ตัวต่อ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 12 Mar 2024 13:33:11 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ยังแกร่ง! ‘Lego’ โชว์ยอดขายปี‘66 โต 2% แม้ยอดขายของเล่นทั่วโลกจะลดลง 7% https://positioningmag.com/1466076 Tue, 12 Mar 2024 12:36:51 +0000 https://positioningmag.com/?p=1466076 เพราะช่วงที่ COVID-19 ระบาด ทำให้ยอดขายของเล่นเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะพ่อ-แม่ผู้ปกครองต่างต้องหาของเล่นแก้เบื่อให้กับลูก ๆ ในช่วง Lock Down ทำให้หลังจากผ่านพ้นวิกฤต โลกที่ต้องเจอกับปัญหาเศรษฐกิจ ของเล่นก็กลายเป็นของไม่จำเป็น แต่ถึงอย่างนั้น เลโก้ (Lego) ก็ยังโตได้แม้อุตสาหกรรมจะหดตัวลง

Lego บริษัทของเล่นตัวต่อสัญชาติเดนมาร์กได้เปิดเผยผลประกอบการในปีที่ผ่านมา โดยมีรายได้ ประมาณ 9.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.5 แสนล้านบาท) เติบโต +2% ขณะที่อุตสาหกรรมของเล่นทั่วโลกมียอดขาย ลดลง -7% ตามข้อมูลจาก Circana อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิในปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 1.92 พันล้านดอลลาร์ ลดลงเกือบ 5% จากปี 2565

ดังนั้น จะเห็นว่าบริษัทเองแม้จะเติบโตแต่ก็ได้ผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจ โดย Lego ระบุว่า บริษัทสามารถขายสินค้าในปริมาณเท่าเดิม แต่ผู้บริโภคเลือก ชุดที่มีราคาถูกกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดหลักของบริษัท ปัจจุบันบริษัทมีสาขาในจีนรวมกว่าร้อยสาขา โดยในปีที่ผ่านมา Lego ได้เปิดสาขาใหม่ ๆ รวม 147 แห่ง ซึ่งจำนวน 81 แห่งอยู่ในจีน

สำหรับปีที่ผ่านมา บริษัทมีผลิตภัณฑ์ 780 รายการ ประมาณ 50% เป็นสินค้าใหม่ ซึ่งเท่ากับปีก่อนหน้าและเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของบริษัทในการสร้างชุดตัวต่อที่สดใหม่และตรงใจกับผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยซีรีส์ชุดตัวต่อที่ดูดเงินเหล่านักสะสมได้มากที่สุด ได้แก่ Lego Icons, Lego Technic, Lego City, Lego Harry Potter และ Lego Star Wars ซึ่งไม่ใช่แค่โดยใจเด็ก ๆ แต่กลุ่มผู้ใหญ่ที่เป็นแฟนคลับก็เสียเงินด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ในช่วงที่ COVID-19 ระบาด Lego เป็นหนึ่งในบริษัทของเล่นที่ฟันกำไรมหาศาล โดยในปี 2021 บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 27% และเพิ่มขึ้น 17% ในปี 2022

Source

]]>
1466076
‘LEGO’ ล้มแผนผลิตตัวต่อจาก ‘พลาสติกรีไซเคิล’ หลังพบกระบวนการผลิตก่อให้เกิด ‘มลพิษ’ มากกว่าการผลิตแบบเดิม https://positioningmag.com/1445599 Tue, 26 Sep 2023 07:18:02 +0000 https://positioningmag.com/?p=1445599 หลังจาก เลโก้ (LEGO) ใช้เวลาหลายปีในการทดสอบผลิตตัวต่อจาก โพลีเอทิลีนเทเรฟทาเลต (PET) หรือ พลาสติกรีไซเคิล ล่าสุด บริษัทพบว่า กระบวนการดังกล่าวกลับก่อให้เกิดมลพิษมากกว่าการผลิตแบบดั้งเดิม

โดยปกติแล้ว เลโก้ ได้ผลิตชิ้นส่วนตัวต่อจาก อะคริโลไนไตรล์ บิวทาไดอีน สไตรีน (ABS) หรือที่เรียกว่าพลาสติกเอบีเอส ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ผลิตของเล่นส่วนใหญ่ของโลกนี่ แต่เพื่อจะลดการก่อให้เกิดลมพิษต่อโลก ทำให้เลโก้ได้ทดลองผลิตตัวต่อจาก โพลีเอทิลีนเทเรฟทาเลต (PET) หรือ พลาสติกรีไซเคิลจากขวดพลาสติก

อย่างไรก็ตาม จากการทดลองมาหลายปี เลโก้พบว่าการใช้พลาสติก PET นั้นก่อให้เกิดมลพิษมากกว่าการผลิตพลาสติก ABS เนื่องจากบริษัทต้องลงทุนในอุปกรณ์การผลิตใหม่ และขั้นตอนสุดท้ายเกี่ยวกับกระบวนการผลิตนำไปสู่การก่อมลพิษมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ทำให้บริษัทจึงได้ล้มเลิกแผนการใช้พลาสติก PET ในการผลิต แม้ว่าบริษัทจะตั้งเป้าว่าจะผลิตตัวต่อจากวัสดุที่ยั่งยืนภายในปี 2575

“เราได้ตัดสินใจที่จะไม่ดำเนินการผลิตอิฐจาก PET รีไซเคิลหลังจากการทดสอบมานานกว่า 3 ปี เนื่องจากเราพบว่าวัสดุดังกล่าวไม่ได้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน”

นอกจากนี้ การทดสอบยังพบว่าพลาสติกรีไซเคิล ไม่ทนทานและปลอดภัยเท่ากับพลาสติก ABS อีกทั้งพลาสติก PET ยังทำให้ตัวต่อหลุดออกจากกันง่ายเกินไป อย่างไรก็ตาม บริษัทจะไม่ลดความพยายามในการผลิตตัวต่อที่ปราศจากการใช้ น้ำมัน และยังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการผลิตตัวต่อเลโก้จากวัสดุที่ยั่งยืนภายในปี 2575

ทั้งนี้ PET รีไซเคิลเป็นเพียงหนึ่งใน หลายร้อยวัสดุ ที่บริษัทได้ทดสอบว่าสามารถ ทดแทน ABS ได้ เช่น อี-เมทานอล ที่ผลิตจากคาร์บอนไดออกไซด์และไฮโดรเจน แล้วทำการแยกโมเลกุลของน้ำออกด้วยพลังงานหมุนเวียน โดยบริษัทได้ใช้งบประมาณกว่า 1,200 ล้านบาท เพื่อหาวัสดุทดแทน โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลง 37% ภายในปี 2575

Source

]]>
1445599
‘เลโก้’ เตรียมวางขายตัวต่อที่ผลิตจาก ‘ขวดพลาสติก’ ในอีก 2 ปี https://positioningmag.com/1339271 Mon, 28 Jun 2021 05:33:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1339271 เลโก้ (Lego) บริษัทของเล่นชั้นนำของโลกที่เชื้อว่าเด็กส่วนใหญ่ต้องเคยสัมผัสสักครั้ง แต่เพราะการผลิตตัวต่อของเลโก้รวมถึงบรรจุภัณฑ์อื่น ๆ ทำให้ต้องใช้พลาสติกกว่า 90,000 เมตริกตันต่อปี ทำให้เลโก้เองพยายามที่จะผลิตสินค้าที่มีความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

หลังจากที่เลโก้ได้พัฒนาตัวต่อจากพลาสติกรีไซเคิลมาหลายปี เนื่องจากขยะพลาสติกจากทะเลไม่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ เนื่องจากเสื่อมสภาพเร็วเกินไป ดังนั้น เลโก้จึงทดสอบ พลาสติก PET (polyethylene terephthalate) กว่า 250 รูปแบบ จนล่าสุด เลโก้ได้เตรียมเปิดตัวตัวต่อที่ผลิตจากขวดพลาสติกที่ถูกทิ้ง โดยคาดว่าจะวางจำหน่ายภายใน 2 ปี

“เป้าหมายคือการหาผลิตภัณฑ์ที่ดีพอที่ผู้คนจะไม่สังเกตเห็นความแตกต่าง โดยทั้งตัวต่อที่ทำจากพลาสติกทั่วไปและพลาสติกรีไซเคิลต้องประกบได้อย่างพอดีกัน ต้องสามารถใช้ได้เหมือนกับผลิตภัณฑ์เลโก้อื่น ๆ” Tim Brooks รองประธานฝ่ายความยั่งยืนของเลโก้ กล่าว

ที่ผ่านมา บริษัทเลโก้ได้เริ่มจากการใช้ถุงกระดาษรีไซเคิลแทนถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง นอกจากนี้ บริษัทยังได้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่นุ่มขึ้น เช่น ต้นไม้และพืชจากพลาสติกที่ได้จากอ้อย

Libby Peake หัวหน้าฝ่ายนโยบายทรัพยากรที่ Think Tank ของ Green Alliance กล่าวว่า แผนการใช้พลาสติกรีไซเคิลนั้น “ดีกว่าการใช้พลาสติกบริสุทธิ์อย่างแน่นอน” และหวังว่า “การใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งจะลดลงในอนาคตเนื่องจากผู้คนหันมาใช้ซ้ำ”

บริษัทหลายแห่งผลิตผลิตภัณฑ์จากพลาสติกรีไซเคิล เนื่องจากความยั่งยืนมีความสำคัญต่อลูกค้ามากขึ้น โดยเลโก้ กล่าวว่า ลูกค้าจำนวนมาก ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ต่างต้องการความยั่งยืนมากขึ้นเมื่อซื้อสินค้าโดยทั่วไปและได้ติดต่อบริษัทเพื่อแจ้งเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม Camilla Zerr นักรณรงค์ด้านพลาสติกจาก Friends of the Earth กล่าวว่า “สิ่งสำคัญจริง ๆ ที่การรีไซเคิลจะไม่ถูกยกย่องว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาเริ่มต้นของวิกฤตพลาสติก แต่ผู้ผลิตต้องแน่ใจว่าของเล่นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ใช้งานได้หลายปี เพื่อให้สามารถส่งต่อและนำกลับมาใช้ใหม่จากรุ่นสู่รุ่น”

โดยปกติแล้วตัวต่อเลโก้จะมีความทนทานเพียงพอสำหรับเล่นกับมนุษย์ 2-3 รุ่น และในกรณีของตัวต่อที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิลก็ต้องมีความทนทานเพียงพอในระดับเดียวกันด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ในปี 2561 เลโก้ตั้งเป้าที่จะผลิตผลิตภัณฑ์หลักทั้งหมดจากวัสดุรีไซเคิลภายในปี 2573

ที่ผ่านมา เลโก้ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกได้ประมาณ 1.1-1.2 แสนล้านชิ้นต่อปี และปัจจุบันประมาณ 80% ทำจาก ABS หรือต้องใช้พลาสติกกว่า 90,000 เมตริกตันต่อปี โดยประมาณ 5% ทำจากพอลิเมอร์ที่มาจากอ้อย ซึ่งจากการผลิตส่งผลให้บริษัทต้องปล่อยคาร์บอนประมาณ 1.2 ล้านตันต่อปี แต่จากการใช้พลาสติกรีไซเคิลจะช่วยลดการปล่อยมลพิษ

cnet.com / bbc.com

]]>
1339271
ยอดขาย ‘เลโก้’ โต 21% เพราะได้อานิสงส์ ‘ล็อกดาวน์’ และพี่ ‘จีน’ ช่วยดัน https://positioningmag.com/1322773 Wed, 10 Mar 2021 15:19:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1322773 ตั้งแต่เกิดการระบาดของ COVID-19 ผู้คนทั่วโลกก็ใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้น หลายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมแก้เบื่อหรือใช้ฆ่าเวลายามว่างก็เลยเติบโตเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะอุตสาหกรรมเกมหรือธุรกิจวิดีโอสตรีมมิ่ง นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งธุรกิจที่เติบโตก็คือ ‘Lego’ (เลโก้) แต่ไม่ใช่แค่อานิสงส์จาก COVID-19 เท่านั้น แต่ตลาด ‘จีน’ เองก็กำลังไปได้สวย

เนื่องจากการระบาดใหญ่ ‘เลโก้’ จำต้องปิดโรงงานผลิตในเม็กซิโกและจีน รวมถึงปิดร้านค้าบางแห่งชั่วคราว ขณะที่ต้นทุนการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น เนื่องจากค่าขนส่งแพงขึ้น แต่เลโก้ก็ยังสามารถเติบโตได้ โดยยอดขายทั่วโลกในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 21% ซึ่งเป็นผลมาจากกลุ่มสินค้าที่กว้างขึ้น, การทำตลาดในช่องทางอีคอมเมิร์ซและการเติบโตจากประเทศจีน มีรายได้รวม 6.99 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

“มันเป็นผลมาจากความพยายามอย่างมากของทั้งองค์กรโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทุกสิ่งที่เราต้องรับมือตลอดทั้งปี” นีลส์ คริสเตียนเซน ซีอีโอ เลโก้ กล่าว

ในขณะที่การแพร่ระบาดอาจกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อชุดเลโก้มากขึ้นเพื่อให้พ้นช่วงเวลาที่ถูกปิดกั้น แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ยอดขายสูงมากในช่วงปีนี้ แต่เป็นเพราะบริษัทกำลังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุนในธุรกิจอีคอมเมิร์ซและตลาดใหม่ ๆ ขณะที่สินค้าขายดีมีตั้งแต่ชุดเลโก้คลาสสิกไปจนถึงสินค้าที่มีธีมจาก Nintendo’s Super Mario และ Disney’s Star Wars

จำนวนการเยี่ยมชม Lego.com ในปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปี 2019 เนื่องจากหน้าร้านของเลโก้หลายแห่งถูกบังคับให้ปิดชั่วคราว ลูกค้าเริ่มหันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้นแล้ว และการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ก็ได้เร่งให้เกิดแนวโน้มดังกล่าวและมีแนวโน้มว่าพฤติกรรมผู้บริโภคจะไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิม

จากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ ทำให้เลโก้กำลังเพิ่มบุคลากรสำหรับทีมดิจิทัลและเทคโนโลยี โดยบริษัทต้องการที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้เร็วขึ้นและสร้างแพลตฟอร์มเพื่อรองรับความต้องการ อย่างไรก็ตาม ร้านค้าแบบดั้งเดิมยังคงเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ของแบรนด์ โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เลโก้ได้รุกเข้าสู่ตลาดจีนโดยเปิดหน้าร้านหลายสิบแห่ง เนื่องจากที่จีนไม่เหมือนกับยุโรปที่เติบโตมาพร้อมเลโก้ ดังนั้น หน้าร้านจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ให้เด็ก ๆ ได้เห็นและสัมผัสกับสินค้า

“เด็ก ๆ จะได้เห็นว่าเลโก้คืออะไรและเล่นกับมัน ซึ่งจีนเป็นหนึ่งในตลาดที่ดีที่สุดของบริษัท โดยมีการเติบโตเป็นเลขสองหลักในปีที่แล้ว”

ในปี 2020 Lego เปิดร้านค้าปลีก 134 แห่ง โดย 91 แห่งอยู่ในประเทศจีน ปัจจุบัน บริษัทมีร้านค้าแบรนด์เลโก้ 678 แห่งทั่วโลก และมีแผนที่จะเพิ่มอีก 120 แห่ง โดยจำนวน 80 แห่งจะเปิดในประเทศจีน เป้าหมายคือจะมีร้านเลโก้ประมาณ 300 แห่งในจีนภายในสิ้นปี 2564

Source

]]>
1322773
‘LEGO’ ก็รักษ์โลก ประกาศทุ่ม ‘400 ล้านเหรียญ’ เลิกใช้บรรจุภัณฑ์แบบครั้งเดียวทิ้ง https://positioningmag.com/1297402 Wed, 16 Sep 2020 11:53:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1297402 หากพูดถึงชื่อ ‘เลโก้’ (LEGO) แบรนด์ของเล่นที่ได้รับความนิยมมานานหลายสิบปีที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ก็ขอเดินหน้ารักษ์โลกเหมือนอีกหลาย ๆ แบรนด์ที่หันมาทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง อาทิ ‘เนสท์เล่’ ที่ใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก 1.5 ล้านเมตริกตัน ก็มีแผนจะจ่ายเงินให้กับวัสดุรีไซเคิลมากขึ้น โดยเลโก้ก็เตรียมจะเลิกใช้ ‘บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง’ เหมือนกัน โดยจะได้เห็นในปีหน้า

ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 พิษ COVID-19 ไม่สามารถทำอะไรเลโก้ได้ เพราะคนว่างจนต้องซื้อเลโก้มาต่อเล่น ส่งผลให้บริษัทสามารถทำรายได้ถึง ‘1.57 หมื่นล้านโครนเดนมาร์ก’ (ราว 7.8 หมื่นล้านบาท) เติบโตถึง 14% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนกำไรเติบโต 11% และในปีนี้ เลโก้ได้ประกาศแผนการบรรจุผลิตภัณฑ์เป็นกระดาษรีไซเคิลแทนที่พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง

บรรจุภัณฑ์โฉมใหม่นี้เลโก้ได้ใช้เวลากว่า 2 ปีที่ในการพัฒนา และจะเริ่มใช้ในปี 2564 นี้ ทั้งนี้ โปรเจกต์ดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุน 400 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.24 หมื่นล้านบาท) ในโครงการริเริ่มด้านความยั่งยืนในช่วงสามปีจากนี้

“เราได้รับจดหมายมากมายจากเด็ก ๆ ที่ถามว่าทำไมเรายังใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งในกล่องของเรา ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เราเริ่มทำการเปลี่ยนแปลงนี้ และนี่เป็นส่วนหนึ่งของความทะเยอทะยานของเราที่จะทำให้บรรจุภัณฑ์ทั้งหมดของเรามีความยั่งยืนภายในสิ้นปี 2568” Tim Brooks รองประธานฝ่ายความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของ LEGO กล่าว

แต่การที่เลโก้จะก้าวไปสู่ความยั่งยืนที่แท้จริงต้องไม่หยุดแค่บรรจุภัณฑ์ เพราะธุรกิจทั้งหมดของเลโก้นั้นใช้พลาสติก อย่างชิ้นส่วนของเลโก้นั้นต้องใช้พลาสติก 90,000 เมตริกตันต่อปี ขณะที่บรรจุภัณฑ์คิดเป็นเพียง 10% เท่านั้น ส่งผลให้เลโก้ต้องพยายามเพื่อพัฒนาทางเลือกอื่น ๆ แทนพลาสติกจากปิโตรเลียม แม้จะมีความคืบหน้าไปบ้างในทำงานร่วมกับสถาบันวิจัยและธุรกิจอื่น ๆ เพื่อค้นหาวัสดุที่ทนทานและมีคุณภาพสูงเช่นเดียวกับพลาสติก เช่น การใช้ ‘วัสดุชีวภาพ’ อย่างวัสดุที่ทำจากวัสดุจากอ้อย แต่ปัจจุบันยังคิดเป็นสัดส่วนเพียง 2% ของการผลิตเท่านนั้น

อย่างไรก็ตาม จากผลของความพยายามและงบประมาณที่ทุ่มไปนั้น เลโก้ตั้งเป้าหมายที่จะผลิตผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจากวัสดุที่ยั่งยืนภายในปี 2573

“ชิ้นส่วนของเลโก้ที่ผลิตอย่างยั่งยืนนั้นจะต้องมีความปลอดภัย ทนทาน สามารถต่อได้พอดีกันและง่ายพอที่เด็กจะแยกชิ้นส่วนได้ รวมถึงเรื่องของสีที่ต้องเหมือนกับชิ้นส่วนเลโก้รุ่นเก่าที่ไม่ได้มีความหลากหลายของพลาสติกเหมือนในปัจจุบัน”

ทั้งนี้ พลาสติกซึ่งเป็นมลพิษที่สำคัญของมหาสมุทรและแหล่งน้ำมีความสำคัญต่อการรับมือกับภาวะฉุกเฉินด้านสภาพอากาศของโลก เนื่องจากจะช่วยจัดการกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตสินค้า ดังนั้น การค้นหาทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งมีผลวิจัยที่เผยแพร่ในเดือนกรกฎาคมมีว่า โลกจะลดมลพิษจากพลาสติกลง 80% ภายในปี 2583 แต่ก็ยังมีขยะพลาสติกประมาณ 710 ล้านเมตริกตันที่ปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อม

Source

]]>
1297402