปีละครั้ง

มีอะไรใหม่ในแคมเปญนี้

– ปรับโฉมสินค้าเฮาส์แบรนด์ ของเทสโก้ โลตัส 2 ชนิด คือ น้ำดื่ม และกระดาษทิชชู่ โดยใช้ลวดลายการ์ตูนบีดักมาใช้ โดยจะวางขายในโลตัส เอ็กซ์เพรส และในไฮเปอร์มาร์เก็ต

สินค้าเข้าร่วมโปรโมชั่นสะสมแสตมป์เพิ่มขึ้นจาก 1,400 เป็น 2,000 รายการ

– เพิ่มจำนวนแสตมป์ที่ได้รับ โดยสูงสุด 1,200 ดวง

– ร่วมกับคลับการ์ด ให้ลูกค้ารับแสตมป์เพิ่มมากขึ้น เช่น ข้าวสาร ได้แสตมป์ปกติ 30 ดวง ยังได้เพิ่มอีก 20 ดวง

 -เพิ่มสินค้าพรีเมียม ลายการ์ตูนบีดัก 5 ชนิด  คือ แก้วเซรามิคกล่องถนอมอาหาร (แสตมป์  85 ดวง + 1บาท) , เก้าอี้หนังเป่าลม (แสตมป์ 300 ดวง + 1 บาท) , ชุดผ้านวมและหมอน (แสตมป์  ชุดโต๊ะปิคนิค

เช่น การเลือกการ์ตูนบีดั๊ก ทั้งๆ ที่ไม่ได้ติด 1 ใน 5 การ์ตูนที่ผู้บริโภครู้จัก แต่เมื่อนำมาออกแบบสินค้าพรีเมียมแล้ว กลับดูโดดเด่นกว่าคาแรคเตอร์การ์ตูนอื่นๆ จึงทำให้เทสโก้ โลตัส เลือก
บีดั๊กมาออกแบบ

]]>
61810
ศึกสะสมแสตมป์ แชมป์ปีนี้จะเป็นของใคร? ริลัคคุมะ มิกกี้เมาส์ หรือ วันพีซ https://positioningmag.com/61103 Fri, 31 Jul 2015 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=61103

เดือดแน่! เมื่อ 3 ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น–เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส–แฟมิลี่ มาร์ท พร้อมใจกันเปิดศึกสะสมแสตมป์ ปีนี้ทั้ง 3 รายยอมทุ่มคว้าเอา “คาแร็กเตอรการ์ตูนดัง” มาใช้เป็น “แม่เหล็ก” เรียกลูกค้า หวังกระตุ้นกำลังซื้อท่ามกลางเศรษฐกิจซบเซา มาดูกันว่าระหว่าง “ริลัคคุมะ-มิกกี้ เมาส์-วันพีช ใครจะ “เปรี้ยง” กว่ากัน 

ฤดูล่าแสตมป์มาแล้ว

ในปีนี้ถือว่าเป็นการพร้อมใจสู้ศึกพร้อมกันทั้ง 3 เจ้าเลยทีเดียว ทั้ง “เซเว่น อีเลฟเว่น” “แฟมิลี่ มาร์ท” และ “เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส” เพื่อหวังกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคท่ามกลางเศรษฐกิจที่กำลังซบเซา ทำเอาอุตสาหกรรมค้าปลีกไม่สดใสมากนัก

ล่าสุด สมาคมผู้ค้าปลีกไทยได้ประเมินภาพรวมถึงตลาดค้าปลีกในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เติบโตเพียง 2.8% เท่านั้น และคาดการณ์ทั้งปีจะมีการเติบโตเพียง 3.2% ซึ่งเทียบเท่ากับปี 2557 โดยร้านค้าประเภทร้านสะดวกซื้อ และไฮเปอร์มาร์เก็ตค่อนข้างที่จะเติบโตน้อยที่สุดที่ 2.8% และ 1.8% ตามลำดับ เพราะกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าระดับกลาง-ล่าง เมื่อเกิดภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง กลุ่มผู้บริโภคกลุ่มนี้จึงได้รับผลกระทบมากที่สุด

ทำให้แคมเปญสะสมแสตมป์จึงกลายเป็นเครื่องมือการตลาดที่ร้านสะดวกซื้อทั้ง 3 ราย นำมาใช้เพื่อหวังจะกระตุ้นให้ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น มีการเข้าร้านถี่ขึ้น โดยการนำ “ของพรีเมียม” มาเป็นตัวช่วยจูงใจมากขึ้น

“เซเว่นฯ” ทุ่มงบพันล้าน คัมแบ็กคาแร็กเตอร์ “ริลัคคุมะ” 

“แสตมป์เซเว่น” ได้กลายเป็นแคมเปญคู่บุญของเซเว่น อีเลฟเว่น โดยที่จะสามารถสร้างปรากฏการณ์ “แสตมป์ฟีเวอร์” ได้ทุกครั้งไป ซึ่งเซเว่นเองได้จัดแคมเปญแสตมป์มาแล้ว 15 ปี ได้ใช้คาแร็กเตอร์การ์ตูนต่างๆ มากมาย เช่น โดราเอมอน,หมีพูห์ และมิกกี้ เมาส์ เป็นต้น

จนเมื่อช่วงหลัง แบรนด์เซเว่นกับแคมเปญแสตมป์ค่อนข้างจะแข็งแกร่งพอสมควร เซเว่นจึงตัดสินใจไม่อาศัยคาแร็กเตอร์การ์ตูนดัง และเปลี่ยนมาเป็นคอนเซ็ปต์ของแสตมป์รักเมืองไทย และแสตมป์เออีซี ในปีแรกยังอาศัยความฮอตของดารามาช่วยโปรโมตอยู่บ้าง อย่าง “เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี”, “ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร” และ “เจมส์ จิรายุ ตั้งสุขศรี”

แต่ในปีที่ผ่านมากับแสตมป์เออีซี ที่เซเว่นฯ ไม่พึ่งพาคาแร็กเตอร์การ์ตูน และไม่มีกระแสของดาราช่วยโปรโมต ทำให้แคมเปญแสตมป์ของเซเว่นดูจะไม่เปรี้ยงเท่าที่ควร กระตุ้นยอดขายไปได้แค่ 5% จากปกติแคมเปญแสตมป์สามารถกระตุ้นยอดขายให้เซเว่นในช่วง 4 เดือนที่จัดแคมเปญได้เฉลี่ย 5-10% 

ในปีนี้เซเว่นจึงต้องหวนคืนกลับมาใช้คาแร็กเตอร์การ์ตูน “ริลัคคุมะ” โดยทำการทุ่มงบการตลาดเกือบ 1,000 ล้านบาท ถือว่าสูงกว่าในปีก่อนๆ ถึง 10% เพื่อดึงกระแสแสตมป์ฟีเวอร์กลับมาเพื่อฟื้นกำลังซื้อที่กำลังซบเซาให้กลับมา 

เซเว่นได้เริ่มกระหน่ำโปรโมตผ่านช่องทางออนไลน์ในเฟซบุ๊ก ส่วนช่องทางออฟไลน์ได้โปรโมตผ่านช่องทางหนังสือพิมพ์ M2F ที่แจกฟรีทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ พร้อมกับให้คนแจกแต่งตัว ใส่หมวกเจ้าหมีริลัคคุมะเพื่อให้เข้าคอนเซ็ปต์ และนำของพรีเมียมมาวางเพื่อเป็นตัวอย่างอีกด้วย

ยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ตลาดค้าปลีกไม่ได้โตหวือหวาเหมือนเมื่อ 3-4 ปีก่อน การทำแคมเปญจึงไม่ใช่แต่เรื่องการลดราคา หรือตัดราคาอย่างเดียว แต่แคมเปญแสตมป์เราทำเพื่อกระตุ้นการซื้อให้ดีขึ้น โดยการนำคาแร็กเตอร์การ์ตูน และของพรีเมียมมาเป็นจุดสนใจ สร้างสีสันให้ตลาด และเราต้องการบอกกับผู้บริโภคทุกคนว่า เซเว่นเป็นเจ้าแห่งแสตมป์ตัวจริง”

เซเว่นเองเคยได้ใช้คาแร็กเตอร์หมีริลัคคุมะในแคมเปญแลกซื้อกระบอกน้ำมาแล้วในปี 2557 ที่ผ่านมา เป็นการแลกซื้อในราคาใบละ 65 บาท พร้อมคูปองกดเครื่องดื่มจากเครื่อง 7-select จำนวน 15 ใบ ทำให้เกิดกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์ไปทั่วโลกออนไลน์อยู่พักหนึ่งในการตามหากระบอกน้ำคอลเลกชันดังกล่าว 

ยุทธศักดิ์ ได้ให้เหตุผลให้การเลือกคาแร็กเตอร์ริลัคคุมะกลับมาอีกครั้งในฤดูสะสมแสตมป์ปีนี้ว่า “หมีริลัคคุมะเป็นคาแร็กเตอร์ที่มีชื่อเสียงมากในประเทศญี่ปุ่น คนไทยก็ชื่นชอบไม่แพ้กัน บุคลิกของริลัคคุมะจะรีแล็กซ์ สบายๆ หมีอบอุ่น เป็นมิตร ซึ่งเราต้องการสื่อสารถึงผู้บริโภคว่าเซเว่นมีความเป็นมิตร เป็นเพื่อนกับทุกคนเช่นกัน” ในปีนี้เซเว่นจึงมั่นใจกับการที่จะใช้คาแร็กเตอร์ริลัคคุมะอีกครั้ง เพราะได้เช็กกระแสไปในปีที่ผ่านมาแล้ว 

นอกจากจะเป็นการแจกแสตมป์เพื่อแลกของพรีเมียม 4 รายการ ได้แก่ หมอนผ้าห่มหมีฝันดี, ชุดถนอมอาหารจุใจ ชุดชั้นวางของ และเก้าอี้ริลัคคุมะแล้ว ยังร่วมมือกับพันธมิตรอย่างเครื่องครัวสแตนเลสซีกัล, ผลิตภัณฑ์เมลามีนซุปเปอร์แวร์ ในการใช้แสตมป์เพื่อแลกสินค้าต่างๆ ด้วย และเพิ่มการชิงโชคผ่านแอปพลิเคชัน 7-Eleven TH เพื่อลุ้นรถ MG3 ริลัคคุมะ 4 รางวัล และเที่ยวญี่ปุ่น 80 ที่นั่ง

“เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส” ใช้มิกกี้ เมาส์ท้าชน

แม้เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรสจะเพิ่งก้าวเข้ามาในสังเวียนแสตมป์ได้ไม่นาน แต่เรียกได้ว่ามีการอัดแคมเปญอย่างถี่ยิบ เฉลี่ยปีละ 2-3 แคมเปญเลยทีเดียว โดยการใช้คาแร็กเตอร์การ์ตูนดังที่เข้าถึงฐานลูกค้าระดับแมส อย่าง โดราเอมอน, ฮีโร แอนด์เฟรนด์, คิตตี้ มาจนถึงล่าสุดกับคาแร็กเตอร์ใหม่ แต่เข้าถึงทุกเพศทุกวัยอย่าง “มิกกี้ เมาส์” และ “มินนี่ เมาส์”

ทำให้แคมเปญแสตมป์กลายเป็นแคมเปญหลักของเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรสไปโดยปริยายไปแล้ว เพราะเพิ่งได้ใช้แคมเปญแสตมป์กับคาแร็กเตอร์โดราเอมอนไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี่เอง ที่มาพร้อมกับคลิปวิดีโอไวรัล “สิ่งเล็กๆ ที่สร้างรอยยิ้มได้”

สลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการ ฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า “แคมเปญแสตมป์สามารถช่วยกระตุ้นยอดการซื้อของผู้บริโภค และการกลับมาซื้อซ้ำได้อย่างชัดเจน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงที่ไม่มีแคมเปญการใช้แสตมป์ การใช้คาแร็กเตอร์ก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์หลายๆ ครั้งแล้วว่ามันประสบความสำเร็จ”

สลิลลาได้บอกเล่าถึงวิธีการเลือกคาแร็กเตอร์ในแต่ละครั้งต่อว่า “เราต้องการสร้างสีสันให้กับผู้บริโภคบ้าง ให้ผู้บริโภคไม่เบื่อ เพราะเราก็ได้ใช้คาแร็กเตอร์ตัวท็อปๆ มาแล้วทั้งนั้น ก็ต้องมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนบ้าง แล้วก็มาดูตัวการ์ตูนที่คนไทยชอบและรู้จักดี เป็นตัวการ์ตูนที่คนไทยรู้จักเป็นวงกว้าง เพราะกลุ่มลูกค้าเรามีทุกเพศทุกวัย  เลยมาเป็นมิกกี้ เมาส์”

ในครั้งนี้เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรสก็อัดโปรโมชันนอกเหนือจากการแจกแสตมป์เช่นกัน แต่เป็นสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ใช้คลับการ์ดที่เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรสทุกวัน และมียอดชอปรวมสูงสุด 5 ท่านแรก รับฟรีทริปไปเที่ยวกรุงเทพฯ – ฮ่องกง 3 วัน 2 คืน รางวัลละ 2 ที่นั่ง เรียกได้ว่าเป็นการจัดโปรโมชันครอบคลุมทุกช่องทางทั้งการกระตุ้นยอดขาย และการชิงรางวัล

คีย์ซัคเซสของแคมเปญนี้อยู่ที่ 3 ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ประสบความสำเร็จ 1.คาแร็กเตอร์ต้องเป็นที่รู้จักดี 2.ของพรีเมียมจะต้องถูกใจ ต้องมีเอกลักษณ์ ต้องแตกต่างจริงๆ หาซื้อที่ไหนไม่ได้ 3.ต้องแลกง่าย คือจำนวนแสตมป์ที่นำมาแลกต้องเป็นอะไรที่ลูกค้าเอื้อมถึง เราจึงเพิ่มแสตมป์โปรโมชันเข้ามา เพื่อให้ลูกค้าสะสมแสตมป์ได้เร็วขึ้น” สลิลลากล่าวปิดท้าย

 

“แฟมิลี่ มาร์ท” ขอแตกต่างด้วยการ์ตูนนอกกระแส “วันพีซ”

ในปีนี้ร้านสะดวกซื้อในเครือเซ็นทรัลอย่าง “แฟมิลี่ มาร์ท” ก็ขอผสมโรงเอาบ้าง โดยใช้คาแร็กเตอร์จากการ์ตูนดัง “วันพีซ” มาใช้ในแคมเปญ ซึ่งวันพีซไม่ถือว่าเป็นคาแร็กเตอร์นอกกระแสเลยซะทีเดียว แต่เรียกว่ามีผู้ชื่อชอบเฉพาะกลุ่มเสียมากกว่า 

แฟมิลี่ มาร์ทได้เริ่มใช้แคมเปญแสตมป์เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมานี้เอง แต่ได้ใช้คำว่า “สติกเกอร์” เริ่มต้นในปี 2556ด้วยคาแร็กเตอร์ “เฮลโล คิตตี้” หลังจากนั้นก็เริ่มสร้างสไตล์เป็นของตัวเองด้วยการนำคาแร็กเตอร์ยอดนิยม แต่ว่าแตกต่างจากผู้เล่นอื่นในตลาดมาใช้ โดยปีที่แล้วก็ได้ใช้คาแร็กเตอร์ B-Duck พร้อมสร้างกิมมิกเล็กๆ ด้วยรูปปั้นเป็ดตัวใหญ่หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพระรามเก้า เพื่อให้คนเข้ามาถ่ายรูป

ในปีนี้แฟมิลี่ มาร์ทได้เริ่มแคมเปญแสตมป์ หรือสติกเกอร์ก่อนใครเพื่อน เริ่มตั้งแต่ 25 มิถุนายน – 24 สิงหาคม 2558ถือว่าเป็นระยะเวลาที่น้อยกว่าผู้เล่นรายอื่นที่มีระยะเวลาของแคมเปญอยู่ที่ 4 เดือน รวมไปถึงของพรีเมียมที่มี 3 รายการเท่านั้น ในขณะที่รายอื่นมีของพรีเมียม 4-5 รายกการ 

แต่สิ่งที่แฟมิลี่ มาร์ทนำมาเป็นจุดเด่นได้ก็คือ การใช้คะแนนจาก The 1 Card มาใช้แลกของพรีเมียมได้โดยไม่ต้องใช้แสตมป์ เพียงแค่ซื้อสินค้าครบ 100 บาท ก็สามารถใช้คะแนนตั้งแต่ 1,200-2,000 เพื่อแลกของพรีเมียมวันพีซได้

ใส่กิมมิกกระตุ้นให้ซื้อง่ายขึ้น 

ดร.ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ได้ให้ความเห็นว่า ตามปกติแล้ว ร้านสะดวกซื้อมักจะใช้กลยุทธ์ “ราคา” มากระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย แต่ก็จำเป็นต้องมีแคมเปญอื่นๆ มากระตุ้นตลาด อย่าง การสะสมแสตมป์ ที่ถือว่าเป็นอีกแคมเปญหนึ่งที่สร้างกิมมิกตัวช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น 

]]>
61103
ศึกแสตมป์ "เออีซี" เซเว่นฯ ปะทะ "ซุปเปอร์ฮีโร่” โลตัส เอ๊กซเพรส https://positioningmag.com/58339 Mon, 01 Sep 2014 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=58339

ถึงแม้ปีนี้กระแส “แสตมป์จะไม่หวือหวา และฮือฮาเหมือนปีที่ผ่านมา แต่ “แสตมป์” ยังคงเปนเครื่องมือการตลาดชั้นดีของเหล่าบรรดาร้านสะดวกซื้อทั้งหลายนำมาใช้เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงโลว์ซีซั่นได้เป็นอย่างดี

รายใหญ่อย่างเซเว่นฯ ได้เริ่มใช้แคมเปญสะสมแสตมป์ยาวนานต่อเนื่องมาถึงปีที่ 15 แล้ว จากนั้น “โลตัส เอ็กซ์เพรส” ก็ขอเอี่ยวด้วยการเริ่มใช้แคมเปญสะสมแสตมป์ตั้งแต่ปีที่แล้ว เพียงแต่ไทม์ไลน์การออกแคมเปญคนละช่วงเวลากัน

ในปีนี้เองวงการร้านสะดวกซื้อต้องร้อนระอุอีกครั้ง เมื่อ 2 เจ้าใหญ่ “เซเว่น-โลตัส เอ็กเพรส” สู้ศึกด้วยไม้เด็ดแคมเปญ “แสตมป์” พร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย โดยที่รายละเอียดการล่าแสตมป์ของทั้ง 2 เจ้าไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ระยะเวลาของแคมเปญ 4 เดือนเท่ากัน คือตั้งแต่เดือนปลายเดือนกรกฎาคม – ปลายเดือนพฤศจิกายน แต่จะต่างกันที่คอนเซปต์ของแสตมป์

สำหรับเซเว่นฯ แล้ว แสตมป์ถือว่าแคมเปญท่าไม้ตายประจำปีเลยก็ว่าได้ โดยที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเซเว่นฯ ประสบความสำเร็จอย่างมากจากแคมเปญนี้ และสามารถสร้างกระแส “แสตมป์ฟีเวอร์” ให้เกิดขึ้นได้ทุกครั้ง ปีนี้เป็นถือเป็นปีที่ 15 แล้วที่เซเว่นฯ ได้จัดแคมเปญสะสมแสตมป์ มาพร้อมกับคอนเซปต์ของ “แสตมป์ AEC” เพื่อต้อนรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558

รูปแบบของแสตมป์ AEC ในปีนี้คือการนำเอาจุดเด่นของ 10 ประเทศในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เช่น การแต่งกายประจำชาติของแต่ละประเทศมาไว้ในแสตมป์ แต่เงื่อนไขรายละเอียดยังคงเดิมคือซื้อสินค้าครบ 50 บาท ได้รับแสตมป์ 1 ดวง และสามารถสะสมแสตมป์เพื่อใช้แทนเงินสด แลกของพรีเมี่ยม หรือใช้ทำบุญก็ได้

แต่ในครั้งนี้เซเว่นฯ เพิ่มลูกเล่นใหม่สำหรับนักล่าแสตมป์ คือ “แสตมป์จัดหนัก” แสตมป์มูลค่า 3 บาท จะมีสีสันที่แตกต่างจากแสตมป์มูลค่า 1 บาททั่วไป โดยที่แสตมป์จัดหนักจะมาพร้อมกับสินค้าที่จัดโปรโมชั่นเท่านั้น ในปีนี้ก็ยังคงมีบล็อกเกอร์ Arjin’s Blog ได้รวบรวมสูตรโกยแสตมป์ AEC อีกตามเคย สินค้าที่คุ้มค่าต่อการได้แสตมป์ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้มากที่สุดก็คือ พลาสเตอร์กันรองเท้ากัดไทเกอร์พล๊าส 1 กล่อง ราคา 35 บาท แต่ได้สแตมป์จัดหนัก 6 ดวง หรือมูลค่า 18 บาทเลยทีเดียว

สำหรับสมาชิกบัตร 7-Card และใช้จ่ายผ่านบัตร จะได้รับแสตมป์เป็น E-Stamp แทน คือแสตมป์จะเข้าระบบไปอยู่ในบัตรโดยอัตโนมัติ แต่สามารถใช้แทนเงินสด แลกของพรีเมี่ยม และทำบุญได้ตามปกติ สิ่งที่ตามมาคือผลตอบรับจากผู้บริโภคที่ยังรู้สึกเคยชินกับการเก็บสะสมแสตมป์เป็นดวงๆ มากกว่า การที่เป็น E-Stamp ทำให้เสน่ห์ของการสะสมแสตมป์หายไป

แต่สำหรับเซเว่นฯ แล้ว เชื่อว่าการใช้ E-Stamp ทำให้ลดการส่งต่อแสตมป์ได้ ส่งต่อในที่นี้รวมทั้งการให้แสตมป์แก่คนอื่น และการนำไปขายต่อในราคามากกว่าหลายเท่าตัว อย่างไรก็ดีสำหรับผู้ที่ต้องการสะสมแสตมป์เป็นดวงอยู่สามารถนำ E-Stamp จำนวน 120 บาท ไปแลกแสตมป์จัดหนักมูกค่า 3 บาทได้ครบชุด 40 ดวง มูลค่า 120 เท่ากัน

โลตัส เอ็กซ์เพรส กับแสตมป์ซุปเปอร์ฮีโร่

โลตัส เอ็กซ์เพรสเองก็เป็นน้องใหม่ที่เพิ่งก้าวขึ้นมาในสังเวียนนี้ไม่นานนัก โดยที่แคมเปญนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ในตระกูลแคมเปญการสะสมแสตมป์ ต่อเนื่องจากแสตมป์โดราเอมอน เวิลด์ ทัวร์ แสตมป์แลกแก้วน้ำดีไซน์คริสต์มาส แสตมป์ฮีโร แอนด์เฟรนด์ และแสตมป์โดราเอมอน ฟุตบอลคลับ เมื่อปีที่ผ่านมา โดยที่โลตัส เอ็กซ์เพรสอัดแคมเปญอย่างถี่ยิบต่อเนื่องกัน ซึ่งในปีนี้โลตัส เอ็กซ์เพรสจัดแคมเปญแสตมป์ไปแล้ว 2 ครั้ง

แสตมป์ของโลตัส เอ็กซ์เพรสในครั้งนี้มาพร้อมกับธีม Heroes with Attitude ยังคงใช้คาแร็คเตอร์ของตัวการ์ตูนในการดึงดูดในช่วงแรกเริ่มก่อน มีซุปเปอร์ฮีโร่ทั้งหมด 8 ตัว ได้แก่ ซุปเปอร์แมน, แคท วูแมน, ซุปเปอร์ เกิร์ล, โรบิน, แบทแมน, เดอะ แฟลช, วันเดอร์ วูแมน และกรีน แลนเทิร์น

เงื่อนไขไม่แตกต่างจากเดิมคือซื้อสินค้าในโลตัสเอ็กซ์เพรส และร้านสะดวกซื้อ 365 ครบ 50 บาท รับแสตมป์ 1 ดวง และสะสมแสตมป์ตามจำนวนต่างๆ เพื่อแลกของพรีเมี่ยม โดยที่ในปีนี้โลตัสขอสร้างทางลัดในการสะสมแสตมป์กับเขาบ้าง นั่นคือสินค้าที่ร่วมรายการจะได้แสตมป์เพิ่มขึ้นนั่นเอง โปรโมชั่นล่าสุดคือครีมบำรุงผิวโอเลย์ ที่รับแสตมป์เพิ่มถึง 60 ดวง

เมื่อเทียบจำนวนแสตมป์ที่ต้องสะสมเพื่อแลกของพรีเมี่ยมของทั้ง 2 เจ้าแล้ว เซเว่นฯเริ่มต้นที่แสตมป์ 129 บาท สูงสุดที่แสตมป์ 949 บาท ในขณะที่โลตัส อ็กซ์เพรสเริ่มต้นที่แสตมป์ 5 ดวง สูงสุดที่แสตมป์ 500 ดวง

แต่แคมเปญแสตมป์ของโลตัส เอ็กซ์เพรสก็ยังมีจุดอ่อนที่ผู้บริโภคไม่ค่อยปลื้มเอานัก นั่นก็คือการแลกของพรีเมี่ยมแล้วไม่สามารถเลือกลายหรือดีไซน์ของสินค้าได้ เพราะส่วนใหญ่แล้วคนที่ต้องการสะสมจริงๆ ก็ต้องการเลือกลายที่ตัวเองต้องการจริงๆ หรืออยากได้ครบทุกแบบโดยไม่ซ้ำกัน จุดนี้โลตัส เอ็กซ์เพรสยังคงไม่ได้ปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขใดๆ เพื่อตอบรับกับผู้บริโภค

ในปีนี้ต้องมาจับตาดูกันอีกทีว่า “แสตมป์” ของร้านไหน จะครองใจผู้บริโภคได้มากกว่ากัน เพราะในปีนี้ดูเหมือนว่า เซเว่นฯ จะมั่นใจในลอยัลตี้ของผู้บริโภค จึงไร้เงาของพรีเซ็นเตอร์ หรือคาแร็คเตอร์ในแสตมป์ แต่เทสโก้ โลตัสที่อยู่ในช่วงใส่เกียร์เดินหน้า กระตุ้นการเติบโตของรูปแบบร้านเล็กๆ อย่างโลตัส เอ็กซ์เพรส และ 365 ยังจำเป็นต้องอาศัยคาแร็คเตอร์ตัวการ์ตูนมาดึงดูดผู้บริโภคอยู่ และจำเป็นต้องทำแคมเปญค่อนข้างถี่เพื่อเรียกลูกค้าเข้าร้านอย่างต่อเนื่อง

]]>
58339
“ล่าแสตมป์” ฟีเวอร์ https://positioningmag.com/56012 Wed, 28 Aug 2013 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=56012

โปรโมชั่นสะสมแสตมป์” ที่เซเว่นอีเลฟเว่นนำมาใช้กระตุ้นยอดขาย ได้สร้างกระแส “ฟีเวอร์” ทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ จนกลายเป็น “ปรากฏการณ์ล่าแสตมป์” เมื่อมีร้านค้าบางแห่งถึงกับให้ใช้แลกซื้อสินค้า บล็อกเกอร์บางรายทำเป็น “อินโฟกราฟิก” สูตรโกยแสตมป์ก็แชร์กันกระจาย

ภาวะเศรษฐกิจซบเซาแบบนี้ การนำโปรโมชั่น ชิงโชค “ลด แลก แจก” ได้กลายเป็นกติกาพื้นฐานของการทำตลาดยุคนี้ และหนึ่งในแคมเปญที่ร้อนแรง ที่พูดกันติดปากเวลานี้ คือ “แสตมป์เซเว่นฯ “ ถือเป็นหนึ่งใน “โปรโมชั่น” ประจำปีที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นนำมาใช้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 14 และถือว่าร้อนแรงที่สุดแคมเปญหนึ่งในเวลานี้ และเมื่อเทียบกับโปรโมชั่นอื่นๆ ที่เซเว่นอีเลฟเว่นนำมาใช้กระตุ้นยอดซื้อของผู้บริโภค ด้วยการให้ลูกค้าซื้อสินค้าตามจำนวนที่กำหนดจะได้แสตมป์ไว้เป็นส่วนลด และสะสมเพื่อแลกของพรีเมียม เช่น ซื้อสินค้าครบ 50 บาทจะได้แสตมป์ 1 ดวง

ช่วงแรกๆ การสะสมแสตมป์ยังไม่โด่งดังมากนัก จนเมื่อเซเว่นอีเลฟเว่นได้ซื้อลิขสิทธิ์ “คาแร็กเตอร์” การ์ตูนดังจากต่างประเทศมาทำเป็นแสตมป์ และของพรีเมียม เช่น หมีพูห์ และมิกกี้เมาส์ เพื่อให้แสตมป์เซเว่นฯ เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น และต่อเนื่องมาถึงการซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูน “โดราเอมอน” มาใช้ทำแสตมป์ ยิ่งทำให้แสตปม์เป็นโปรโมชั่นแพร่หลาย เพราะโดราเอมอนนั้นมีแฟนคลับค่อนข้างหลากหลายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จึงเริ่มมีร้านค้าบางแห่งรับแสตมป์โดราเอมอนใช้แทนเงินสด

ทางเซเว่นอีเลฟเว่นฯ เอง เมื่อประเมินแล้วว่า แสตมป์โดราเอมอนสามารถ “จุดติด” สร้างความนิยม จนเกิดเป็นปรากฏการณ์ล่าแสตมป์ กระตุ้นยอดขายของเซเว่นอีเลฟเว่นเพิ่มขึ้นถึง 15-16 % ปีที่แล้วเซเว่นอีเลฟเว่น จึงยกเลิกการซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูนดัง เปลี่ยนมาใช้เป็นแสตมป์รักเมืองไทย โดยใช้สัญลักษณ์ของ 77 จังหวัดแทนการ์ตูนดัง ไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ ซึ่งเซเว่นฯ เอง คงประเมินแล้วว่า “โปรโมชั่น” เริ่มแรงพอที่ จะไม่ต้องอาศัย “การ์ตูน” มาเป็นตัวช่วย ประหยัดเงินลงทุนไปได้ ยกเว้นช่วงโปรโมตแคมเปญที่ยังต้องมี “ดารา” มาช่วยสร้างการรับรู้

มาปีนี้ แม้กระแสของแสตมป์จะแพร่หลาย มีแฟนๆ เฝ้ารอ แต่เมื่อกระแสการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกที่เริ่มร้อนแรงขึ้น แม้เซเว่นอีเลฟเว่นยังเป็นเบอร์ 1 แต่มีคู่แข่งระดับ “บิ๊ก” เข้าสู่ตลาด ทั้งแฟมิลี่มาร์ท ของกลุ่มเซ็นทรัล, ลอว์สัน ของสหพัฒน์ และยังมีโลตัส เอ็กซ์เพรส ที่นำโปรโมชั่น “สะสมแสตมป์” ออกมาใช้เป็นปีนแรก และยังเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในช่วงโลว์ซีซั่น และยังต้องมาเจอกับภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาลง เซเว่นอีเลฟเว่นจึงต้อง “จัดหนัก จัดเต็ม” กว่าเดิม ด้วยการใช้ดาราคาดังระดับซุปตาร์ “เจมส์ จิรายุ” มากระตุ้นความน่าสนใจ เพื่อเพิ่ม “ดีกรี” ให้เกิดพฤติกรรมการ “ล่าแสตมป์เซเว่นฯ” มากยิ่งขึ้น ซึ่งเซเว่นอีเลฟเว่นเองคาดหมายไว้ว่า แคมเปญนี้จะกระตุ้นยอดขายในช่วง 4 เดือน คือ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ถึง พฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 5-10%

ด้วยความต่อเนื่องของตัวแคมเปญที่จัดติดต่อกันมานาน บวกกับ แรงโปรโมตของเซเว่นอีเลฟเว่น ผ่านทั้งสื่อทีวี และยังมีสื่อออนไลน์ โซเชียลเน็ตเวิร์ก มาช่วยสร้างการรับรู้ตลอดเวลา ทำให้กระแสแสตมป์เซเว่นแพร่หลายทั้งในกลุ่มคนชั้นกลาง คนทำงานในกรุงเทพฯ ตลอดจนคนต่างจังหวัด ยิ่งใครมีวิธีสะสมแสตมป์ได้มาก หรือแลกของพรีเมียมได้ก่อนใครจะโพสต์ขึ้นเฟซบุ๊ก จนกลายเป็นกระแสบอกต่อ และทำตาม เช่น บล็อกเกอร์บางราย คือ Arji’s blog ได้ทำสูตรโกยแสตมป์ “อินโฟกราฟิก” เซเว่นฯ โปรสิงหาคม 2556 ซื้อยังไงให้ได้แสตมป์เยอะ แต่จ่ายน้อย มีคนนำไปแชร์อย่างแพร่หลาย

ส่วนร้านค้าเปิดรับแสตมป์แทนเงินสด และล่าสุดถึงกับมีผู้โพสต์ข้อความว่า “โดนปล้นแสตมป์เซเว่น” ลงในเว็บ pantip.com ยิ่งทำให้กระแสล่า “แสตมป์เซเว่น” แพร่หลายยิ่งขึ้น และเซเว่นฯ เองนำเรื่องราวเหล่านี้ลงในเฟซบุ๊กแฟนเพจ สร้างให้แสตมป์เซเว่นยังคงเป็นกระแสต่อเนื่อง

ที่มา : แฟนเพจ เซเว่นอีเลฟเว่น

การทำโปรโมชั่น นอกจากกระตุ้นยอดขายให้เซเว่นฯ แล้ว ผู้ผลิตสินค้าที่เข้าร่วมแคมเปญ เมื่อมีลูกค้าจะต้องรับผิดชอบ “ส่วนลด” ทั้งหมดเอง เช่น แสตมป์มูลค่า 1 บาท กำหนดให้แลกได้ 5 ดวง เท่ากับ ผู้ผลิตจะต้องออกค่าใช้จ่าย 5 บาทนี้เอง สำหรับผู้ผลิตสินค้าที่ไม่เข้าร่วมโปรโมชั่น จะต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้กับเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นค่า fee เช่น หมวดนิตยสาร ที่ไม่ได้เข้าร่วมจะเสียค่า fee 1% โดยที่ยอดขายในช่วงที่มีโปรโมชั่นจะไม่เพิ่มก็ตาม…เรียกว่างานนี้เซเว่นฯ เข้ากระเป๋าไปเต็มๆ

โลตัส เอ็กซ์เพรส ออกแสตมป์โดราเอมอน

ทางด้าน “เทสโก้ โลตัส” ได้นำโปรโมชั่นสะสมแสตมป์มาใช้กับสาขาขนาดเล็ก “โลตัส เอ็กซ์เพรส” ภายใต้ แคมเปญ “โดราเอมอน เวิลด์ ทัวร์” ตั้งแต่กรกฎาคม – 23 กันยาจน โดยซื้อลิขสิทธิ์คาแร็กเตอร์การ์ตูน “โดราเอมอน” มาทำแสตมป์ และแก้วน้ำ 10 ลวดลาย เป็นลิมิเต็ดอิดิชั่น ให้ลูกค้าซื้อสินค้าครบ 50 บาท จะได้แสตมป์ 1 ดวง มาแลกเป็นส่วนลด หรือแลกแก้วน้ำ

“สลิลลา สีหพันธุ์” รองกรรมการบริหาร ฝ่ายกิจการบริษัท เทสโก้ โลตัส บอกว่า การที่โลตัส เอ็กซ์เพรสต้องจัดทำโปรโมชั่นนี้ เพื่อรองรับกับการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกที่สูงขึ้น ทุกรายจึงต้องมีโปรโมชั่นมาดึงดูดความสนใจลูกค้า ส่วนเทสโก้ โลตัสเอง เวลานี้ โลตัส เอ็กซ์เพรสซึ่งเป็นสาขาขนาดเล็กมีการขยายสาขาเกิน 1,000 แห่ง ซึ่งเป็นจำนวนมากพอที่จะแยกออกมาทำโปรโมชั่นต่างหาก จากปกติจะทำโปรโมชั่นรวมกับสาขาไฮเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งจะเน้นเรื่องของ “ราคา” เป็นหลัก

ในขณะโปรโมชั่นที่ลูกค้าร้านค้าปลีกชื่นชอบ คือ ส่วนลด และการสะสมของพรีเมียม และจากการเก็บข้อมูลของลูกค้าพบว่า แก้วน้ำ เป็นของพรีเมียมที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด เมื่อนำการ์ตูน “โดราเอมอน” เป็นการ์ตูนที่ลูกค้าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ชื่นชอบ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

ทำอย่างไรให้เป็น แสตมป์ฟีเวอร์

อาจารย์ ธเนศ ศิริกิจ นักวิชาการด้านการตลาด มองว่า ไม่มีกระแสการตลาดส่งเสริมการขายใดที่ทำแล้วโดนใจเท่ากับ แสตมป์ และยิ่งเป็นแสตมป์ของ 7-11 ยิ่งสร้างกระแสได้ดี และเป็นสิ่งที่หลายๆ คนเฝ้ารอ เพราะทำให้คนไทยแทบจะหายใจเข้า-ออก เป็นแสตมป์

การใช้การส่งเสริมการขาย (Sale Promotion) ของ 7-11 ถือเป็นกระแสต่อเนื่องที่เป็นเอกลักษณ์ของ 7-11 ก็ว่าได้ หากมองกันให้ดี ว่าทำไมเราถึงอยากได้แสตมป์ 7-11 กันนัก เป็นเพราะแลกแทนเงินได้ สะสมได้ของเป็นชิ้น และเป็นสินค้าที่ไม่มีขายทั่วไป

การใช้แทนเงินสดได้ ตรงนี้ตอบโจทย์สำหรับคนไทย เนื่องจากว่า แสตมป์ 1 ดวง มันคือมูลค่า 1 บาท ใช้แทนเงินสดได้ทันที และแลกเป็นส่วนลดเงินสดได้ทันที ซึ่งโจทย์แบบนี้เคยเห็นกันมานานมาก กลับไม่ได้รับความนิยม เนื่องจากช่วงเวลาต่างกัน

แต่กลับใช้ได้ดีในปัจจุบัน แต่ก่อนเราเคยได้ยิน แสตมป์การค้า (Trading Stamp) ซึ่งแต่ก่อนเพียงแต่สะสมแสตมป์แล้วได้ส่วนลด และแน่นอน เมื่อ Leader อย่าง 7-11 ทำอะไรแล้ว Success ก็จะมีคนตามกันอีก แต่ผู้ตามหากจะทำตาม ก็บอกได้เลยว่าอาจจะเหนื่อยพอสมควร

เพราะหลักการตลาดยุคนี้ที่ใช้แสตมป์นั้น ต้องเกิด 3V กับลูกค้า คือ “Value” แต่ต้องผสมผสาน Values และ 3Ps คือ

Product Value เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า โดยใช้แสตมป์กับทุก Product ได้โดยไม่วุ่นวายเรื่องเงื่อนไข

Promotion Value การโฆษณาที่ทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มไม่เพียงแต่โฆษณาเพื่อขายของได้อย่างเดียว ต้องตอบโจทย์ได้ว่า ลูกค้าจะได้อะไรจากโฆษณา ไม่เพียงแต่โฆษณาอย่างเดียว

People Value กิจกรรมทางการตลาดนั้น จะต้องคืนกลับผู้ซื้อได้มูลค่าที่คืนอย่างชัดเจน

เมื่อใช้ได้ผลก็จะเกิดหลาย Business เดียวกันใช้กลยุทธ์นี้ตามกันเป็นระยะๆ เพราะเมื่อใคร Success หรือประสบความสำเร็จก่อน แล้วลอกเลียนแบบไปเลย หรือ “Cloner”

แต่สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดนั้น การทำกิจกรรมส่งเสริมการขายใน Promotion Mix นั้น จะต้องไม่ลืม “จริยธรรมธุรกิจ” หากธุรกิจใดเห็นผู้อื่นประสบความสำเร็จแล้วทำตามโดยไม่ดูความเหมาะสมนั้น อาจไม่ถูกต้องเสมอไป เพราะบางธุรกิจใช้วิธี ลด แลก แจก แถม มากไปจนจริยธรรมธุรกิจไม่มี ควรดูธุรกิจตนเป็นหลัก หากท่านไปพบแพทย์ คงไม่มีใครอยากได้ Promotion ป่วย 10 ครั้ง แถมฟรี 1 ครั้ง แน่นอน หรือบิลใบเสร็จแลกยาเพิ่ม คงไม่มีใครอยากได้แน่นอน

]]>
56012