กรุ๊ปเอ็ม ประเทศไทย – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 29 Jan 2021 01:21:18 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 GroupM แนะ 6 แนวทาง นักการตลาดฝ่าวิกฤต COVID-19 รอบใหม่ https://positioningmag.com/1315869 Thu, 28 Jan 2021 14:50:56 +0000 https://positioningmag.com/?p=1315869 จากช่วงกลางเดือนธันวาคม 2563 ที่เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 ในหลายจังหวัด แม้รอบนี้จะยังไม่ถูกล็อกดาวน์ และหยุดกิจกรรมต่างๆ ทางเศรษฐกิจ แต่ยังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไทยในวงกว้าง แม้จะมีบทเรียนมาแล้วจากปี 2563 แต่แบรนด์และนักการตลาดยังจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ รวมถึงวางแผนที่ต้องปรับตามสถานการณ์อย่างเหมาะสมจากความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นใหม่ในปีนี้

กรุ๊ปเอ็ม ประเทศไทย (GroupM) กลุ่มเอเยนซี่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านบริหารจัดการการลงทุนด้านสื่อในเครือ ดับบลิวพีพี (WPP) จับมือกับเอเยนซี่ในเครือได้แก่ มายด์แชร์ มีเดียคอม เวฟเมคเกอร์ ได้ทำการสรุปคำแนะนำสำคัญดังนี้

1. เร่งขยายช่องทางจัดจำหน่ายออนไลน์ให้เหมาะสมกับธุรกิจ

บทเรียนจากปีที่แล้ว ผู้บริโภคไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ รวมถึงกังวลเรื่องความปลอดภัยจึงหันไปพึ่งพาการซื้อของออนไลน์แทน โดยพบว่าในช่วงการแพร่ระบาดนั้น ผู้บริโภคกว่า 89% ใช้เวลาไปกับการการซื้อของออนไลน์มากขึ้น (GroupM Consumer Eyes) อีกทั้งเพื่อความอยู่รอด หลายอุตสาหกรรมต่างปรับตัวสร้างช่องทางจำหน่ายบนตลาดออนไลน์ของตัวเอง ส่งผลให้อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซในภาพรวมปี 2020 สูงขึ้นถึง 35% (FOCAL 2020 – eCommerce Outlooks)

การกลับมาของ COVID-19 ระลอกใหม่นี้ ผู้บริโภคไทยมีความคุ้นเคยกับการซื้อของผ่านทางออนไลน์อยู่แล้ว จึงเป็นโอกาสสำหรับแบรนด์ ที่เคยสร้างอีโคซิสเท็มในการจำหน่ายทางออนไลน์ให้ตัวเองไปแล้วได้ลงทุนเพิ่มขึ้น เพื่อต่อยอดการสร้างโอกาสในการขายอย่างมีประสิทธิภาพในสถานการณ์นี้

ซึ่งตอนนี้นักการตลาดไม่ควรมองแค่แพลตฟอร์มการขายเดียว แต่ยังต้องเข้าถึงแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ลักษณะการขายของที่เหมาะสมกับสินค้าของตัวเอง รวมถึงหาพาร์ตเนอร์ที่สามารถขยายช่องทางการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ได้ เพิ่มเติมจากแต่เดิมที่อาจใช้เว็บไซต์ และการขายผ่านทาง Online Marketplace ไปยังช่องทางอื่นๆ เช่น Social Commerce การร่วมมือกับ Influencer เพื่อสร้างยอดขาย ตลอดจนการมองหาช่องทางใหม่ๆ หรือแอปพลิเคชันใหม่ๆ ที่ผู้บริโภคใช้ในการจับจ่ายใช้สอย ซื้อสินค้า เฉพาะหมวดหมู่

2. เพิ่มการลงทุนในช่องทางที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างจำเพาะเจาะจง

ในวันนี้คอนเทนต์ที่ผู้บริโภคติดตามไม่ได้จำกัดแค่ทางสื่อโซเชียลหรือเว็บไซต์ และผู้บริโภคมีพฤติกรรมการข้ามไปมาระหว่างแพลตฟอร์มมากขึ้น และรวดเร็วขึ้น การวางแผนซื้อสื่อทีละแพลตฟอร์มด้วยวิธีเดิม ไม่สามารถตอบสนองการเข้าถึงผู้บริโภคและสร้างความน่าสนใจได้อย่างทันเวลา

ต่อจากนี้แบรนด์และนักการตลาดต้องสามารถเข้าถึง Touchpoint ต่างๆ ได้ตลอดเวลา และสื่อสารให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เพื่อให้การลงทุนทางการตลาดมีประสิทธิภาพสูงสุด อย่างเช่น การใช้เทคโนโลยีอย่าง Programmatic ที่มี AI วิเคราะห์ข้อมูลและยิงโฆษณาให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจเดียวกันในแพลตฟอร์มที่ต่างกัน ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าและคุ้มค่ากว่าการลงทุนแบบแยกทีละแพลตฟอร์ม

3. เตรียมตัวสู้การแข่งขันในยุค Data Driven

ธุรกิจต่างๆ มีบทเรียนจากการแพร่ระบาดครั้งที่แล้ว และหันไปพึ่งแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ทำให้เกิดการแข่งขันอย่างดุเดือดเพื่อแยกลูกค้ากันในแต่ละแพลตฟอร์ม พื้นฐานของการตลาดแบบ Data Driven ที่แข่งกันว่าใครใช้ Data เก่งกว่ากัน และไม่ได้จำกัดอยู่ที่การยิงโฆษณา แต่เป็นการทำ Promotion การใช้ Performance Marketing และการทำ Personalisation รวมไปถึงการทำ CRM ที่มีประสิทธิภาพเพื่อสร้างโอกาสเพิ่มยอดขาย

สิ่งสำคัญของแบรนด์และนักการตลาดคือการหาพาร์ตเนอร์ที่มีความสามารถในการช่วยแปลง Data ให้กลายเป็นความรู้ที่สามารถสร้างข้อได้เปรียบในการวางแผนกลยุทธ์การขาย เพราะสามารถเลือกทำกลยุทธ์ได้หลายแบบ ทั้งในเรื่องของ ราคา การจัด Promotion การหาลูกค้าเพิ่มจากแพตลฟอร์มใหม่ อีกทั้งแบรนด์ใหญ่ ๆ ยังสามารถสร้างข้อได้เปรียบจากการใช้สื่อที่มี Outcome Guaranteed

4. ต้องไม่หยุดสร้าง Brand Awareness

แม้การแข่งเรื่องโปรโมชัน ราคา จะรุนแรงขึ้น แต่แบรนด์ใหญ่ต้องไม่ลดการลงทุนสื่อเพื่อสร้างการจดจำ ซึ่งเป็นโอกาสในการเข้าถึงผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพิ่มความมั่นใจและเชื่อใจในระยะยาว อีกทั้งเป็นการลดโอกาสในการถูกคู่แข่งแย่งผู้บริโภคไปในการแข่งขันเรื่องราคา และโปรโมชันที่เข้มข้นขึ้น

สำหรับแบรนด์หน้าใหม่ ช่วงนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะการเข้าถึงผู้บริโภคที่อยู่บ้านและมีเวลารับสื่อมากขึ้น โดยเฉพาะสื่อ Offline อย่างโทรทัศน์ หรือการเลือกใช้ Influencer Marketing เพื่อสร้างการจดจำ รวมถึงมีโอกาสสร้างยอดขายมากขึ้นตามไปด้วย

Beautiful asian woman blogger is showing how to make up and use cosmetics. In front of the camera to recording vlog video live streaming at home.Business online influencer on social media concept.

5. ตามติดสถานการณ์ แบบ Realtime จากภาครัฐ

เมื่อเทียบกับการแพร่ระบาดในระลอกแรก มาตราการต่างๆ จากภาครัฐในเวลานี้มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วกว่าเดิม รวมถึงพื้นฐานความเข้าใจต่อการใช้เทคโนโลยีของผู้บริโภคก็เพิ่มสูงขึ้นจากปีที่แล้ว และพร้อมเข้ารวมกับมาตรการช่วยเหลือของรัฐอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างเช่น เราชนะ หรือ คนละครึ่ง ที่ผู้บริโภคเข้าถึงการใช้สิทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับมาตรการอื่นๆ ในปี 2563

นักการตลาดต้องทำงานแบบ Agile ที่ต้องมีความรวดเร็ว และปรับตัวให้เข้าถึงโอกาสที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่อาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

6. เตรียมแผนไว้รองรับเหตุกาณ์ไม่คาดฝันเสมอ

ต้องมีแผนสำรองในการรับมือกับสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ โดยจำเป็นมีแผน 2 3 หรือ 4 เผื่อไว้ ทีมงานต้องมีความยืดหยุ่น สามารถเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าได้ รวมถึงทำงานร่วมกันเพื่อให้แผนสำรองที่เตรียมไว้สามารถทำงานได้ทันทีเมื่อจำเป็น ซึ่งจะทำให้จัดการกับความเปลี่ยนแปลงได้ดีกว่าการมีแผนเดียวและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็นรายครั้งไป

]]>
1315869
รันวงการช้อปปิ้ง! GroupM x Shopee ครั้งแรกในไทย ให้เอเยนซี่บริหารสื่อในอีคอมเมิร์ซได้ https://positioningmag.com/1297303 Wed, 16 Sep 2020 08:00:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1297303 กรุ๊ปเอ็ม ประเทศไทย ประกาศผนึกกำลังเป็นพันธมิตรกับ ช้อปปี้ กางแผนสนับสนุนให้แบรนด์สามารถเร่งการเติบโตบนช่องทางอีคอมเมิร์ซได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ซึ่งการจับมือกันครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่กรุ๊ปเอ็ม และเอเยนซี่ในเครือได้แก่ มายด์แชร์ มีเดียคอม เวฟเมคเกอร์ และ เอ็มซิกส์ จะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึงและบริหารจัดการพื้นที่โฆษณาบน Shopee Affiliate Marketing Solutions เพื่อขยายโอกาสในการสื่อสารผ่านการทำงานร่วมกับพันธมิตรสื่อชั้นนำกว่า 2,000 ราย

โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้แบรนด์และนักการตลาดสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ และเครื่องมือทางการตลาดออนไลน์แบบครบวงจรบน Shopee Marketing Solutions ขยายขีดความสามารถในการทำแคมเปญทางการตลาดบนอีคอมเมิร์ซได้

นอกจากนี้สิทธิประโยชน์ยังครอบคลุมไปถึงเครื่องมือ Shopee Ads ที่แบรนด์ภายใต้การดูแลของ กรุ๊ปเอ็ม จะสามารถเข้าถึงและใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพยิ่งขึ้น เพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายผ่านการทำ Targeting และวางแผน Search Marketing บนแพลตฟอร์มของช้อปปี้ ซึ่งจะช่วยขยายขีดความสามารถในการทำแคมเปญทางการตลาดบนอีคอมเมิร์ซได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ศิวกร สิริวงศ์ภาณุพงศ์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ช้อปปี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า

“รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ ‘กรุ๊ปเอ็ม’ มีเดียเอเยนซี่ชั้นนำในประเทศไทย ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเปิดโอกาสให้แบรนด์พันธมิตรบนแพลตฟอร์มของช้อปปี้สามารถพัฒนากลยุทธ์การตลาดในเชิงลึกบนพฤติกรรมของผู้ใช้งานบนอีคอมเมิร์ซ ร่วมกับบริการที่ครบวงจรจากมืออาชีพอย่าง กรุ๊ปเอ็ม เพื่อพัฒนากลยุทธ์และกิจกรรมด้านการสื่อสารการตลาดให้ดียิ่งขึ้น ที่ทั้งสามารถส่งมอบความคุ้มค่า สร้างการเติบโตด้ายยอดขาย ตลอดจนปฏิสัมพันธ์ร่วมกับเหล่าผู้ใช้งานบนช่องทางออนไลน์ได้อย่างยั่งยืน”

นิคคลาส สตอลเบิร์ก ประธานกรรมการบริหาร กรุ๊ปเอ็ม (ประเทศไทย) กล่าวว่า

“กรุ๊ปเอ็ม ในฐานะผู้นำตลาดด้านการวางแผนกลยุทธ์การสื่อสารโฆษณา มีเป้าหมายในการขยายความเติบโตทางธุรกิจให้กับลูกค้าผ่านการใช้เทคโนโลยี และข้อมูล ซึ่งในปัจจุบันความท้าทายของธุรกิจคือการชิงความได้เปรียบในการเข้าถึงผู้บริโภคและปิดการขายให้ได้เร็วที่สุด การร่วมเป็นพันธมิตรกับแพตลฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ครบวงจรอย่าง ช้อปปี้ จะช่วยเสริมศักยภาพและความแข็งแกร่งในการทำการตลาดออนไลน์ รวมถึงเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนให้กับลูกค้าของ กรุ๊ปเอ็ม ได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านฐานข้อมูล และสื่อพันธมิตรที่มีในทุกหมวดหมู่สินค้า”

สำหรับตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศไทยในปี 2562 ที่ผ่านมา คาดการณ์ว่ามีมูลค่าการตลาดอยู่ที่ราว 163,300 ล้านบาท และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยหันมาจับจ่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น

จึงทำให้มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทยในปี 2563 มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นราว 35% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา หรือราว 220,000 ล้านบาท

ความน่าสนใจของการจับมือร่วมกันครั้งนี้ก็คือ การใช้ดาต้า และพฤติกรรมการช้อปปิ้งของผู้บริโภคอย่างมหาศาล เพราะในตอนนี้การช้อปปิ้งออนไลน์ไม่ได้จำกัดแค่สินค้าแฟชั่นอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ

การเก็บพฤติกรรมต่างๆ นั้น ยิ่งทำให้เอเยนซี่ และแบรนด์เข้าใจพฤติกรรมลูกค้าดียิ่งขึ้น สามารถยิงแคมเปญการตลาด ส่งโปรโมชันได้แบบ Personalize มากขึ้นเช่นกัน เป็นอีกหนึ่งมิติที่น่าจับตามองไม่น้อย

]]>
1297303