ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 30 May 2025 09:54:57 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 CI Showbiz ขอรีแบรนด์ Summer Sonic Bangkok 2025 ดึง “ลำไย ไหทองคำ” สร้างสีสัน  https://positioningmag.com/1523913 Thu, 29 May 2025 10:47:17 +0000 https://positioningmag.com/?p=1523913 CI Showbiz โปรโมเตอร์ผู้จัดงานเทศกาลดนตรี ในฐานะโลคอลโปรโมเตอร์ในการจัดงาน Summer Sonic Bangkok 2025 ครั้งแรก ประกาศรีแบรนด์สร้างความเชื่อมั่นกับแฟนเพลง

จากญี่ปุ่นสู่ไทย

Summer Sonic เป็นเทศกาลดนตรีชื่อดังที่จัดที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งโดย Naoki Shimizu เจ้าของ Creativeman Productions เริ่มต้นก่อตั้งเมื่อปี 2000 งานจะจัดอยู่ที่ 2 เมืองหลักโตเกียว (Chiba) และโอซาก้า เป็นเวลา 2 วัน ศิลปินจะสลับวันกันขึ้นคนละเมือง แต่จะมีบางศิลปินที่จะเล่นแค่เฉพาะเมืองเดียวก็มี โดยจัดในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่น 

เมื่อความนิยมของงานมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดึงดูดแฟนเพลงจากต่างประเทศ กลายเป็นเทศกาลดนตรีที่ใฝ่ฝันของใครหลายๆ คน โดยมีผู้เข้าร่วมงานทั้ง 2 เวทีมากกว่าสองแสนคนในแต่ละปี จนในปี 2017 ได้ขยายไปจัดงานที่เซียงไฮ้ ประเทศจีน และปี 2024 ที่ประเทศไทย

ในประเทศไทย Bangkok Connect และ Paradise E&A เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ Summer Sonic ในประเทศไทย และเอเชียตามลำดับ จึงถือกำเนิดเป็นงาน Summer Sonic Bangkok 2024 ขึ้นครั้งแรก 

CI Showbiz ขอรีแบรนด์ เรียกความเชื่อมั่น

การกลับมาของ Summer Sonic Bangkok 2025 ในปีนี้ดูจะมีทิศทางที่ดีมากขึ้น เมื่อ CI Showbiz    ประกาศเป็นโลคอลโปรโมเตอร์ในการจัดงานในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการจัดครั้งแรก ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการจัดงานในปีที่แล้ว

ถ้าพูดชื่อ CI Showbiz อาจจะเป็นชื่อใหม่ที่ไม่คุ้นหู แต่ถ้าบอกว่าอยู่ในเครือของ Create Intelligence (ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์) หรือ CI ทุกคนต้องร้องอ๋อแน่นอน ซึ่งแต่เดิม CI ทำธุรกิจออแกไนซ์ รับจัดงานต่างๆ เป็นหลัก ส่วนใหญ่เป็นงานของทางภาครัฐ

จากนั้นได้ลงตลาดเป็นเป็นผู้จัดคอนเสิร์ต ผลงานใหญ่ที่สร้างชื่อ ได้แก่ Samed in Love, Thunder Rock Festival และ Season of Love Song ที่จัดต่อเนื่องมายาวนาน มีประสบการณ์ในการจัดงาน 15 ปี ในปีนี้จึงได้เขย่าผังองค์กรใหม่ แยกหน่วยธุรกิจเป็น CI Showbiz โดยตรง ทำให้มีการสร้างแบรนด์มากขึ้น

ปีนี้ CI Showbiz ต้องเจอโจทย์หินด้วยการแก้เกมให้ Summer Sonic Bangkok 2025 ที่การจัดงานในปีที่แล้วไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่นัก เรียกว่าต้องกลับมาสร้างความเชื่อมั่นแก่แฟนๆ ยกใหญ่ ใช้งบลงทุนถึง 300-400 ล้านบาท

ญาณกร อภิราชกมล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ จำกัด หรือ CI ShowBiz ถึงกับบอกว่า ต้องทำการ “รีแบรนด์” เลยทีเดียว เพื่อสร้างความเชื่อมั่น จากประสบการณ์ปีที่แล้วทำให้คนไม่เชื่อมั่น 

สรุปเป็น 9 หัวข้อ ดังนี้

1. ไลน์อัพแข็งแรง

ปีนี้มีการปรับไลน์อัพที่แข็งแรงมากขึ้น ศิลปินญี่ปุ่นขึ้นเยอะขึ้น ไลน์อัพครึ่งนึงที่ขึ้นที่ญี่ปุ่นจะมาขึ้นที่ไทยแน่นอน พร้อมกับ BABYMETAL ที่ขึ้นเวทีแบบฟูลอัลบั้ม ไม่ได้ร้องแค่ไม่กี่เพลง

2. สร้างความเชื่อมั่นด้วยความมืออาชีพ

ญาณกรบอกว่า ใช้ประสบการณ์ที่เป็นผู้จัดคอนเสิร์ตมาเพื่อออกแบบโชว์ให้ดีที่สุด เรียนรู้จากงานปีที่แล้วที่มีปัญหาที่หลากหลาย แต่ก็แก้เกมกันไป ต้องใช้ความจริงใจ พูดคำไหนคำนั้น 

3. ปรับกฎ Re-entry

ในปีนี้ยังมีกฎ Re-entry อยู่ เพียงแต่ปรับเวลาให้ดึกขึ้น เพราะกฎ Re-entry อยู่คู่กับงานเทศกาลดนตรี หรือคอนเสิร์ตใหญ่ๆ อยู่แล้ว เพราะศิลปินเบอร์ใหญ่บางคนจะมีกฎว่าต้องมีคนดูเกิน 70% ไม่อย่างนั้นจะไม่ขึ้นแสดง ทำให้    ผู้จัดต้องมีกฎนี้เพื่อให้ผู้ชมอยู่ในฮอลล์

4. พื้นที่ใหญ่ จัดเต็ม 2 เวที

ปีนี้พื้นที่จัดเต็ม 3 ฮอลล์ที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี พื้นที่รวม 20,000 ตารางเมตร มี 2 เวที แบ่งเป็นเวทีมหานคร และเวทีธนบุรี ต่างจากปีที่แล้วที่เป็น 2 เวที เป็น 1 เวทีใหญ่ กับเวที DJ 

5. เพิ่มร้านอาหาร คอลแลปญี่ปุ่น

อีกหนึ่ง Pain Point ที่หลายคนบ่นเยอะมากๆ ในปีที่แล้วคือ ร้านอาหารน้อย คนต่อคิวยาว ไม่เพียงพอต่อผู้ชม จะออกไปทานข้างนอกก็ไม่ได้ ปีนี้จึงแก้เกมใหม่ด้วยการสร้างโซนไทยแลนด์ อเมซิ่งสเปซ เป็นการคอลแลปกับญี่ปุ่น ดึงร้านอาหารสตรีทฟู้ดทั้งไทย และญี่ปุ่นมาไว้ที่งาน รวมถึงเอาวัฒนธรรมแอลกอฮอล์มาด้วย จะได้เห็นร้านสาเก ซุ้มยาดองแน่นอน 

6. บัตรมีแค่ 2 Tier

จากดราม่าตั้งต้นตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่มีการแบ่งโซนยิบย่อยของระดับบัตร กลุ่ม VIP และ กลุ่ม GA (General Admission) ที่แบ่งเป็น 3 กลุ่ม Silver, Gold และ Platinum มีราคาที่แตกต่างกันไป สิทธิประโยชน์ก็แตกต่างกันด้วย ในตอนแรกมีการจัดผังชมโชว์ตามระดับด้วยซ้ำ แต่เกิดดราม่าหนักจนต้องยกเลิก เปลี่ยนเป็นสิทธิพิเศษอื่นๆ แทน 

ในปีนี้มีแค่ 2 ระดับเท่านั้น ก็คือ VIP และ GA แบบไม่มี Tier ย่อยให้ปวดสมอง ราคาบัตรก็ใกล้เคียงปีที่แล้ว 

7. ต้องจัดในเมืองเท่านั้น

หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าทำไมถึงจัดงานที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี ไม่ค่อยเข้ากับมู้ดของ Summer Sonic ที่จัดเป็นพื้นที่กลางแจ้ง เพราะอยู่ในช่วงฤดูร้อน ด้วยความที่ประเทศไทยต้องจัดหลังจากที่ญี่ปุ่น 1 สัปดาห์ ทำให้ยังอยู่ในช่วงเดือนสิงหาคม ถือว่าอยู่ในช่วงฤดูฝนที่ไทย และทางญี่ปุ่นมีการกำหนดไว้ว่า ต้องจัดใน “เมือง” เท่านั้น จะไปจัดโซนพัทยา เขาใหญ่ หรือเชียงใหม่ไม่ได้ การจัดที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยจากฝน และยังอยู่ในเมือง 

8. ทำโซเชียลให้คึกคัก

ด้วยรูปแบบการสื่อสารต่างๆ ที่จะต้องทำตามทางญี่ปุ่น ทำให้การสื่อสารบนช่องทางต่างๆ ดูแข็งๆ ไปบ้าง ซึ่งญาณกร บอกว่าที่ประเทศญี่ปุ่นไม่ค่อยใช้โซเชียลมีเดียเท่าไทย ส่วนใหญ่จะดูข้อมูลในเว็บไซต์ Official ทำให้ในไทยต้องปรับการสื่อสารเน้นโซเชียลมีเดียมากขึ้น 

9. ลำไย ไหทองคำ มาสร้างสีสัน

อีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ของปีนี้ก็คือมีชื่อลำไย ไหทองคำอยู่ในไลน์อัพ ญาณกรบอกว่าลำไยจะมาเป้นวงที่สร้างสีสัน เพราะบริษัทได้ถือโชว์ลำไย 200 กว่าโชว์ เลยเอามาแซมที่งานนี้

]]>
1523913
“CI” รับเทรนด์ตลาดโชว์บิซเปลี่ยน พร้อมปรับรับลูกค้าครึ่งปีหลัง ตั้งเป้ารายได้ 600 ล้านบาท https://positioningmag.com/1523630 Wed, 28 May 2025 07:23:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1523630 CI ShowBiz ภายใต้บริษัทครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์หนึ่งในผู้นำธุรกิจโชว์บิซ ประกาศความพร้อมรุกตลาดโชว์บิซครึ่งปีหลัง ลุยจัด 6 งานใหญ่ ตั้งเป้าหมายสำคัญคือ การยกระดับคุณภาพงานทั้งในด้านประสบการณ์ของผู้ชม และประสิทธิภาพการบริหารจัดการของทีมงาน พร้อมวางแผนต่อยอดงานให้มากขึ้นทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ตั้งเป้าสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและเติบโตในระดับภูมิภาค เตรียมพัฒนาไอเดียใหม่ๆ คิดต่างอย่างสร้างสรรค์ และจับมือกับพันธมิตรต่างประเทศในจังหวะที่เหมาะสม เพื่อขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจของ CI ShowBiz ไปสู่เวทีระดับสากลอย่างยั่งยืน

นายญาณกร อภิราชกมล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ จำกัด หรือ CI ShowBiz ผู้จัดโชว์บิซ คอนเสิร์ต เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้พัฒนาขีดความสามารถทางธุรกิจในหลายด้าน เน้นธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญและสามารถต่อยอดจากธุรกิจเดิมได้ โดยในปี 2568 เป็นปีที่มีความท้าทายเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงจากหลากหลายปัจจัย ทำให้ตลาดโชว์บิซกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อาทิ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค แนวโน้มตลาดที่เติบโตขึ้น การเติบโตของกลุ่ม Niche Market (ตลาดเฉพาะกลุ่ม) เช่น EDM, K-POP, J-POP, C-POP อีกทั้งผู้จัดและโปรโมเตอร์หน้าใหม่ที่เพิ่มขึ้น ทำให้การแข่งขันรุนแรงมากขึ้น ในวันที่ต้องเผชิญกับความท้าทายทางธุรกิจ ภาวะเงินเฟ้อและต้นทุนที่สูงขึ้น กำลังซื้อลดลงจากภาวะเศรษฐกิจ กลยุทธ์สำคัญที่ CI ShowBiz ใช้ในการรับมือ คือ เพิ่มจำนวนและความหลากหลายของงาน เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะทางครอบคลุมกลุ่มอายุและแนวความชอบที่หลากหลาย และการสร้างกระแสเข้าถึงผู้ซื้อจริง มุ่งสร้างกระแสในโซเชียลมีเดียควบคู่กับการวางกลยุทธ์ราคาและประสบการณ์ลูกค้า เพิ่มมูลค่าในสิ่งที่ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่ากับการจ่าย การขยายแบรนด์ให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพในการเพิ่มรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ไม่ใช่เพียงแค่ปริมาณงานแต่ต้องวางระบบจัดการที่ดี

โดย CI ShowBiz กำลังจะมีโปรเจกต์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในครึ่งปีหลัง คือกลุ่มธุรกิจโชว์บิซ โดยจัดงานต่อเนื่องจนเป็นนับผู้นำในอันดับต้นๆ อาทิ Samed in Love 2025 และThunder Rock Festival 2 และปิดท้ายปลายปีด้วย Season of Love Song 15 และไฮไลต์สำคัญ คือ 2 คอนเสิร์ตใหญ่ คือ  BOYdPOD Our Songs Together Concert คอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 16 ปีของ บอย โกสิยพงษ์ และ ป๊อด ธนชัย อุชชิน และคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 20 ปี ของค่ายเพลงเบเกอรี่ มิวสิค นำทีมโดยบอย โกสิยพงษ์, สุกี้ กมล สุโกศล แคลป์ และสมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์ พร้อมนักร้องในสังกัดนำเสนอผลงานเพลงมากกว่า 100 เพลง บนเวที B.DAY Forever Concert  และอีกงานในปีนี้ คือ Summer Sonic Bangkok 2025 โดยมี CI ShowBiz ทำหน้าที่บริหารจัดการในฐานะ Local Promoter ทั้ง 6 งานใหญ่ในครึ่งปีนี้

สำหรับจุดแข็งและความสำเร็จของ CI ShowBiz ในธุรกิจโชว์บิซ คือความยืดหยุ่นและการทำงานร่วมกับทุกฝ่ายได้อย่างราบรื่น มีความสามารถในการทำงานร่วมกับศิลปิน พาร์ทเนอร์ โปรโมเตอร์ และทีมงานหลากหลายทั้งในและต่างประเทศ แบบมืออาชีพ ซึ่งช่วยให้บริหารจัดการงานได้หลากหลายรูปแบบ ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน โดยให้ความสำคัญกับ ผู้ชมเป็นหัวใจหลักในการจัดงาน เริ่มต้นจากการทำความเข้าใจว่า ผู้บริโภคต้องการอะไร แล้วจึงออกแบบงานให้ตอบโจทย์ความต้องการนั้น ซึ่งถือเป็นรากฐานของการสร้างงานที่ประสบความสำเร็จ ความใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่ระบบหน้าบ้านจนถึงหลังบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมคุณภาพเสียง แสง ระบบรักษาความปลอดภัย การเข้าชม และการบริการลูกค้า พร้อมใส่ใจในประสบการณ์ที่ผู้ชมจะได้รับตลอดทั้งงาน เพื่อให้มากกว่าคำว่าดูคอนเสิร์ตทั้งนี้เป้าหมายของ CI ShowBiz ไม่ใช่แค่การจัดโชว์ให้จบ แต่คือการสร้างความประทับใจให้กับผู้ชม หากผู้ชมได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่าที่คาดไว้ ก็จะกลายเป็นความผูกพันต่อแบรนด์ CI ShowBiz และนำไปสู่การบอกต่อ และการกลับมาร่วมงานครั้งต่อไป ความสำเร็จที่แท้จริงคือการที่ผู้ชมกลับบ้านไปพร้อมความรู้สึกดี มีความสุข และมีคุณค่าต่อจิตใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างแบรนด์ให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

หนึ่งในหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อน CI ShowBiz คือการบริหารจัดการทีมงาน ทั้งในแง่ของการดึงศักยภาพและสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานร่วมกัน เนื่องจากธุรกิจโชว์บิซ ต้องขับเคลื่อนด้วยคนในทุกมิติที่อยู่เบื้องหลัง  ทุกโชว์ ทุกปรากฏการณ์ที่สร้างขึ้น ต้องใช้ทั้งความคิดสร้างสรรค์และการทำงานเป็นทีม สิ่งสำคัญคือการลดช่องว่างระหว่างบุคลากรในองค์กรที่มีคนหลากหลายรุ่น หลากหลายความคิด เพื่อแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจนในการสร้างความเข้าใจร่วมและความรู้สึกเป็นทีมเดียวกัน เพื่อให้บุคลากรทุกคนเติบโตไปพร้อมๆ กับองค์กร

แผนกลยุทธ์หลังจากนี้ CI ShowBiz มุ่งเน้นการต่อยอดธุรกิจและพัฒนาแบรนด์สู่ระดับภูมิภาค ภายใต้หลักการเติบโตอย่างมีเป้าหมายในแต่ละขั้น ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพงาน โดยมีการวางแผนและโครงสร้างทีมงานพร้อมรองรับ หนึ่งในเป้าหมายระยะกลางของ CI ShowBiz คือการสร้างแบรนด์หรือ IP งานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถเติบโตและต่อยอดได้ในระดับภูมิภาค ซึ่งจะช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับแบรนด์ในระยะยาว พร้อมเปิดรับโอกาสใหม่ๆ จากพันธมิตรในต่างประเทศ โดยนำเข้าโปรเจกต์ระดับภูมิภาคหรือระดับโลกที่สอดคล้องกับความสนใจของผู้ชมในไทย ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานของงานในประเทศ และเปิดโอกาสสู่ตลาดใหม่ เมื่อพบโอกาสที่เหมาะสม ทั้งด้านคอนเทนต์ พาร์ทเนอร์ หรือช่องทางตลาด ก็พร้อมจะเดินหน้าอย่างเต็มที่ทันที

นายญาณกร กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมโชว์บิซ เรายังคงได้เห็นศิลปินยอดนิยมในปัจจุบันทำการแสดงอยู่ควบคู่กับศิลปินหน้าใหม่ที่เกิดขึ้นจากแพลตฟอร์มดิจิทัลและชุมชนแฟนคลับเฉพาะทาง ตลาดจะยิ่งหลากหลายขึ้น และเน้นการจับกลุ่มแฟนเฉพาะมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเทคโนโลยีจะเป็นตัวแปรสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโชว์อนาคตของโชว์บิซ ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น และคาดหวังมากขึ้น องค์กรที่เข้าใจจุดนี้และสามารถส่งมอบได้จะได้เปรียบทางการแข่งขัน CI ShowBiz พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนั้น โดยเชื่อว่าความสำเร็จจะเกิดจากการปรับตัวกับเทคโนโลยี และพัฒนาแนวคิดใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้ชมได้อย่างทันท่วงที

สำหรับแผนการเข้าตลาดหลักทรัพย์ MAI ของ CI ShowBiz นั้น เคยมีการวางแผนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ MAI ก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 โดยได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมไปในระดับหนึ่งแล้ว แต่เมื่อเกิดสถานการณ์แพร่ระบาด ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แผนดังกล่าวจึงถูกพักไว้เพื่อรอจังหวะที่เหมาะสม ปัจจุบัน CI ShowBiz ยังไม่ได้โฟกัสเรื่องการเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นหลัก เป้าหมายในระยะนี้ คือการสร้างรากฐานให้แข็งแรง ทั้งในด้านการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน การพัฒนาผลิตภัณฑ์และโชว์ที่ตอบโจทย์ตลาด การเสริมศักยภาพทีมงานให้สามารถรองรับการเติบโตระยะยาว เมื่อ CI ShowBiz เติบโตถึงจุดที่แข็งแรงในทุกมิติ การเข้าตลาดหลักทรัพย์อาจกลับมาเป็นทางเลือกในการขยายธุรกิจอีกครั้ง แต่จะต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจ โอกาสทางธุรกิจ และความพร้อมขององค์กรในเวลานั้น

]]>
1523630