คัดแยกขยะ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 20 Jul 2021 12:30:36 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 สยามพิวรรธน์ จับมือ สถาบันพลาสติก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย PPP Plastics และ Dow เดินหน้าโครงการ Siam Pieces สร้างโมเดลจัดการขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน https://positioningmag.com/1343158 Tue, 20 Jul 2021 12:00:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1343158

บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ร่วมกับ สถาบันพลาสติก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย PPP Plastics กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย และเครือข่ายพันธมิตร ได้แก่ กรมควบคุมมลพิษ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร และเขตปทุมวัน เดินหน้าโครงการ Siam Pieces (สยาม พีซเซส) เพื่อสร้างต้นแบบการจัดการขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน อันจะนำไปสู่การพัฒนาแบบแผนธุรกิจ (Business Model) ตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ ผ่านการศึกษาวิจัยพฤติกรรมจากกลุ่มตัวอย่างของผู้บริโภคในพื้นที่เขตปทุมวัน โดยได้รับทุนสนับสนุนโครงการจาก บพข. (หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ) ภายใต้สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ สอวช. มีเป้าหมายที่จะพัฒนาแบบแผนธุรกิจในการนำพลาสติกใช้แล้วทุกชนิดกลับสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสร้างโมเดลศูนย์คัดแยกที่มีศักยภาพในการจัดเก็บขยะพลาสติกทุกประเภท บนพื้นที่ศูนย์กลางแห่งธุรกิจค้าปลีกของประเทศไทยอย่าง วันสยาม ที่ประกอบด้วย 3 ศูนย์การค้าระดับโลก ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ รวมถึงการคัดแยกประเภทวัสดุที่สามารถนำไปเข้ากระบวนการรีไซเคิลและอื่นๆ ได้ ตลอดจนเพื่อส่งต่อแนวคิดในการใช้ชีวิตให้ผู้คนในสังคมร่วมกันตระหนักถึงความสำคัญของวิกฤตขยะพลาสติกในปัจจุบันที่ทุกคนมิอาจมองข้าม ซึ่งจะเป็นแนวทางสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนให้เกิดวัฏจักรของการบริหารจัดการพลาสติกใช้แล้วอย่างยั่งยืนได้อย่างแท้จริง

นางสาวนราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานปฏิบัติการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า

“การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่สยามพิวรรธน์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ด้วยความมุ่งมั่น ที่จะขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน เราจึงได้นำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาพัฒนาเป็นหลักการบริหารจัดการขยะ ในทุกกระบวนการของธุรกิจ ตั้งแต่การรณรงค์ภายในองค์กร ไปจนถึงการสร้างจิตสำนึกให้ลูกค้า และล่าสุดกับการร่วมเปิด Recycle Collection Center จุดรับขยะรีไซเคิลที่เปิดให้คนทั่วไปสามารถนำมาทิ้งได้ โดยสยามพิวรรธน์ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับสถาบันพลาสติก และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการใช้พื้นที่วันสยาม ในการทำวิจัย รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากพนักงาน และลูกค้าวันสยาม เพื่อนำองค์ความรู้มาพัฒนาเป็นต้นแบบของการบริหารจัดการขยะพลาสติกในสังคมอย่างยั่งยืน พร้อมต่อยอดไปใช้แก้ไขปัญหาการจัดการขยะพลาสติกในพื้นที่ต่างๆ ในประเทศไทย ทั้งยังสอดรับกับสถานการณ์โลกปัจจุบัน ที่ขณะนี้ทางสหภาพยุโรป หรืออียู ต้องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของโลกในการลดปริมาณขยะพลาสติก และมุ่งมั่นที่จะสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน จึงได้ออกระเบียบว่าด้วยการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวของสหภาพยุโรป (EU Single Use Plastics Directive) ที่เริ่มต้นใช้ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2021 ที่ผ่านมา”

ด้าน นายวีระ ขวัญเลิศจิตต์ ผู้อำนวยการสถาบันพลาสติก กล่าวว่า

ด้วยความร่วมมือขององค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนที่ร่วมกันสร้างแนวคิดและแบบแผนเศรษฐกิจหมุนเวียนในปัจจุบัน หรือ Circular Economy ทำให้ในปัจจุบันหลากหลายหน่วยงานเกิดความตระหนักในเรื่องการใส่ใจของสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการจัดการขยะพลาสติก ทางสถาบันพลาสติกเห็นถึงโอกาสที่จะแก้ไขปัญหาขยะพลาสติก และ เพิ่มการรีไซเคิลของขยะพลาสติกเข้าสู่ระบบมากยิ่งขึ้น สถาบันพลาสติกจึงได้รับงบประมาณจาก บพข.เพื่อจัดตั้งโครงการพัฒนาแบบแผนธุรกิจ (Business Model) สำหรับการบริหารจัดการขยะพลาสติกหลังการใช้โดยใช้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ในพื้นที่เขตเมืองชั้นใน โดยเล็งเห็นศักยภาพของพื้นที่เขตปทุมวัน ที่ประกอบด้วยสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล และ ชุมชน โดย “โครงการ SIAM PIECES” นี้เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาแบบแผนธุรกิจ (Business Model) สำหรับการบริหารจัดการขยะพลาสติกหลังการใช้โดยใช้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ในพื้นที่เขตเมืองชั้นใน ที่ทำการศึกษาตั้งแต่พฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีผลต่อการคัดแยกและทิ้งขยะพลาสติก เพื่อเข้าใจและหาเครื่องมือที่จะทำให้เกิดแรงจูงใจในการคัดแยกพลาสติกของผู้บริโภคที่มากขึ้น และ ต่อยอดไปจนถึงการศึกษาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่เศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อนำผลการศึกษามาพัฒนา และจัดทำแบบแผนธุรกิจ (Business Model) เพื่อลดการเพิ่มขยะพลาสติกสู่สิ่งแวดล้อมและส่งเสริมให้มีการนำขยะพลาสติกเข้าสู่ระบบรีไซเคิลมากยิ่งขึ้น

ขณะที่ ศ.ดร. สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า

“ปัจจุบัน ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อม มีการคิดค้นนวัตกรรมในการจัดการวัสดุเหลือใช้ โดยเฉพาะกลุ่มพลาสติก อย่างไรก็ตาม การจัดการปัญหาขยะพลาสติกนั้นไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมเพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องมีการประยุกต์ใช้องค์ความรู้ด้านอื่นมาร่วมด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับเปลี่ยน พฤติกรรมของผู้ใช้พลาสติกหรือผู้บริโภค และการสร้างกลไกทางเศรษฐกิจที่ทำให้เกิดจัดการพลาสติกที่ครบวงจร เศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งจะทำให้พลาสติกทั้งที่มีมูลค่าสูงและส่วนที่ยังมีมูลค่าต่ำอยู่ได้กลับเข้าสู่ระบบเพื่อการจัดการอย่างเหมาะสม การดำเนินการในส่วนนี้จำเป็นต้องมีการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกต้องตามหลักวิชาการเพื่อให้สามารถนำผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นไปอ้างอิงและขยายผลสู่พื้นที่อื่นได้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะสถาบันการศึกษาจึงจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ SIAM PIECES ที่มีวัตถุประสงค์หลักในการพัฒนาแบบแผนธุรกิจที่ส่งเสริมให้เกิดการจัดการขยะพลาสติกอย่างครบวงจร เพื่อร่วมขับเคลื่อนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนและผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ”

ด้าน ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ประธาน PPP Plastics กล่าวว่า

“โครงการความร่วมมือภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม เพื่อจัดการพลาสติก และขยะอย่างยั่งยืน (PPP Plastics) ได้มีส่วนร่วมในการพิจารณาร่วมให้ทุนสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานโครงการพัฒนาแบบแผนธุรกิจ (Business Model) สำหรับการบริหารจัดการขยะพลาสติกหลังการใช้โดยใช้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ในพื้นที่เขตเมืองชั้นใน ปัจจุบันองค์กรภาคธุรกิจได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อแก้ไขปัญหาขยะพลาสติก เพื่อร่วมหาทางออกการบริหารจัดการขยะพลาสติก เพื่อสร้างรูปแบบที่สมดุลอันมุ่งไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืนในมิติต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม โดยการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกได้มีการดำเนินงานในบริบทที่มีความสอดคล้องกับแนวทางเศรษฐกิจ BCG หรือ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green: BCG Model) ที่รัฐบาลกำหนดเป็นโมเดลเศรษฐกิจในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนและเป็นวาระแห่งชาติ อีกด้วย นับได้ว่าการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจดังกล่าวเป็นการตอบสนองนโยบายของภาครัฐในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความยั่งยืนในอนาคต”

พร้อมกันนี้ นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า

“โครงการนี้สอดคล้องเป็นอย่างยิ่งกับหนึ่งในเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่ ดาว ได้ประกาศไปเมื่อปีที่แล้วคือ “การหยุดขยะพลาสติก” โดยเราตั้งเป้าจะผลักดันให้พลาสติกที่ใช้แล้วจำนวน 1 ล้านตันจากทั่วโลกถูกเก็บกลับมาใช้ประโยชน์ หรือ รีไซเคิล ผมรู้สึกภูมิใจที่ ดาว ได้ร่วมมือกับพันธมิตรในการก่อตั้งโครงการ Siam Pieces อีกทั้งร่วมผลักดันให้เกิด business model ของการจัดการพลาสติกใช้แล้วที่มีประสิทธิภาพ และช่วยยกระดับผู้ประกอบการรับซื้อของเก่า ซาเล้ง รวมทั้งผู้มีส่วนได้เสียตลอดทั้ง value chain ให้มีรายได้พอเพียงที่จะสามารถดำเนินธุรกิจได้ด้วยตนเอง ซึ่งจะทำให้การจัดการพลาสติกเป็นไปอย่างยั่งยืนในอนาคต”

นอกจากนี้ ภายใต้งานแถลงข่าวโครงการ Siam Pieces ในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ ZOOM และ Facebook Live เพจ สถาบันพลาสติก ยังมีการจัดเสวนาหัวข้อ “Siam Pieces โมเดลเส้นทางการจัดการพลาสติกใช้แล้วครบวงจร” โดยมี นราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ ผู้บริหารระดับสูงแห่งบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด พร้อมด้วยเหล่า คนดังสายนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและผู้เชี่ยวชาญทางท้องทะเลมาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและร่วมหาทางออก ในการกู้วิกฤตขยะพลาสติก ทั้ง ผศ.ดร. ธรณ์ ธำรงนาราสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดีกิจการพิเศษ ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ , เชอรี่ เข็มอัปสร สิริสุขะ นักขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อม , เปรม พฤกษ์ทยานนท์ เจ้าของเพจ ‘ลุงซาเล้งกับขยะที่หายไป , ศ.ดร. พิสุทธิ์ เพียรมนกุล รองคณบดีด้านยุทธศาสตร์นวัตกรรมและความยั่งยืน คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ก้อง-ชณัฐ วุฒิวิกัยการ พิธีกรหนุ่มสายกรีนที่หันมาเอาจริงเอาจังในการสื่อสารเรื่องสิ่งแวดล้อม

โครงการ Siam Pieces ครั้งนี้ นับเป็นโครงการความร่วมมือในการผสานพลังขับเคลื่อนที่ต้องการจะพัฒนาระบบการจัดการพลาสติกใช้แล้วในสังคมเมืองอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง เพื่อนำไปต่อยอดใช้บริหารจัดการพลาสติกใช้แล้วในประเทศไทย และนำไปพัฒนาแบบแผนธุรกิจในการนำพลาสติกใช้แล้วทุกชนิดกลับสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมขยายผลสร้างเป็นโมเดลธุรกิจตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เกิดเป็นวัฏจักรของการจัดการขยะพลาสติกในสังคมเมืองที่ยั่งยืน เพื่อเราทุกคนในวันนี้และอนาคต

ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาการบริหารจัดการพลาสติกใช้แล้วอย่างยั่งยืนเพื่อนำไปสู่การพัฒนาแบบแผนธุรกิจตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ ด้วยการตอบแบบสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อพฤติกรรมการ คัดแยกขยะได้ในช่องทาง https://bit.ly/3xLS8GG  หรือ Scan QR Code

]]>
1343158
ช้างออกบรรจุภัณฑ์ “Recyclable Pack” ชูเรื่องการใช้ซ้ำ และ ทิ้งถูกที่ นำร่องเป็นองค์กรเพื่อความยั่งยืนมุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) https://positioningmag.com/1328324 Thu, 22 Apr 2021 10:00:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1328324

เครื่องดื่มตราช้าง ออก ช้าง โคลด์ บรูว์ “Recyclable Pack” บรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เรื่องการนำกลับมาใช้ซ้ำ ด้วยรูปลักษณ์สวยงาม วัสดุพรีเมียม ทนทาน เพิ่มความสะดวกสบายให้กลุ่มลูกค้า พร้อมชูแนวคิดเรื่องความยั่งยืนขององค์กร รณรงค์ให้เกิดพฤติกรรมการใช้ซ้ำ และ ทิ้งให้ถูกที่ อันเป็นหัวใจของการลดขยะเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น ตั้งใจนำร่องเป็นก้าวแรกในฐานะภาคธุรกิจร่วมรับผิดชอบต่อสังคมด้วยบรรจุภัณฑ์ใหม่ ที่จะทำให้การรีไซเคิลเป็นเรื่องใกล้ตัว

ตลอดมา เครื่องดื่มตราช้าง หนึ่งในผู้นำตลาดเครื่องดื่ม (Beverage Industry) ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยยึดหลักแนวคิดเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวทาง ของ “ไทยเบฟ” ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ พร้อมดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมผ่านแนวทางหลัก ดังกล่าว ได้แก่

การบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์:

เพื่อลดปริมาณของเสียที่ต้องกำจัด และการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยไทยเบฟ และบริษัทในเครือ จะใช้การใช้หลัก 3Rs ได้แก่ Reduce การลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อาทิ ขวด PET กระป๋องอลูมิเนียม และยังช่วยลดภาวการณ์เกิดโลกร้อน หรือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ที่ใช้กระบวนการย่อยตามเกณฑ์ที่กำหนด, Reuse การนำกลับมาใช้ซ้ำ โดยนำบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภคกลับมาใช้ซ้ำในกระบวนการผลิต เช่น ขวดแก้ว ในปีนี้ได้ตั้งเป้าไว้ 80% ของยอดขายทั้งหมดที่จะนำกลับมาใช้ให้ได้มากที่สุด และ Recycle การนำบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภคกลับมาใช้ใหม่ โดยนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิต อาทิ ขวดแก้ว นำมาบดแล้วนำกลับมาใช้ใหม่, ขวดพลาสติกใส (ขวด PET) นำมาแปรรูปเป็นเม็ดโพลีเอสเตอร์ผลิตเป็นเส้นใยถักทอเป็นผืนผ้า

การให้ความสำคัญในการคัดแยกขยะ:

โดยนำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนมาประยุกต์ใช้ โดยเริ่มต้นจากภายในองค์กรของไทยเบฟ และบริษัทในเครือ ให้พนักงานได้มีส่วนร่วมคัดแยกขยะในสำนักงาน นอกจากนี้ยังจัดตั้งโครงการคัดแยกขวดที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ยกตัวอย่างโครงการ Can 2 Can: การเก็บกระป๋องเครื่องดื่มอลูมิเนียมจากผู้บริโภคกลับมาคัดแยก แล้วนำไปสู่กระบวนการรีไซเคิล ซึ่งในปี 63 สามารถเก็บกระป๋องอลูมิเนียมกลับมาได้ทั้งสิ้น 1,256 ตัน (89 ล้านใบ) หรือ 21% ของปริมาณทั้งหมดที่บริษัทจำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึงการนำขวดแก้วกลับมาหมุนเวียนเพื่อใช้ซ้ำและรีไซเคิลถึง 82%

โดยล่าสุด “ช้าง โคลด์ บรูว์” หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ขายดี และมีภาพลักษณ์พรีเมียมโดนใจกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ มีการออกบรรจุภัณฑ์ใหม่ “ช้างโคลด์ บรูว์” Recyclable Pack ที่ตอบโจทย์ในเรื่องของรูปลักษณ์ ที่สวยงาม ทันสมัย และช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า และครั้งนี้ยังมาพร้อมคอนเส็ปเรื่องความยั่งยืน ที่ต้องการให้กลุ่มลูกค้าให้ความสำคัญของการนำกลับมา “ใช้ซ้ำ” และ “การทิ้งให้ถูกที่” โดยทุกบรรจุภัณฑ์จะมีการวาง คิว อาร์ โค้ด (QR Code) ที่ ช้าง ร่วมมือกับพันธมิตร ได้แก่ วน และ พรีเชียสพลาสติก (Precious Plastic) พัฒนาเป็นเว็ปไซต์ Bring Back Recycle ( http://www.bringbackrecycle.com ) เพื่อระบุพิกัดจุดคืนบรรจุภัณฑ์ (Drop point) ให้ลูกค้าทุกคนสามารถนำบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วมาทิ้งได้อย่างถูกที่ นำไปสู่การนำมา รีไซเคิลได้อย่างถูกวิธีอีกด้วย

คุณณรัชฏ์ วัชรเพชร์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ เครื่องดื่มตราช้าง กล่าวว่า

“เรามองว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น โดยหลังจากการ Launch บรรจุภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว เรามีแผนที่จะวาง คิว อาร์ โค้ด (QR Code)ที่แสดงจุดคืนบรรจุภัณฑ์ (Drop point) ในทุกๆ ผลิตภัณฑ์ของเครื่องดื่มตราช้าง ในส่วนความคาดหวัง แน่นอนว่าเราต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้และคัดแยกขยะของกลุ่มลูกค้า (End Consumer) โดยเราเชื่อว่าโครงการนี้จะสามารถดำเนินต่อไปอย่างยั่งยืนจนเห็นผลลัพธ์ดังกล่าวนั้นได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ธุรกิจขนาดใหญ่ ไปจนถึง ธุรกิจขนาดเล็ก หรือ SME ทั่วประเทศ โดยแนวคิดเรื่องความยั่งยืนไม่ควรเป็นเพียงแค่เทรนด์ในสังคม หรืออยู่ในความรับผิดชอบของคนเฉพาะกลุ่ม แต่ควรเป็นหนึ่งในเป้าหมายของทุกๆ องค์กร เหมือนเป็นอีกหนึ่ง New normal ที่ทุกคนควรเปลี่ยน และทำมันอย่างยั่งยืน”

“ช้างโคลด์ บรูว์” Recyclable Pack มีวางจำหน่ายแล้วในร้านสะดวกซื้อ (7-11) ทั่วประเทศ จำนวน 100,000 ชิ้น โดยลูกค้าสามารถนำบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วมาส่งคืนที่จุดส่งคืนผลิตภัณฑ์ (Drop point) ในพิกัดที่มีมากถึง 439 จุด โดยบรรจุภัณฑ์ที่ถูกส่งคืนอย่างถูกที่ ถูกวิธีนี้ จะถูกนำกลับเข้าสู่กระบวนจัดการอย่างเหมาะสมเพื่อนำไปรีไซเคิลผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์อีกครั้ง หรือเพิ่มมูลค่าด้วยการผลิตเป็นสินค้าชนิดอื่น เป็นการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และลดผลกระทบของบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภคต่อสิ่งแวดล้อม

]]>
1328324