ธุรกิจร้านสะดวกซัก – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 06 May 2025 08:58:24 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 จับทิศทาง ‘ธุรกิจร้านสะดวกซัก’ ในวันที่มีหลายปัจจัยท้าทาย https://positioningmag.com/1520387 Tue, 06 May 2025 08:58:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1520387 ด้วยการใช้ชีวิตที่เร่งรีบของผู้คน บวกกับต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกเข้ามาช่วยประหยัดเวลาและให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น ทำให้ช่วง 5-7 ปีที่ผ่านมา ‘ธุรกิจสะดวกซัก’ มีการเติบโตน่าสนใจ และได้เห็นการเข้ามาในตลาดนี้ของผู้เล่นมากมาย

 

สำหรับภาพรวมของธุรกิจสะดวกซักมีการประเมินว่า มีการเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 10-30 % โดยปี 2565 มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 7,000 ล้านบาท เพิ่มเป็นกว่า 10,000 ล้านบาทในปี 2566 และจากเดิมในบ้านเรามีแบรนด์แฟรนไชส์ร้านสะดวกซักเพียงไม่กี่แบรนด์ ทว่าปัจจุบันมีมากกว่า 40-50 แบรนด์

 

‘ณพัฒน์ เบญญศรี’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอชแอนด์โก จำกัด ผู้ให้บริการร้านสะดวกซักอัตโนมัติ และผู้ให้บริการธุรกิจแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักอัตโนมัติ ภายใต้แบรนด์ CODE CLEAN กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจร้านสะดวกซักว่า มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว เพราะการซักผ้าเป็นกิจกรรมจำเป็นของทุกคน

 

สำหรับ CODE CLEAN ตั้งใจให้เป็นธุรกิจที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างรายได้แบบ Passive Income ไม่ว่าจะทำเป็นรายได้หลัก หรือทำเป็นธุรกิจเสริมควบคู่กับการทำงานประจำที่สามารถสร้างรายได้ 24 ชั่วโมง ไม่ต้องใช้แรงงานมาก เจ้าของร้านสามารถควบคุมทุกอย่างได้ผ่านมือถือ และคืนทุนได้ภายใน 3-5 ปี โดยจุดเด่น คือ การทำให้ CODE CLEAN เป็นร้านสะดวกซักอัจริยะ ได้แก่

 

  • พัฒนาเครื่อง Vending ให้เป็น Central Payment รองรับการชำระเงินทุกรูปแบบ  ไม่ว่าจะเป็นเหรียญ  ธนบัตร  สแกนจ่าย  หรือใช้คะแนนแลกส่วนลด  ผู้ใช้บริการจึงไม่ต้องแลกเหรียญอีกต่อไป
  • พัฒนาระบบ Vending ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง โดยเชื่อมต่อการทำงานของเครื่องซัก เครื่องอบ ตู้จำหน่ายสินค้า เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถชำระเงิน และสั่งงานเครื่องได้ครบในจุดเดียว
  • จัดโปรโมชันและแคมเปญที่ทำร่วมกับพาร์ทเนอร์ เช่น การแลกคะแนนจาก 7-Eleven บางจาก ทรูมันนี่ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการ

 

นอกจากนี้ ยังให้การสนับสนุนแฟรนไชส์ซีแบบครบวงจร ตั้งแต่การฝึกอบรม การดูแลร้าน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การควบคุมมาตรฐาน พร้อมทีมช่างที่คอยดูแลเครื่องตลอดสัญญา และฝ่ายบริการลูกค้าให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น

 

ปัจจุบัน CODE CLEAN มีสาขาใน 36 จังหวัด รวม 215 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 73 สาขา อีก 142 สาขาเป็นแฟรนไชส์ โดยตามแผนธุรกิจในระยะ 3 ปี CODE CLEAN มีเป้าหมายจะครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 20% เพิ่มยอดขายเฉลี่ยต่อสาขา 20% ต่อปี และขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกจังหวัดที่มีประชากรเกิน 500,000 คน ซึ่งมี 53 จังหวัด รวมถึงการเพิ่มสาขาใน สปป.ลาว และประเทศอื่นๆ

 

การขยายสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของจะใช้งบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่ปีละ 30 สาขา โดยใช้กลยุทธ์การจับมือกับพันธมิตรเพื่อร่วมลงทุนแบบ Joint Venture รวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partner)  ในการเลือกทำเลยุทธศาสตร์ เช่น ร้าน 7-Eleven และสถานีบริการน้ำมันบางจาก เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

 

ส่วนการขยายแฟรนไชส์ ได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสาขาใหม่ปีละ 70 สาขา ผ่านกลยุทธ์การนำเสนอแพกเกจลงทุนที่คุ้มค่า ยืดหยุ่น พร้อมข้อเสนอพิเศษไม่เก็บค่าแฟรนไชส์ 3 ปีแรก รวมทั้งไม่เก็บค่า GP และส่วนแบ่งทางการตลาดตลอดสัญญา โดยรูปแบบการลงทุนมีให้เลือกตั้งแต่ S, M, M+, L, XL เริ่มต้นที่ 1.79 ล้านบาท

 

อย่างไรก็ตาม แม้ธุรกิจซักสะดวก จะมีการเติบโตต่อเนื่อง ขณะเดียวกันการแข่งขันก็รุนแรง และยังมีปัจจัยท้าทายมากมาย เนื่องจากตอนนี้แบรนด์แฟรนไชส์ร้านสะดวกซักในบ้านเรามีมากกว่า  40-50 แบรนด์

 

ขณะที่จำนวนของร้านก็มีการขยายตัวเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างในปี 2565 มีอยู่ประมาณ 2,000 แห่ง เพิ่มเป็น 4,000 แห่งในปี 2566 และอีก 6-7 ปีข้างหน้า มีการคาดการณ์ว่า จะมีร้านสะดวกซักอยู่ในหลักหมื่นแห่ง เรียกได้ว่า เดินไปไหนก็เจอ

 

โดยส่วนใหญ่จะใช้กลยุทธ์หลัก ๆ คือ การพยายามตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทำเลในการเปิดสาขาที่เน้นเข้าถึงชุมชน และทำโปรโมชั่น จึงน่าจับตามองว่า แต่ละแบรนด์จะงัดกลยุทธ์ใดเข้ามาเพิ่มเติมเพื่อสู้ศึกครั้งนี้

 

]]>
1520387