บริษัท โซนี่ มิวสิค เอนเตอร์เทนเมนต์ โอเปอเรติ้ง(ประเทศไทย) จำกัด ชี้เทรนด์ดิจิตอลมิวสิคสโตร์รูปแบบใหม่ที่กำลังมาแรง ด้วยการเดินหน้าลุยตลาดคอนเทนต์เพลงผ่าน  iTunes Store พร้อมปล่อยเพลงศิลปินในสังกัดติดชาร์ทอันดับ 1 บน iTunes Store ไปอย่างสวยงาม เผยโซนี่มิวสิคเป็นเพลงค่ายแรกที่ได้รับสิทธิ์ขายเพลงบน iTunes Store โดยตรง มั่นใจช่องทางนี้จะสามารถขยายฐานลูกค้าได้เป็นอย่างดี

นายพอล  มนัสถาวร ผู้อำนวยการกลุ่มงานดิจิตอล บริษัท โซนี่ มิวสิค เอนเตอร์เทนเมนต์ โอเปอเรติ้ง(ประเทศไทย) จำกัด หลังจากที่ทาง โซนี่ มิวสิค ได้ประกาศขยายช่องทางการขายเพลงดิจิตอลสู่ช่องทางใหม่โดยผ่านทาง iTunes Store ไปเมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุด โซนี่ มิวสิค โชว์เหนือด้วยการส่งเพลง “เช้า” ของวง Scrubb ทะยานสู่อันดับ 1 บน iTunes Store อย่างรวดเร็ว และยังมีอีกหลายเพลงของโซนี่มิวสิคที่ยังคงติดชาร์ทและได้รับความนิยมไม่แพ้กัน อาทิ เพลง “เรื่องจริง” ของ ซิงกูล่าร์ ที่ก่อนหน้านี้อยู่อันดับ 1 บน iTunes Store  มานานกว่า 2 สัปดาห์ด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีเพลง “Paradise” ของ เบลล์ นันทิตา , รวมฮิต เบน ชลาทิศ , Best of Bakery เป็นต้น พร้อมยึดครองตลาดธุรกิจดิจิตอลมิวสิคช่องทางใหม่บน iTunes Store ซึ่งจะทำให้ลูกค้าที่อยู่ทั่วทุกมุมโลกได้รับความสะดวกสบายในการเข้าถึงคอนเทนต์เพลงได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมมั่นใจว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะสามารถขยายฐานลูกค้ารวมถึงกระตุ้นยอดดาวน์โหลดเพลงของค่ายโซนี่มิวสิคที่เป็นค่ายเพลงสากลอันดับหนึ่งบน iTunes Store ได้เป็นอย่างดี

โดยความร่วมมือระหว่าง โซนี่ มิวสิค และ  iTunes Store ในครั้งนี้ จะสามารถสร้างรายได้และส่วนแบ่งทางการตลาดที่เหนือกว่าค่ายเพลงอื่นๆ เนื่องจากโซนี่มิวสิคเป็นค่ายเพลงค่ายแรกที่ได้รับสิทธิ์โดยตรงจาก  iTunes Store ในการนำเพลงของศิลปินในสังกัดทั้งไทยและสากลกว่า 500,000 เพลง มาขายบน iTunes Store ซึ่งทางโซนี่มิวสิคเชื่อมั่นว่าการมาของ iTunes Store ในครั้งนี้ จะทำให้ธุรกิจดิจิตอลมิวสิคของเมืองไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างแน่นอน” นายพอลกล่าวทิ้งท้าย

โซนี่ มิวสิค ต่อยอดกลยุทธ์ “One Sony” ให้ลูกค้า “เอ็กซ์พีเรียโซนี่สมาร์ทโฟน” (Xperia Sony Smartphone) ดาวน์โหลดและสตรีมมิ่งคอนเทนต์ อาทิ เพลง MP3 และ มิวสิควีดีโอ จากโซนี่มิวสิคได้ฟรี!!!!!! ผ่านทางเว็บแอพพลิเคชั่น “ไอ-ฮัม มิวสิค สโตร์” (I-humm music store) ตั้งแต่วันนี้-31 ธันวาคม 2555 ด้วยวิธีง่ายๆเพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น “ไอ-ฮัม มิวสิค สโตร์” (I-humm music store) ผ่านทาง Google Play  มาลงไว้ในมือถือ เพียงเท่านี้ลูกค้า “เอ็กซ์พีเรียโซนี่สมาร์ทโฟน” (Xperia Sony Smartphone)ก็สามารถสนุกสนานและเพลิดเพลินไปกับคอนเทนต์ทั้งไทยและต่างประเทศจากโซนี่มิวสิคได้ง่ายๆและไม่ยุ่งยาก โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง https://www.facebook.com/sonymobileth

โซนี่ มิวสิค ผนึกกำลัง โซนี่ ไทย และ โซนี่ อีริคสัน จัดโครงการประกวดร้องเพลงออนไลน์ระดับนานาชาติ ภายใต้ชื่อ “Like Performing Love Sony” เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่ชื่นชอบการร้องเพลง หลงใหลในเสียงดนตรี ได้มีโอกาสโชว์ความสามารถและแสดงออกกันอย่างเต็มที่ พร้อมชิงรางวัลเงินสดและผลิตภัณฑ์จาก Sony รวมมูลค่ากว่า 150,000 บาท

คุณภัทรา บุศราวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โซนี่ มิวสิค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โซนี่ มิวสิค ได้ร่วมกับ โซนี่ ไทย และ โซนี่ อีริคสัน จัดโครงการประกวดภายใต้ชื่อ “Like Performing Love Sony” ซึ่งถือเป็นโครงการในระดับนานาชาติที่จัดพร้อมๆกันถึง 6 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ฟิลิปินส์, เวียดนาม และไทย) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางดนตรีในกลุ่มของนิสิตนักศึกษา และกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ในการเล่นดนตรีและร้องเพลง ด้วยกติกาง่ายๆ เพียงรวมตัวกันตั้งแต่ 1 – 5 คน แล้วบันทึกคลิปการร้อง หรือเล่นดนตรีของในเพลงที่กำหนดให้ ความยาวตั้งแต่ 1 นาทีขึ้นจากนั้นอัพโหลดผลงานของคุณมาที่ www.sony.co.th/likemusic ตั้งแต่วันนี้ – 13 พฤศจิกายน 2554 เพียงเท่านี้ผลงานคุณก็จะถูกนำเสนอสู่โลกออนไลน์เพื่อรอรับการโหวตจากชาวไซเบอร์

โดย 10 คลิปที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุด จะได้รับการตัดสินโดยคณะกรรมการ เพื่อเฟ้นหาผู้ชนะเลิศเป็นตัวแทนประเทศไทย ไปแข่งขันในงาน Like Performing Love Sony รอบสุดท้ายในระดับนานาชาติ ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจะะจัดขึ้นในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับรางวัล เงินสด พร้อมผลิตภัณฑ์จาก SONY มูลค่ากว่า 150,000 บาท พร้อมบินไปประกวดในระดับนานาชาติที่ประเทศสิงคโปร์, อันดับ #2 รับรางวัล เงินสดมูลค่า 30,000 บาท และอันดับ #3 รับรางวัล เงินสดมูลค่า 15,000 บาท ประกาศผลวันที่ 17 พ.ย.2554 ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.sony.co.th/likemusic
นอกจากนี้ ยังได้จัดโรดโชว์ตามสถาบันการศึกษาชั้นนำ ได้แก่ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2554 พบกันที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ , วันที่ 4 พฤศจิกายน 2554 พบกันที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน และ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 พบกันที่ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายาพร้อมชมมินิคอนเสิร์ตจาก Better Weather, จุ๋ย จุ๋ยส์, Slot Machine และศิลปินชั้นนำอีกมากมายจาก Sony Music และยังมีการนำเทคโนโลยีความรู้และผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจจาก Sony ไปจัดแสดงและสาธิตให้ได้ศึกษาและทดลองใช้งานอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น กล้องถ่ายรูป Cyber-shot, เครื่องบันทึกเสียงแบบพกพา PCM-M10

โซนี่ มิวสิค สบช่องว่างทางการตลาด ด้วยการเปิดตัวแอพพลิเคชั่นใหม่ล่าสุด ภายใต้ชื่อ “ไอ-ฮัม สตรีม” (i-hUMM Stream) คลังเพลงยุคดิจิตอลมิวสิค พร้อมเสิร์ฟคอนเทนต์สตรีมมิ่งผ่าน 3G เน็ตเวิร์ก รองรับการขยายตัวของมิวสิคแอพพลิเคชั่น ชูจุดเด่นอยู่ที่การเป็นโซเชี่ยลแอพสตรีมมิ่งที่รวบรวมคอนเทนต์บันเทิงที่หลากหลายจากโซนี่มิวสิคทั้งไทยและต่างประเทศเข้าไว้ด้วยกัน โดยลูกค้าสามารถรับชมความบันเทิงต่างๆในรูปแบบการสตรีมมิ่งคอนเทนต์ผ่านเครือข่าย 3G และสัญญาณ Wifi ได้อย่างเต็มอารมณ์ ด้วยอัตราค่าบริการรายเดือนเพียงเดือนละ 60 บาท หรือ 1.99 USD พร้อมตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้จะมีผู้สมัครเป็นสมาชิกกว่า 100,000 รายอย่างแน่นอน โดยเชื่อมั่นว่าแอพพลิเคชั่นดังกล่าวจะสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคดิจิตอลมิวสิคได้เป็นอย่างดี

นายพอล มนัสถาวร ผู้อำนวยการกลุ่มงานดิจิตอล บริษัท โซนี่ มิวสิค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ทางโซนี่มิวสิคประสบความสำเร็จจากการที่ส่งบริการ “โซนี่ มิวสิค สไลด์” “(Sony Music SLIDE) ลงตลาดไปเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ประกอบกับปัจจุบันนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป คนหันมาให้มือถือเพื่อความบันเทิงกันมากขึ้น และสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ที่คนนิยมใช้ก็หนีไม่พ้นสมาร์ทโฟนตระกูล iOS ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้โซนี่มิวสิค ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของตลาดนี้ ทำให้วันนี้โซนี่มิวสิคจึงได้พัฒนาคอนเทนต์ต่างๆที่มีอยู่ อาทิ เพลง , มิวสิควีดีโอ และข่าวสารของศิลปินในสังกัดทั้งไทยและต่างประเทศ ออกมาให้บริการในรูปแบบต่างๆเพื่อรองรับการขยายตัวของมิวสิคแอพพลิเคชั่นที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น เพื่อเป็นการต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงขยายฐานลูกค้าให้กับผู้ใช้บริการ โซนี่มิวสิคจึงได้เปิดตัวแอพพลิเคชั่นใหม่ล่าสุด “ไอ-ฮัม สตรีม” (i-hUMM Stream) เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดตามข่าวสารของศิลปินในสังกัดโซนี่มิวสิค อาทิ ข่าวสารความเคลื่อนไหวของศิลปินในสังกัดโซนี่มิวสิคทั้งไทยและต่างประเทศ , การแนะนำอัลบั้มและซิงเกิ้ลใหม่ๆ รวมอึงตารางงานต่างๆของศิลปินที่มีอัพเดทให้รู้กันแบบเรียลไทม์เลยทีเดียว

นอกจากนี้ “ไอ-ฮัม สตรีม” (i-hUMM Stream) จะเปรียบเสมือนคลังเพลงของโซนี่มิวสิค ที่จะให้คุณได้รับชมมิวสิควีดีโอและเบื้องหลังการทำงานของศิลปินต่างๆในสังกัดโซนี่มิวสิคทั้งในอดีตและปัจจุบันในรูปแบบของการสตรีมมิ่งคอนเทนต์ เพื่อรับกับกระแส 3G เน็ตเวิร์กในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี รวมถึงการเป็น Music Channel ที่จะคอยจัดเพลงเพราะๆให้ได้ฟังตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถแบ่งเพลงที่คุณชื่นชอบออกเป็นหมวดหมู่และสามารถเลือกฟังได้ตามอารมณ์ ซึ่งคุณสามารถสร้าง Playlist ส่วนตัวได้ตามความต้องการได้ถึง 5 เพลย์ลิสต์อีกด้วย ทั้งนี้บริการดังกล่าวจะทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ของโซนี่มิวสิคได้ทุกที่ทุกเวลาเสมือนคุณมีคลังเพลงติดตัว ด้วยวิธีง่ายๆเพียงคุณดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า ““i-hUMM Stream” จาก App Store ลงมาไว้ในไอโฟนของตัวเอง จากนั้นก็สามารถอัพเดทคอนเทนต์บันเทิงต่างๆได้ตามต้องการ ทั้งนี้หากใครต้องการที่จะรับชมคอนเทนต์ในรูปแบบของสตรีมมิ่งก่อนใคร สามารถทำได้ง่ายๆโดยการสมัครสมาชิกรายเดือนผ่านทางแอพพลิเคชั่น “ไอ-ฮัม สตรีม” (i-hUMM Stream) ด้วยอัตราค่าบริการรายเดือนเพียงเดือนละ 60 บาท หรือ 1.99 USD พร้อมตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้จะมีผู้สมัครเป็นสมาชิกกว่า 100,000 รายอย่างแน่นอน

“วันนี้ โซนี่มิวสิคฯ พร้อมแล้วที่จะเสิร์ฟคอนเทนต์บันเทิงในรูปแบบสตรีมมิ่งคอนเทนต์ให้กับแฟนเพลงของโซนี่มิวสิคได้รับชมความบันเทิงกันแบบเรียลไทม์ ทุกที่ ทุกเวลา เนื่องจากทางบริษัทฯมองว่าการสตรีมมิ่งคอนเทนต์จะต้องควบคู่ไปกับเน็ตเวิร์กที่มีคุณภาพ ดังนั้น จึงมั่นใจว่าแอพพลิเคชั่นดังกล่าวจะสามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภคในยุค 3G ได้อย่างลงตัว และจะสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคดิจิตอลมิวสิคได้เป็นอย่างดี” นายพอลกล่าวทิ้งท้าย

ค่ำวันที่ 26 มีนาคม เซ็นเตอร์พอยต์แน่นขนัดไปด้วยวัยรุ่นที่มารอชมมินิคอนเสิร์ตในการเปิดตัวค่ายเพลงใหม่ “Love is” โดยมี “ป๋าเต๊ด” ยุทธนา บุญอ้อม ผู้บริหาร Fat Radio เจ้าพ่ออินดี้เมืองไทยเป็นพิธีกรดำเนินรายการ นอกจากเพลงของ บอย โกสิยพงษ์ แล้วก็ยังมีเพลงของอดีตศิลปิน Bakery Music อีกหลายราย ในสายตาแฟนๆ วัยรุ่นเหล่านี้แล้ว ชื่อค่ายจะเป็น Bakery หรือ Love is ก็ดูจะไม่ต่างกัน

สุกี้กับบอย เรียกโมเดลค่ายเพลงของตัวเองว่า “สหกรณ์ทางดนตรี” ให้ศิลปินเปรียบดังหุ้นส่วน โดยนำผลงานเพลงมาให้ Love is ทำการตลาด และร่วมกันจัดทำคอนเสิร์ต รายได้แบ่งกันคนละครึ่ง ซึ่งสูงกว่าค่ายเพลงอื่นๆ เพราะศิลปินต้องมีความสามารถแต่งและเรียบเรียงเพลงเองให้เสร็จสมบูรณ์ ศิลปินจึงไม่ต้องสังกัด “ค่าย” Love is

ในปีหนึ่งๆ Love is จะออกงานเดี่ยว 4 ชุด และงานรวมเพลงใหม่จากหลากศิลปิน 4 ชุด งานรวมเพลงนี้จะแบ่งเป็น 3 แผ่นคือ แผ่น1 รวมศิลปินมีชื่อเสียง แผ่น 2 รวมมิวสิกวิดีโอของแผ่น 1 และแผ่น 3 เป็นรวมงานจากศิลปิน “อินดี้” หน้าใหม่

แฟนเพลงที่แน่นขนัดในงานเปิดตัวต่างพร้อมจะปรบมือและกรี๊ดตอบรับเพลงใหม่ๆ และศิลปินหน้าใหม่ทุกคน ชวนให้คิดว่าหากไม่มีตรา “Love is” ผลจะต่างออกไปอย่างไร นั่นคือ positioning แห่งความเป็นอดีตเบเกอรี่และศักยภาพในการจัดคอนเสิร์ตได้มาช่วยทุ่นแรงศิลปินอินดี้เหล่านี้ และรายได้ตอบแทนต่อเพลงเดียวที่ออกกับ “Love is” อาจจะสูงกว่าจาก 10 เพลงทั้งชุดที่ต้องออกขายเองอย่าง “อินดี้” ก็เป็นได้

เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะธุรกิจเพลง ที่ไม่สามารถพึ่งยอดขายซีดีเพลงได้อย่างเดียว โมเดลการหารายได้ของค่ายเพลงนี้ นอกจากขายซีดีและเทปแล้ว ที่เหลือจะมาจาก คอนเสิร์ต, เพลงโฆษณา, ringtone โทรศัพท์มือถือ, และการจัด event organizer งานเปิดตัวต่างๆ

Profile

ปลายปี 47 ที่ผ่านมา Sony Music ได้เข้าซื้อกิจการ BMG มีผลถึงในไทย เพราะ BMG ประเทศไทย ซึ่งมี Bakery Music เป็นบริษัทลูกอยู่ด้วย ลงมือเปลี่ยนแปลงทั้งผู้บริหารและนโยบายครั้งใหญ่นี้ ทำให้เบเกอรี่ ภายใต้การนำของ “สุกี้” กมล สุโกศล แคลปป์ และ “บอย” ชีวิน โกสิยพงษ์ ตัดสินใจแยกตัวออกมาตั้งค่ายใหม่เพื่อรักษาความอิสระในการทำงาน และเพื่อทดลองแนวคิดธุรกิจแบบใหม่ที่ตกผลึกจากประสบการณ์ 10 ปีในวงการเพลงไทยและจากคัมภีร์ไบเบิล !