ขาดตลาด – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 30 Mar 2020 10:54:38 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “ถุงมือยาง” เสี่ยงขาดตลาด-ผลิตไม่ทัน รับ COVID-19 ยอดสั่งซื้อจากยุโรป-สหรัฐฯ พุ่ง 2 เท่า https://positioningmag.com/1270773 Mon, 30 Mar 2020 09:12:52 +0000 https://positioningmag.com/?p=1270773 บริษัทผู้ผลิตถุงมือรายใหญ่ที่สุดของโลก คาดการณ์ว่าจะเกิดปัญหา “ถุงมือยาง” ขาดตลาดในเร็วๆ นี้ เนื่องจากผลิตไม่ทันกับความต้องการที่ต้องใช้ในการระบาดของ COVID-19 ล่าสุดยอดการสั่งซื้อจาก
ยุโรปเเละสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นสองเท่า

Lim Wee Chai ประธานบริหารของ Top Glove Corporation Bhd ให้สัมภาษณ์กับ Reuters ว่า เมื่อช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ยอดคำสั่งซื้อจากยุโรปและอเมริกา เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของกำลังผลิตปกติ จากเดิมที่บริษัทเคยผลิตได้วันละ 200 ล้านชิ้น มีส่วนเเบ่งการตลาดอยู่ถึง 1 ใน 5 ของถุงมือยางที่จำหน่ายทั่วโลก 

โดยลูกค้าบางรายกำลังตื่นตระหนกกับการระบาดของ COVID-19 จากปกติแล้วพวกเขาจะสั่งซื้อราว 10 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อเดือน แต่ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการสั่งซื้อเป็น 20 ตู้คอนเทนเนอร์

“จะมีปัญหาการขาดแคลนเกิดขึ้นแน่นอน เพราะพวกเขาสั่งมากขึ้น 100% เเต่เราเพิ่มกำลังการผลิตได้เเค่ 20% เท่านั้น จึงจะมีการขาดแคลนประมาณ 50% ถึง 80% ของความต้องการในตลาด” ผู้บริหาร Top Glove กล่าว

พร้อมคาดการณ์ว่าการสั่งซื้อถุงมือจำนวนมากจะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปอีก 3 เดือน เเละยอดสั่งซื้อจะยังคงอยู่ระดับสูงต่อไปอีก 9 เดือน แม้ว่าตอนนั้นความต้องการในตลาดเอเชียจะเริ่มลดลงเเล้วก็ตาม

ทั้งนี้ บริษัทจะเพิ่มเครื่องจักรใหม่ทุกสัปดาห์และคาดว่าจะสามารถเพิ่มการผลิตให้ได้ถึง 30% โดยกำลังหาเเรงงานเพิ่มราว 1,000 คน เพื่อผลิตให้ทันกับความต้องการของตลาด

“เราต้องการพนักงานเพิ่มประมาณ 10% ในช่วงนี้ เเต่เนื่องจากถูกจำกัดการเดินทางจึงไม่สามารถจ้างเเรงงานเพิ่มจากเนปาลได้ ดังนั้นเราจึงต้องใช้แรงงานท้องถิ่นเพื่อช่วยในการเเพ็กสินค้าโดยเฉพาะ”

ที่มา : Reuters

 

]]>
1270773
ห้ามส่งออก “ไข่ไก่” 7 วัน เเก้ขาดตลาด พาณิชย์ย้ำใครขายราคาเเพงเกิน เจอโทษหนัก https://positioningmag.com/1270217 Thu, 26 Mar 2020 10:24:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1270217 กระทรวงพาณิชย์ ห้ามส่งออก “ไข่ไก่” 7 วัน หากไม่ดีขึ้นจะขยายเวลาอีก เพื่อช่วยให้ประชาชนมีไข่ไก่บริโภคเพียงพอในประเทศ ยันจับแหลกพวกค้ากำไรเกินควร มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะออกประกาศห้ามส่งออกไข่ไก่ไปนอกราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 2563 เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น โดยให้ทดลองมาตรการเป็นเวลา 7 วัน และยังได้ประสานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยไม่ให้กรมปศุสัตว์ออกใบอนุญาตในการส่งออกให้ด้วย เพื่อให้ประชาชนมีไข่ไก่ในการบริโภคเพียงพอ และหากสถานการณ์ไข่ไก่ขาดตลาดยังไม่ดีขึ้นก็จะมีการขยายเวลา และมีมาตรการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องออกมาดำเนินการต่อไป

โดยจะเข้าไปดูแลการขายเกินราคา เพราะราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มมีราคาเฉลี่ย 2.80-2.90 บาทต่อฟอง การที่จะขายไปถึงปลายทางไม่ควรจะเกิน 3.30-3.50 บาทต่อฟอง หากมีการจำหน่ายในราคาสูงมากกว่าที่ควรจะเป็นก็จะดำเนินการในข้อหาค้ากำไรเกินควร มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังได้ขอให้กระทรวงมหาดไทยสั่งการกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการปราบปราม จับกุมดำเนินคดีผู้ที่กักตุนและขายสินค้าเกินราคา ค้ากำไรเกินควรโดยเร่งด่วนด้วย รวมถึงในกรุงเทพฯ

“จะมีการจับกุมดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดสำหรับผู้ที่ขายราคาเกินควร เพราะขณะนี้โรคระบาดไวรัสโควิด-19 ก็ทำให้เกิดความลำบากมากอยู่แล้ว การค้ากำไรเกินควรเท่ากับซ้ำเติมสถานการณ์ หากประชาชนมีเบาะแส สามารถแจ้งเบาะแสมาที่สายด่วน 1569 รวมทั้งสายตรวจของกระทรวงพาณิชย์ และสายตรวจของหน่วยงานป้องกันปราบปรามการกักตุนสินค้าและค้ากำไรเกินควรของระดับจังหวัด และที่ผ่านมาได้มีการจับกุมดำเนินคดีแล้วใน จ.พิษณุโลก จับกุมร้านค้าที่มีการขายไข่ไก่เกินราคา เนื่องจากขายไข่ไก่เบอร์ 2 ถึงฟองละ 4.70 บาท ซึ่งแพงเกินควร” จุรินทร์กล่าว

สำหรับประเทศไทยสามารถผลิตไข่ไก่ได้เฉลี่ยวันละ 40 ล้านฟอง ส่วนใหญ่ใช้บริโภคภายในประเทศเป็นหลัก โดยบางช่วงอาจจะล้นหรือขาดตลาด เช่นปีที่ผ่านมามีปัญหาล้นตลาด รัฐบาลต้องช่วยส่งออกอุดหนุนฟองละ 46 สตางค์ แต่ปัจจุบันมีสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และมาตรการที่เข้มข้นขึ้นของรัฐบาล ทำให้ประชาชนเป็นกังวล จึงมีการซื้อไข่ไก่เพิ่มขึ้น และทำให้ไข่ไก่ขาดตลาดในบางช่วงเวลา แต่ไม่ได้หมายความว่าผลผลิตมีไม่เพียงพอ

สำหรับสินค้าอื่นๆ จะมีการดำเนินคดีโดยเด็ดขาดเช่นเดียวกัน โดยล่าสุดได้มีการจับกุมกรณีขายเจลล้างมือในราคาแพงเกินควร ที่ร้านภูเก็ตโกรเซอรี่ จ.ภูเก็ต โดย สภ.ภูเก็ตได้ดำเนินคดีร้านดังกล่าว คือขายแอลกอฮอล์ 70% ยี่ห้อศิริบัญชา จากราคา 50-60 บาท แต่ขายในราคา 309 บาท

ส่วนหน้ากากอนามัย รมว.พาณิชย์ เผยว่าขณะนี้ผลิตได้วันละ 2.3-2.4 ล้านชิ้นต่อวัน และได้มีการจัดสรรใหม่ โดยให้กระทรวงสาธารณสุขกระจายให้สถานพยาบาลทุกประเภท ทุกสังกัด ทั่วประเทศ 1.3-1.5 ล้านชิ้นต่อวัน เพื่อนำไปให้แก่แพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วยได้ใช้ ซึ่งเป็นกลุ่มที่สำคัญลำดับต้น ส่วนที่เหลือเดิมกรมการค้าภายในบริหาร ได้มอบให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับไปดำเนินการ เพราะหลังจากมีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และมีอำนาจเกือบเบ็ดเสร็จในทุกเรื่อง การจัดการเรื่องเวชภัณฑ์ป้องกันบางส่วน เช่น หน้ากากอนามัย ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นผู้ดำเนินการบริหารจัดการในแต่ละจังหวัดได้ดีที่สุด เพราะรู้เรื่องในพื้นที่ดีที่สุดว่ากลุ่มเสี่ยงอยู่ที่ใดบ้าง

Source 

]]>
1270217
COVID-19 ทำพิษ “โค้ก ซีโร่ -ไดเอท โค้ก” เสี่ยงขาดตลาด เพราะสารให้ความหวานผลิตในจีน https://positioningmag.com/1266132 Thu, 27 Feb 2020 09:31:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1266132 การเเพร่ระบาดของไวรัสโรโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโรค Covid-19 กำลังกระทบธุรกิจหลายภาคส่วน เเม้เเต่เครื่องดื่มยอดฮิตอย่าง “โค้ก ซีโร่” เเละ “ไดเอท โค้ก” ของ Coca-Cola ก็กำลังมีความเสี่ยงที่อาจจะขาดตลาด เพราะวัตถุดิบสำคัญอย่าง “สารให้ความหวานแทนน้ำตาล” (Artificial Sweetener) ซึ่งผลิตในประเทศจีนได้รับผลกระทบด้วย 

รายงานของ Coca-Cola ระบุว่า การระบาดของโรค COVID-19 ตั้งเเต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา ทำให้ซัพพลายเออร์ในประเทศจีน มีความล่าช้าในการผลิตและส่งออกส่วนผสมเหล่านี้ โดยรวมไปถึงสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ดังนั้นสินค้ายอดนิยมอย่าง “โค้ก ซีโร่” เเละ “ไดเอท โค้ก” ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทได้เริ่มเเผนการจัดการฉุกเฉินเเล้ว คาดว่าในช่วงแรกสินค้าอาจจะยังไม่ขาดตลาดในระยะสั้น เเต่ในระยะยาวอาจจะพบปัญหาในการผลิตและส่งออก หากสถานการณ์ในจีนเเย่ลง

ทั้งนี้ Coca-Cola ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลหลายตัวทั้ง aspartame, acesulfame potassium, sucralose, saccharin, cyclamate เเละ steviol glycosides ซึ่งไม่ระบุเเน่ชัดว่าตัวไหนที่ผลิตในจีน

รายงานระบุอีกว่า บริษัทได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและสุขภาพของพนักงาน ด้วยมาตรการป้องกันไว้ล่วงหน้าสำหรับพนักงานในประเทศจีน ซึ่งรวมถึงการจัดหาหน้ากากอนามัยและการฆ่าเชื้อ รวมถึงการติดตั้งการคัดกรองอุณหภูมิ ในสำนักงานและโรงงานผลิต และตั้งค่ากลไกการตรวจสอบสุขภาพทั่วทั้งระบบของ Coca-Cola ในประเทศจีน

นอกจากนี้ Coca-Cola ซึ่งเป็นผูัผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ของโลก คาดการณ์ว่าการระบาดของ COVID-19 จะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสเเรกปีนี้ถึง 2 เซนต์ต่อหุ้น กระทบรายได้ ราว 1-2% เเละกระทบปริมาณการจำหน่ายเครื่องดื่มราว 2-3% โดยมูลค่าธุรกิจในจีนของ Coca-Cola คิดเป็นสัดส่วนราว 10% ของทั้งโลก

เเต่ทาง Coca-Cola ยืนยันว่าบริษัทจะมีผลประกอบการประจำปีนี้ตามเป้าหมายเดิม ซึ่งตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 5% และกำไรต่อหุ้นที่ปรับแล้วจะเพิ่มขึ้น 7% เป็น 2.25 ดอลลาร์สหรัฐ

อ่านเพิ่มเติม : Coca-Cola คาดไวรัสโคโรนาระบาด กระทบกำไร-รายได้ ในไตรมาสแรก

ที่มา : dailymail , businessinsider

]]>
1266132