ตลาดอสังหา – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 02 Oct 2025 23:38:46 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 อสังหาฯ จับกระแสสายมู! ลูกค้าเช็กฮวงจุ้ยก่อนซื้อบ้านพุ่ง 40% ผู้พัฒนาเสิร์ฟโปรมงคลดึงใจคนรุ่นใหม่ https://positioningmag.com/1540921 Thu, 02 Oct 2025 15:09:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1540921 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย กำลังขยับไปไกลกว่าแค่เรื่องทำเลหรือราคาคุ้มค่า เพราะตอนนี้ “ความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ย” กลายเป็นปัจจัยใหม่ที่ผู้บริโภคหยิบมาพิจารณาจริงจัง ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านหรือคอนโด

กลุ่มวัย 35+ กับคนมีฐานะรุ่นใหม่ ดูฮวงจุ้ยก่อนซื้อบ้านพุ่ง 40%

พชรดนัย เศรษฐหิรัญวาณิช ผู้บริหารร่วม Romyen Infinity ผู้ดำเนินธุรกิจตัวแทนขายอสังหาฯ กล่าวว่า หากมองย้อนกลับไป ความสำคัญเรื่องฮวงจุ้ยอยู่ในกลุ่มเฉพาะเพียงบางส่วน แต่ปัจจุบันกระแสกลับมาแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

โดยแรงส่งสำคัญมาจาก กลุ่มลูกค้าวัย 35 ปีขึ้นไป และกลุ่ม High-net-worth ที่มองว่า ฮวงจุ้ยคือความมั่นใจและความสบายใจในการอยู่อาศัย

“เราประเมินว่าความสนใจด้านนี้เพิ่มขึ้นราว 30–40% เมื่อเทียบกับ 3 ปีที่ผ่านมา และถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสริมที่ผู้พัฒนาโครงการเริ่มนำมาใช้จริงในการออกแบบและทำการตลาด”

เบื้องต้น บริษัทฯ ได้จับมือกับ อ.คฑา ชินบัญชร เข้ารีวิวฮวงจุ้ยโครงการต่าง ๆ รวมถึงโครงการ เดอะ เบส เออร์ เบิน พระราม 9 ที่บริษัทฯ เป็นตัวแทนขายล่าสุด

พร้อมวางแผนการตลาดสายมูเตลู ซึ่งบ้านทุกหลังที่จองกับ Romyen Infinity จะได้โปรโมชั่น ดูฮวงจุ้ยบ้าน + ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ โดย อ.คฑา ชินบัญชร และรับม้ามงคลเสริมความมั่งคั่งฟรีทั้งหมด ขณะเดียวกันยังฟรีค่าโอนกรรมสิทธิ์ และฟรีเฟอร์นิเจอร์กับเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกด้วย

อ.คฑา ชินบัญชร

ลุยเปิดพอร์ตฯ ขายคฤหาสน์

กัณจ์ พัฒนเสรี ผู้บริหารร่วม Romyen Infinity กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มียอดขายสะสม 540 ล้านบาท แบ่งออกเป็น

  • คอนโด สัดส่วน 65 – 70% ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มราคา 2.5 – 6 ล้านบาท
  • บ้านแนวราบอีก 30 – 35% นิยมราคา 5-12 ล้านบาทมากสุด

ปัจจัยสำคัญที่ลูกค้ายุคใหม่ใช้ในการตัดสินใจซื้อบ้าน/คอนโด ได้แก่

  1. ทำเลและการเดินทางที่สะดวก ใกล้รถไฟฟ้า ทางด่วน และสิ่งอำนวยความสะดวก
  2. คุณภาพชีวิตและไลฟ์สไตล์ เช่น โครงการที่มีพื้นที่สีเขียว รองรับสัตว์เลี้ยง หรือมีคอมมูนิตี้ที่ดี
  3. ความคุ้มค่าในการลงทุน ทั้งการขายต่อและปล่อยเช่าได้ในอนาคต

“สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า การซื้อบ้านหรือคอนโดในวันนี้ ไม่ใช่แค่การซื้อที่อยู่อาศัย แต่เป็นการลงทุนในคุณภาพชีวิตและอนาคต”

อย่างไรก็ดี ช่วงไตรมาส 4 ปี 2568 บริษัทฯ เตรียมรุกขยายพอร์ตฯ คฤหาสน์หรู เนื่องจาก ช่วงปีที่ผ่านมา พบอินไซต์ลูกค้าตามหาบ้านคฤหาสน์หรู มีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดีมานด์โตไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี

โดยเห็นการเติบโตชัดเจน จากดีมานด์กลุ่มเศรษฐีรุ่นใหม่ และนักลงทุนที่ต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยมีมากขึ้น ในขณะที่ซัพพลายมีจำกัด โดยเฉพาะทำเลในเมือง

“เรามั่นใจว่า การต่อยอดจุดแข็ง ทั้งขยายตลาดไปสู่คฤหาสน์หรู การสร้าง และขยายทีมขายมืออาชีพที่มากขึ้น และปรับกลยุทธ์การตลาดให้แม่นยำยิ่งขึ้น ทำให้ไตรมาสสุดท้ายนี้จะโตก้าวกระโดด”

]]>
1540921
เศรษฐีที่ดิน ดึงที่ดินมรดก ร่วมทุนผู้ประกอบการ ผุดบ้านหรูกลางเมือง https://positioningmag.com/1536150 Mon, 01 Sep 2025 11:49:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1536150 เลิศมงคล วราเวณุชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดวา แลนด์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงครึ่งปีหลัง 2568 ยังไม่เห็นสัญญาณดี มีแต่ ‘ทรง’ กับ ‘ทรุด’ ด้วยภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อชะลอตัว

โดยประเมินว่า ยอดขายที่อยู่อาศัยปีนี้ น่าจะอยู่ที่ 60,000 ยูนิต จากช่วงสถานการณ์ปกติมียอดขาย 100,000 ยูนิต/ปี แต่ยังถือว่าดีกว่าช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 2541 – 2543 ที่อสังหามียอดขายเพียง 33,000 – 34,000 ยูนิต/ปี

เลิศมงคล วราเวณุชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดวา แลนด์ จำกัด

อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจุบันเศรษฐกิจไม่ดี ธนาคารเข้มงวดในการปล่อยกู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ทำให้แลนด์ลอร์ด ไม่สามารถทำโครงการได้ และต้องแบกรับภาระจากภาษีที่ดินที่กลับมาเก็บ 100% ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นมา

ส่งผลให้ที่ผ่านมา มีเศรษฐีที่ดิน 20-30 ราย เสนอที่ดินในเขตกรุงเทพฯ กับบริษัทฯ มากกว่า 200 แปลง เพื่อร่วมทุน (JV) พัฒนาโครงการ โดยเดวา แลนด์ จะเป็นฝ่ายออกเงินสดในการพัฒนา

“ที่ดินส่วนใหญ่ที่ถูกเสนอเข้ามา เป็นที่ดินมรดกกว่า 50-60 ปี และบางส่วนเป็นที่ดินของกลุ่มดีเวลลอปเปอร์ที่กว้านซื้อเก็บตั้งแต่ปี 2540-2541 ยุคฟองสบู่อสังหาแตก”

แคนวาส พระราม9

เบื้องต้น บริษัทฯ นำร่อง 3 โปรเจกต์บ้านเดี่ยว ระดับบน มูลค่า 500 ล้านบาท ใน 3 ทำเลเมือง ได้แก่

1.ทำเลพระราม 9 ร่วมทุนกับครอบครัว “เลาหพันธุ์” นำที่ดินบริเวณซอยพระราม 9 ซอย 59 จำนวนทั้งหมด 1 ไร่ มาพัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยวพูลวิลล่า ภายใต้แบรนด์ “แคนวาส พระราม9” จำนวน 8 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 24.9-34.9 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 220 ล้านบาท

แบ่งการพัฒนาเป็น 2 เฟส คือ เฟส 1 จำนวน 4 หลัง เป็นบ้านพร้อมอยู่ เปิดพรีเซลในวันที่ 1 กันยายน 2568 ส่วนเฟส 2 เป็นบ้านสั่งสร้างจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างอีก 8 เดือน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 2569 โดนมุ่งเน้นเจาะลูกค้ากลุ่มแพทย์เป็นหลัก

แคนวาส พระรามเก้า

2.ทำเลอารีย์-พหลโยธิน เป็นการร่วมทุนกับกลุ่ม “นาคะเกศ” ด้วยการนำที่ดินทั้งหมด 178 ตารางวา พัฒนาภายใต้แบรนด์ “แคนวาส อารีย์” จำนวน 4  ยูนิต ขนาด 25-45 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 35-45 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 160 ล้านบาท เจาะกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ และข้าราชการเก่ากำลังซื้อสูงที่อาศัยในย่านอารีย์อยู่แล้ว

3.ทำเลสุขุมวิท 101 (ปุณณวิถี) เป็นการร่วมทุนกับกลุ่ม “เจริญพานิช” นำที่ดินบนพื้นที่ทั้งหมด 215 ตารางวา พัฒนาภายใต้แบรนด์ “แคนวาส ปุณณวิถี” เป็นบ้านเดี่ยวพูลวิลล่าสั่งสร้าง จำนวน 4 ยูนิต มูลค่าโครงการ 120 ล้านบาท เจาะกลุ่มสตาร์ทอัพ และบริษัทกลุ่มเทคโนโลยี เพราะใกล้กับทรูดิจิทัลพาร์ค และ Cloud 11

แคนวาส พระรามเก้า

ทั้งนี้ 2 โครงการหลัง จะเป็นบ้านในรูปแบบสั่งสร้าง ใช้เวลาก่อสร้างราว ๆ 1 ปี โดยที่ดินที่บริษัทฯ คัดมาเป็นแรร์    ไอเทมหายาก แต่ราคาที่ดินเปล่า 3 แปลงนี้ได้มาในราคา 150,000 – 500,000 บาท/ตารางวา

ทำให้ราคาบ้านเรา ถูกกว่าคู่แข่งถึง 30% เช่น แคนวาส พระรามเก้า มีราคาเริ่มต้น 24.9 ล้านบาท/ยูนิต ขณะที่บ้านหรูในทำเลเดียวกัน ราคาเริ่มต้น 69-89 ล้านบาท/ยูนิต ทำให้มั่นใจว่าแต่ละโครงการของเดวาแลนด์ จะได้รับผลตอบรับดี

]]>
1536150
เอพี ผุด แฟล็กชิปคอนโด “LIFE อุดมสุข สเตชั่น” รับทำเลสุขุมวิทตอนปลายบูม https://positioningmag.com/1536059 Tue, 26 Aug 2025 02:30:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1536059 นิยมาพร โต๊ะสงวนพันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขาย ธุรกิจกลุ่มสินค้าคอนโดมิเนียม บมจ. เอพี ไทยแลนด์ หรือ AP กล่าวว่า ที่ผ่านมาทำเล “อุดมสุข” ไม่มีการเปิดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้ามาร่วม 10 ปี

สวนทางกับดีมานด์ความต้องการที่ขยายตัวจากเมกะโปรเจ็กต์เตรียมเปิดตัวในทำเลสุขุมวิทตอนปลาย อาทิ Cloud 11 หรือกระทั่ง Bangkok Mall ส่งผลให้ในอนาคตจะมีคนเข้ามาทำงานในย่านนี้เพิ่มหลักหมื่นคน

นิยมาพร โต๊ะสงวนพันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขาย ธุรกิจกลุ่มสินค้าคอนโดมิเนียม บมจ. เอพี ไทยแลนด์ หรือ AP

ล่าสุด เอพี ร่วมกับ มิตซูบิชิ เอสเตท เปิดตัว  LIFE อุดมสุข สเตชั่น คือแฟลกชิปคอนโดใหม่แห่งปี มูลค่าโครงการ 4,600 ล้านบาท ในราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท หรือคิดเป็นเฉลี่ย 120,000-130,000 บาท/ตร.ม. โดยมีแผนเริ่มก่อสร้างในปลายปี 2568 นี้

“ทำเลอุดมสุขเป็นที่สนใจของผู้บริโภค สำหรับลูกค้ามอง 2 กลุ่มทั้งเรียลดีมานด์ซื้ออยู่เอง และกลุ่มนักลงทุนระยะยาว ซึ่งโซนนี้มียีลด์สูง 5-6% ต่อปี ส่วนหากแยกเป็นสัญชาติวางสัดส่วนลูกค้าคนไทย 70% และต่างชาติ 30% อาทิ จีน เมียนมาไต้หวัน”

Life อุดมสุข สเตชั่น ของ AP

อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมกำลังซื้อผู้บริโภคปัจจุบันลดลงเล็กน้อย สะท้อนจากอัตรารีเจ็กต์เรตของกลุ่มคอนโดเอพีอยู่ที่ 30% (น้อยกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่รีเจ็กต์สูงกว่า 50%) โดยแผนเอพี คือ เจาะกลุ่มผู้บริโภคศักยภาพสูงที่ยังคงมีกำลังซื้อ

ขณะที่ปี 2568 มีแผนเปิดตัวคอนโด 6 โครงการ เปิดตัวไปแล้ว 2 โครงการ (รวมไลฟ์อุดมสุข) ที่เหลือจะทยอยเปิดช่วงครึ่งปีหลังนี้

Life อุดมสุข สเตชั่น ของ AP
]]>
1536059
“แผ่นดินไหว-ภาษีทรัมป์” พ่นพิษ กดดันตลาดอสังหาปี 68 คาดเปิดตัวน้อยสุดรอบ 15 ปี https://positioningmag.com/1524700 Thu, 05 Jun 2025 12:50:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1524700 ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2568 สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยไม่ได้ดีกว่าที่ทุกคนคาดหวัง จากปีก่อนเราคิดว่าตลาดจะกระเตื้องขึ้นจากข่าวดีเรื่องอัตราดอกเบี้ยลดลง และการปลดล็อก LTV

แต่ก็มีข่าวร้ายเข้ามาด้วยเช่นกัน ทั้งแผ่นดินไหวเมียนมาที่กระทบตลาดคอนโดมิเนียมไฮไรส์ในไทย ซึ่งปัจจุบันกำลังซื้อเริ่มกลับมา 70% จากช่วงปกติ (คาดกลับมา 100% ในปี 2569) ประกอบกับทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าไทย ทำให้ลูกค้าที่ทำธุรกิจส่งออกชะลอหรือยกเลิกการโอนกรรมสิทธิ์บ้านออกไป

ศุภาลัย ไตรเตชะ
ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)

“ไตรมาส 4 ปี 2567 เราคิดว่าแย่ที่สุดที่เคยเห็นมา แต่ไตรมาส 1 ปี 2568 แย่ยิ่งกว่า สะท้อนจากกำไรขั้นต้น (Gross Profit) ของกลุ่มอสังหาเฉลี่ย 28% ซึ่งปกติไม่เคยเห็นต่ำกว่า 30% และมีช่วงพีกสุดที่ 35%”

ขณะที่เรามองว่า “ภาษีทรัมป์” น่ากลัวกว่าแผ่นดินไหว เพราะเหตุการณ์แผ่นดินไหวคนชะลอโอนกรรมสิทธิ์ออกไป แต่ภาษีทรัมป์ผู้ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับส่งออก เขาทิ้งเงินจองทันที และไม่โอนกรรมสิทธิ์ คนกลุ่มนี้ค่อนข้างมีเงินอยู่แล้ว

ขณะที่ การเปิดตัวที่อยู่อาศัยใหม่ ปี 2568 คาดว่าจะเปิดตัวเพียง 60,000-70,000 ยูนิต “น้อยสุดในรอบ 15 ปี” นับตั้งแต่ปี 2553 ที่มีการเปิดตัวราว 110,000 ยูนิต และเคยพีกสุดในปี 2556 ด้วยจำนวน 130,000 ยูนิต

“จากภาพรวมเศรษฐกิจ คาดว่าตลาดที่อยู่อาศัยคงไม่สามารถกลับไปเท่าจุดพีกที่เปิดตัวใหม่ 130,000 ยูนิต/ปี    ได้อีก แต่อาจจะกลับมาเปิดตัวใหม่ได้ราว 90,000-110,000 ยูนิต/ปี เมื่อเซนติเมนต์เศรษฐกิจและการจับจ่าย      ผู้บริโภคดีขึ้น“

ส่วนกลุ่มราคาที่ยังพอไปได้มากสุด คือ ที่อยู่อาศัยราคา 4-7 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ และต้องการที่อยู่อาศัยจริง ๆ โดยกลุ่มราคานี้มักไม่มีปัญหาการกู้ไม่ผ่านเหมือนกลุ่มระดับกลาง-ล่าง ที่มีปัญหาหนี้ และถ้าระดับราคาสูงกว่า 7 ล้านบาท ส่วนใหญ่มีบ้านกันอยู่แล้วจึงไม่ซื้อเพิ่มนัก

“ตอนนี้เรื่องกู้ไม่ผ่านไม่น่ากังวล เท่าเรื่องความเชื่อมั่น และภาระหนี้ครัวเรือนของลูกค้า การฟื้นความเชื่อมั่นต้องอาศัยทุกภาคส่วนร่วมทำด้วยกัน“

อย่างไรก็ดี ปัจจัยบวกของธุรกิจอสังหายังมีอยู่บ้าง ในด้านราคาวัสดุก่อสร้างลดลง อาทิ เหล็ก และราคาที่ดินลดลง 10-15% เอื้อต่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ได้ต้นทุนที่ดีขึ้น

เบื้องต้น ปี 2568 บริษัทฯ วางงบซื้อที่ดิน 8,000 ล้านบาท (จากปีก่อน 6,800 ล้านบาท) ซึ่งพยายามมองหาที่ดินราคาคุ้มค่าที่สุด โดยเปิดรับทุกพื้นที่ ปัจจุบันใช้งบประมาณส่วนนี้ไปแล้ว 3,000 ล้านบาท

ที่ดิน บ้าน
ที่มาภาพ Shutterstock

ไตรเตชะ ย้ำว่า แม้ภาพรวมตลาดอสังหาชะลอตัวลง แต่บริษัทฯ เดินหน้าตามแผนเดิม ไม่ปรับเป้าใหม่ โดยวางเป้าปี 2568 ทำรายได้ 30,000 ล้านบาท และยอดขาย 32,000 ล้านบาท

โดยเปิดตัวโครงการใหม่รวม 36 โครงการ แบ่งเป็น

  • บ้าน จำนวน 28 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 28,000 ล้านบาท
  • คอนโดมิเนียม จำนวน 8 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 13,000 ล้านบาท

สำหรับคอนโดมิเนียม ช่วงครึ่งปีแรกเตรียมเปิดตัว 3 โครงการ นำร่องด้วย “ศุภาลัย เซนส์ แจ้งวัฒนะ-หลักสี่” อาคารโลว์ไรส์ 8 ชั้น 2 อาคาร บนพื้นที่ 2 ไร่ ราคาเริ่มต้น 1.44 – 4.09 ล้านบาท เฉลี่ย 55,000 บาท/ตร.ม.

ถือเป็นการบุกทำเล “แจ้งวัฒนะ-หลักสี่” ซึ่งจะกลายเป็นศูนย์กลางเมืองใหม่ (New Urban Hub) ของโซนกรุงเทพตะวันตก ด้วยศักยภาพด้านเศรษฐกิจ จากแหล่งงานขนาดใหญ่ อาทิ ศูนย์ราชการ, อิมแพ็ค เมืองทองธานี, สนามบินดอนเมือง, กลุ่ม รพ.มงกุฏวัฒนะ และ รพ.เวชธานี

ศุภาลัย คอนโด แจ้งวัฒนะ
โครงการศุภาลัย เซนส์ แจ้งวัฒนะ-หลักสี่

คอนโดแจ้งวัฒนะราคาต่ำกว่า 70,000 บาท/ตร.ม. แทบไม่เหลือ ส่วนใหญ่ทำเลใกล้ศูนย์ราชการ ก็มีราคาสูงกว่า 67,000 บาท/ตร.ม.

เราเห็นช่องว่างด้านราคา โดยเราเขยิบที่ดินออกมาจากศูนย์ราชการ มาตรงใกล้ ๆ ไอทีสแควร์ ได้ราคาขายเหลือ 55,000 บาท/ตร.ม. แถมอยู่ใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย คือ สายสีแดง สถานีหลักสี่ 390 เมตร และสายสีชมพู สถานีโทรคมนาคมแห่งชาติ 490 เมตร

โดยเน้นจับกลุ่ม 50% เป็นข้าราชการ และที่เหลือ 40% เป็นพนักงานสนามบินและนักเรียน/นักศึกษา ส่วนอีก 10% เป็นบุคลากรการแพทย์

”ด้วยเราตั้งเป้าเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ได้ทำห้องกว่า 14 แบบ รองรับการใช้งานที่หลากหลายไลฟ์สไตล์ โดยโครงการนี้จะเริ่มสร้างปี 2569 ก่อนแล้วเสร็จในปี 2570“

]]>
1524700
อสังหาสต๊อกบวม 2.37 แสนหน่วย คาดใช้เวลาระบายของ 5.3 ปี https://positioningmag.com/1523186 Mon, 26 May 2025 07:21:34 +0000 https://positioningmag.com/?p=1523186 ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า ตลาดที่อยู่อาศัย กทม. และปริมณฑล ชะลอตัว 5 ไตรมาสติดต่อกัน สะท้อนจาก หน่วยเปิดตัวโครงการใหม่ ดังนี้

  • Q1/67 จำนวน 16,427 หน่วย (-23.7%)
  • Q2/67 จำนวน 17,423 หน่วย (-24%)
  • Q3/67 จำนวน 11,768 หน่วย (-43.1%)
  • Q4/67 จำนวน 17,153 หน่วย (-45.3%)
  • Q1/68 จำนวน 13,867 หน่วย (-15.6%)

ขณะที่ หน่วยขายได้ใหม่มีแนวโน้มลดลง โดยไตรมาส 1 ปี 2568 ขายได้ 11,314 หน่วย ลดลง 29.3% และมีมูลค่า 68,458 ล้านบาท ลดลง 25.6% เมื่อเทียบปีช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY)

หากจำแนกตามประเภทสินค้า พบว่า

  • คอนโดมิเนียม ขายได้ 5,783 หน่วย ลดลง 8.1% คิดเป็นมูลค่า 25,172 ล้านบาท ลดลง 13.3%
  • บ้านจัดสรร ขายได้ 5,531 หน่วย ลดลง 43% และมีมูลค่า 43,286 ล้านบาท ลดลง 31.2%

เมื่อขายได้ลดลง ทำให้ หน่วยเหลือขายรวมทุกสถานะ (Remaining supply) มีจำนวนเพิ่มขึ้น

โดยหน่วย Remaining supply ไตรมาส 1 ปี 2568 มีจำนวน 237,571 หน่วย เพิ่มขึ้น 11.4% คิดเป็นมูลค่า 1.45 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.6% (YoY)

ส่งผลให้อัตราดูดซับต่อเดือนเหลือ 1.5% ใช้เวลาระบายสินค้านาน 64 เดือน (ราว 5.3 ปี) จากปีก่อนมีอัตราดูดซับต่อเดือน 2% ใช้เวลาระบายสต๊อก 40 เดือน (ราว 3.3 ปี)

เมื่อแบ่งตามประเภทสินค้า พบว่า

คอนโดมิเนียม

  • หน่วยเหลือขาย 91,697 หน่วย เพิ่มขึ้น 8.2%
  • มูลค่าเหลือขาย 440,235 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.1%
  • อัตราดูดซับต่อเดือน 2.0% (เดิม 2.3%)
  • จำนวนเดือนที่คาดว่าจะขายหมด 47 เดือน (เดิม 40 เดือน)

บ้านจัดสรร

  • หน่วยเหลือขาย 145,847 หน่วย เพิ่มขึ้น 13.5%
  • มูลค่าเหลือขาย 1,009,861 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.3%
  • อัตราดูดซับต่อเดือน 1.2% (เดิม 2.3%)
  • จำนวนเดือนที่คาดว่าจะขายหมด 80 เดือน (เดิม 40 เดือน)
]]>
1523186
ธนาสิริ ลุยบ้านหรู 20 ล้านบาท/หลัง ตั้งเป้าโต 15% แม้ตลาดอสังหาซึม https://positioningmag.com/1519967 Tue, 29 Apr 2025 09:51:17 +0000 https://positioningmag.com/?p=1519967 สุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาสิริ กรุ๊ป กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยรวม 38 แห่ง มูลค่า 18,000 ล้านบาท โดยเน้นกลุ่มระดับราคา 5-8 ล้านบาทขึ้นไป

และได้ขยายลูกค้าในทุกกลุ่มรายได้ โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวเซกเมนต์ลักซูรี ที่ยังมีการเติบโตสวนทางตลาดอสังหาฯ

เบื้องต้น บริษัทฯ ได้ร่วมทุน (JV) กับกลุ่มอนาบูกิ Top 7 อสังหาญี่ปุ่น ปั้นที่อยู่อาศัยโครงการที่ 5 ได้แก่ “อนาบูกิ ธนาเรสซิเดนซ์ กาญจนาภิเษก-พระราม 9” มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท จำนวน 74 ยูนิต ราคา 18-30 ล้านบาท เจาะกลุ่มผู้มีรายได้สูง

“จากการเจาะเซกเมนต์ลักซูรีที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ คาดว่าจะช่วยหนุนภาพรวมบริษัทฯ ในปี 68 เติบโต 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน”

มาซาอากิ คากาวะ กรรมการบริษัท อนาบูกิกรุ๊ป กล่าวว่า ช่วง 5 ปี (พ.ศ. 2563 – 2568) บริษัทฯ ลงทุนในไทย จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 4,900 ล้านบาท โดยเฉลี่ยเปิดตัวปีละ 1 โครงการ กระจายหลายโซน ตั้งแต่นนทบุรี และบางนา-บางบ่อ

ทั้งนี้ ประเทศไทย ครองสัดส่วน 70% ของการลงทุนพัฒนาอสังหาในต่างประเทศของอนาบูกิ รองลงมาจะเป็นเวียดนาม 10% อินโดนีเซีย 10% และสหรัฐอเมริกา 10%

“การขยายโอกาสในการลงทุนร่วมกับ ธนาสิริ ในกลุ่มลูกค้าระดับบนรายได้สูงนั้น มองว่าเป็นก้าวสำคัญในการเติบโต เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยให้ครบทุกเซกเมนต์”

มาซาอากิ คากาวะ กรรมการบริษัท อนาบูกิกรุ๊ป (ซ้าย) และ สุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาสิริ กรุ๊ป (ขวา)

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึง ภาพรวมตลาดอสังหาช่วง 4 เดือนแรก (ม.ค. – เม.ย.) ปี 2568 สุทธิรักษ์ ให้ความเห็นว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในไทย ยังคงซึมต่อเนื่องจากปีก่อน โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว

แม้เร็ว ๆ นี้จะมีมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ คือ การผ่อนคลาย LTV ซึ่งมาช่วยบูสต์กลุ่มซื้อบ้านหลังที่สอง และการลดดอกเบี้ย ทำให้กำลังซื้อกระเตื้องได้เล็กน้อย

ทว่าในภาพรวมการกระตุ้นตลาดอสังหาในระยะยาว ต้องอาศัยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมากกว่า

“ตั้งแต่ปลายปีก่อนคนมาดูบ้านน้อยลง เพิ่งมาฟื้นตัวตอนมีนโยบายรัฐเข้ามาช่วย ทำให้ลูกค้ากลับมาดูบ้าน และสนใจกลับมาติดต่อพูดคุยเรื่องบ้านอีกครั้ง”

โดยตั้งแต่ปีก่อน ตนเห็นภาพตลาดอสังหาชะลอตัวลง ซัพพลายมีมาก จากการเร่งสร้างเมื่อ 2 ปีก่อน สวนทางดีมานด์ที่ชะลอการซื้อบ้านออกไป ทำให้เลื่อนแผนการเปิดตัวโครงการจากปี 2567 มายังปีนี้แทน

“ปีนี้คาดเปิดตัวเพียง 1 โครงการ จากแผนเดิมเปิดตัว 3-4 โครงการ หากภาพรวมเศรษฐกิจไม่ดี อาจปรับแผนลดขนาดโครงการให้เล็กลง”

]]>
1519967