รวมไปถึงแบรนด์ดั้งเดิมในตลาดอย่างแดรี่ควีน, KFC, แมคโดนัลด์, เบอร์เกอร์คิง แม้กระทั่ง IKEA ก็มีเมนูไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟด้วยเช่นกัน ด้วยความที่ราคาไม่แรง สามารถทานได้สม่ำเสมอ ทำให้ตลาดนี้ยังมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ส่วนใหญ่ในตลาดจะเป็นไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟที่ทำจากนมสด ล่าสุดตอนนี้กะทิชาวเกาะขอบุกตลาดนี้ด้วยคน ด้วยการส่งไอศกรีมกะทิสดแบบซอฟต์เสิร์ฟ เจาะทำเลชุมชน และขายแฟรนไชส์ ตั้งเป้าขยายให้ครบ 10,000 สาขาภายใน 3 ปี

โดยปกติแล้วเราจะเห็นไอศกรีมกะทิสดจำหน่ายตามรถเข็นที่ขายตามชุมชนต่างๆ หรือไม่ก็ในร้านค้าไปเลย ซึ่งการบุกตลาดของกะทิชาวเกาะถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เป็นการ Diversify ธุรกิจตัวเองให้ออกจากกรอบเดิมๆ เป็นมากกว่ากะทิ โดยได้เปิดตัวครั้งแรกที่งาน ThaiFex เมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา

โดยรูปแบบธุรกิจในตอนนี้มีทั้งที่บริษัทลงทุนเอง เปิดเป็นป๊อปอัพสโตร์ที่สำนักงานใหญ่อำพล ฟู้ดส์ และตระเวนเปิดป๊อปอัพสโตร์ตามตลาด และอาคารสำนักงาน และอีกรูปแบบหนึ่งก็คือการขายแฟรนไชส์ ตอนนี้มี 2 แพ็กเกจ ได้แก่ แพ็กเกจ M ราคา 35,000 บาท ได้อุปกรณ์เครื่องทำไอศกรีม 3 หัวจ่ายแบบตั้งโต๊ะ 1 เครื่อง, ป้ายสแตนดี้ 1 ชิ้น, ป้ายเมนู 1 ชิ้น และผ้ากันเปื้อน 1 ผืน และแพ็กเกจ L ในราคา 39,000 บาท ได้อุปกรณ์เครื่องทำไอศกรีม 3 หัวจ่ายแบบตั้งพื้น 1 เครื่อง, ป้ายสแตนดี้ 1 ชิ้น, ป้ายเมนู 1 ชิ้น และผ้ากันเปื้อน 1 ผืน

โดยสัญญาไม่ซับซ้อน ไม่มีค่าธรรมเนียมรายเดือน หรือหักเปอร์เซ็นต์การขาย มีการดูแลหลังการขายให้ตลอดสัญญา การทำไอศกรีมไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ใส่ผลิตภัณฑ์กะทิสำเร็จรูปสำหรับทำไอศกรีมลงในเครื่อง ไม่นานก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว

หลังจากที่เปิดตัวแฟรนไชส์ได้ 3 เดือน ก็พบว่าปัจจุบันมีจุดขายรวม 57 สาขา ใน 26 จังหวัด แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 8 สาขา และต่างจังหวัด 49 สาขา ส่วนใหญ่อยู่ตามร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านค้า โรงเรียน อาคารสำนักงาน

ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นคาเฟ่ไอศกรีมกะทิชาวเกาะก็เป็นได้