ตามการเปิดเผยจากทั้งสองฝ่าย ข้อตกลงยุติคดี โกลด์แมน แซคส์ จะจ่ายเป็นเงินสด 2,500 ล้านดอลลาร์ และให้รับคำประกันว่าจะคืนเงินอีกอย่างน้อย 1,400 ล้านดอลลาร์อย่างเป็นขั้นเป็นตอน จากทรัพย์สินต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติมาเลเซีย (1MDB)

ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นข้อตกลงยุติคดีจำนวนมหาศาลที่สุดจนถึงตอนนี้ ในขณะที่มาเลเซียพยายามกู้คืนเงืนที่ถูกยักยอกออกไปจากกองทุน 1MDB และถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของรัฐบาลอายุ 4 เดือนของนายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน

“เรามั่นใจว่าเราจะได้เงินจากโกลด์แมน แซคส์ มากกว่าเดิม หากเปรียบเทียบกับความพยายามที่ผ่านๆ มา ซึ่งต่ำกว่าที่คาดหมายไว้อย่างมาก เรายังยินดีที่สามารถคลี่คลายคดีนอกระบบศาล ซึ่งจะเสียทั้งเวลา, เงินทองและทรัพยากร” เต็งกู ซาฟรุล อาซิซ รัฐมนตรีคลังมาเลเซียระบุในถ้อยแถลง

เจ้าหน้าที่มาเลเซียและสหรัฐฯ บอกว่าเงินราวๆ 4,500 ล้านดอลลาร์ ถูกยักยอกไปจากกองทุน 1MDB ในอุบายที่ดำเนินการอย่างละเอียดซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับหลายประเทศทั่วโลก เช่นเดียวกับอดีตนายกรัฐมนตรี ราจิบ ราซัค ของมาเลเซีย และโกลด์แมน แซคส์ และอื่นๆ

อัยการสหรัฐฯ บอกว่า เงินถูกใช้ซื้องานศิลปะต่างๆ อย่างเช่น ภาพวาดของศิลปินชื่อดัง วินเซนต์ แวน โก๊ะ และ โคล้ด โมเนต์ รวมถึงอสังหาริมทรัพย์หรูหราในมหานครนิวยอร์ก และกรุงลอนดอน เช่นเดียวกับเป็นทุนสำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ “วูล์ฟ ออฟ วอลล์สตรีท”

อัยการมาเลเซียยื่นฟ้องคดีต่อโกลด์แมน แซคส์ ในเดือนธันวาคม 2018 ฐานชี้นำนักลงทุนผิดๆ ในการเสนอขายตราสารหนี้ของกองทุนวันเอ็มดีบี ที่ทางธนาคารเป็นตัวกลางในการช่วยจำหน่าย

จากข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ พบว่า โกลด์แมน แซคส์ ทำเงินจากการขายตราสารหนี้ดังกล่าว 600 ล้านดอลลาร์

โกลด์แมน แซคส์ ยืนยันมาตลอดว่าไม่ได้ทำอะไรผิด โดยบอกว่า สมาชิกบางคนในรัฐบาลชุดก่อนของมาเลเซียและกองทุนวันเอ็มดีบี โกหกพวกเขาเกี่ยวกับแนวทางที่จะนำเงินรายได้จากการขายตราสารหนี้ไปใช้ พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหา

นอกจากในมาเลเซียแล้ว แหล่งข่าวของรอยเตอร์รายงานเมื่อเดือนธันวาคม ว่า โกลด์แมน แซคส์ ยังอยู่ระหว่างเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ และคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบของรัฐ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะยอมจ่ายเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อยุติการสืบสวน

Source