ไอดอลจีน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 09 Sep 2021 02:30:21 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 จีนเอาจริง! กำจัด “ไอดอลหนุ่มหวาน” พ้นจอ มองว่าเลียนแบบเกาหลีใต้ เป็นภัยคุกคาม https://positioningmag.com/1350864 Wed, 08 Sep 2021 14:12:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1350864 หน่วยงานด้านการดูแล และควบคุมสื่อของจีนแผ่นดินใหญ่ เตรียมจัดระเบียบครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพยายามกำจัดสิ่งที่พวกเขาชื่อว่ากำลังทำลายความเข้มแข็งของชาวจีน อย่างการส่งเสริมพฤติกรรมที่ดู “ตุ้งติ้ง” ของผู้ชายในสื่อบันเทิงต่างๆ นั่นเอง

โดยทางหน่วยงานราชการของจีนเรียกสิ่งนี้เพื่อการส่งเสริม “ความงามตามมาตรฐาน” แต่แท้จริงแล้วมีจุดประสงค์หลักในการพยายามกำจัดเหล่าดาราวัยรุ่นชายที่เน้นจุดขายความเป็น “หนุ่มหวาน” ของดาราวัยรุ่นส่วนใหญ่ต่างหาก

งานรัฐบาลจีนเชื่อว่าดาราหนุ่มเหล่านี้ สร้างภาพลักษณ์ที่ดูอ่อนหวาน เน้นความสวย มากกว่าจะเป็นความหล่อ ตามการจัดการของบริษัท และเป็นแนวทางที่บริษัทบันเทิงของจีนแผ่นดินใหญ่หลายแห่งลอกเลียนแบบมาจากเกาหลีใต้ ซึ่งหน่วยงานราชการจีนมองว่ากำลัง “เป็นภัยคุกคามต่อสังคม”

โดยมีการออกจดหมายเตือนจากสำนักงานวิทยุและโทรทัศน์ของจีนแผ่นดินใหญ่ไปถึงบริษัทต่างๆ ว่า หลังจากนี้บริษัทบันเทิงควรจะ “สนับสนุนค่านิยมดั้งเดิมของจีน, สนับสนุนการปฏิวัติวัฒนธรรม และ สนับสนุนค่านิยมแบบสังคมนิยม” เป็นหลัก

นอกจากนั้นก็ควรจะยึดถือการนำเสนอผลงานตามหลักความงามที่ถูกต้อง และควรจะบอยคอตต์เหล่า “ไอดอลตุ้งติ้ง” ไม่ได้นำเสนอภาพลักษณ์นี้ในสื่อสาธารณะอีก

Photo : Shutterstock

การประกาศมาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังมีการจับกุมตัว คริส วู หรือ อู๋อี้ฟาน ในข้อหาข่มขืน และล่วงละเมิดทางเพศโดย คริส วู คือ ไอดอลหนุ่มชาวจีนที่แจ้งเกิดโด่งดังขึ้นมาจากการผลักดันของบริษัทในเกาหลีใต้เช่นเดียวกัน

ซึ่งในตอนที่มีการจับตัว คริส วู นั้นกลุ่มแฟนคลับของเขาได้แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง ถึงขั้นประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่ และข่มขู่ว่าพวกเขาจะแหกคุกเข้าไปช่วย คริส ออกมาให้ได้

หลังจากการจับกุมตัวครั้งนั้น ทางการจีนได้ออกมาตรการที่เป็นการจัดระเบียบวงการบันเทิงออกมามากมาย ดาราดังหลายคนหายไปจากโซเชียลมีเดียของจีนโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน ซึ่งเชื่อกันว่านี่คือส่วนหนึ่งของการจัดการกับเหล่าดารา และแฟนคลับที่รัฐบาลจีนมองว่า กำลังสร้างปัญหาให้กับประเทศ

ขณะเดียวกันก็ยังมีมาตรการกับธุรกิจเกมออนไลน์ ที่รัฐบาลจีนได้ออกกฏกำหนดให้เด็กสามารถเล่นเกมได้เพียงวันหยุดสุดสัปดาห์และจำกัดชั่วโมงการเล่นเกมเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์เท่านั้น

Source

]]>
1350864
“เถ้าแก่น้อย” ดึงไอดอลจีน F4 นั่งพรีเซนเตอร์ครั้งแรก ดันยอดตลาดจีนทำรายได้เท่าไทย https://positioningmag.com/1220097 Fri, 15 Mar 2019 13:54:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1220097 หลังใช้บริการไอดอล เกาหลี 2PM และ GOT7 มาเป็นพรีเซนเตอร์ สร้างแบรนด์ “เถ้าแก่น้อย” ไต่ระดับสู่ “ริจินัล แบรนด์” ของเอเชียมาแล้ว ปีนี้ ถึงคิว “F4” ไอดอลจากจีน ที่นับเป็นครั้งแรกกับตำแหน่งพรีเซนเตอร์เถ้าแก่น้อยกับภารกิจดันตลาดสาหร่ายจีนเติบโต 10% พร้อมปั้น “บิ๊กโรล” ให้เป็นอีกโปรดักต์ ฮีโร่

อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าตัวเลขผลประกอบการในปีที่ผ่านมามียอดขาย 5,662 ล้านบาท เติบโต 10% มาจากตลาดไทย 40% ตลาดจีน 40% และตลาดส่งออกอื่นๆ อีก 20%

อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์

วันนี้ตลาดจีนสามารถทำยอดขายได้เท่าตลาดไทยและยังมีแนวโน้มโตต่อ

ปัจจุบันสแน็กสาหร่าย “เถ้าแก่น้อย” ส่งออกกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ตลาดหลักคือ เอเชีย โดย 5 ตลาดยอดขายส่งออกสูงสุด คือ จีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไต้หวันและเวียดนาม

ดึงไอดอลจีน F4 นั่งพรีเซนเตอร์

กลยุทธ์การทำตลาดเถ้าแก่น้อยที่ใช้มาต่อเนื่องคือ “ไอดอล มาร์เก็ตติ้ง” ในโอกาสครบรอบ 10 ปี ส่งออกสินค้าทำตลาดจีนและวางเป้าหมายยอดขายปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จึงใช้งบการตลาด 40 ล้านบาท ดึง 4 หนุ่ม F4 ซุปตาร์ระดับเอเชีย ที่ประกอบด้วย ดีแลน หวัง (Dylan Wang) ดาร์เรน เฉิน (Darren Chen) ลีออน เหลียง (Leon Leong) และซีซาร์ อู๋ (Caesar Wu) มาเป็นพรีเซนเตอร์ใหม่

โดยถือเป็นครั้งแรกของ “ไอดอลจีน” กับแบรนด์เถ้าแก่น้อย เพื่อทำตลาดในช่วงซัมเมอร์นี้ เจาะฐานแฟนคลับทั้งจีนและไทย รวมทั้งเอเชีย โดย F4 โด่งดังจากซีรีส์รีเมค รักใสใสหัวใจ 4 ดวง” เวอร์ชั่น Meteor garden (F4 2018) ในประเทศจีน และกำลังจะมาออกอากาศทางทีวีในประเทศไทยด้วยเช่นกัน

แฟนคลับ F4

การเลือกพรีเซ็นเตอร์ของเถ้าแก่น้อย จะดูจากกลุ่มเป้าหมายของสินค้าเป็นหลัก ที่ผ่านมามีทั้งไอดอล เกาหลีใต้และไทย กลยุทธ์ “ไอดอล มาร์เก็ตติ้ง” เป็นการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่แบรนด์ใช้สื่อสารกับกลุ่มแฟนคลับของไอดอล เพื่อให้ติดตามสินค้าที่ไอดอลเป็นพรีเซนเตอร์ ที่จะส่งผลต่อยอดขายในท้ายที่สุด

ปั้นตลาด “บิ๊กโรล”

สำหรับพรีเซนเตอร์ใหม่ 4 หนุ่ม F4 จะมีภาพยนต์โฆษณาชุดใหม่ภายใต้ธีม “Big Roll อร่อย…ม้วนเดียวไม่จบที่เน้นทำตลาดสาหร่ายประเภทย่างแบบม้วน “บิ๊กโรล” (Big roll) โดยมีการเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ Limited Edition ที่มีการนำภาพทั้ง 4 หนุ่มมาไว้บนบรรจุภัณฑ์เพื่อให้แฟนคลับได้สะสมอีกด้วย

การใช้พรีเซนเตอร์ F4 โฟกัสไปที่ตัวผลิตภัณฑ์ “บิ๊กโรล” เพราะปี 2561 สาหร่ายประเภทย่าง เติบโต 24.5% เป็นอัตราสูงสุดเมื่อเทียบกับภาพรวมตลาดสาหร่ายในประเทศไทยปีที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่า 3,032 ล้านบาท เติบโต 5.2% ประกอบไปด้วยสาหร่ายประเภททอด อบ ย่างและเทมปุระ

4 หนุ่ม F4 ไอดอลจีน

สาหร่ายประเภทย่างปีที่ผ่านมา บิ๊กโรล สาหร่ายม้วนย่าง ถือเป็นผู้ขับเคลื่อนตลาดให้เติบโตสูง เพราะมีมาร์เก็ตแชร์สูงสุดเกือบ 50% และเติบโต 35% “บิ๊กโรล” จึงเป็นหนึ่งในแบรนด์สำคัญที่สร้างการเติบโตให้กับเถ้าแก่น้อย

กลยุทธ์การทำตลาดปีนี้ จึงมุ่งสร้างแบรนด์ บิ๊กโรล ขยายสู่กลุ่มนักเรียน วัยรุ่น นักศึกษา คนรุ่นใหม่ ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้แก่ รสกิมจิ ที่มีความเข้มข้นแบบเกาหลี เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคนอกจากรสคลาสสิคและสไปซี่

ปัจจุบันบิ๊กโรล มียอดขายรวม 300 ล้านบาท จากการรุกตลาดต่อเนื่องบริษัทตั้งเป้าที่จะผลักดันให้มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านบาท ภายใน 3 ปี ขณะที่ภาพรวมตลาดสาหร่ายในประเทศไทยปี 2561 มีมูลค่า 3,032 ล้านบาท เถ้าแก่น้อย เป็นผู้นำ มีส่วนแบ่งตลาด 69% ปีนี้เชื่อว่าจะเติบโตได้อีก 10%

ยอดขายจีนเท่าไทย    

ในตลาดส่งออกกว่า 50 ประเทศ “จีน” ถือเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของเถ้าแก่น้อย ปีที่ผ่านมามียอดขาย 2,195 ล้านบาท เป็นมูลค่าเท่ากับตลาดไทย โดย “บิ๊กโรล” ถือเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดในประเทศจีน มีสัดส่วนกว่า 60% และอีก 40% ประเภททอด อบและเทมปุระ

ปัจจุบันตลาดสแน็กสาหร่ายในจีนมีมูลค่า 15,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นสาหร่ายนำเข้า 40% โดยเถ้าแก่น้อยเป็นผู้นำตลาด โดยมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีน 3 ราย ครอบคลุมหัวเมืองหลัก เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เถ้าแก่น้อย ได้เปิดแฟลกชิปสโตร์ ในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ TMall ซึ่งจะทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในเมืองรองที่สามารถสั่งสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์

แนวโน้มตลาดจีนยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง 2-3 ปีจากนี้ยังเติบโตได้ 10% ทุกปี และยอดขายจะแตะ 3,000 ล้านบาทได้แน่นอน

นอกจากตลาดส่งออกจีนที่เติบโตแล้ว นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเที่ยวไทย  ยังเป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่ซื้อสาหร่ายเถ้าแก่น้อย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 20% ของยอดขายตลาดไทย

ลุยตลาดยุโรป-สหรัฐ

หลังจากบุกตลาดเอเชีย จนก้าวสู่ ริจินัล แบรนด์ ปีนี้เถ้าแก่น้อยจะออกไปทำตลาดในยุโรป ที่อังกฤษ เยอรมนี และสหรัฐ มากขึ้น โดยต้องสร้างวัฒนธรรมการรับประทานสแน็กสาหร่ายในตลาดดังกล่าว

โดยไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมาได้เปิดตัว แบรนด์ใหม่ชื่อ “NORA” (โนระ) ในสหรัฐ เนื่องจากชื่อ เถ้าแก่น้อย ออกเสียงได้ลำบาก จึงต้องสร้างแบรนด์ใหม่ ซึ่งได้รับผลการตอบรับดี โดยแบรนด์เถ้าแก่น้อย มีจำหน่ายใน grocery store ของชาวเอเชียในสหรัฐด้วยเช่นกัน

การดำเนินงานของเถ้าแก่น้อยในตลาดต่างประเทศ ยังเป็นไปตามเป้าหมายปี 2024 ที่จะก้าวสู่ “โกลบอล แบรนด์” โดยต้องมียอดขาย 10,000 ล้านบาท และสัดสัวนยอดขาย 50% มาจากตลาดส่งออก วันนี้ทุกอย่างยังเป็นไปตามแผน ปัจจุบันมีผู้บริโภคสาหร่ายเถ้าแก่น้อยทั้งตลาดไทยและต่างประเทศวันละ 1 ล้านคน

]]>
1220097