“โลตัส” ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำค้าปลีกสินค้าแบรนด์ดังคุณภาพสูงในราคาสุดคุ้มค่า ต้อนรับศักราชใหม่ด้วยแคมเปญใหญ่แห่งปี “โรลแบ็ค ลดหนัก ประหยัดจริง“ ลดราคาสินค้าจำเป็นกว่า 500 รายการตลอดปี 2567 เพื่อลดค่าครองชีพให้แก่ผู้บริโภค ที่โลตัสทุกสาขา และช่องทางออนไลน์ผ่าน Lotus’s SMART App ปีนี้ได้จัดเต็มด้วยกิมมิกสุดพิเศษ โลตัสช่วยคนไทยประหยัดค่าพี่วินมอเตอร์ไซค์ลงครึ่งราคา เพียงแค่ทำท่าหมุนมือ “โรลแบ็ค” ตอกย้ำสัญลักษณ์ Symbolic ประจำแคมเปญ
แคมเปญ “โรลแบ็ค” ขึ้นชื่อว่าเป็นแคมเปญคู่บุญของโลตัสมายาวนานถึง 20 ปี ที่เริ่มคิ๊กอ๊อฟตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 ช่วยให้คนไทยได้ช้อปสินค้าราคาประหยัดจริงๆ ในแต่ละปีจะมีความพิเศษที่แตกต่างกันออกไป
ในปีนี้โลตัสได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ เรียกได้ว่าเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์เลยทีเดียว ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาหลายคนที่สัญจรไปมาแถวย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, สยาม รวมไปถึงสีลม อาจจะได้เห็นผู้คนจำนวนมากทำท่ากำมือทั้ง 2 ข้าง และหมุนมือเป็นสัญลักษณ์บางอย่าง จากนั้นก็ขึ้นวิมอเตอร์ไซต์รับจ้างไปในทันที
หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่านี่เป็นเบื้องหลังของแคมเปญอะไรหรือไม่ จนได้คำตอบที่ว่า ที่แท้จริงนั้นคือส่วนหนึ่งของแคมเปญโรลแบ็คของโลตัสนี่เอง โดยที่กิมมิกของแคมเปญนี้อยู่ที่ว่า หากใครที่ทำท่าหมุนมือนี้ จะได้รับส่วนลดครึ่งราคาในการเดินทางไปกับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปเลยทันที โดยราคาอีกครึ่งที่เหลือ ทางโลตัสจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้เอง เพื่อเป็นการช่วยช่วยคนไทยในการประหยัดค่าครองชีพนั่นเอง
โดยปกติแล้วแคมเปญโรลแบ็คจะอยู่แค่ในสโตร์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น จะเป็นการลดราคาสินค้า แต่ในปีนี้โลตัสได้นำเอาสัญลักษณ์การหมุนมือออกมานอกสโตร์ เปรียบเหมือนการลดราคาลง ออกมาใช้เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างมากขึ้น
ไม่ใช่แค่ทำท่าหมุนมือเพียงอย่างเดียว แต่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของคนไทยในการเดินทาง ยิ่งในยุคปัจจุบันที่ค่าครองชีพในเมืองกรุงพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ โลตัสจึงทำการโรลแบ็คไปกับวินมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ในการลดครึ่งราคากันเลยทีเดียว เป็นการจุดกระแสสร้างการรับรู้แก่คนที่สัญจรไปมาใน 3 โลเคชั่นหลักอย่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, สยาม และสีลม ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจที่มีคนพลุกพร่านตลอดทั้งวัน
สำหรับแคมเปญ “โรลแบ็ค ลดหนัก ประหยัดจริง” ในปีนี้ ได้จัดเต็มในการลดราคาสินค้ากว่า 500 รายการ อาทิ ข้าวสาร น้ำยาล้างจาน กางเกงผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูป ของใช้ในชีวิตประจำวันจากแบรนด์ชั้นนำนำมาจัดโปรโมชั่นราคาโรลแบ็ค ลดแบบจัดหนัก เพื่อช่วยคนไทยประหยัดเพิ่มความคุ้มค่า และมอบความรู้สึกดีดีทุกวันให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังสอดรับกับมาตรการลดหย่อนภาษีของภาครัฐ เพื่อให้ประชาชนช้อปลดหย่อนภาษีที่คุ้มขึ้นอีกขั้นและลูกค้าสามารถขอรับใบกำกับภาษีแบบ e-Tax Invoice ผ่านการจับจ่ายที่สาขาและแอปพลิเคชั่น Lotus’s SMART App โดยโปรโมชั่นราคาโรลแบ็คจะประเดิมจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม ถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 และมีแผนจะจัดราคาโรลแบ็คต่อเนื่องตลอดทั้งปีซึ่งจะสลับหมุนเวียนสินค้าจำเป็นที่ครอบคลุมต่อการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชน นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถสะสมแต้มสมาชิกมายโลตัส เพื่อรับสิทธิประโยชน์และส่วนลดพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกด้วย
นางสาววรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานการตลาด โลตัส กล่าวว่า
“โลตัส ในบทบาทผู้นำค้าปลีกที่ยืนหนึ่งเรื่องความคุ้มค่า ขอส่งความสุขให้ประชาชนฉลองการเริ่มต้นปี 2567 อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการนำแคมเปญโด่งดังอย่าง “โรลแบ็ค” ที่เป็นภาพจำของโลตัสตั้งแต่ปี 2546 และอยู่คู่โลตัสมาหลายสิบปีอีกทั้งยังเป็นแคมเปญโดนใจลูกค้าเพราะช่วยลดราคาสินค้าลดภาระค่าครองชีพ พร้อมการันตีความประหยัดที่สุดที่โลตัส ซึ่งครั้งนี้โลตัสได้กลับมาเล่นใหญ่อีกครั้งผ่านการจัดแคมเปญ “โรลแบ็ค ลดหนัก ประหยัดจริง”
ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งในปีนี้ โลตัสได้สร้างกิมมิกเล็กๆ ด้วยการ “โรลแบ็ค” นอกสถานที่ ลงพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯอย่างโซนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, สยาม และสีลม ทำการช่วยลดค่าโดยสารพี่วินมอเตอร์ไซค์ตั้งครึ่งราคา เพียงแค่แสดงท่าหมุนมือที่เป็นท่าประจำแคมเปญโรลแบ็ค เพื่อเป็นการตอกย้ำไอคอนของแคมเปญที่อยู่คู่คนไทยมายาวนานกว่า 20 ปี”
สำหรับสินค้าที่ร่วมแคมเปญ “โรลแบ็ค ลดหนัก ประหยัดจริง” มีหลากหลายกลุ่มสินค้า ที่ครอบคลุมในชีวิตประจำวัน ยกตัวอย่างเช่น
สามารถพบกับ “โรลแบ็ค ลดหนัก ประหยัดจริง” พบสินค้าราคาโปรโมชั่นสุดพิเศษ ที่โลตัสทุกสาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ผ่าน Lotus’s SMART App ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. ถึง 21 ก.พ. 2567
]]>โลตัส ประกาศเจตนารมณ์ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกราคาคุ้มค่าที่สุด “โลตัสถูกยืน 1” เพราะโลตัสไม่ยอมให้ใครขายถูกกว่าในสินค้าของกินของใช้ยอดนิยมของชาวไทย รับประกันถูกจริงไม่ต้องเช็ก เพราะโลตัสเช็กมาให้แล้ว พร้อมการกลับมาของโรลแบ็คในกลุ่มสินค้าอาหารสด ผ้าอ้อมเด็ก (ทุกยี่ห้อ ทุกขนาด) นมผงเด็ก (สูตร 3, 4 ทุกยี่ห้อ ทุกขนาด ) ถูกลงกว่าเดิม ให้ผู้บริโภคสามารถมาช้อปได้แบบคุ้มค่าทุกวันที่โลตัสสาขาใหญ่ไฮเปอร์มาร์เก็ต และซูเปอร์มาร์เก็ต ทั่วประเทศ รวมถึงแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ Lotus’s SMART App
นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปีที่เราดำเนินธุรกิจ โลตัส มุ่งมั่นส่งมอบสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึง เพื่อสร้างความคุ้มค่าและช่วยลูกค้าประหยัดค่าครองชีพเสมอมา และเราเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยที่มีชื่อเสียงในด้านราคาที่คุ้มค่ามาโดยตลอด ในอดีตเรามีแคมเปญโรลแบ็คที่อยู่คู่โลตัสหลายสิบปีและเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า เพราะช่วยลดราคาสินค้าและตรึงราคาสินค้าบางรายการให้ต่ำกว่าราคาตลาด ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าจะได้ราคาที่คุ้มค่าที่สุดที่โลตัส ที่ผ่านมา ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจและการปรับขึ้นราคาของสินค้าหลายรายการ โลตัส มีความพยายามมาโดยตลอดที่จะตัดและตรึงราคาสำหรับสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพเพื่อช่วยประชาชนชาวไทยประหยัด วันนี้ เราพร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านความคุ้มค่าและราคาประหยัดอีกครั้ง และได้ประกาศเจตนารมณ์ในการเป็นค้าปลีกที่ยืนหนึ่งเรื่องราคาคุ้มค่า ไม่ใช่เพียงเรื่องราคาถูก แต่เป็นการเพิ่มความคุ้มค่าทุกการจับจ่าย เมื่อเปรียบเทียบคุณภาพสินค้าและราคา ซื้อที่โลตัสต้องคุ้มค่าที่สุดทุกวัน
โดยโลตัสถูกยืน 1 คัดสรรของกินของใช้จำเป็นยอดนิยมของคนไทย มารับประกันว่าถูกจริง ไม่ต้องเช็ก อาทิ ข้าวสารหอมมะลิ วัตถุดิบและเครื่องปรุงอาหาร น้ำดื่ม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและของใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งการรับประกันถูกจริงไม่ต้องเช็กและโรลแบ็คที่ถูกลงกว่าเดิม เพื่อให้ทุกคนมั่นใจและสามารถมาช้อปแบบถูกลงได้ทุกวันที่โลตัส
และการกลับมาของโรลแบ็ค ในกลุ่มสินค้านมผงสูตร 3,4 ผ้าอ้อมเด็ก และอาหารสด ให้มีราคาถูกลงกว่าเดิม ให้คนไทยเข้าถึงสินค้าจำเป็นที่มีคุณภาพสูงในราคาคุ้มค่ายิ่งขึ้น ที่สาขาของโลตัสในรูปแบบสาขาใหญ่ ไฮเปอร์มาร์เก็ตและซูเปอร์มาร์เก็ต ครอบคลุมทั่วไทย และยังสามารถช้อปได้อย่างสะดวกสบายผ่าน Lotus’s SMART App”
การกลับมาของโลตัสในการเป็นค้าปลีกราคาถูกยืน 1 โลตัสได้ทุ่มจัดแคมเปญการตลาดสุดยิ่งใหญ่เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังลูกค้าทั่วประเทศ ผ่านกลยุทธ์การสื่อสารแบบ 360 องศา มีการประกาศเจตนารมณ์โดยผู้บริหารผ่านช่องทางในทุกสาขาของโลตัสทั่วประเทศ พร้อมสร้างการรับรู้ในสื่อนอกบ้าน (Out of Home Media) เช่นป้ายบิลบอร์ด สื่อในสถานีรถไฟฟ้า สื่อโฆษณากลางแจ้งจัดเดินทรูป (Troop) ในกทม. และรถแห่ในพื้นที่ต่างจังหวัด และยังมีสื่อวิทยุโทรทัศน์ สื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ยังมีการสร้างการรับรู้ผ่านอินฟลูเอนเซอร์และพนักงานอีกด้วย เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยในทุกพื้นที่ ดึงดูดลูกค้าให้มาช้อปแบบคุ้มค่า ในราคาที่ถูกลง ให้ลูกค้ารู้สึกดีดี ทุกวัน ที่โลตัส
]]>โดยผู้บริโภค 58% มีความพะวงต่อภาวะราคาสินค้าแพง ตามด้วย 51% กลัวค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือนจะขยับขึ้น และ 47% กังวลเรื่องหนี้สินที่มีจะกระทบการใช้จ่าย
ยิ่งเมื่อรวมกับข้อมูลของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ระบุว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค” เดือนกุมภาพันธ์กลับ “ดิ่งลง” เป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน
สัญญาณลบแบบนี้ เทสโก้ โลตัส ต้องเข็นแคมเปญใหญ่ “โรลแบ็ค” ออกมา เพื่อดึงกำลังซื้อเข้าห้างให้เร็วขึ้น จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.-15 มิ.ย.61
เแคมเปญ “โรลแบ็ค” ถือเป็นหมัดเด็ดด้าน “ราคา” ที่ผู้บริโภคจดจำได้เป็นอย่างดี เมื่อค่ายค้าปลีกห้ำหั่นด้วยราคา (Red Ocean) เมื่อไหร่ เทสโก้ฯ จะเป็นแบรนด์ลำดับต้น ๆ ที่คนนึกถึง เพราะโรลแบ็คเป็นแคมเปญที่จัดต่อเนื่องมา 15 ปี เริ่มในปี 2546
ด้วยการทุ่มงบก้อนโต 520 ล้านบาท มากสุดรอบ 15 ปี เพื่อเป็นส่วนลดสินค้ากว่า 1,000 รายการ ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.-15 มิ.ย.61 ซึ่งช่วงดังกล่าวผู้บริโภคค่อนข้าง “ระมัดระวังการใช้จ่าย” เพราะผ่านพ้นตรุษจีนที่คนใช้จ่ายเงินหนักไปแล้ว และยังเป็นรอยต่อในการประหยัดเงินเพื่อรับการเปิดเทอม จึงต้องรีบส่งแคมเปญ เพื่อดึงกำลังซื้อให้กลับมา เพราะอาจมีผลต่อการเติบโตของยอดขาย
ปีนี้ได้ “ทุ่มงบก้อนโต 520 ล้านบาท” ใหญ่สุดรอบ 15 ปี ใช้เป็นส่วนลดสินค้ากว่า 1,000 รายการ โดยใช้พร้อมกันกว่า 1,900 สาขา มีทุกฟอร์แมตที่ร้านมีทั้งเทสโก้ โลตัส ดีพาร์ทเมนสโตร์, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, โลตัส เอ็กซ์เพรส เป็นต้น จากเดิมทำเพียงสาขาใหญ่ หรือไฮเปอร์มาร์เก็ต
“เป็นครั้งแรกที่เราทำแคมเปญโรลแบ็คข้ามฟอร์แมต หลังพบพฤติกรรมผู้บริโภคของเทสโก้โลตัสกว่า 40% มีการซื้อสินค้าข้ามฟอร์แมตทั้งร้านใหญ่ ไปร้านสะดวกซื้อโลตัสเอ็กซ์เพรสของเรา รวมถึงออนไลน์ และเรามองว่าแนวโน้มการซื้อข้ามฟอร์แมตดังกล่าวจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ” มาร์ค รัฟลีย์ ประธานกรรมการฝ่ายการตลาด เทสโก้ โลตัส กล่าว
การเลือกทำแคมเปญโรแบ็คในร้านโลตัสเอ็กซ์เพรส ส่วนหนึ่งเป็นพฤติกรรมผู้บริโภคยุคปัจจุบันซื้อสินค้าน้อยชิ้นลง แต่เพิ่มความถี่มากขึ้น อีกทั้งร้านสะดวกซื้อยังเป็นช่องทางที่ “แบรนด์สินค้าต่าง ๆ” มัก “เล่นโปรโมชั่นลดราคา” หมุนเวียนกันตลอดทั้งปีด้วย ดังนั้น หากเทสโก้ฯ ต้องการรักษาฐานลูกค้าไว้ให้เหนียวแน่น ก็ต้องลงไปถึงฟอร์แมตร้านสะดวกซื้อ
ส่วนสินค้าหัวหอกในการลดราคา คือ “หมวดอาหารสด” ซึ่งเป็นอีกหมวดที่ “โตแรง” สำหรับเทสโก้ฯ เพราะขึ้นชื่อว่า “ของกิน” จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดีก็ต้องซื้ออยู่ดี ดังนั้น การลดราคาจะช่วยเพิ่มการเติบโตให้กับสินค้าหมวดนี้ได้มากขึ้นด้วย ขณะที่ผ่านมา โรลแบ็คให้น้ำหนักการหมุนเวียนลดราคาสินค้าเบ็ดเตล็ด ข้าวสาร อาหารแห้ง (Grocery) เป็นหลัก
“เราจัดโรลแบ็คปีละ 3-4 ครั้ง มีสินค้าหมุนเวียนลดราคาตั้งแต่ 100 ไปจนมากกว่า 1,000 รายการ และการโฟกัสลดราคาอาหารสดเพิ่งเริ่มปีที่ก่อน และปีนี้เราเน้นหนักมากขึ้น จากโรลแบ็คสินค้ากว่า 1,000 รายการ เป็นอาหารสดมากกว่า 200 รายการ”
นอกจากนี้ งบลดราคายังเทไปให้การหั่นราคา “ค่าธรรมเนียม” ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำ ค่าไฟ จาก 10 บาทต่อบิล เหลือ 5 บาทต่อบิลด้วย เพราะต้องยอมรับการที่ห้างค้าปลีกหันมา “เพิ่มความสะดวก” ในการจ่ายบิล เป็นหนึ่งในบริการที่ “ดึง” ลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการในห้างด้วย เรียกว่ามาซื้อของแล้ว ชำระหนี้ บิลให้เสร็จเป็น One Stop Service จุดเดียวไปเลย
หมุนเวียนลดราคาอาหารสดมากสุด และพ่วงลดค่าธรรมเนียมจ่ายบิลต่าง ๆ
การเทงบหนัก และจัดแคมเปญทั่วทุกสาขา แถมพ่วงออนไลน์ด้วย คงต้องมาดูว่าพลังของแคมเปญครั้งนี้ จะปั๊มยอดขายและบูสต์กำลังซื้อให้โตสมใจหรือไม่ ต้องติดตาม!.
]]>