Domino’s Pizza ยักษ์ใหญ่ด้านอาหารฟาสต์ฟู้ดสัญชาติอเมริกันที่มีสาขาทั่วโลกมากกว่า 12,000 แห่ง โดยในปี 2015 Domino ก็ได้เปิดสาขาแรกในอิตาลี ประเทศต้นกำเนิดพิซซ่า แม้ในตอนแรกที่ Domino จะมีแผนที่จะเอาชนะใจลูกค้าด้วย วัตถุดิบอิตาลีล้วน เช่น ใช้ซอสมะเขือเทศ 100% และมอสซาเรลล่า และผลิตภัณฑ์อย่าง Prosciutto di Parma, Gorgonzola, Grana Padano และ Mozzarella di bufala Campana

แต่ล่าสุด Domino จำต้องปิดสาขาทั้งหมด 29 แห่ง ถอนตัวออกจากอิตาลี เนื่องจากเจอการแข่งขันที่สูงจาก ร้านพิซซ่าท้องถิ่น โดยเฉพาะหลังจากที่ร้านเหล่านั้นได้ขยายบริการเดลิเวอรี่ผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ อีกทั้ง ผู้บริโภคกว่าครึ่งยังคงสั่งอาหารหรือผ่านทางโทรศัพท์ผ่านร้านประจำ ทำให้จุดแข็งในบริการเดลิเวอรี่ใช้ไม่ได้อีกต่อไป

แน่นอนว่าข่าวการถอนตัวออกจากตลาดอิตาลีนี้ทำให้ชาวเน็ตบางส่วนอดที่จะไม่แซวไม่ได้ อย่างใน Twitter ก็มีคนทวิตว่า “การเปิด Domino’s Pizza ในอิตาลี ก็เหมือนกับการพยายามขายหิมะในขั้วโลกเหนือ” หรือ ในหนังสือพิมพ์ของอิตาลี ก็พาดหัวว่า “คนอิตาลีไม่ชอบพิซซ่าหน้าสับปะรด”

Source

หลังจากหายจากตลาดไป 13 ปี โดมิโน่ พิซซ่า ก็กลับสู่ตลาดไทยอีกครั้งในปี 2550 เมื่อบริษัท ฟู้ด แคปปิตอล (เดิมชื่อบริษัท เอฟโวลูชั่น แคปปิตอล) ได้ซื้อลิขสิทธิ์ โดมิโน่ พิซซ่า มาเปิดในไทย โดยวางเป้าหมายจะชิงส่วนแบ่งตลาด 30% ภายใน 5-7 ปี ด้วยการชูเรื่องของดีลิเวอรี เน้นส่งเร็ว และโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 มาเป็นจุดขาย

แต่ผ่านมา 5 ปีเต็ม โดมิโน่ พิซซ่า กลับยังไม่เติบโตเท่าที่ควร จนผู้บริหาร ภายใต้การนำของ ปรมินทร์ ศรีชวาลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โดมิโน่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด ต้องลงมือรื้อแผน ยกเครื่องธุรกิจใหม่หมด หลังจากพบว่า เป็นเพราะการไป “โฟกัส” ธุรกิจผิดจุด

ตั้งแต่การเน้นขยาย “สาขา” ตามศูนย์การค้าหรือห้างเยอะเกินไป ประมาน 5-10 สาขา ซึ่งไม่ใช่จุดขายของโดมิโน่ พิซซ่า มีจุดขายจัดส่งถึงบ้านหรือ Delivery เป็นหลัก ดังนั้นจากนี้ไป จะปรับบริการ Delivery ให้ชัดเจนมากเป็น 70% จากตอนนี้ 40% และใช้ส่งเวลาส่งพิซซาให้ได้ประมาณ 15-20 นาที

ปรมินทร์ บอกว่า จากนี้ไปจะลงมือผ่าตัด ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของ โดมิโน่ พิซซ่าใหม่ ทั้งหมด เปลี่ยนทีมผู้บริหาร เลือกทำเลการขยายสาขาใหม่ จากเดิมที่เน้นการเปิดในคอมมูนิตี้มอลล์ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จึงหันมาเน้นทำเลตามแหล่งชุมชน เพื่อให้สะดวกในการบริการโดยเฉพาะจุดแข็งของการดีลิเวอรี่ได้รวดเร็วและสะดวกขึ้น 

หลังปรับแผนแล้ว จะรุกตลาดพิซซ่าอย่างหนัก โดยจะใช้งบประมาณลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทในปีหน้า (2561) เพื่อสร้างแบรนด์ของโดมิโน่ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันรายได้ให้เพิ่ม 50% ในปีหน้า จากปีนี้ที่คาดว่าจะมียอดขายรวมประมาณ 150-200 ล้านบาท เติบโต 2-5%

ขยายสาขา–ดัมพ์ราคา 50% จับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา

งบประมาณจะใช้ทั้งการขยายสาขาใหม่ เน้นการเปิดสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑลอีก 15 สาขา จะขยายในทำเลใหม่ๆ เน้นไปที่ แหล่งชุมชน โรงเรียน มหาวิทยาลัย คอนโดมิเนียมต่างๆ ลงทุนสาขาละ 4-5 ล้านบาท 

ปัจจุบัน (สิ้นปี 60) มีสาขารวม 36 สาขา จากนั้นในปี 61 จะขยายเพิ่ม 20 สาขาต่อปี และภายในปี 62 จะเริ่มขยายในรูปแบบแฟรนไชส์ เพื่อให้สามารถขยายสาขาได้รวดเร็วและครอบคลุมพื้นที่บริการได้มากขึ้น 

นอกจากนี้ เพื่อจับกลุ่มนักเรียน และนักศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก จะนำกลยุทธ์ราคามาใช้ ด้วยการลดราคาขายเกือบประมาณ 50% จากเดิมเฉลี่ย 325 บาท จะลดราคาลงมาประมาณ 150 บาท

“ตอนนี้ลงมาดูแลแบรนด์ด้วยตนเอง ตั้งใจจะ Refresh แบรนด์ใหม่ทั้งหมด โดยจะจับจุดโฟกัสของแบรนด์ให้ถูกต้อง พร้อมขยายสาขาในที่ชุมชนเพื่อให้เข้าถึงได้มากขึ้น และส่งพิซซาได้รวดเร็ว”

แผนการตลาดในขั้นต่อไป อาจต้องนำ Brand Ambassador มาใช้ สร้างกระแสและช่วยอธิบายให้ทุกคนรู้ว่า “โดมิโน่ พิซซ่า” มีดีอย่างไร โดยจะเน้นภาพลักษณ์ที่สนุกสนานและมีความเป็นครอบครัว”

ความสามารถของรถยนต์ดังกล่าว คือ รุ่น Ford Fusion ที่ไม่เพียงแต่ส่งพิซซ่า แต่ยังมาพร้อมเตาอบด้วย ปัญหามีเพียงอย่างเดียวนั่นคือ ผู้บริโภคจะพอใจไหมกับการเดินลงมาเปิดประตูรถ และหยิบพิซซ่าออกไป แทนที่จะมีพนักงานยื่นส่งให้เหมือนในอดีต หรือในบางกรณีที่การสั่งพิซซ่าเกิดขึ้นในฤดูหนาว มันอาจหมายถึงผู้บริโภคต้องลงมาจากตึกสี่ชั้น และฝ่าหิมะออกมานอกอาคาร เพื่อรับพิซซ่ากันเลยทีเดียว

การทดสอบดังกล่าวเป็นการทดสอบแบบสุ่มกับลูกค้าที่สั่งพิซซ่าในย่าน Ann Arbor ในมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ส่วนใครที่อยากว้าว และมายลโฉมรถไร้คนขับ ต้องบอกว่ายังไม่ถึงเวลา เพราะฟอร์ด ระบุว่า ในช่วงทดสอบบนถนนสาธารณะนั้น จะเป็นการขับโดยมนุษย์จริง ส่วนการทดสอบรถไร้คนขับนั้น ฟอร์ดอยู่ระหว่างการทดลองจริง แต่เป็นคนละถนนกัน 

ส่วนลูกค้าจะไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์รวมถึงไม่เห็นว่ามีคนขับนั่งมาด้วยแต่อย่างใด ลูกค้าทำได้เพียงติดตามได้ว่า รถยนต์ตอนนี้อยู่ที่จุดใดแล้วผ่าน GPS และเมื่อมาถึงที่นัดหมายก็จะมี SMS ส่งเข้าไปเพื่อให้ลูกค้าออกมารับพิซซ่าเท่านั้น

สำหรับการรับพิซซ่าก็จะมีขั้นตอนเพิ่มเติม นั่นคือ ต้องป้อนรหัสลงในทัชแพด จากนั้น หน้าต่างข้างหลังรถก็จะลดระดับลง และเห็นพิซซ่าวางอยู่ สิ่งที่ทำให้โดมิโน่ต้องการทดสอบก็คือ พวกเขาต้องการรู้ว่า ลูกค้าจะจัดการอย่างไรกับการส่งพิซซ่าในลักษณะนี้ 

ที่มา : manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000088789