สีว์ จยาอิ้น ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทเอเวอร์แกรนด์ จำต้องขายทรัพย์สินส่วนตัวกว่า 7 พันล้านหยวน (3.5 หมื่นล้านบาท) เพราะประคับประคองบริษัท โดย สีว์ จยาอิ้น ขายบ้านหลายหลังในฮ่องกง, กว่างโจว และ เซินเจิ้น รวมถึงเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวบางลำ
สีว์พยายามอัดฉีดเงินเข้าบริษัทตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม เพื่อใช้รักษาการดำเนินงานพื้นฐานของอาณาจักรธุรกิจขนาดใหญ่ของเขา อาทิ เงินเดือนพนักงาน การจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตร และสานต่อโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศให้เสร็จ โดยปัจจุบันหุ้นในบริษัทเพิ่มขึ้นมากถึง 4.3% ในช่วงเช้าวันพุธ และล่าสุดเพิ่มขึ้น 1.1% ดังนั้น ภาพรวมหุ้นบริษัททั้งปีในปีนี้จะลดลงที่ 80%
“เอเวอร์แกรนด์” ยักษ์ใหญ่อสังหาจีน เสี่ยงล้มพร้อมหนี้ 10 ล้านล้าน ลามวิกฤตซับไพรม์เอเชีย
ที่ผ่านมา บริษัทพยายามทำทุกวิธีเพื่อใช้หนี้มูลค่าราว 10 ล้านล้านบาท โดยในช่วงปลายเดือนกันยายน บริษัทประกาศว่าจะขายหุ้น 1.5 พันล้านดอลลาร์ใน Shengjing Bank ให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐ และกำลังดำเนินการขายหุ้นที่มีทั้งหมดใน HengTen Network Holdings บริษัทภาพยนตร์และสตรีมมิ่งโทรทัศน์ของจีน จำนวน 1.66 พันล้านหุ้น โดยมีมูลค่ารวม 2.13 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (273.5 ล้านดอลลาร์) โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดในวันที่ 22 พ.ย. นี้
โดยบริษัทคาดว่าจะได้รับการชำระเงินในรอบแรกจำนวน 20% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดในวันจันทร์ที่ 22 พ.ย.นี้ ส่วนเงินในส่วนที่เหลือจะได้รับการชำระภายใน 2 เดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า Evergrande จะนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นในครั้งนี้ไปชำระดอกเบี้ยที่ครบกำหนดชำระเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา รวมถึงสะสมเงินเพื่อใช้ชำระดอกเบี้ยมูลค่า 255 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะครบกำหนดชำระในวันที่ 28 ธ.ค.นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
]]>บริษัท “ไชน่า เอเวอร์แกรนด์” ยักษ์อสังหาริมทรัพย์จีนที่เกิดวิกฤตการเงินเมื่อช่วงกลางปีและกลายเป็นความเสี่ยงต่อตลาดเงินทั่วโลก แม้จะยังยืนขอบปากเหว แต่บริษัทยังประกาศตัวว่าสามารถส่งมอบโครงการให้ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง และจ่ายชำระหนี้ให้กับซัพพลายเออร์ได้ตามที่รัฐบาลกลางของจีนสั่งการ
เอเวอร์แกรนด์ประกาศผ่านบัญชี WeChat ทางการของบริษัทว่า บริษัทส่งมอบบ้านไปแล้ว 57,462 หน่วยจาก 184 โครงการทั่วประเทศจีน นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการส่งมอบบ้านที่ว่านั้นตกลงฮวบฮาบเมื่อเดือนตุลาคม โดยบริษัทมีการส่งมอบบ้านไปเพียง 7,568 หน่วยเมื่อเดือนก่อน ซึ่งคิดเป็นเพียง 1 ใน 3 ของปริมาณการส่งมอบเมื่อเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพคล่องของบริษัทเริ่มมีปัญหามากขึ้น
“การสร้างความมั่นใจว่าบริษัทจะส่งมอบบ้านได้คือสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งของเอเวอร์แกรนด์” บริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองเสิ่นเจิ้นระบุบน WeChat “ทุกคนในบริษัทนี้ที่นำโดย ฮุยคายัน ประธานบริษัท ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า เราจะส่งมอบโครงการคุณภาพด้วยกำลังสูงสุดและด้วยวิธีการใดๆ ก็ตามที่เป็นไปได้”
ในรายงานภายในเมื่อเดือนสิงหาคม ฮุยคายันยอมรับว่ายอดหนี้หลายพันล้านหยวนที่ต้องจ่ายให้ซัพพลายเออร์ยังคงค้างชำระ และทำให้โครงการที่อยู่อาศัยบางแห่งของบริษัทหยุดการก่อสร้างไปชั่วคราว
เมื่อสภาพคล่องสะดุดลงทำให้บริษัทต้องจ่ายหนี้ซัพพลายเออร์เป็นอสังหาฯ แทนเงินสด เช่น D&O Home Collection ซัพพลายเออร์เฟอร์นิเจอร์ ระบุว่าบริษัทได้รับชำระหนี้เป็นอสังหาฯ จากเอเวอร์แกรนด์ คิดเป็นมูลค่า 39 ล้านหยวน หรือ WorldUnion โบรกเกอร์อสังหาฯ ก็บอกเช่นกันว่า บริษัทได้รับชำระหนี้เป็นแฟลตมูลค่ารวม 253 ล้านหยวนแทน
สำหรับการชำระหนี้หุ้นกู้ของเอเวอร์แกรนด์ เมื่อเดือนก่อนบริษัทมีการชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ไปแล้ว 2 ชุด มูลค่ารวม 128.7 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นดอกเบี้ยที่เกินกำหนดชำระมาแล้ว 1 เดือน
อย่างไรก็ตาม ดีเวลอปเปอร์ยักษ์ที่มีหนี้พอกพูนมหาศาลก็ยังไม่พ้นอันตราย เพราะเส้นตายการชำระหนี้ครั้งต่อไปกำลังใกล้เข้ามา ดอกเบี้ยหุ้นกู้มูลค่า 82.5 ล้านเหรียญสหรัฐจะต้องชำระภายในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้
]]>ชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจในวงกว้าง ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนในการดำรงชีพของผู้กู้ยืม กองทุนฯ ได้มีมาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างชำระหนี้
โดยมีรายละเอียดดังนี้
– กรณีผู้กู้ยืมที่ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เกิน 8,008 บาทต่อเดือน สามารถขอผ่อนผันได้ไม่เกิน 2 คราว คราวละไม่เกิน 1 ปี นับจากวันที่ได้รับอนุมัติ ซึ่งในช่วงเวลาที่ได้รับการผ่อนผัน ผู้กู้ยืมไม่ต้องชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย รวมถึงยกเว้นเบี้ยปรับกรณีผิดนัดชำระหนี้ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ได้รับการผ่อนผัน
– กรณีผู้กู้ยืมที่มีรายได้ถดถอย สามารถขอผ่อนผันให้ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ได้ตั้งแต่ 1.5-2.5 เท่าของระยะเวลาที่เหลืออยู่ตามสัญญากู้ยืมเดิม โดยขึ้นอยู่กับมูลหนี้คงเหลือ ในการชำระเงินงวดสุดท้าย ผู้กู้ยืมต้องมีอายุไม่เกิน 60 ปี และผู้กู้ยืมจะต้องทำบันทึกข้อตกลงกับกองทุนฯ เพื่อนำยอดหนี้คงเหลือมาคำนวณใหม่ และเฉลี่ยให้ชำระในแต่ละเดือนเท่าๆ กันภายในระยะเวลาที่ได้รับการผ่อนผัน
ทั้งนี้ ผู้กู้ยืมสามารถดูรายละเอียดมาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้ทาง www.studentloan.or.th และเพื่อเป็นการร่วมเว้นระยะห่างทางสังคม สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line@กยศ. หรือ Line@กยศ.หักเงินเดือน หรือ Line@กยศ.คดีและบังคับคดี หรือ e-mail : [email protected]
]]>