ชำระหนี้ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 18 Nov 2021 13:51:18 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ประธาน ‘Evergrande’ ขายทรัพย์สินส่วนตัวกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท กู้วิกฤตหนี้บริษัท https://positioningmag.com/1362874 Thu, 18 Nov 2021 12:10:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1362874 ‘เอเวอร์แกรนด์’ (Evergrande) เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดของจีน และกำลังเผชิญกับภาวะล้มละลายจากวิกฤตหนี้สินที่มี 10 ล้านล้านบาท เนื่องจากการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และการไล่ซื้อกิจการต่าง ๆ หลายปีที่ผ่านมา จนในที่สุด สีว์ จยาอิ้น ประธานเอเวอร์แกรนด์ จำต้องขายทรัพย์สินส่วนตัวใช้หนี้

สีว์ จยาอิ้น ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทเอเวอร์แกรนด์ จำต้องขายทรัพย์สินส่วนตัวกว่า 7 พันล้านหยวน (3.5 หมื่นล้านบาท) เพราะประคับประคองบริษัท โดย สีว์ จยาอิ้น ขายบ้านหลายหลังในฮ่องกง, กว่างโจว และ เซินเจิ้น รวมถึงเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวบางลำ

สีว์พยายามอัดฉีดเงินเข้าบริษัทตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม เพื่อใช้รักษาการดำเนินงานพื้นฐานของอาณาจักรธุรกิจขนาดใหญ่ของเขา อาทิ เงินเดือนพนักงาน การจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตร และสานต่อโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศให้เสร็จ โดยปัจจุบันหุ้นในบริษัทเพิ่มขึ้นมากถึง 4.3% ในช่วงเช้าวันพุธ และล่าสุดเพิ่มขึ้น 1.1% ดังนั้น ภาพรวมหุ้นบริษัททั้งปีในปีนี้จะลดลงที่ 80%

“เอเวอร์แกรนด์” ยักษ์ใหญ่อสังหาจีน เสี่ยงล้มพร้อมหนี้ 10 ล้านล้าน ลามวิกฤตซับไพรม์เอเชีย

ที่ผ่านมา บริษัทพยายามทำทุกวิธีเพื่อใช้หนี้มูลค่าราว 10 ล้านล้านบาท โดยในช่วงปลายเดือนกันยายน บริษัทประกาศว่าจะขายหุ้น 1.5 พันล้านดอลลาร์ใน Shengjing Bank ให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐ และกำลังดำเนินการขายหุ้นที่มีทั้งหมดใน HengTen Network Holdings บริษัทภาพยนตร์และสตรีมมิ่งโทรทัศน์ของจีน จำนวน 1.66 พันล้านหุ้น โดยมีมูลค่ารวม 2.13 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (273.5 ล้านดอลลาร์) โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดในวันที่ 22 พ.ย. นี้

โดยบริษัทคาดว่าจะได้รับการชำระเงินในรอบแรกจำนวน 20% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดในวันจันทร์ที่ 22 พ.ย.นี้ ส่วนเงินในส่วนที่เหลือจะได้รับการชำระภายใน 2 เดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า Evergrande จะนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นในครั้งนี้ไปชำระดอกเบี้ยที่ครบกำหนดชำระเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา รวมถึงสะสมเงินเพื่อใช้ชำระดอกเบี้ยมูลค่า 255 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะครบกำหนดชำระในวันที่ 28 ธ.ค.นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้

Source

]]>
1362874
“เอเวอร์แกรนด์” ยังวิกฤต ส่งมอบโครงการลดฮวบ จ่าย “บ้าน” แทนเงินใช้หนี้ซัพพลายเออร์ https://positioningmag.com/1360735 Sun, 07 Nov 2021 17:52:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1360735 “ไชน่า เอเวอร์แกรนด์” ส่งมอบโครงการลดลง 1 ใน 3 ในช่วงเดือนตุลาคมเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม ซัพพลายเออร์หลายแห่งเผยบริษัทได้รับชำระหนี้เป็น “อสังหาฯ” แทนเงินสด สะท้อนสภาวะที่ยังสั่นคลอนของบริษัท แม้จะทยอยจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ที่เลยกำหนดชำระ แต่ยังมีเส้นตายชำระหนี้รออยู่อีก

บริษัท “ไชน่า เอเวอร์แกรนด์” ยักษ์อสังหาริมทรัพย์จีนที่เกิดวิกฤตการเงินเมื่อช่วงกลางปีและกลายเป็นความเสี่ยงต่อตลาดเงินทั่วโลก แม้จะยังยืนขอบปากเหว แต่บริษัทยังประกาศตัวว่าสามารถส่งมอบโครงการให้ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง และจ่ายชำระหนี้ให้กับซัพพลายเออร์ได้ตามที่รัฐบาลกลางของจีนสั่งการ

เอเวอร์แกรนด์ประกาศผ่านบัญชี WeChat ทางการของบริษัทว่า บริษัทส่งมอบบ้านไปแล้ว 57,462 หน่วยจาก 184 โครงการทั่วประเทศจีน นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการส่งมอบบ้านที่ว่านั้นตกลงฮวบฮาบเมื่อเดือนตุลาคม โดยบริษัทมีการส่งมอบบ้านไปเพียง 7,568 หน่วยเมื่อเดือนก่อน ซึ่งคิดเป็นเพียง 1 ใน 3 ของปริมาณการส่งมอบเมื่อเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพคล่องของบริษัทเริ่มมีปัญหามากขึ้น

“การสร้างความมั่นใจว่าบริษัทจะส่งมอบบ้านได้คือสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งของเอเวอร์แกรนด์” บริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองเสิ่นเจิ้นระบุบน WeChat “ทุกคนในบริษัทนี้ที่นำโดย ฮุยคายัน ประธานบริษัท ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า เราจะส่งมอบโครงการคุณภาพด้วยกำลังสูงสุดและด้วยวิธีการใดๆ ก็ตามที่เป็นไปได้”

Xu Jiayin, chairman of Guangzhou’s Evergrande (Photo by Visual China Group via Getty Images/Visual China Group via Getty Images)

ในรายงานภายในเมื่อเดือนสิงหาคม ฮุยคายันยอมรับว่ายอดหนี้หลายพันล้านหยวนที่ต้องจ่ายให้ซัพพลายเออร์ยังคงค้างชำระ และทำให้โครงการที่อยู่อาศัยบางแห่งของบริษัทหยุดการก่อสร้างไปชั่วคราว

เมื่อสภาพคล่องสะดุดลงทำให้บริษัทต้องจ่ายหนี้ซัพพลายเออร์เป็นอสังหาฯ แทนเงินสด เช่น D&O Home Collection ซัพพลายเออร์เฟอร์นิเจอร์ ระบุว่าบริษัทได้รับชำระหนี้เป็นอสังหาฯ จากเอเวอร์แกรนด์ คิดเป็นมูลค่า 39 ล้านหยวน หรือ WorldUnion โบรกเกอร์อสังหาฯ ก็บอกเช่นกันว่า บริษัทได้รับชำระหนี้เป็นแฟลตมูลค่ารวม 253 ล้านหยวนแทน

สำหรับการชำระหนี้หุ้นกู้ของเอเวอร์แกรนด์ เมื่อเดือนก่อนบริษัทมีการชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ไปแล้ว 2 ชุด มูลค่ารวม 128.7 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นดอกเบี้ยที่เกินกำหนดชำระมาแล้ว 1 เดือน

อย่างไรก็ตาม ดีเวลอปเปอร์ยักษ์ที่มีหนี้พอกพูนมหาศาลก็ยังไม่พ้นอันตราย เพราะเส้นตายการชำระหนี้ครั้งต่อไปกำลังใกล้เข้ามา ดอกเบี้ยหุ้นกู้มูลค่า 82.5 ล้านเหรียญสหรัฐจะต้องชำระภายในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้

Source

]]>
1360735
ส่อง 8 มาตรการ กยศ.ช่วยลูกหนี้สู้ COVID-19 ลดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% หักเงินเดือน 10 บาท https://positioningmag.com/1271161 Wed, 01 Apr 2020 10:01:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1271161 กยศ. เผย 8 มาตรการอุ้มลูกหนี้สู้ภัย COVID-19 ลดเบี้ยปรับจาก 7.5% เหลือ 0.5% ลดจำนวนหักเงินเดือนของผู้กู้ยืมทุกรายในกลุ่มหน่วยงานเอกชนเหลือ 10 บาท/คน/เดือน ชำระหนี้ลดเบี้ยปรับ 75-80% พักชำระหนี้ 2 ปี สำหรับผู้กู้ยืมที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้กู้ยืมที่ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เกิน 8,008 บาทต่อเดือน สามารถขอผ่อนผันได้คราวละ 1 ปี ไม่เกิน 2 คราว ผู้กู้ยืมที่มีรายได้ถดถอยขยายระยะเวลาการชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 2.5 เท่าจากสัญญาเดิม รวมถึงงดการขายทอดตลาดทุกกรณี และชะลอการบังคับคดี ยกเว้นกรณีใกล้ขาดอายุความ

ชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจในวงกว้าง ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนในการดำรงชีพของผู้กู้ยืม กองทุนฯ ได้มีมาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างชำระหนี้

โดยมีรายละเอียดดังนี้

  1. ลดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% จาก 7.5% ในกรณีที่ผู้กู้ยืมยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด กองทุนฯ จะปรับลดเบี้ยปรับให้กับผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างผ่อนชำระเงินกู้ยืมเป็นการชั่วคราว จากอัตรา 7.5% ต่อปี เป็นอัตรา 0.5% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 31 ธันวาคม 2563
  2. ลดจำนวนหักเงินเดือนเหลือ 10 บาทต่อคนต่อเดือน กองทุนฯ จะปรับลดจำนวนเงินที่แจ้งให้หักเงินเดือน เพื่อชำระเงินคืนกองทุนฯ ของผู้กู้ยืมทุกรายในกลุ่มหน่วยงานเอกชน จากจำนวนเงินที่เคยแจ้งหัก เป็นแจ้งให้นายจ้างหักเงินของผู้กู้ยืมทุกรายรายละ 10 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 30 มิถุนายน 2563
  3. ลดเบี้ยปรับ 80% สำหรับผู้กู้ยืมทุกกลุ่มที่ค้างชำระหนี้ และปิดบัญชีในครั้งเดียว กรณีผู้กู้ยืมที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี ติดต่อชำระหนี้ที่ธนาคารกรุงไทยหรือธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กรณีผู้กู้ยืมถูกดำเนินคดี ลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ได้ที่เว็บไซต์ กยศ. โดยผู้กู้ยืมต้องชำระค่าทนายความและค่าฤชาธรรมเนียมศาลให้เสร็จสิ้นก่อนชำระหนี้ปิดบัญชี โดยขยายระยะเวลาเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นให้สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563
  4. ลดเบี้ยปรับ 75% เฉพาะผู้กู้ยืมที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ (ไม่ค้างชำระ) โดยติดต่อชำระหนี้ที่ธนาคารกรุงไทยหรือธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โดยให้ขยายระยะเวลาเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นให้สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563
  5. พักชำระหนี้ให้แก่ผู้กู้ยืมที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2 ปี ผู้กู้ยืมที่มีสถานะยังไม่ถูกดำเนินคดี จะได้รับการผ่อนผันการชำระหนี้ตามเงื่อนไข กรณีผู้ที่มีงวดชำระเป็นรายปี ได้รับสิทธิ์ผ่อนผันการชำระหนี้งวดปี 2563 เป็นเวลา 2 ปี นับแต่วันที่กองทุนฯ อนุมัติ โดยผู้กู้ยืมจะกลับมาชำระหนี้งวดปี 2563 ภายในวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 และงวดที่เหลือในปีถัดไป กรณีผู้ที่มีงวดชำระเป็นรายเดือน ให้ผ่อนผันการชำระหนี้ 24 เดือน นับตั้งแต่เดือนถัดไปที่กองทุนฯ อนุมัติ โดยในระหว่างพักชำระหนี้ดังกล่าว กองทุนฯ จะไม่ถือว่าผู้กู้ยืมผิดนัดชำระหนี้ กองทุนฯ​ จะหยุดคิดดอกเบี้ย เบี้ยปรับ หรือค่าธรรมเนียมผิดนัดชำระหนี้ทั้งงวดที่ค้างชำระก่อนหน้าและงวดที่อยู่ระหว่างผ่อนผันการชำระหนี้ จนกว่าระยะเวลาพักชำระหนี้จะสิ้นสุด โดยขยายเวลาให้ผู้กู้ยืมสามารถลงทะเบียนยื่นคำขอรับสิทธิ์ได้ทางเว็บไซต์ กยศ. เดิมสิ้นสุดวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นให้สิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2563
  6. ผ่อนผันการชำระหนี้ ในกรณีสถานการณ์ที่มีความจำเป็นสำหรับผู้กู้ยืมที่ครบกำหนดชำระหนี้และไม่เป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ สามารถยื่นคำขอผ่อนผันและส่งเอกสารหลักฐานไม่น้อยกว่า 60 วัน ก่อนครบกำหนดชำระหนี้ ในวันที่ 5 กรกฎาคม ซึ่งเป็นไปตามประกาศของกองทุนฯ ที่มีอยู่เดิมแล้ว ดังนี้

กรณีผู้กู้ยืมที่ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เกิน 8,008 บาทต่อเดือน สามารถขอผ่อนผันได้ไม่เกิน 2 คราว คราวละไม่เกิน 1 ปี นับจากวันที่ได้รับอนุมัติ ซึ่งในช่วงเวลาที่ได้รับการผ่อนผัน ผู้กู้ยืมไม่ต้องชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย รวมถึงยกเว้นเบี้ยปรับกรณีผิดนัดชำระหนี้ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ได้รับการผ่อนผัน
กรณีผู้กู้ยืมที่มีรายได้ถดถอย สามารถขอผ่อนผันให้ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ได้ตั้งแต่ 1.5-2.5 เท่าของระยะเวลาที่เหลืออยู่ตามสัญญากู้ยืมเดิม โดยขึ้นอยู่กับมูลหนี้คงเหลือ ในการชำระเงินงวดสุดท้าย ผู้กู้ยืมต้องมีอายุไม่เกิน 60 ปี และผู้กู้ยืมจะต้องทำบันทึกข้อตกลงกับกองทุนฯ เพื่อนำยอดหนี้คงเหลือมาคำนวณใหม่ และเฉลี่ยให้ชำระในแต่ละเดือนเท่าๆ กันภายในระยะเวลาที่ได้รับการผ่อนผัน

  1. งดการขายทอดตลาด สำหรับผู้กู้ยืม และ/หรือผู้ค้ำประกัน ที่กองทุนฯ​ ได้ดำเนินการยึดทรัพย์ไว้ทุกราย และขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการขายทอดตลาด กองทุนฯ จะยื่นคำร้องของดการขายทอดตลาดทุกรายไปจนถึงสิ้นปี 2563 โดยจะต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้กู้ยืม และ/หรือ ผู้ค้ำประกันที่ถูกยึดทรัพย์ รวมทั้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น ผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วม ผู้รับจำนองที่ยึดไว้ (ถ้ามี)

 

  1. ชะลอการบังคับคดี สำหรับผู้กู้ยืม และ/หรือ ผู้ค้ำประกันทุกคดี กองทุนฯ จะชะลอการบังคับคดีไว้ ยกเว้นกรณีที่คดีใกล้ขาดอายุความ กองทุนฯจำเป็นต้องดำเนินการบังคับคดีตามกฎหมาย แต่จะงดการขายทอดตลาดไว้

 

ทั้งนี้ ผู้กู้ยืมสามารถดูรายละเอียดมาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้ทาง www.studentloan.or.th และเพื่อเป็นการร่วมเว้นระยะห่างทางสังคม สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line@กยศ. หรือ Line@กยศ.หักเงินเดือน หรือ Line@กยศ.คดีและบังคับคดี หรือ e-mail : info@studentloan.or.th

]]>
1271161