ซัมซุง – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 02 Feb 2024 13:32:10 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ถอดรหัสความปัง ’Samsung Galaxy S24 Series’ ที่แสดงให้เห็นว่า ‘การตลาด’ ก็สำคัญไม่แพ้ ‘เอไอ’ https://positioningmag.com/1461355 Fri, 02 Feb 2024 11:26:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1461355 แม้ปีที่ผ่านมา ตลาดสมาร์ทโฟนในไทยจะซบเซา แต่หนึ่งในสมาร์ทโฟนที่กำลังกลายเป็นกระแสในตอนนี้คงหนีไม่พ้น Samsung Galaxy S24 Series ที่เปิดตัวมาก็มียอดจองมากกว่ารุ่น S23 Series ถึง 200% โดยตลาดไทยขึ้นแท่นเป็นยอดจองสูงสุดเป็นเป็นอันดับที่ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย ซึ่ง 1 ใน 4 หรือ 25% ของยอดพรีออเดอร์นั้นมาจากแบรนด์คู่แข่ง อะไรทำให้ Samsung Galaxy S24 Series ประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ไปหาคำตอบกัน

เอไอถูกพูดถึงมากกว่าสมาร์ทโฟน

หากพูดถึงตลาดสมาร์ทโฟนในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา แบรนด์ส่วนใหญ่จะเน้นการสื่อสารไปที่ ‘กล้อง’ เป็นหลัก แม้หลัง ๆ จะมีสมาร์ทโฟน ‘จอพับ’ แต่ก็ไม่ใช่ผู้บริโภคทุกคนจะตอบรับกับเทรนด์ดังกล่าว กลับกัน การมาของ ChatGPT ได้ปลุกให้คนตื่นตัวกับความสามารถของเอไอ

วัดได้จากกราฟการค้นหาของ Google ที่จะพบว่าการค้นหาเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนลดลงเรื่อย ๆ แต่เรื่องเอไอกลับเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจหากการมาของ Samsung Galaxy S24 Series จะเรียกความสนใจจากผู้บริโภคได้

ดีมานด์สมาร์ทโฟนพรีเมียมไม่มีตก

หากดูจากตัวเลขภาพรวมของตลาดสมาร์ทโฟนตั้งแต่ปี 2020-2023 แม้จำนวนจะลดลงเรื่อย ๆ แต่สมาร์ทโฟนในกลุ่ม ‘พรีเมียม’ (ราคา 20,000 บาท+) ยังเติบโตได้ โดยจำนวนสมาร์ทโฟนในกลุ่มพรีเมียมแม้จะมีเพียง 1.5 ล้านเครื่อง จากจำนวนทั้งหมด 10.7 ล้านเครื่อง แต่ในแง่มูลค่ากลับสูงถึง 1,755 ล้านบาท จากมูลค่าทั้งหมด 3,533 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดสมาร์ทโฟน

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดพรีเมียมยังเติบโตได้เป็นเพราะวิกฤฤตเศรษฐกิจไม่กระทบกับกลุ่มที่มีกำลังซื้อ กลับกัน เมื่อผู้บริโภคมีความเข้าใจมากขึ้น มีประสบการณ์จากสมาร์ทโฟนที่ใช้ก็อยากจะอัปเกรดไปใช้รุ่นที่ดีขึ้น และในปัจจุบัน      ผู้บริโภคก็มีทางเลือกที่จะผ่อนชำระได้ ทำให้การซื้อสมาร์ทโฟนที่มีราคาสูงขึ้นไม่ได้มีอุปสรรคมากนัก

ซื้อก่อนไม่เจ็บก่อนอีกต่อไป

หนึ่งในการคิดมุมกลับของ สิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานองค์กร ธุรกิจโมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ ได้เล่าให้ฟังก็คือ เขาไม่อยากได้ยินคำว่า “ซื้อก่อนเจ็บก่อน” เพราะซื้อในราคาเต็ม แต่ผ่านไปสักระยะมีโปรโมชั่นลดราคา ดังนั้น ซัมซุงต้องการเปลี่ยนมายเซ็ทนี้ ทำให้แนวคิดของซัมซุงคือ อัดโปรให้ตั้งเเต่จองเลย เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่า ลูกค้าเก่าเองก็จะไม่รู้สึกเหมือนถูกทิ้งด้วย 

จากนี้ ซัมซุงก็มีแผนจะใช้งบการตลาดกับการสอนให้ลูกค้าใช้งานสมาร์ทโฟนให้คุ้มค่ามากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าเห็นประโยชน์จากสมาร์ทโฟนที่ซื้อไปมากขึ้น

พรีเซ็นเตอร์ที่ใช่ในเวลาที่ใช่

ที่ผ่านมา ซัมซุงมีการใช้พรีเซ็นเตอร์มาหลากหลาย แต่ต้องยอมรับว่าการใช้ “พี่จอง-คัลแลน” ที่กำลังโด่งดังอย่างมากในโลกโซเชียลมีเดียไทย นอกจากจะได้ใจแฟนคลับแล้ว แต่ยังสื่อสารได้เข้าเป้าสุด ๆ เนื่องจากพี่จอง-คัลแลนเป็นชาวเกาหลีใต้ แม้จะอยู่ในประเทศไทยจนสื่อสารได้แต่ก็ไม่ได้ 100% เหมือนเจ้าของภาษา ขณะที่ Samsung Galaxy S24 Series ที่มีหนึ่งในฟีเจอร์เด่นอย่าง Live Translate และ Interpreter ที่สามารถแปลภาษาได้เรียลไทม์ ก็ยิ่งช่วยเร่งสร้างกับรับรู้ให้กับผู้บริโภค เรียกได้ว่ากระแสของพี่จอง-คัลแลนมาได้ถูกเวลาจริง ๆ

ปัจจุบัน ตลาดพรีเมียมของไทยถูกครองโดยผู้เล่นเพียง 2 ราย และหนึ่งในนั้นคือ ซัมซุง แน่นอนว่าด้วยการเติบโตของกลุ่มพรีเมียมทำให้หลายแบรนด์พยายามจะเจาะตลาดนี้โดยพยายามหาจุดเด่นมาดึงดูดผู้บริโภค แต่หนึ่งในสิ่งที่ สิทธิโชค มองว่าเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้แบรนด์อื่นนั้นสอดแทรกเข้ามาได้ยากก็คือ ความเชื่อมั่น เพราะซัมซุงอยู่ในตลาดไทยมานาน และเรื่องความเชื่อมั่นหรือความเชื่อใจเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาในการสร้าง สิทธิโชคทิ้งท้าย

]]>
1461355
‘Apple’ ขึ้นแท่นแบรนด์ที่มียอดขายสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ของโลก โค่น ‘Samsung’ ที่ครองแชมป์นาน 12 ปี! https://positioningmag.com/1459136 Wed, 17 Jan 2024 03:36:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1459136 ครั้งสุดท้ายที่ ซัมซุง (Samsung) หลุดแชมป์ เบอร์ 1 ตลาดสมาร์ทโฟน ต้องย้อนไปถึงปี 2010 หรือ 12 ปีที่ผ่านมา และในปี 2023 ซัมซุงก็ได้เสียแชมป์ให้กับ Apple ขึ้นเป็น แบรนด์ที่มียอดขายสมาร์ทโฟนมากที่สุดในโลก และถือเป็นครั้งแรกของ Apple ด้วย

iPhone ของ Apple กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่มียอดขายมากที่สุดในโลกเป็นครั้งแรก หลังจากที่แข่งขันกับ Samsung ที่ครองตำแหน่งผู้นำมาเป็นเวลา 12 ปี ตามข้อมูลจาก International Data Corporation หรือ IDC โดย Apple สามารถโค่นแชมป์เก่าได้ด้วยยอดขายกว่า 234.6 ล้านเครื่อง เทียบกับ Samsung ที่ทำได้ 226.6 ล้านเครื่อง ส่งผลให้ Apple ครองส่วนแบ่งตลาด 20.1% มากกว่า Samsung ที่มีส่วนแบ่ง 19.4%

นักวิเคราะห์มองว่า การเติบโตของยอดขาย iPhone ของ Apple มาจากความต้องการของกลุ่มพรีเมียมที่ปัจจุบันคิดเป็นประมาณ 20% ของส่วนแบ่งตลาด ขณะที่ตลาดสมาร์ทโฟนที่ระบบปฏิบัติการ Android ก็มีความกระจัดกระจายมากขึ้น ทำให้ Samsung ต้องเจอกับการแข่งขันที่ดุเดือดจากแบรนด์จีนที่ส่งทั้งสมาร์ทโฟนจอพับมาแข่งขัน นอกจากนี้ การกลับมาของ Huawei ในประเทศจีนก็ส่งผลต่อยอดขายของ Samsung ที่ลดลงเช่นกัน

“เราเห็นการเติบโตที่แข็งแกร่งจากผู้เล่น Android ระดับล่างอย่าง Transsion และ Xiaomi ในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดเกิดใหม่ แต่ Apple ถือเป็นแบรนด์ที่กำชัยชนะเพียงแบรนด์เดียว เพราะถือเป็นเพียงแบรนด์เดียวในกลุ่ม Top3 ที่มีการเติบโตทุกปี”

ทั้งนี้ ในปี 2023 ที่ผ่านมา การจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกลดลง -3.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ 1.17 พันล้านเครื่อง โดยถือเป็นจำนวนต่ำสุดในรอบ 10 ปี อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 4/2023 ตลาดมีการเติบโต +8.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี และมีการจัดส่ง 326.1 ล้านเครื่อง ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เติบโต 7.3% ทำให้ภาพรวมในปี 2024 ตลาดอาจฟื้นตัวดีขึ้น

คงต้องรอดูว่า Samsung จะกลับมาได้ไหมในปีนี้ โดยแบรนด์กำลังจะเปิดตัว Samsung Galaxy S24 Series ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงของแบรนด์ในช่วงสิ้นเดือนมกราคมนี้ ขณะเดียวกัน Apple ก็เพิ่งลดราคาสินค้าในจีนเป็นครั้งแรกในช่วงต้นปีเพื่อกระตุ้นยอดขาย

Source

]]>
1459136
‘ญี่ปุ่น’ อัดฉีด 2 หมื่นล้านเยนให้ ‘ซัมซุง’ เพื่อดึงมาสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนา ‘ชิป’ ภายในประเทศ https://positioningmag.com/1456824 Fri, 22 Dec 2023 06:44:30 +0000 https://positioningmag.com/?p=1456824 นับตั้งแต่ ชิป เคยขาดตลาดไปในช่วงโควิด แม้ว่าช่วงนี้ปริมาณจะกลับมาล้นตลาดแล้วก็ตาม ทำให้นานาประเทศพยายามที่จะลดการพึ่งพาจีนและหันมาพึ่งตัวเองมากขึ้น โดย ญี่ปุ่น ก็ถือเป็นหนึ่งในนั้น

ย้อนกลับไปในช่วงปี 1980 ญี่ปุ่น เคยเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดยมี อะกิโอะ โมริตะ ผู้ร่วมก่อตั้ง Sony ที่ถือเป็นคนที่มีบทบาทสำคัญในการนำพาให้ญี่ปุ่นสามารถผลิตชิปในรูปแบบของตนเอง แต่ปัจจุบัน ญี่ปุ่นแม้จะไม่ใช่ผู้นำในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อีกต่อไปแล้ว แต่ก็ยังบทบาทสำคัญโดยเป็นประเทศที่ผลิตอุปกรณ์พิเศษมากกว่า 1 ใน 3 ที่ใช้ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก

ล่าสุด กระทรวงอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นได้ดึง ซัมซุง (Samsung Electronics) บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลีใต้ โดยรัฐบาลได้ให้เงินอุดหนุนสูงถึง 2 หมื่นล้านเยน (ราว 4.8 พันล้านบาท) เพื่อสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาใหม่สำหรับเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง เพื่อเพิ่มการผลิตชิปในประเทศ

เนื่องจากการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงการแข่งขันทางเทคโนโลยีระหว่าง 2 มหาอำนาจอย่าง สหรัฐอเมริกาและจีน ทำให้ญี่ปุ่นได้พยายามที่จะสนับสนุนซัพพลายเชนของเซมิคอนดักเตอร์โดยดึงดูดการลงทุนจากบริษัทในต่างประเทศ

“ขณะนี้บริษัทต่าง ๆ จากทั่วโลกสนใจลงทุนในญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก” ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรี กล่าว

ที่ผ่านมา การลงทุนด้านเซมิคอนดักเตอร์โดยบริษัทต่างชาติที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่นในปัจจุบัน ได้แก่ Taiwan Semiconductor Manufacturing (TSMC) ในจังหวัดคุมาโมโตะ, Micron Technology Inc. ในจังหวัดฮิโรชิม่า และ Western Digital Corp. ในจังหวัดมิเอะ

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากชิปภายในประเทศ 3 เท่า ภายในปี 2030 และอัดฉีดงบลงทุนจำนวน 6.8 พันล้านดอลลาร์ เพื่อผลักดันเป้าหมายดังกล่าว โดยทางรัฐบาลเชื่อมั่นว่าแผนที่วางไว้จะลุล่วงไปด้วยดี

Source

]]>
1456824
ประเมินกำไร ‘ซัมซุง’ Q3 ลดฮวบ 80% หลังเจอวิกฤต “ชิปล้นตลาด” https://positioningmag.com/1447643 Tue, 10 Oct 2023 12:31:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1447643 นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กำไรของ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (Samsung Electronics) บริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติเกาหลีใต้ ในช่วงไตรมาสที่สามจะลดลงเกือบ 80% เนื่องจากกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ที่ขับเคลื่อนผลกำไรที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทขาดทุนหนัก จากปัญหาซัพพลายล้นตลาด

ซัมซุง กำลังจะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสสาม โดยนักวิเคราะห์จาก LSEG คาดว่า กำไรจากการดำเนินงานจะอยู่ที่ 2.1 ล้านล้านวอน (ราว 1.7 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งลดลง -78.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่รายได้คาดว่าจะอยู่ที่ 67.8 ล้านล้านวอน ลดลง -11.6%

ทั้งนี้ ซัมซุงถือเป็น ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ตั้งแต่แล็ปท็อปไปจนถึงเซิร์ฟเวอร์ โดยธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ยังถือเป็น หน่วยธุรกิจที่ทำกำไรให้บริษัทมากที่สุด แต่ในไตรมาสามนี้คาดว่า ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ของซัมซุงจะ ขาดทุนมากกว่า 3 ล้านล้านวอน จึงส่งผลให้กำไรรวมทั้งบริษัทลดลงอย่างมาก

เนื่องจากจำนวนชิปที่ล้นตลาด เพราะความต้องการสินค้าไอที โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่ลดลง ส่งผลให้ ราคาชิปหน่วยความจำลดลงอย่างมากในปีนี้ และแม้ในเดือนกรกฎาคมบริษัทคาดการณ์ว่าความต้องการชิปจะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี แต่ก็ไม่ได้กลับมาอย่างที่คาด ส่งผลให้ซัมซุงได้ลดการผลิตลงเพื่อช่วยพยุงราคา แต่จะยังไม่เห็นผลในช่วงไตรมาสาม

อย่างไรก็ตาม อาจมีธุรกิจบางส่วนที่อาจเติบโตได้ เช่น ธุรกิจจอแสดงผล ที่อาจได้อานิสงส์จาก iPhone 15 เนื่องจาก Apple ใช้จอของซัมซุง และอีกส่วนคือ ยอดขายสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะจากสมาร์ทโฟนจอพับที่เปิดตัวในเดือนกรกฎาคมที่อาจส่งผลให้มีกำไรมากขึ้นจากธุรกิจนี้

Source

]]>
1447643
‘ซัมซุง’ ตั้งเป้ายอดขายสมาร์ทโฟนจอพับ 15 ล้านเครื่อง พร้อมแง้มมีแผนจะทำราคาให้ “ถูกลง” ในอนาคต https://positioningmag.com/1439453 Mon, 31 Jul 2023 13:54:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1439453 ซัมซุง (Samsung) เพิ่งเปิดตัว 2 สมาร์ทโฟนจอพับรุ่นใหม่ไปหมาด ๆ ได้แก่ Galaxy Z Fold 5 และ Z Flip 5 ซึ่งทั้ง 2 รุ่นต่างก็ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีจากนักข่าวและเหล่า KOLs สายเทคโนโลยีทั่วโลก และทางซัมซุงเองก็มั่นใจว่า สมาร์ทโฟนจอพับ มีแม่เหล็กที่จะทำให้ วัยรุ่น เปลี่ยนใจจาก iPhone

Roh Tae-moon ประธาน Samsung Electronics เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา ซัมซุงมียอดขายสมาร์ทโฟนจอพับทั้งหมด 10 ล้านเครื่อง ส่วนเป้าหมายของซัมซุงปีนี้วางไว้ที่ 15 ล้านเครื่อง ขณะที่ยอดขายสมาร์ทโฟนจอพับทั้งหมดของซัมซุงคาดว่าจะอยู่ที่ 30 ล้านเครื่องภายในสิ้นปี นอกจากนี้ Roh Tae-moon ยังได้เปิดเผยอีกว่า มีแผนจะออกสมาร์ทโฟนจอพับในราคาต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์ (ราว 35,000 บาท) โดยบริษัทกำลังเจรจากับพันธมิตรด้านการจัดหาเพื่อลดต้นทุนการผลิตอุปกรณ์พับได้โดยไม่กระทบต่อข้อมูลที่สำคัญ

โดยเขามั่นใจว่า สมาร์ทโฟนจอพับมีแรงมากพอที่จะดึงดูด วัยรุ่น ให้เปลี่ยนใจจาก iPhone หลังจากที่ได้ทำการสำรวจกลุ่มวัยรุ่นชาวเกาหลีใต้ที่มีอายุ ต่ำกว่า 30 ปี ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มจะชื่นชอบ iPhone ของ Apple มากกว่า แต่จากผลการสำรวจพบว่า สมาร์ทโฟนจอพับ เป็นสินค้าที่ดึงดูดกลุ่มวัยรุ่นได้มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ Galaxy Z Flip

Galaxy Z Flip 5 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถดึงดูดผู้บริโภควัยหนุ่มสาวได้เป็นพิเศษ โดยหลังจากวิเคราะห์ฟังก์ชันและแอปที่ใช้บ่อยที่สุดของกลุ่มรุ่นวัยหนุ่มสาวแล้ว เราจะเร่งความพยายามเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพฟังก์ชันดังกล่าว” Roh Tae-moon กล่าว

มองตลาด ‘สมาร์ทโฟน’ ขาลง เซกเมนต์ ‘พรีเมียม’ คือ โอกาสเดียวสร้างการเติบโต

สำหรับตลาดสมาร์ทโฟนจอพับถือเป็นเซกเมนต์ที่ยังเติบโตได้ในตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก โดยบริษัท TrendForce คาดการณ์ว่า ตลาดสมาร์ทโฟนพับได้ทั่วโลกจะเติบโต 55% ส่วนบริษัท Counterpoint มองว่าจะเติบโตได้ 42% และจากการคาดการณ์ของสถาบันวิจัยตลาดหลายแห่งเชื่อว่า ยอดขายสะสมของสมาร์ทโฟนพับได้ทั่วโลกจะเกิน 100 ล้านเครื่อง ภายใน 5 ปีข้างหน้า

bloomberg / koreatimes

]]>
1439453
‘ซัมซุง’ ทุ่ม 8 ล้านล้านบาท ผุด “โรงงานผลิตชิป” ใหญ่สุดในโลก https://positioningmag.com/1423457 Wed, 15 Mar 2023 17:03:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1423457 อย่างที่รู้กันว่าปัจจุบัน ประเทศผู้ผลิตชิปอันดับ 1 ของโลกอยู่ที่ไต้หวัน โดยบริษัทอันดับ 1 ก็คือ TSMC ส่วน ซัมซุง (Samsung) เป็นผู้เล่นอันดับ 2 โดยล่าสุด ซัมซุงก็ได้เปิดเผยว่ามีแผนจะลงทุนสูงถึง 300 ล้านล้านวอน หรือกว่า 8 ล้านล้านบาท เพื่อสร้าง โรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ได้เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะลงทุน 300 ล้านล้านวอน (8 ล้านล้านบาท) สร้างคอมเพล็กซ์เซมิคอนดักเตอร์แห่งใหม่ในเกาหลีใต้ ซึ่งรัฐบาลระบุว่าจะเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยการลงทุนดังกล่าวจะเป็นการลงทุนระยะยาวกินเวลา 20 ปี หรือลงทุนจนถึงปี 2585 ขณะที่คอมเพล็กซ์นี้จะประกอบด้วยโรงงานผลิตชิป 5 แห่ง ซึ่งจะตั้งอยู่นอกกรุงโซล

โดยคอมเพล็กซ์เซมิคอนดักเตอร์ที่กำลังจะเกิดนั้น รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะ เชื่อมต่อโรงงานผลิตชิปจากซัมซุงกับบริษัทอื่น ๆ เพื่อเชื่อมโยงส่วนต่าง ๆ ของห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ตั้งแต่การออกแบบชิปไปจนถึงการผลิต โดยปัจจุบัน ซัมซุงถือเป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ที่สุดในโลก

การลงทุนดังกล่าวนับเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันเชิงรุกของประเทศเกาหลีใต้เพื่อขึ้นเป็น ผู้นำในเทคโนโลยี โดยรัฐบาลเกาหลีใต้ต้องการ รวมบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดเข้าด้วยกันเพื่อกระตุ้นการพัฒนาในพื้นที่สำคัญ ๆ โดยรัฐบาลต้องการผลักดันการลงทุนในเทคโนโลยีหลัก 6 ชนิด อาทิ ชิป, จอแสดงผล และแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของประเทศมีฐานมั่นคงอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เซมิคอนดักเตอร์ จะยังเป็นจุดสนใจหลัก เนื่องจากเป็นส่วนประกอบสำคัญที่นำไปใช้ในทุกสิ่งตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงรถยนต์

การเปิดโรงงานใหม่นี้ อาจทำให้ซัมซุงสามารถแซง TSMC ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาด โดยที่ผ่านมา ซัมซุงเองก็ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้ผลิตชิปขนาดเล็กที่สุด 1.4 นาโนเมตร ภายในปี 2027 ซึ่งจะเป็นชิปเทคโนโลยีขั้นสูงสุดในโลก

ปัจจุบัน เซมิคอนดักเตอร์ได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่มีเรื่อง การเมือง เข้ามาเกี่ยวข้องและได้สร้างไดนามิกที่ซับซ้อนระหว่างประเทศพันธมิตร อย่าง อเมริกา ที่ต้องการผลักดันให้การผลิตชิปย้ายกลับมาอยู่ในฝั่งสหรัฐฯ โดยได้ลงนามในกฎหมาย Chips and Science Act ซึ่งรวมเงินสนับสนุน 52,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อดึงดูดการลงทุนเข้ามาในอเมริกา โดยสหรัฐฯ พยายามสร้างพันธมิตรกับเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน และเนเธอร์แลนด์

สหรัฐฯ​ ไม่ได้แค่ต้องการจะเพิ่มการผลิตชิปในประเทศ แต่อีกด้านก็ต้องการ ระงับการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ของจีน โดยในปีที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกกฎที่มุ่งตัดขาดจีนจากการได้รับหรือผลิตชิปและส่วนประกอบหลัก รวมถึงเครื่องมือที่จำเป็นในการผลิต

“ณ ตอนนี้ ทุกประเทศพยายามสร้างจุดแข็งในการแข่งขันของตนเอง มีการลดหย่อนภาษีและภาระผูกพันด้านเงินทุนจากรัฐบาลที่ต้องการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ แรงกระตุ้นสำหรับการแข่งขันนั้นแข็งแกร่งกว่าแรงกระตุ้นสำหรับความร่วมมือ” ปราเนย์ โคตาสถาน ประธานโครงการภูมิรัฐศาสตร์เทคโนโลยีขั้นสูงของสถาบันตักชาศิลา กล่าว

Source

]]>
1423457
กำไร ‘ซัมซุง’ Q4 ลดลงต่ำสุดในรอบ 8 ปี เนื่องจากตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกซบเซา https://positioningmag.com/1417309 Tue, 31 Jan 2023 09:09:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1417309 ตลาดสมาร์ทโฟนในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ถือเป็นไตรมาสที่ตลาดแย่สุดในรอบ 10 ปี ขณะที่ ซัมซุง (Samsung) เบอร์ 1 ในตลาดสมาร์ทโฟนโลกยังเสียแชมป์ให้กับ iPhone ที่ครองแชมป์สมาร์ทโฟนขายดีประจำไตรมาสดังกล่าว ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่กำไรของซัมซุงในไตรมาสนี้จะแย่สุดในรอบ 8 ปี

ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีสัญชาติเกาหลีใต้อย่าง ซัมซุง ได้รายงานผลกำไรจากการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2022 อยู่ที่ 3.5 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 69% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยรายได้รวม ลดลง 8% เหลือเพียง 5.73 แสนล้านดอลลาร์ โดยผลกำไรในไตรมาสดังกล่าวนับเป็นไตรมาสที่อ่อนแอที่สุดของบริษัท นับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2014

“สภาพแวดล้อมทางธุรกิจแย่ลงอย่างมากในไตรมาสที่ 4 เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก” ซัมซุงระบุ

นักวิเคราะห์มองว่า ไม่ใช่แค่ความต้องการของตลาดสมาร์ทโฟนที่ลดลง แต่ตลาดไอทีโดยรวมนั้นลดลงทั้งหมด ซึ่งส่งผลให้ยอดคำสั่งซื้อชิปเพื่อผลิตสินค้าลดลง นอกจากนี้ ราคาชิปหน่วยความจำก็ปรับตัวลดลงกว่าช่วงที่ขาดแคลน

ซัมซุง คาดว่า ปัญหาเหล่านี้จะยังไม่หมดไป โดยจะยังส่งผลต่อเนื่องในอีกหลายเดือน เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก แม้ว่าคาดว่าอุปสงค์โดยรวมจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีก็ตาม ขณะที่ นักวิเคราะห์ คาดว่า ผลกำไรของซัมซุงในไตรมาส 1/2023 จะลดลงอีกครั้ง เนื่องจากราคาชิปหน่วยความจำที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

“ความต้องการสมาร์ทโฟนมีแนวโน้มลดลงอีกครั้งในไตรมาสนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคหลัก”

จากผลประกอบการดังกล่าว ส่งผลให้ หุ้นของซัมซุงลดลง 3% อย่างไรก็ตาม หากดูภาพรวมทั้งปี ซัมซุงยังถือว่าเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยมีรายได้รวม 2.45 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 2.27 แสนล้านดอลลาร์ ในปี 2021 และสูงเป็นประวัติการณ์

Source

]]>
1417309
‘ซัมซุง’ ขอ 3 ปีขึ้นเบอร์ 1 เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกกลุ่ม ชู ‘ดีไซน์-นวัตกรรม’ จับกลุ่มพรีเมียม https://positioningmag.com/1415452 Fri, 13 Jan 2023 07:44:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1415452 แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2022 ที่ผ่านมาจะมีวิกฤตหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะ เงินเฟ้อ แต่ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ามูลค่า 5.3 หมื่นล้านบาทก็ยังเติบโตได้ 5-6% ซึ่งก็ได้กลุ่ม พรีเมียม เป็นตัวขับเคลื่อนตลาด โดย ซัมซุง (Samsung) แบรนด์สัญชาติเกาหลีใต้ก็เห็นโอกาสในส่วนนี้ และขอสู้เพื่อขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในทุกกลุ่มสินค้าภายใน 3 ปี

ตลาดพรีเมียมโตสวนทางแมส

เจนนิเฟอร์ ซอง ประธานบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2022 ที่ผ่านมาไม่ใช่ปีที่ดีนักสำหรับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะมีทั้งปัจจัยเรื่องค่าเงิน และเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมตลาดและตัวซัมซุงเองยังคงเติบโตได้ 5-6% โดยมีสินค้าใน กลุ่มพรีเมียม เป็นตัวขับเคลื่อนตลาด เนื่องจากช่องว่างระหว่างครัวเรือนที่มีรายได้สูงและครัวเรือนที่มีรายได้น้อยกว้างขึ้น

“สินค้ากลุ่มพรีเมียมของเราเติบโต 2 เท่าในทุกกลุ่มสินค้า เพราะตั้งแต่ COVID-19 ระบาด คนอยู่บ้านมากขึ้น เขามองว่าบ้านเป็นพื้นที่ส่วนตัวและเริ่มอยากตกแต่งบ้านใหม่ ๆ มากขึ้น แต่แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ซัมซุงที่เห็นโอกาสนี้ ดังนั้น เชื่อว่าการแข่งขันในกลุ่มสินค้าพรีเมียมจากนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย”

อัดสินค้าใหม่กว่า 100 รุ่น ชูความ Personalize

เจนนิเฟอร์ กล่าวต่อว่า พฤติกรรมผู้บริโภคในกลุ่มพรีเมียมจะให้ความสำคัญกับความเป็นตัวตน ต้องการสินค้าที่ สะท้อนความเป็นตัวตน มากกว่าราคา นอกจากนี้ ต้องมีนวัตกรรมที่ทำให้เขาใช้ชีวิต ง่ายขึ้น ดังนั้น สินค้าของซัมซุงในกลุ่มพรีเมียมจะเน้น ดีไซน์สินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ นวัตกรรมทันสมัย และ การเชื่อมต่ออัจฉริยะ นอกจากนี้ ต้องตอบโจทย์ ความยั่งยืน ด้วย

“ผู้บริโภค 70% มองว่า ถ้าสินค้าเข้าใจในตัวตนเขาจริง ๆ เขาก็จะเลือกอยู่กับแบรนด์นั้น ๆ โดยเฉพาะ Gen Z ที่ 55% ระบุว่า เขาจะซื้อของที่สะท้อนความเป็นตัวเอง นอกจากนี้ คนไทยถึง 72% มีความต้องการติดตั้งสมาร์ทโฮม”

ในปีนี้ ซัมซุงมีแผนจะเพิ่มโปรดักส์ใหม่กว่า 100 รุ่น โดยจะเน้นไปที่กลุ่มพรีเมียม และการทำตลาดช่วง Q1-Q3 จากนี้จะเน้นที่เรื่อง ไลฟ์สไตล์ โดยสินค้าในกลุ่ม Bespoke จะขยายไปกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่น ๆ นอกเหนือจาก ตู้เย็น  อาทิ ไมโครเวฟ, เครื่องดูดฝุ่น เป็นต้น และเปลี่ยนการสื่อสารเป็น Bespoke Home เพื่อสื่อสารถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งบ้าน ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมา กลุ่มเครื่องซักผ้าและตู้เย็นเติบโต 5% กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก (เตาอบไมโครเวฟ เครื่องดูดฝุ่นและเครื่องฟอกอากาศ) เติบโต 10%

ในส่วนของ ทีวี จะเน้น Lifestyle TV และกลุ่ม QLED, OLED เพราะในปีที่ผ่านมาจะเห็นเทรนด์อย่างชัดเจนว่าทีวีขนาด 65 นิ้วขึ้นไป เติบโตขึ้นมากแบบเห็นได้ชัดถึง 1.5 เท่า ทีวีพรีเมียมยังคงเติบโตสูง อาทิ Neo QLED เติบโตขึ้นถึง 3 เท่า เฉพาะ Neo QLED 8K เติบโตถึง 4 เท่า

ด้าน เครื่องปรับอากาศ ที่ใช้เทคโนโลยี WindFree ซึ่งเป็นกลุ่มพรีเมียมเติบโตถึง 30% โดยปีนี้ซัมซุงเตรียมเปิดตัวไลน์อัพเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ในกลุ่ม WindFree คาดว่าจะคิดเป็น 90% ของไลน์สินค้า ครอบคลุมกลุ่มกลาง-บน พร้อมขยายระยะเวลารับประกันสูงสุดถึง 10 ปี

เดินหน้าลุยตลาด B2B

อีกตลาดที่จะช่วยให้ซัมซุงเติบโตก็คือ B2B ที่ปีนี้บริษัทจะเน้นมากขึ้น อาทิ โครงการบ้านและคอนโด โดยจะชูจุดเด่นเรื่อง โทเทิ่ลโซลูชั่น ที่สินค้าทั้งหมดของซัมซุงสามารถเชื่อมต่อกันได้ และสินค้าที่จะใช้เป็นตัวนำในการบุกก็คือ เครื่องปรับอากาศ เนื่องจากในปีที่ผ่านมายอดขายเครื่องปรับอากาศในกลุ่ม B2B เติบโตถึง 40% ก่อนจะตามด้วยสินค้าอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นทีวี, ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า

“เราเพิ่งเริ่มทำตลาด B2B แต่เรามองว่านี่คือ โอกาสสำคัญ เพราะจุดแข็งเราคือ ไลน์สินค้าที่ครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการได้ต่างจากคู่แข่ง โดยเฉพาะการตอบโจทย์เรื่องโทเทิ่ลโซลูชั่น”

ขึ้นเบอร์ 1 ทุกกลุ่มสินค้าใน 3 ปี

สำหรับเป้าหมายของซัมซุงในปี 2023 ต้องเติบโต 2 หลัก ขึ้นไป โดยมองว่าปีนี้มีปัจจัยบวกจากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากภาค การท่องเที่ยว ทั้งจากตัวนักท่องเที่ยว เม็ดเงินที่เข้ามาช่วยให้ผู้บริโภคจับจ่ายได้ดีขึ้น รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้า คาเฟ่ และโรงแรมต่าง ๆ ลงทุนเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ ต้นทุนต่าง ๆ น่าจะลดลง สินค้าก็จะมีราคาดีขึ้น ทำให้ผู้บริโภคจับต้องสินค้าได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าคือ ไม่ใช่สินค้าหลักที่ผู้บริโภคจะใช้เงิน เพราะเนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ทำให้ผู้บริโภคอยากใช้จ่ายไปกับการท่องเที่ยว ดังนั้น เชื่อว่ากว่าที่กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าจะกลับมาเป็นสินค้าหลักที่ผู้บริโภคเลือกใช้จ่ายคงต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปี

“ตอนนี้คนไปเที่ยวกันเยอะเพราะเขาอั้นมานาน ดังนั้น เครื่องใช้ไฟฟ้าจากที่เคยเป็นอันดับ 1-2 สิ่งที่ผู้บริโภคเลือกใช้เงินก่อน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่”

สำหรับเป้าหมายใน 3 ปีจากนี้ ซัมซุงต้องการขึ้นเป็นอันดับ 1 ในทุกกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า จากปัจจุบันสินค้ากลุ่มทีวี, ตู้เย็น เป็นอันดับ 1 ที่แข็งแรง และกลุ่มต่อไปที่ซัมซุงมองว่ามีโอกาสขึ้นเป็นอันดับ 1 คือ เครื่องซักผ้า ที่ปัจจุบันเป็น Top 2 ของตลาด ตามมาด้วย เครื่องปรับอากาศ ที่ปัจจุบันเป็น Top 5 ของตลาด

]]>
1415452
‘Samsung’ เรียกคืนเครื่องซักผ้าในสหรัฐฯ กว่า 6.6 แสนเครื่อง หลังพบความเสี่ยง ‘ไฟฟ้าลัดวงจร’ https://positioningmag.com/1413888 Sun, 25 Dec 2022 04:14:51 +0000 https://positioningmag.com/?p=1413888 หลังจากที่ ซัมซุง (Samsung) ในสหรัฐฯ ได้รับรายงาน 51 ฉบับเกี่ยวกับ เครื่องซักผ้า ที่มีอาการความร้อนสูงเกินไปจนเกิดไฟไหม้ โดยรายงานประมาณ 10 ฉบับระบุว่าปัญหาดังกล่าวส่งผลให้ทรัพย์สินอื่น ๆ เสียหาย และลูกค้า 3 รายได้รับบาดเจ็บจากการสูดดมควัน

จากปัญหาดังกล่าว ซัมซุง ได้เรียกคืนเครื่องซักผ้าถึง 663,500 เครื่อง ที่จำหน้ายโดยร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ เช่น Best Buy, Costco, The Home Depot และ Lowe’s ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ถึงธันวาคม 2565 โดยมีราคาระหว่าง 900 – 1,500 ดอลลาร์ โดยรวมแล้วมีเครื่องซักผ้าทั้งหมด 14 รุ่น ที่ถูกเรียกคืน อาทิ เครื่องซักผ้าฝาบน ได้แก่ WA49B, WA50B, WA51A, WA52A, WA54A และ WA55A

“การอัปเดตซอฟต์แวร์สามารถแก้ไขอันตรายจากไฟไหม้ได้ ผู้บริโภคควรตรวจสอบทันทีว่าซอฟต์แวร์ของเครื่องซักผ้าได้รับการอัปเดตเพื่อป้องกันอันตรายหรือไม่ และหากไม่เป็นเช่นนั้น ผู้บริโภคควรหยุดใช้เครื่องซักผ้าทันทีจนกว่าซอฟต์แวร์จะได้รับการอัปเดต”

ทั้งนี้ เครื่องซักผ้าที่ติดตั้ง Wi-Fi ทั้งหมดควรดาวน์โหลดการซ่อมแซมซอฟต์แวร์ฟรีโดยอัตโนมัติเมื่อเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต Samsung กล่าว ผู้ที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตสามารถรับ dongle ฟรีจาก Samsung เพื่อเสียบปลั๊กและดาวน์โหลดการซ่อมแซมซอฟต์แวร์ฟรี

Source

]]>
1413888
‘ซัมซุง’ ขอร่วมวงตลาด ‘คริปโต’ เตรียมเปิด ‘กระดานเทรด’ ภายในปี 2023 https://positioningmag.com/1397286 Tue, 23 Aug 2022 08:36:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1397286 หลังจากเกิดปัญหากับเหรียญ LUNA ที่มี โด ควอน ชายเกาหลีใต้เป็นผู้ก่อตั้ง จนทำให้เกิดความเสียหายกว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ทางเกาหลีใต้จึงต้องเร่งสร้างมาตรฐานให้กับตลาดคริปโต และส่วนหนึ่งก็คือ การลงทะเบียน จัดตั้งเป็นบริษัท Exchange หรือ กระดานเทรดคริปโต และหนึ่งในผบริษัทที่สนใจคือ ซัมซุง (Samsung)

ดูเหมือนว่า เกาหลีใต้ กำลังเร่งสร้างมาตรฐานของตลาดคริปโตเคอร์เรนซีให้เข้มงวดมากขึ้น โดย ยุน ซ็อก-ย็อล (Yoon Seok-yeol) นายกรัฐมนตรีของเกาหลีใต้ ได้พยายามผลักดันบริษัทหลักทรัพย์เพื่อสร้างเว็บเทรดสินทรัพย์เสมือน ซึ่งเกิดพร้อม ๆ กับการเตรียมการเพื่อผ่านร่างกรอบพระราชบัญญัติสินทรัพย์ดิจิทัล

ซัมซุง (Samsung) ก็เป็น 1 ใน 7 บริษัทที่สนใจ โดยได้ส่งใบสมัครอย่างเป็นทางการภายใต้บริษัท Samsung Securities ซึ่งถือเป็นบริษัทหลักทรัพย์รายใหญ่ของเกาหลีใต้ เพื่อขอใบอนุญาตเบื้องต้นและการจัดตั้งบริษัทเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล นอกจากนี้ ซัมซุงยังมีแผนที่จะสร้าง สกุลเงินดิจิทัล ของตัวเองด้วย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วง ครึ่งปีแรกของปี 2023

และอีกบริษัทที่น่าสนใจในการขอใบอนุญาตครั้งนี้คือ Mirae Asset Securities ที่กำลังพัฒนายูนิตใหม่ที่เรียกว่า Mirae Consulting ซึ่งกำลังหาคนที่จะพัฒนาโปรเจ็กต์เกี่ยวกับคริปโตและ NFT​

นอกจากนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ยังมีแผนที่จะ เก็บภาษีกำไรจากคริปโต ประมาณ 10-50% ภายในปี 2025 หลังจากที่เกิดการล่มสลายของเหรียญ LUNA ที่ผ่านมา หน่วยข่าวกรองทางการเงินของเกาหลี (KoFIU) ได้เดินหน้าทำการปิดกั้น บริษัทผู้ให้บริการสินทรัพย์เสมือน (VASP) ในต่างประเทศที่ไม่ได้ลงทะเบียนถึง 16 แห่ง

Source

]]>
1397286