จุดพักรถ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 17 Mar 2022 06:29:37 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 รู้จัก The Hare Rest ปักหมุด Mixed Use ไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งใหม่ย่านศรีนครินทร์ https://positioningmag.com/1377890 Thu, 17 Mar 2022 04:40:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1377890 ดีเจดับบลิว คว้าทำเลทองแปลงโซนศักยภาพศรีนครินทร์ ขยายโครงการ The Hare Rest มิกซ์ยูส จุดพักรถแห่งใหม่ ไลฟ์สไตล์มอลล์ และโฮมออฟฟิศ มีสัญญาเช่า 20 ปี พร้อมเปิดกลางปี 2566

จับทำเลทองศรีนครินทร์

The Hare Rest (ดิ แฮ เรสต์) เป็นโครงการ Mixed Use หรือจะเรียกว่าเป็นจุดแวะพักแห่งใหม่ ประกอบด้วย ไลฟ์สไตล์มอลล์, โฮมออฟฟิศ และสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ บนพื้นที่รวม 10-1-25.3 ไร่ ที่จอดรถ 150 คัน ทำเลที่ตั้งอยู่ย่านศรีนครินทร์ แถวสถานีรถไฟ ทางไปมอเตอร์เวย์ เรียกว่าเป็นปั๊มน้ำมันสุดท้ายก่อนขึ้นมอตอร์เวย์ก็ได้

ดร. จักรพันธ์ งามสุขเลิศกุล กรรมการบริหารสายงานการเงินและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ดีเจดับบลิว ดีเวลลอป จำกัด กล่าวว่า

“ศรีนครินทร์ คือสุดยอดทำเลศักยภาพ มีผังเมืองที่ดี มีพื้นที่ที่มีการเติบโตได้อย่างมากในอนาคต เนื่องจากปัจจุบันมีโครงการบ้าน ที่อยู่อาศัยจำนวนหลายโครงการ อีกทั้งยังมีศักยภาพมาก เป็นทำเลที่สามารถพัฒนาได้อีกในหลายด้าน ทั้งด้านการเดินทางเชื่อมต่อกับทำเลอื่น การเดินทางที่สะดวกทั้ง ถนนพัฒนาการ ถนนตัดใหม่ จุดเชื่อมต่อทางด่วน รถไฟฟ้าสายสีเหลือง พื้นที่ในเขตศรีนครินทร์ เป็นพื้นที่ที่ยังสามารถรองรับการเจริญเติบโตของเมืองได้อีกมากเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีประชากรแฝงอยู่เป็นจำนวนมาก

ประกอบกับการขยายตัวจากโซนเมืองชั้นในสู่โซนพัฒนาการ ศรีนครินทร์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและประกอบกับการที่มีทางขึ้นทางด่วนมอเตอร์เวย์บนถนนศรีนครินทร์ ทำให้เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพฯ กับโครงการ EEC ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และต้องยอมรับว่าปัจจุบันการขยายตัวของเขตเมืองเกิดรวดเร็วมาก รวมถึงแนวส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าได้ผ่านที่ถนนศรีนครินทร์ ทำให้พื้นที่บนถนนศรีนครินทร์เป็นทำเลที่มีศักยภาพที่พร้อมรองรับการพัฒนาด้านต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้เป็นอย่างดี”

ในแง่ของนักลงทุน ทำเลที่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ และใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า 2 สถานี เชื่อมต่อทั้งในเมือง และเขตการลงทุนพิเศษ EEC หน้ากว้างของโครงการเกือบ 300 เมตร ทำให้เป็นจุดเด่นแก่ผู้สัญจรไปมา เหมาะสำหรับธุรกิจหลากหลายประเภท อาทิ ธุรกิจขนส่ง ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจบริการและสุขภาพ (Wellness) เป็นต้น

รวมปั๊มน้ำมัน รีเทล และโฮมออฟฟิศ

ในโครงการนี้จะประกอบด้วย 3 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่

สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ สถานีจำหน่ายน้ำมันและสถานีชาร์จ สำหรับรถ EV เป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ที่มีความร่วมมือระหว่างสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ และ ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ในสถานีบริการนี้มีความทันสมัย และมีความสะดวกสบายที่ครบครัน ประกอบด้วย ท็อปส์ เดลี่ ขนาด 300 ตารางเมตร และร้านค้าอีกมากมาย เช่น ร้านเอสแอนด์พี พิซซ่าฮัท ร้านเขียง และอื่นๆ

The Hare Rest เป็นไลฟ์สไตล์เสมือนเป็นจุดพักรถอีกแห่ง ออกแบบตกแต่ง และจัดสรรพื้นที่ให้มีธรรมชาติรายล้อม โปร่ง โล่ง มีลมพัดผ่าน มีร้านอาหาร บริการชื่อดังกว่า 50 ร้านค้า

Passion House เป็นอาคาร Home Office จำนวน 20 ยูนิต แบ่งออกเป็น 2 ขนาด คือ แบบ A ทั้งหมด 12 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 239.5 ตร.ม. สูง 4 ชั้น มีพื้นที่สำหรับจอดรถกว้างขวาง รองรับการใช้งาน ขนาดกว้าง 5 เมตร ลึก 12 เมตร จอดรถหน้าอาคารได้ 2 คัน มีบันไดแยกนอกตัวอาคารทำให้สามารถแบ่งใช้สอย หรือให้เช่า และแบบ B เพียง 8 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 252 ตร.ม. พร้อมที่จอดรถหน้าอาคารถึง 4 คัน มีห้องน้ำแยกทุกชั้น สะดวกต่อการแยกใช้สอย ราคาเริ่มต้น 7 ล้านบาท

สำหรับ บริษัท ดีเจดับบลิว ดีเวลลอป จำกัด ได้เคยทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาบ้างแล้ว ส่วนใหญ่เป็นการร่วมทุน ทั้งโครงการที่อยู่อาศัยหมู่บ้านไอรีน ศรีราชา รวมถึงเป็นที่ปรึกษาให้กับดีแลนด์ ผู้บริหารคอมมูนิตี้มอลล์

โดยที่โครงการ The Hare Rest เป็นโครงการที่มีการลงทุนเอง แต่ก็มีที่ปรึกษา ได้แก่ บริษัท Edmund Tie & Company ผู้เชี่ยวชาญในงานการลงทุนพื้นที่อสังหาริมทรัพย์เชิงพานิชย์ และเพื่อที่อยู่อาศัย, บริษัท Centuri 21 ตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงและมีสาขาในกว่าหลายประเทศทั่วโลก และ DLAND

]]>
1377890
ผุดไอเดียอาคารลอยฟ้าคร่อมถนนจุดพักรถ “มอเตอร์เวย์” หวังเพิ่มพื้นที่ร้านค้า-จอดรถ https://positioningmag.com/1294578 Sat, 29 Aug 2020 06:54:08 +0000 https://positioningmag.com/?p=1294578 “ศักดิ์สยาม” ปิ๊งไอเดีย สั่ง ทล.ปรับผังจุดพักรถ ผุดอาคารลอยฟ้าคร่อม “มอเตอร์เวย์” ใช้พื้นที่ด้านบนเชิงพาณิชย์ ส่วนด้านล่างเป็นที่จอดรถทั้งหมด มีทางเชื่อมสองฝั่งให้ผู้ใช้ทางทั้งขาเข้า-ขาออกสะดวก เผยโมเดลเกาหลีลดต้นทุนเพิ่มยอดขาย

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงโครงการก่อสร้างจุดพักรถมอเตอร์เวย์ของกรมทางหลวง (ทล.) ว่าได้ให้นโยบายกรมทางหลวงว่าให้นำนวัตกรรมจากต่างประเทศ เช่น เกาหลีมาปรับใช้ เพื่อเกิดประโยชน์ในการพัฒนาและให้บริการสูงสุด เดิมจะมีพื้นที่จอดรถและพื้นที่ร้านค้าเพื่ออำนวยความสะดวกนั้น เห็นว่าควรจะใช้พื้นที่ทั้งหมดเป็นที่จอดรถ ส่วนพื้นที่ร้านค้านั้นให้ก่อสร้างเป็นอาคารคร่อมบนมอเตอร์เวย์ แล้วใช้พื้นที่ด้านบนทั้งหมดเป็นเชิงพาณิชย์

รูปแบบดังกล่าวจะทำให้มีพื้นที่สำหรับจอดรถมากขึ้น ในขณะที่ร้านค้าจะสามารถขายสินค้าได้มากขึ้น เพราะจะมีทางขึ้นลงเชื่อมทั้งสองฝั่งของมอเตอร์เวย์ ผู้ใช้ทางจากทั้งสองฝั่งจะสามารถเดินขึ้นไปบนพื้นที่ร้านค้าได้ ซึ่งที่ประเทศเกาหลีให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน (PPP) ระยะเวลา 25 ปี (รวมเวลาก่อสร้างด้วย) หากใช้เวลาก่อสร้างนานเอกชนจะมีเวลาเหลือเพื่อเก็บรายได้น้อยลง หากก่อสร้างเร็วก็มีเวลาเหลือมาก

“ผมได้ให้นโยบายอธิบดีกรมทางหลวงใช้แนวคิดโมเดลนี้ในทุกจุดที่จะทำ PPP จุดพักรถ ขึ้นกับพื้นที่ของแต่ละแห่ง ส่วนระยะเวลาสัญญาร่วมทุนอยู่ที่ความคุ้มค่า แต่รูปแบบนี้จะทำให้มีพื้นที่จอดรถเพิ่ม ส่วนร้านค้าให้ไปอยู่บนอาคารทั้งหมด อาจจะก่อสร้างเป็นอาคาร 3 ชั้น มีทางเชื่อมกับสองฝั่งมอเตอร์เวย์ ทั้งขาเข้าและขาออก ซื้อของได้หมด ผู้ประกอบการประหยัดการลงทุน ร้านค้าขายของได้มากขึ้นแน่นอน”

สำหรับโครงการก่อสร้างจุดพักรถมอเตอร์เวย์นั้น กรมทางหลวงได้สรุปการร่วมลงทุนเอกชน (PPP) นำร่องที่มอเตอร์เวย์สาย 7 ช่วงชลบุรี-พัทยา โดยแบ่ง 2 สัญญา เป็นบริการทางหลวงขนาดใหญ่ (Service center) คือ สัญญาจุดพักรถที่ศรีราชา บริเวณ กม.95 ทั้ง 2 ฝั่ง ฝั่งละประมาณ 50 ไร่ และสัญญาจุดพักรถที่บางละมุง บริเวณ กม.140 ซึ่งศึกษาเสร็จแล้ว เตรียมสรุปข้อมูลเสนอกระทรวงคมนาคม

เนื่องจากเป็นโครงการลงทุนที่มีมูลค่าไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ตามขั้นตอน พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนฯ ปี 2562 จะต้องเสนอไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อเสนอคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) พิจารณา ซึ่งคาดว่าจะได้รับอนุมัติ และจัดทำทีโออาร์ประกาศเชิญชวนได้ต้นปี 2564

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประมูลนั้นทีโออาร์จะกำหนดจุดที่ตั้ง ขนาดพื้นที่ และกิจกรรมในการพัฒนา และให้เอกชนนำเสนอรูปแบบพัฒนา ขณะที่แนวคิดการทำอาคารคร่อมมอเตอร์เวย์สองฝั่งเพื่อใช้เป็นพื้นที่ร้านค้านั้นอาจจะทำไม่ได้ทุกแห่ง เนื่องจากบางแห่งจุดพักรถสองฝั่งอยู่ไม่ตรงกัน

สำหรับที่พักริมทางนั้นมี 3 รูปแบบ คือ จุดพักรถ (Rest Stop) พื้นที่ประมาณ 15 ไร่, สถานที่บริการทางหลวง (Service Area) พื้นที่ประมาณ 20 ไร่ และศูนย์บริการทางหลวง (Service Center) พื้นที่ประมาณ 50 ไร่ ซึ่งจะเปิดให้เอกชนร่วม PPP net cost ระยะเวลา 20-30 ปี

โดยมอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา มีทั้งสิ้น 8 แห่ง ประกอบด้วย จุดพักรถจำนวน 5 แห่ง (วังน้อย หนองแค ทับกวาง ลำตะคอง ขามทะเลสอ) สถานที่บริการทางหลวง จำนวน 2 แห่ง (สระบุรี สีคิ้ว) ศูนย์บริการทางหลวง จำนวน 1 แห่ง (ปากช่อง), สายบางใหญ่-กาญจนบุรี มีทั้งสิ้น 6 แห่ง ประกอบด้วย จุดพักรถ จำนวน 3 แห่ง (ทับช้าง ลาดกระบัง บ้านบึง) สถานที่บริการทางหลวง จำนวน 2 แห่ง (บางปะกง พัทยา-มาบตาพุด) ศูนย์บริการทางหลวง 1 แห่ง (ศรีราชา)

Source

]]>
1294578