โรงพยาบาลเวชธานี – Positioning Magazine

ระวัง! 8 โรคประจำตัว เสี่ยงอาการรุนแรงหากติด COVID-19

ratirita — Thu, 07 Jan 2021 14:51:46 +0000

ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้ทราบว่าอาการแสดงเกิดขึ้นได้หลากหลาย ผู้ป่วยบางคนอาจไม่แสดงอาการใด ๆ เลย ในขณะที่ผู้ป่วยบางคนอาจมีอาการหนักมากจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

โดยอาการรุนแรงอาจเกิดขึ้นได้กับกลุ่มที่เสี่ยง เช่น เด็กเล็ก, คนท้อง, ผู้สูงอายุ กลุ่มความดันโลหิตสูง หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว มาดูกันว่าคุณหรือคนในครอบครัวมีโรคประจำตัวที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงนี้หรือไม่ คำแนะนำโดย นพ.ประยุทธ อังกูรไกรวิชญ์ อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ โรงพยาบาลเวชธานี

1. ความดันโลหิตสูง เนื่องจากเชื้อไวรัสจะส่งผลให้ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลวได้ถึง 9%

2. เส้นเลือดหัวใจตีบ หัวใจเต้นผิดจังหวะ โดยทั่วไปแล้วการทำงานของหัวใจ และระบบไหวเวียนเลือดในผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีประสิทธิภาพต่ำกว่าคนทั่วไป อีกทั้งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และมีภูมิคุ้มกันต่ำ หากติดเชื้อ COVID-19 จะยิ่งทำให้โรครุนแรงขึ้น เสี่ยงเกิดเยื่อบุหลอดเลือดอักเสบทั่วร่างกายจนทำให้การไหลเวียนเลือดบกพร่อง เซลล์ และเนื้อเยื่อขาดออกซิเจน หัวใจทำงานหนักขึ้นและเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย เช่น หัวใจล้มเหลว ลิ่มเลือดอุดตันเฉียบพลันในหลอดเลือดหัวใจ ปอดอักเสบรุนแรงและภาวะระบบการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน อีกทั้งยังทำให้ควบคุมโรคประจำตัวที่มีอยู่เดิมยากขึ้น เสี่ยงเกิดภาวะหัวใจและระบบไหลเวียนเลือดล้มเหลวได้เช่นเดียวกัน

3. เบาหวาน ผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมน้ำตาลได้จะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อง่ายกว่าคนปกติ เพราะเชื้อจะเจริญเติบโตได้ดีเมื่อน้ำตาลในเลือดสูงและร่างกายมีภูมิคุ้มกันน้อยลง อีกทั้งผู้ป่วยเบาหวานยังมีระดับเอนไซม์โปรตีน ACE2 receptors สูงขึ้น เมื่อรับเชื้อไวรัสเข้าไปแล้วจะทำให้ผนังหลอดเลือดบางลง เกิดภาวะปอดบวม มีน้ำคั่งในถุงลม เป็นเหตุให้การหายใจล้มเหลวได้ง่าย

4. ไตเรื้อรัง ผู้ป่วยฟอกไตและปลูกถ่ายไต ผู้ป่วยในกลุ่มนี้จะมีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าคนทั่วไป จึงเสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายและรุนแรงขึ้น ควรต้องดูแลตัวเองและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

5. หอบหืด ปอดอักเสบเรื้อรัง ซิสติกไฟโบรซิส COVID-19 มีผลกระทบโดยตรงต่อปอด ซึ่งในผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคปอดอยู่แล้วอาจทำให้โรคกำเริบหรือมีอาการปอดบวมได้ง่ายกว่าผู้ป่วยทั่วไป

6. ตับแข็ง ตับอักเสบเรื้อรัง รวมถึงผู้ป่วยปลูกถ่ายตับที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน และผู้ป่วยมะเร็งตับที่กำลังรักษาด้วยยาเคมีบำบัด เสี่ยงเกิดอาการรุนแรงได้เพราะยาที่ใช้รักษา COVID-19 อาจมีผลต่อการทำงานของตับ อาจทำให้โรคที่เป็นอยู่เดิมควบคุมได้ยากขึ้นหรือรุนแรงกว่าเดิม

7. ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็ง เอดส์ หรือแม้แต่คนที่สูบบุหรี่เป็นประจำ จะมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ ร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ จึงทำให้เสี่ยงอาการรุนแรง และยังอาจติดเชื้อนานกว่าผู้ป่วยทั่วไป

8. โรคอ้วน หากติดเชื้อ COVID-19 มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงคล้ายกับกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคอ้วนชนิดรุนแรงหรือมีค่าดัชนีมวลกายตั้งแต่ 30 – 40 ขึ้นไป การขยายตัวของปอดจะถูกจำกัด ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นเมื่อมีการติดเชื้อไวรัสที่ปอดหรืออาจเกิดอาการหายใจลำบากเฉียบพลันได้ หากมีอาการแทรกซ้อนรุนแรงและต้องเข้ารักษาตัวในห้อง ICU อาจมีปัญหาในการใส่ท่อช่วยหายใจหรือการ X-Ray Computer ที่อาจจำกัดขนาดและน้ำหนักของผู้ป่วย

โรงพยาบาลเวชธานีเลือกใช้โซลูชั่นด้านการเงินออราเคิล เพิ่มความคล่องตัวและประสิทธิภาพการบริหารจัดการ

admin — Thu, 08 Apr 2010 00:00:00 +0000

โรงพยาบาลเวชธานี หนึ่งในโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของไทย ประกาศเลือกใช้โซลูชั่น PeopleSoft Enterprise Financial Management 9.0 ของออราเคิล เพื่อพัฒนาศักยภาพระบบงานธุรกิจ ยกระดับระบบบริหารจัดการ เพิ่มความคล่องตัว เพื่อก้าวสู่เบอร์หนึ่งในธุรกิจโรงพยาบาล โดยความร่วมมือจาก บริษัท คอนเวอร์เจนซ์ ซิสเต็มส์ จำกัด คู่ค้าที่ได้รับการรับรองจากออราเคิล เชื่อมั่นว่าโซลูชั่น PeopleSoft มีความเหมาะสมที่สุดสำหรับวงการแพทย์

โซลูชั่น PeopleSoft Enterprise Financial Management จากออราเคิล ช่วยให้ผู้บริหารของโรงพยาบาลเวชธานีสามารถเข้าถึงและตรวจสอบข้อมูลได้อย่างปลอดภัย รองรับการดำเนินการที่เหมาะสม และลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง ครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมการไปจนถึงแนวทางปฏิบัติด้านการเงินที่ทันสมัย และการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างถูกต้องเหมาะสม

ดร.ชาคริต ศึกษากิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า ทีมผู้บริหารของโรงพยาบาลเวชธานีมุ่งมั่นพัฒนาระบบบริการด้านสุขภาพที่เปี่ยมด้วยคุณภาพสูงสุด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ ด้วยเหตุนี้จึงได้ทำการค้นหาโซลูชั่นที่เหมาะสมสำหรับบุคลากร และพบว่าโซลูชั่นระบบการเงิน PeopleSoft Enterprise Financial Management คือทางเลือกที่ลงตัวที่สุด ในการปรับปรุงระบบการเงินและเพิ่มความคล่องตัวให้กับระบบงานขององค์กร

การปรับกลยุทธ์เทคโนโลยีด้าน ICT ระหว่าง โรงพยาบาลเวชธานี และ บริษัท ออราเคิล (ประเทศไทย) ในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการปรับกลยุทธ์ครั้งสำคัญขององค์กร เนื่องด้วยทีมผู้บริหารตระหนักดีถึงการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในองค์กร ตลอดจนกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีด้าน ICT ที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินภารกิจขององค์กร และเพื่อให้บุคลากรสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ICT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืน จึงได้กำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินงานด้านสารสนเทศ โดยมุ่งเน้นในเรื่องสำคัญ ดังนี้
• ส่งเสริมงานบริการลูกค้าด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีการเผยแพร่ข่าวสารอย่างรวดเร็ว ชัดเจน ถูกต้อง
• ส่งเสริมการนำข้อมูลบนสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มาใช้ประโยชน์อย่างจริงจัง
• จัดให้มีทรัพยากรด้านสารสนเทศ อย่างพอเพียงและเหมาะสม ผลักดันการใช้งานอย่างจริงจังและเกิดประโยชน์

ที่ผ่านมาโรงพยาบาลเวชธานีได้ทุ่มงบประมาณในการพัฒนาด้านสารสนเทศไม่ต่ำกว่าปีละ 50 ล้านบาท ทั้งโครงสร้าง เครือข่าย Database และ Application อย่างต่อเนื่อง ในแผนพัฒนาปีที่แล้วได้ดำเนินการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) โดยมอบความไว้วางใจให้กับ ORACLE – PEOPLESOFT และ Convergence Systems ในการนำระบบ PeopleSoft Financials 9.0 เข้ามาใช้ และประสบความสำเร็จในการใช้ระบบตั้งแต่ 1 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังมีแผนในการพัฒนาระบบ CRM และระบบ HIS (Hospital Information Systems) ที่ใช้อยู่ให้ก้าวหน้ามากขึ้น สอดคล้องกับนโยบายคุณภาพด้านการรักษาพยาบาลในระดับสากล ที่เราให้บริการลูกค้าทุกท่าน ซึ่งระบบนี้ จะมีการ Bundle ระบบ DSS (Decision Support Systems), CIS (Clinical Information Systems) และระบบ Business Intelligence Systems เข้าด้วยกัน เพื่อช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถใช้ข้อมูลประกอบการให้บริการผู้ป่วยได้รวดเร็ว และผู้ป่วยปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถ วิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดกับผู้ป่วยได้ดีขึ้น สามารถป้องกันปัญหาและภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดกับผู้ป่วย พร้อมทั้งสามารถวิเคราะห์และลดปัญหาการรอคอยในกลุ่มผู้รับบริการผู้ป่วยนอกได้ ณ จุดให้บริการอีกด้วย และในอนาคตโรงพยาบาลเวชเวชธานียังมีแผนในการพัฒนาระบบทรัพยากรบุคคลให้ทันสมัยและก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งทางโรงพยาบาลเวชธานีก็ได้ให้ความสนใจกับระบบของ ORACLE ด้วยเช่นกัน

คุณวิศิษฐ์ ไพศาลศิริวัฒน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย ธุรกิจแอพพลิเคชั่น ออราเคิล จำกัด กล่าวว่า “ออราเคิลนำเสนอโซลูชั่น PeopleSoft แบบครบวงจรให้แก่โรงพยาบาลเวชธานี เพื่อสนับสนุนแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมและลดค่าใช้จ่ายอย่างเป็นรูปธรรม โซลูชั่น PeopleSoft ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้แก่โรงพยาบาล โดยเสียค่าใช้จ่ายโดยรวมในการดูแลรักษาระบบน้อยกว่า” นอกจากนั้นคุณวิศิษฐ์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “PeopleSoft Enterprise Financial Management ช่วยให้บริษัทต่างๆ ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายอีกด้วย ออราเคิลได้พัฒนาโซลูชั่น PeopleSoft โดยอาศัยข้อมูลความคิดเห็นจากลูกค้า และตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยการเพิ่มเติมฟังก์ชั่นที่ช่วยปรับปรุงกระบวนการด้านการเงิน รวมถึงการบริหารจัดการธุรกิจ” ความสำเร็จของโรงพยาบาลเวชธานีในการปรับปรุงระบบไอทีให้ทันสมัยจะช่วยให้ทางโรงพยาบาลเตรียมพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจและขยายส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจการรักษาพยาบาลในประเทศไทย และในนานาชาติ

คุณปิยรัตน์ อุกฤษฏ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทคอนเวอร์เจนส์ซิสเต็ม จำกัด กล่าวว่า “เราได้รับความไว้วางใจจากผู้บริหารโรงพยาบาลเวชธานี ในการดำเนินการติดตั้งระบบบริหารทางการเงินและคลังสินค้า PeopleSoft Finance และ Supply Chain Management ซึ่งเป็นโซลูชั่นส์การบริหารโรงพยาบาลที่ใช้ในโรงพยาบาลชั้นนำจำนวนมาก บริษัทคอนเวอร์เจนซ์ซิสเทมส์เองเป็นผู้ให้บริการด้านการติดตั้งและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการติดตั้งระบบ PeopleSoft ที่ใช้ในการบริการทางการเงินและบริหารงานบุคคลเพียงบริษัทเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองจากออราเคิลทั้งระบบ HR และระบบ Finance ทั้งนี้ระบบที่ติดตั้งให้กับโรงพยาบาลเวชธานีจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การบริหารงานทำได้รวดเร็ว มีข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนและช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

เคทีซีชวนเวชธานีเปิดแคมเปญสุขภาพ “ซัมเมอร์ เวเคชั่น”

admin — Fri, 20 Jun 2008 00:00:00 +0000

“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับโรงพยาบาลเวชธานีจัดโปรโมชั่นคืนกำไรให้แก่สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีทุกประเภทที่ใช้จ่ายในโรงพยาบาลเวชธานี ภายใต้ แคมเปญสุขภาพ “ซัมเมอร์ เวเคชั่น” ประกอบด้วย

โปรโมชั่นที่ 1 รับสิทธิ์แลกซื้อห้องพักที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ (Hyatt Regency) หัวหิน ในราคา 4,200 บาท จากปกติ 12,000 บาท เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีประเภทใดก็ได้ ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2551

โปรโมชั่นที่ 2 แบ่งชำระผ่านระบบ KTC Flexi ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 10 เดือน กับศูนย์ผิวหนัง เลเซอร์ และความงาม ศูนย์สุขภาพสตรี คลินิกตา หู จมูกและศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2552

พิเศษ! สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี – เวชธานี ไทเทเนียม มาสเตอร์การ์ด รับเพิ่มบัตรกำนัลเอสแอนด์พี (S&P) มูลค่า 300 บาท เมื่อใช้บริการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) 3 เข็ม ราคา 12,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2551 โดยผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC Phone หมายเลขโทรศัพท์ 0-2665-5000 หรือที่เว็บไซท์ www.ktc.co.th

บัตรเครดิตเคทีซี – เวชธานี บัตรเครดิตเพื่อสุขภาพใบแรกของเคทีซี เปิดตัวครั้งแรกเมื่อกลางปี 2548 ปัจจุบันมีจำนวนบัตรทั้งสิ้น 1,800 บัตร ซึ่งสิทธิประโยชน์ที่ผู้ถือบัตรจะได้รับเมื่อใช้บริการที่โรงพยาบาลเวชธานี ได้แก่ ส่วนลด 50% สำหรับค่ารถพยาบาลเพื่อรับผู้ป่วยมาที่โรงพยาบาล ส่วนลด 20% บริการตรวจสุขภาพประจำปี (ไม่จำกัดจำนวนครั้ง) ส่วนลด 10% ค่าห้อง ค่ายา เมื่อใช้บริการที่โรงพยาบาล (ยกเว้นค่าแพทย์) ที่ศูนย์ผิวหนัง เลเซอร์ ความงาม และเมื่อซื้อเครื่องช่วยฟังทุกรุ่น พร้อมรับสิทธิ์ตรวจการได้ยินเบื้องต้นฟรีที่ Soundtex ศูนย์บริการเพื่อการได้ยิน สาขาโรงพยาบาลเวชธานี ส่วนลด 5% สำหรับค่าอาหารที่วีว่า คาเฟ่ ชั้น 2 โรงพยาบาลเวชธานี และรับฟรี “วารสาร 37 องศา” วารสารเพื่อสุขภาพ ทุกๆ 3 เดือน โดยที่ผ่านมามีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เคทีซีทุกประเภทที่โรงพยาบาลเวชธานีประมาณ 8–9 แสนบาทต่อเดือน และคาดว่า แคมเปญ “ซัมเมอร์ เวเคชั่น” จะกระตุ้นให้มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีเพิ่มขึ้น 20% และมีสมาชิกบัตรเพิ่มขึ้น 300 ราย ภายใน 3 เดือน

“เรียลลิตี้โชว์”โรงพยาบาล

admin — Thu, 05 Jan 2006 00:00:00 +0000

น่าจะเป็นครั้งแรกๆ ที่ธุรกิจโรงพยาบาล และผู้ผลิตรายการแฟชั่นทีวีจะขึ้นเวทีแถลงข่าวร่วมกัน หากไม่เป็นเพราะการแข่งขันของธุรกิจโรงพยาบาลที่นับวันจะเข้มข้นขึ้นเรื่อย ทำให้โรงพยาบาลเวชธานีต้องเปิดเกมรุกทางการตลาดครั้งใหม่ เลือกจับมือกับบริษัทเวิลด์ แฟชั่นทีวี เจ้าของช่องรายการทีวีแฟชั่น “ชิค ชาแนล” ผู้ผลิตรายการแฟชั่นในช่องยูบีซี 20 ร่วมกันทำรายการเรียลลิตี้โชว์ ใช้ชื่อว่า Make me beautiful

งานแถลงข่าวมีขึ้นบริเวณห้องโถงชั้น 5 ของโรงพยาบาลเวชธานี แต่งแต้มบรรยากาศด้วยสีฟ้า – ขาว ของชุดพิธีกร โดยมีผู้บริหารของชิคชาแนล และโรงพยาบาลเวชธานี และผู้ผ่านการคัดเลือก 5 คน มาแนะนำตัวบนเวที ถึงที่มาของการรายการนี้

รูปแบบรายการ “Make me beautiful” จะเป็นการคัดเลือกหญิงสาว 5 คน ที่มีจุดบกพร่องในร่างกายที่แตกต่างกันไปมาเข้าทำศัลยกรรมเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง โดยจะให้ผู้ชมได้เห็นถึงขั้นตอนเตรียมความพร้อม และเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในแต่ละส่วน เริ่มแพร่ภาพ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ เวลา 22.30 น.เป็นต้นไป ออกอากาศ 6 ตอน หรือ 6 สัปดาห์ ครั้งละ 30 นาที

ผู้บริหารของโรงพยาบาลมองว่า ด้วยการแข่งขันของโรงพยาบาล การเป็นสปอนเซอร์รายการเรียลลิตี้ครั้งนี้ เป็นกลยุทธ์การตลาดอีกรูปแบบหนึ่ง เพื่อโปรโมตแผนกศัลยกรรมผ่านตัวรายการไปถึงกลุ่มเป้าหมายที่สนใจเรื่องของแฟชั่น ความสวยความงาม

การผลิตรายการในลักษณะนี้ จะทำให้โรงพยาบาลสามารถโปรโมตทั้งในเรื่องของสถานที่ของโรงพยาบาลแล้ว ยังมีช่วงในการสัมภาษณ์แพทย์ของโรงพยาบาล จากแผนกศัยกรรมตกแต่ง โรคผิวหนัง ทันตกรรม โดยไม่ได้ต้องการเปลี่ยน positioning ใหม่ ให้มาเน้นเรื่องศัลยกรรม เหมือนกับโรงพยาบาลยันฮีแต่อย่างใด แต่ทำเพื่อต้องการโปรโมตแผนกศัลยกรรม เพราะมองว่าเป็นแผนกที่สร้างรายได้ดี และมีความต่อเนื่อง

นับเป็นการรุกด้านการตลาดอีกขั้น หลังจากที่โรงพยาบาลเวชธานีเคยนำเรื่องของ “สปอนเซอร์ชิป” มาใช้ในการประชาสัมพันธ์ อาคารของโรงพยาบาลที่ตกแต่งใหม่ทั้งหมด ด้วยการให้ผู้ผลิตละครมายืมใช้สถานที่ได้ฟรี

ม.ร.ว.รุจยาภา อาภากร ผู้จัดการทั่วไป บริษัทเวิลด์ แฟชั่น ทีวี จำกัด บอกว่า เฉลี่ยแล้วชิคชาแนลผลิตรายการเรียลลิตี้ได้ไม่เกิน ปีละ 2 ครั้ง ใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งการผลิต และการโปรโมตรายการ

Did you know?

*รูปแบบของรายการนี้คล้ายกับรายการ The swan ที่ยูบีซีเคยซื้อลิขสิทธิ์มาออกอากาศ จะต่างกันตรงที่ Make me be beautiful ไม่ได้มีการประกวดความงามเป็นขั้นตอนสุดท้าย

*ปกติแล้วธุรกิจโรงพยาบาลไม่สามารถทำโฆษณาเพื่อโปรโมตบริการได้โดยตรง โรงพยาบาลจึงต้องใช้กลยุทธ์การตลาดรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการโปรโมตทางอ้อม

Positioning

ทุกวันนี้โรงพยาบาลเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง นอกจากมีการปรับปรุงตกแต่งใหม่ให้มีความทันสมัย และเน้นบริการแล้ว บางแห่งยังมีการวาง positioning ด้วยการดึงจุดที่มีความชำนาญ เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพฯ และโรงพยาบาลรามคำแหง เน้นเรื่องของการรักษาโรคหัวใจ โรงพยาบาลยันฮี เรื่องของศัลยกรรม ส่วนเวชธานี นั้นเชี่ยวชาญเรื่องของการเปลี่ยนข้อเข่า ข้อหลัง