งานบริการ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sun, 29 Oct 2023 15:55:23 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เบื้องหลังอาชีพ “คอนแทคเซ็นเตอร์” กับ “TCCTA” สมาคมฯ ผู้มุ่งมั่นปั้นคนบริการไทยไปสู่เวทีโลก https://positioningmag.com/1449664 Mon, 30 Oct 2023 01:00:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1449664

“ดิฉัน…เป็นผู้รับสาย ยินดีให้บริการค่ะ” ประโยคที่หลายคนน่าจะเคยได้ยินมาบ้างเมื่อมีปัญหาการใช้สินค้าและต้องติดต่อไปตามเบอร์ที่ระบุ ช่องทางติดต่อเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์ ช่องแชต อีเมล ฯลฯ ถือเป็นด่านหน้าสำคัญของของแบรนด์ที่บางคนนึกไม่ถึงว่า “คอนแทคเซ็นเตอร์” คือหัวใจที่ช่วยสร้างความผูกพันต่อแบรนด์ของลูกค้าได้ และต้องการการยกระดับเพื่อเพิ่มศักยภาพไปแข่งขันในระดับโลก

“อุตสาหกรรมนี้น่าจะเป็นหนึ่งในสายงานที่มีคนทำงานมากที่สุดในไทย มีไม่ต่ำกว่า 2 แสนคนนะครับ” นายศรัณย์ เวชสุภาพร นายกสมาคมการค้าธุรกิจศูนย์บริการทางโทรศัพท์ไทย หรือ TCCTA กล่าวถึงอาชีพ “คอนแทคเซ็นเตอร์”

เหตุที่ไม่เรียกว่า “คอลเซ็นเตอร์” อย่างที่ทุกคนคุ้นเคย เพราะงานบริการลูกค้าในลักษณะนี้ ปัจจุบันไม่ได้มีเฉพาะการติดต่อผ่านโทรศัพท์ แต่ยังมีการติดต่อผ่านช่องแชตและอีเมลซึ่งไม่ได้ใช้เสียง (non-voice) อีกด้วย

ประเภทของคอนแทคเซ็นเตอร์ นอกจากแบ่งตามช่องทางติดต่อแล้ว ยังแบ่งตามลักษณะงานได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ 1) งานบริการ (service) เช่น สอบถามข้อมูล รับเรื่องร้องเรียน และ 2) งานขาย (tele sales) โดยกลุ่มแรกที่เป็นงานบริการจะมีขนาดใหญ่กว่าเพราะทุกวันนี้ ทุกบริษัทต้องมีช่องทางให้ลูกค้าติดต่อได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เพื่อให้ได้รับบริการได้อย่างครอบคุลม

ศรัณย์ เวชสุภาพร นายกสมาคมการค้าธุรกิจศูนย์บริการทางโทรศัพท์ไทย หรือ TCCTA

“การบริการผ่านคอนแทคเซ็นเตอร์เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะนี่คือ ‘ด่านหน้า’ ของทุกองค์กรที่จะทำให้ความรู้สึกของลูกค้าดีขึ้น เป็นภาพลักษณ์ขององค์กร และช่วยส่งข้อมูลโดยตรงจากลูกค้าให้องค์กรได้รับทราบ” นายศรัณย์กล่าว “ถ้าคอนแทคเซ็นเตอร์ติดต่อยาก รอนาน บริการลูกค้าไม่ดี ลูกค้าอาจจะเปลี่ยนใจไปเลือกใช้สินค้าหรือบริการของคู่แข่งทดแทนเพราะความรู้สึกไม่พอใจตรงนี้”

งานคอนแทคเซ็นเตอร์ที่เหมือนเป็นส่วนเสริมของบริการหลังการขาย จริงๆ แล้วจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง นั่นทำให้หลายบริษัทกำหนดให้พนักงานจะต้องได้รับการเทรนนิ่งไม่ต่ำกว่า 6 สัปดาห์ก่อนที่จะบริการจริงกับลูกค้า และยังลงทุนกับส่วนงานนี้ถึงหลักหลายร้อยล้านบาท เพราะต้องอัปเดตทั้งเทคโนโลยีที่มาช่วยให้บริการได้ดีขึ้น พัฒนาฟาซิลิตี้ในการทำงาน และงบประมาณดูแลด้านจิตวิทยาให้กับพนักงานคอนแทคเซ็นเตอร์


TCCTA สมาคมฯ ที่มุ่งหวังยกระดับ “คอนแทคเซ็นเตอร์” ชาวไทย

ด้วยจำนวนคนในสายอาชีพและความสำคัญที่มากขึ้น ทำให้ “สมาคมการค้าธุรกิจศูนย์บริการทางโทรศัพท์ไทย” หรือ TCCTA ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2557 เพื่อรวมกลุ่มกันในอุตสาหกรรม ช่วยยกระดับ และพัฒนาคอนแทคเซ็นเตอร์ให้มีคุณภาพเทียบเท่าสากล

นายศรัณย์ต่อกล่าวว่า เป้าหมายหลักของสมาคมฯ มี 2 ด้านสำคัญ คือ

  • การแบ่งปันองค์ความรู้ (knowledge sharing) ระหว่างกันในอุตสาหกรรม เพราะหลายบริษัทไม่ใช่คู่แข่งในสายธุรกิจเดียวกัน คอนแทคเซ็นเตอร์จึงสามารถเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้
  • ยกระดับและสร้างความภาคภูมิใจในอาชีพ ให้กำลังใจในการพัฒนาการทำงาน

เป้าหมายสร้างความภูมิใจในอาชีพนั้น สมาคมฯ เข้าไปมีบทบาทสำคัญจากการจัดงานประกวด TCCTA Contact Center Awards 2023 จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 เพื่อมอบรางวัลให้คนในอุตสาหกรรมทั้งในระดับองค์กรและระดับบุคคล

ปีนี้มีการมอบรางวัลรวมทั้งสิ้น 142 รางวัล ประเภทองค์กรมีผู้เข้าร่วมประกวดทั้งหมด 18 บริษัท ส่วนประเภทบุคคลมีผู้เข้าประกวดจาก 20 บริษัท

ในประเภทองค์กร จะมีรางวัลใหญ่ประจำปีคือรางวัล “The Best Contact Center of the Year” ซึ่งคัดเลือกผู้ที่ได้รับเหรียญทองจากรางวัลต่างๆ มากที่สุดในปีนั้น แบ่งเป็น 2 รางวัลตามขนาดบริษัทคือ บริษัทใหญ่มีคอนแทคเซ็นเตอร์มากกว่า 100 Seats และบริษัทขนาดกลางถึงเล็กมีที่นั่งไม่เกิน 100 Seats

สำหรับ The Best Contact Center of the Year ปี 2023 ผู้ชนะเลิศประเภทมากกว่า 100 Seats ได้แก่ “บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)” และ ผู้ชนะเลิศประเภทไม่เกิน 100 Seats ได้แก่ “บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)”

นอกจากนี้ ผู้ชนะเลิศรางวัลบางส่วนยังจะได้รับคัดเลือกเพื่อส่งเข้าประกวด Contact Center Asia Pacific Award ซึ่งเป็นการแข่งขันในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกด้วย

“การจัดประกวดนี้ทำให้เกิดแรงผลักดันการพัฒนากันเองภายในบริษัท เพราะบริษัทก็ต้องเริ่มหาตัวแทนภายในส่งเข้าประกวด บุคลากรจึงเกิดความตื่นตัว เพราะการได้เป็นตัวแทนเข้าแข่งขันและยิ่งชนะรางวัลกลับมาก็จะยิ่งก้าวหน้าในอาชีพได้เร็ว ผลสุดท้ายองค์กรจะได้ประโยชน์” นายศรัณย์กล่าว


AI ไม่ได้มาทดแทนแต่ทำงานร่วมกันกับมนุษย์

ด้านเทรนด์เทคโนโลยีเกี่ยวกับอาชีพคอนแทคเซ็นเตอร์ที่สมาคมฯ TCCTA จับตามอง ย่อมหนีไม่พ้น “AI” เพราะเป็นเทคโนโลยีที่นำมาใช้แล้วระยะหนึ่งและเริ่มพัฒนาไปได้มากขึ้น จนอาจมีความกังวลว่าจะมาทดแทนพนักงานหรือไม่

“Chatbot หรือ VoiceBot เข้ามามีส่วนช่วยผู้ประกอบการได้เยอะ เพราะทดแทนคนทำงานได้มาก จากเดิมมีคอนแทคเซ็นเตอร์ 1,000 คน อาจจะลดเหลือ 500 คนเพราะมี AI ช่วย” นายศรัณย์กล่าว “แต่เราก็เชื่อว่า AI ไม่สามารถแทนมนุษย์ได้ทั้งหมด”

นายศรัณย์อธิบายว่า งานบางอย่างที่เป็นเรื่องพื้นฐานธรรมดา เช่น สอบถามข้อมูลทั่วไป Chatbot หรือ VoiceBot  อาจตอบได้ในระดับ 7 เต็ม 10 หรือการปิดการขายที่ไม่ซับซ้อนก็อาจจะทำได้ระดับ 5 เต็ม 10

แต่เรื่องที่ ‘ยากที่สุด’ ของบอตคือ ‘การรับเรื่องร้องเรียน’ เพราะลูกค้าที่ต้องการร้องเรียนไม่ได้เข้ามาเพียงแจ้งเรื่อง แต่เขาต้องการ ‘มนุษย์’ ที่มีอารมณ์ร่วมเข้ามารับฟัง แสดงความรู้สึกที่เป็นมนุษย์ออกมา มากกว่าการพูดคุยกับ AI ที่ทุกคนทราบดีว่าไม่มีความรู้สึก

นั่นทำให้ในสายอาชีพคอนแทคเซ็นเตอร์ยังมีงานที่ต้องใช้มนุษย์เท่านั้น เพียงแต่สิ่งที่สมาคมฯ ต้องการผลักดันคือ “การนำ AI มาใช้ผสมผสานได้น่าสนใจมากขึ้น” ตัวอย่างกรณีศึกษา เช่น บริษัทหนึ่งมีการใช้ AI ในระบบหลังบ้านเพื่อ ‘จับสัญญาณ’ ระดับความไม่พอใจในการพูดคุยของลูกค้า โดยวัดจากระดับเดซิเบลของเสียงและจำนวนคำรุนแรงที่ใช้ เพื่อให้หัวหน้างานในคอนแทคเซ็นเตอร์เข้ารับช่วงต่อจากพนักงานได้ทันท่วงทีเมื่อพบเคสรับมือยากในลักษณะนี้


สร้างประโยชน์ให้สังคม

อีกส่วนที่สมาคมฯ TCCTA วางเป้าผลักดันคือการดึงสมาชิกที่ขณะนี้มี 50-60 บริษัททั้งเอกชนและรัฐวิสาหกิจ ให้ร่วมกันสร้างสรรค์โครงการที่มีประโยชน์ต่อสังคมมากขึ้น

โดยปัจจุบันมีสมาชิกของสมาคมคือ บริษัท ไนซ์ คอล จำกัด เป็นบริษัทหนึ่งที่ทดลองการทำโครงการเพื่อสังคม (*ไนซ์​ คอลเป็นธุรกิจส่วนตัวของนายศรัณย์ เวชสุภาพร นายกสมาคมฯ) โดยเข้าจัดตั้งสถานที่ทำงาน Contact Center และฝึกอบรมให้ผู้ต้องขังในเรือนจำได้ฝึกอาชีพคอนแทคเซ็นเตอร์ประเภทงานขาย และได้รับรายได้ตามกำหนดค่าแรงที่ได้มาตรฐานเหมือนคนนอกเรือนจำ

“ผู้ต้องขังหญิงส่วนใหญ่ต้องคดีด้วยคดีค้ายาเสพติด และมีไม่น้อยเลยที่พ้นโทษแล้วจะกลับมาต้องคดีซ้ำอีกด้วยคดีเดิม เหตุที่ต้องคดีเดิมเพราะผู้พ้นโทษขาดโอกาสที่จะได้ทำงานสุจริต และไม่มีรายได้ระหว่างต้องขังสำหรับตั้งตัวได้เมื่อพ้นโทษ” นายศรัณย์กล่าว “เราจึงมองว่าอาชีพคอนแทคเซ็นเตอร์เป็นโอกาสให้กับคนกลุ่มนี้ ได้ฝึกอาชีพที่ในตลาดงานจริงมีตำแหน่งรองรับ และระหว่างฝึกและทำงานในเรือนจำก็ได้รายได้เพียงพอที่จะเก็บออมไว้สำหรับตั้งตัวหลังพ้นโทษ เป็นการช่วยเหลือไม่ให้ผู้พ้นโทษกลับเข้าวงจรเดิมๆ”

หลังทำโครงการมา 4 ปี ขณะนี้ไนซ์​ คอลมีเรือนจำที่เข้าร่วมโครงการ 2 แห่ง คือ เรือนจำกลางสมุทรปราการ และ ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ รวมพนักงาน 120 Seats และได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือ (MOU) ในโครงการคืนคนดีสู่สังคมกับกรมราชทัณฑ์เพื่อสานต่อโครงการต่อไปในระยะยาว

จากโครงการนี้ทำให้นายศรัณย์ในฐานะนายกสมาคมฯ หวังว่าจะมีโอกาสดึงพันธมิตรสมาชิกให้เข้ามาร่วมโครงการในลักษณะเดียวกับไนซ์ คอล หรือสนับสนุนการสร้างโครงการที่ใช้อาชีพคอนแทคเซ็นเตอร์ทำประโยชน์แก่สังคมในรูปแบบอื่นๆ ต่อไป

“เราอยากเห็นคนไทยมองภาพอาชีพคอนแทคเซ็นเตอร์เป็นอาชีพงานบริการที่มีเกียรติและน่าภาคภูมิใจ มีความสำคัญต่อภาคธุรกิจและสังคมไทยไม่ใช่เรียกแก๊งมิจฉาชีพด้วยชื่อของอาชีพที่ภาคภูมิใจของเรา” นายศรัณย์กล่าวปิดท้าย

]]>
1449664
“ลูกจ้างคนรวย” งานที่กำลังโตเร็วที่สุดในอเมริกา…อีกด้านไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด https://positioningmag.com/1256621 Wed, 11 Dec 2019 12:27:17 +0000 https://positioningmag.com/?p=1256621 AP Photo/Julio Cortez

ปัจจุบันคนที่มีฐานะร่ำรวยในอเมริกามีจำนวนเพิ่มขึ้น รายได้ที่สูงขึ้นก็มักตามมาด้วยความต้องการด้านบริการเเละสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตมากขึ้นด้วย อย่างเช่น การไปนวด เข้าร้านเสริมสวยทำเล็บทำผม หรือมีเงินจ้างคนให้พาสุนัขไปเดินเล่น

งานเหล่านี้มักถูกเรียกว่า “ลูกจ้างคนรวย” (wealth workers) ซึ่งเป็นงานภาคบริการที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับตำแหน่งงานสำหรับชาวอเมริกันที่เป็นคนชั้นกลางที่ยังคงลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง

เเม้ว่าจะตำเเหน่งงานเหล่านี้จะมีมากขึ้นเเละดึงดูดใจให้ใครหลายคนอยากทำ เเต่ก็มีสิ่งที่น่าเป็นห่วงอีกด้าน นั่นคือเรื่องสวัสดิการที่ไม่ครอบคลุมเเละค่าจ้างต่ำ

Mark Muro เจ้าหน้าที่อาวุโสของสถาบัน Brookings Institute กล่าวว่า คนที่มีรายได้สูงยินดีที่จ่ายเงินซื้อบริการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการจ้างครูสอนโยคะ จ้างคนจูงสุนัขไปเดินเล่น หรือจ้างคนดูแลตารางการทำงานให้ ขณะเดียวกันคนที่อยากจะมาทำงานบริการเเนวนี้ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน

รายงานจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐ ระบุว่า อาชีพด้านการให้บริการส่วนบุคคล กำลังเป็นอาชีพที่เติบโตเร็วที่สุดของตลาดงานสำหรับคนงานที่ไม่ได้จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย และคาดว่างานประเภทนี้จะเติบโตขึ้นอีกราว 17% ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้มีตำแหน่งงานใหม่มากกว่า 1 ล้านตำแหน่ง

โดยงานที่ให้บริการคนรวยในอเมริกาตอนนี้ ส่วนใหญ่มีเเนวโน้มเป็น ผู้หญิงเเละเป็นชาวละติน หลายคนไม่มีวุฒิการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย และอาจทำงานหลายอย่างพร้อมกันเพื่อให้บริการแก่ผู้ที่มีฐานะทางการเงินดีกว่าตัวเอง

ข้อมูลจากสถาบัน Brookings Institute ชี้ว่า อาชีพช่างทำเล็บมือและเล็บเท้า เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วงปี 2010 – 2017 โดยอาชีพครูฝึกออกกำลังกาย ครูสอนโยคะ และคนรับจ้างเดินจูงสุนัขไปเดินเล่น เพิ่มขึ้นถึงสามเท่าของอัตราการจ้างงานโดยรวม

“เราไม่ได้กังวลถึงการอยู่ของอาชีพเหล่านี้ เพราะมันเป็นไปตามโครงสร้างการทำงานในอเมริกา เเต่สิ่งที่เรากังวลคือการได้รับค่าตอบเเทนที่ไม่ค่อยดีนัก” Muro กล่าว

ทุกวันนี้มีผู้คนอย่างน้อย 3 ล้านคนในสหรัฐ ที่ต้องพึ่งพางานประเภทนี้เพื่อเลี้ยงชีพ ถึงเเม้ว่าจะ “ไม่ใช่งานที่ดีนักและค่าตอบแทนน้อย” เเละเสี่ยงที่จะถูกนายจ้างเอารัดเอาเปรียบ อีกทั้งยังไม่ค่อยได้รับสวัสดิการทั้งในเรื่องการลาป่วย วันลาพักร้อน หรือเงินบำเหน็จบำนาญ ดังนั้นคนที่ทำงานเหล่านี้จึงจัดอยู่ในกลุ่มที่ถูกใช้งานอย่างไม่ยุติธรรม

อย่างไรก็ตาม งานบริการนี้ได้ให้โอกาสกับผู้อพยพ โดย 1 ใน 3 ของแรงงานในสหรัฐอยู่ในระบบเศรษฐกิจ
แบบ Gig Economy (ทำงานอิสระ) เป็นสัดส่วนถึง 10% ของพนักงานเต็มเวลา ขณะที่อีกส่วนหนึ่งพยายามทำงานเสริม เช่น เป็นคนขับ Uber เพื่อเพิ่มรายได้

โดย Louis Hyman ผู้อำนวยการศูนย์ Workplace Studies ของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ ให้ความเห็นว่า เป็นเรื่องดีต่อเศรษฐกิจเพราะการที่มีคนจำนวนมากต้องการให้คนทำงานเหล่านั้นก็เป็นอุปสงค์ที่มีพลัง คำถามคือไม่ใช่การจะกำจัด Gig Economy ออกไปยังไง เเต่เราจะอยู่ร่วมกันอย่างมั่นคงอย่างไรมากกว่า เเละนี่ก็ไม่ใช่เรื่องเฉพาะคนที่ทำงานประเภทนี้เท่านั้นเเต่รวมไปถึงคนที่มีค่าแรงต่ำในอเมริกาทั้งหมดด้วย

Hyman เสนอทางช่วยเหลือว่า อาจจะต้องมีการตั้งค่าระบบบัญชีส่วนตัวของพนักงานเหล่านี้ เมื่อทุกครั้งที่มีค่าจ้างจากนายจ้างเข้ามาก็จะเข้าสู่ระบบประกันสุขภาพหรือบัญชีออมทรัพย์ด้วย เป็นต้น

นอกจากนี้ เขายังเป็นห่วงเรื่องสังคมของคนอเมริกัน ที่งานบริการมักแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างคนรวยกับคนจน จึงขอเรียกร้องให้มีการเคารพในอาชีพเเละการทำงานของผู้คนในส่วนนี้ด้วย

 

ที่มา VOA : US Fastest Growing Jobs: Caring for the Wealthy
ภาพ : AP Photo/Julio Cortez

]]>
1256621