นกสกู๊ต – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 30 Jun 2021 06:22:51 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘สกู๊ต’ มั่นใจธุรกิจการบินฟื้นภายในปี 66 ย้ำ พร้อมให้บริการครบทุกเส้นทางหากเปิดประเทศ https://positioningmag.com/1339812 Wed, 30 Jun 2021 05:58:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1339812 ตั้งแต่เกิดการระบาดของไวรัส COVID-19 หนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักคงหนีไม่พ้น ‘สายการบิน’ เนื่องจากคนทั่วโลกไม่สามารถเดินทางได้เหมือนเดิม ส่งผลให้มีหลายสายการบินที่ต้องโบกมือลาเพราะไม่สามารถทำธุรกิจต่อได้ แต่ ‘สกู๊ต’ (Scoot) สายการบินราคาประหยัดภายใต้การบริหารของกลุ่มสิงคโปร์แอร์ไลน์ก็ยังมั่นใจว่าธุรกิจการบินจะฟื้นตัวได้ภายในปี 2566 โดยเฉพาะสายการบินโลว์คอสต์ที่จะฟื้นได้เร็วกว่า

มั่นใจตลาดการบินฟื้นปี 66

แม้ แคมป์เบล วิลสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินสกู๊ต จะยอมรับว่าตั้งแต่เกิดวิกฤตการระบาดของ COVID-19 ในช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ตนเรียนรู้ว่า “การคาดการณ์อนาคต” เป็นอะไรที่ทำได้ยากมาก เพราะไม่มีอะไรแน่นอนเลย แต่ก็ยังเชื่อว่าตลาดการบินจะกลับมาได้อย่างเข้มแข็งอีกครั้ง เพราะตลาดนี้ในอดีตถือเป็นตลาดที่ยังมีการเติบโต

ขณะที่แนวโน้มของการฟื้นตัวในประเทศแถบยุโรป อเมริกา และออสเตรเลียที่มีการผ่อนคลายมาตรการการเดินทาง ส่งผลให้ดีมานด์กลับมาอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเชื่อว่าในเอเชียจะมีผลลัพธ์ที่ไม่แตกต่างกัน รวมถึงประเทศไทยที่ถือเป็นปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยว แต่ต้องรอดูว่ารัฐบาลจะสามารถเปิดประเทศได้เร็วแค่ไหน

“สกู๊ตและสายการบินชั้นประหยัดตอนนี้ไม่น่าห่วงเท่าไหร่ เพราะหากการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวกลับมาจะสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่า ขณะที่ต้นทุนค่อนข้างต่ำ ทำให้ยังสามารถประคองตัวได้ และสามารถฟื้นได้เร็ว”

แคมป์เบล วิลสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินสกู๊ต

ไม่ร่วมภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ แต่พร้อมเปิดเส้นทางเพิ่มหากเปิดประเทศ

ก่อนเกิดการระบาดของ COVID-19 สายการบินสกู๊ตให้บริการอยู่ 68 เส้นทางครอบคลุม 15 ประเทศ แต่ปัจจุบันสามารถให้บริการได้เพียง 26 เส้นทางครอบคลุม 12 ประเทศเท่านั้น สำหรับประเทศไทยสกู๊ตมีเส้นทาง กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)-สิงคโปร์ โดยให้บริการ 11 เที่ยวบิน/สัปดาห์ จากอดีตไทยจะมี 6 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ (สนามบินดอนเมือง), เชียงใหม่, หาดใหญ่, กระบี่ และภูเก็ต ซึ่งสกู๊ตย้ำว่าพร้อมจะกลับมาให้บริการในทุกเส้นทางอีกครั้งหาก ไทยเปิดประเทศ

โดยสกู๊ตกำลังศึกษาอยู่ว่าจะเปิดเส้นทางการบินอื่น ๆ โดยไม่จำกัดแค่จากสิงคโปร์แต่รวมถึงฮับอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่จะเปิดเมืองภูเก็ตต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วนั้น ทางสกู๊ตไม่ได้มีแผนที่จะเข้าร่วมโครงการ เนื่องจากกลุ่มสิงคโปร์แอร์ไลน์ที่เป็นบริษัทแม่ได้ร่วมโครงการดังกล่าวแล้ว

“แผนของเราในช่วง 1-2 ปีคือ เปิดเส้นทางการบินให้ครบทุกเส้นทางที่เคยบิน แล้วค่อยเพิ่มความถี่เที่ยวบินให้เท่าเดิม รวมถึงเพิ่มเที่ยวจากสิงคโปร์มาไทยและไทยไปที่อื่น ๆ”

เน้นส่งของ พร้อมทรานส์ฟอร์มในตัว

ต้องยอมรับว่ารัฐบาลสิงคโปร์ได้อนุมัติงบช่วยเหลือธุรกิจการบินจากพิษ COVID-19 แม้จะไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นจำนวนเท่าไหร่ แต่งบดังกล่าวพียงพอแค่ที่จะประคองไม่ให้ต้องเลิกจ้างพนักงาน ดังนั้น ที่ผ่านมาสกู๊ตจึงประคองตัวโดยการเน้นการ ขนส่งสินค้า เพราะการให้บริการในลักษณะกึ่งพาณิชย์ (semi commercial flight) คิดเป็นสัดส่วน 12-15% ของจำนวนที่นั่งเท่านั้น

นอกจากนี้ ในช่วงที่การเดินทางยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ สกู๊ตจึงลงทุนด้านเทคโนโลยีมาพัฒนาระบบต่าง ๆ เพื่อเตรียมพร้อมก่อนจะให้บริการอีกครั้ง อาทิ การเช็กอินผ่านออนไลน์, อัพเกรดที่นั่ง หรือซื้อบริการต่าง ๆ ผ่านแชทบอท รวมถึงชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด

“เราไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขการลงทุนได้ แต่เรามั่นใจว่ามันคุ้มค่ากับผลลัพธ์ และที่เรายอมลงทุนในช่วงที่วิกฤตเช่นนี้เป็นเพราะเรามองว่ามันทำให้เราสามารถโฟกัส เรียนรู้กับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้อย่างเต็มที่”

ลงทุนซื้อเครื่องแต่ไม่ลงทุนสายการบิน

ในปี 2557 สายการบินนกแอร์ และสกู๊ต ได้ร่วมทุนกันเปิดสายการบิน ‘นกสกู๊ต’ (NokScoot) โดยเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว หรือกลุ่มที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง โดยที่ผ่านมาต้องเจอทั้งการแข่งขันที่รุนแรงโดยเฉพาะเรื่องของ ‘ราคา’ การขยายเส้นทาง จนกระทั่งเจอพิษ COVID-19 ทำให้ในวันที่ 26 มิ.ย. 63 คณะกรรมการของสายการบินนกสกู๊ต ได้มีมติยุติการดำเนินกิจการ ซึ่งตลอดเส้นทางการดำเนินธุรกิจนกสกู๊ตยังไม่สามารถทำ ‘กำไร’ ได้เลย

ซึ่งทาง แคมป์เบล ก็ยืนยันว่าตอนนี้บริษัท ไม่มีแผนที่จะลงทุนในสายการบินในประเทศไทย โดยล่าสุด ทางสายการบินได้ลงทุนซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่ ‘แอร์บัส A321neo’ จำนวน 6 ลำ และเช่าอีก 10 ลำ โดยจะให้บริการในเส้นทา ‘สิงคโปร์-กรุงเทพฯ’ เป็นเส้นทางแรก เริ่มบินในวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา และจะขยายการใช้เครื่องบินรุ่นนี้ไปยังฟิลิปปินส์และเวียดนามในเดือนสิงหาคมนี้

ทั้งนี้ แอร์บัส A321neo มีพิสัยการบินสูงสุดถึง 2,620 ไมล์ทะเล ซึ่งมากกว่าเครื่องบินรุ่น A320neo ประมาณ 270 ไมล์ทะเล ทำให้สกู๊ตสามารถให้บริการในเส้นทางบินระยะสั้นถึงระยะกลางได้ ด้วยเวลาบินสูงสุดถึง 6 ชั่วโมง ซึ่งเทียบกับเครื่องบินรุ่นก่อนอย่าง A320 ที่มีรอบการบินอยู่ที่ 4-5 ชั่วโมง นอกจากนี้ สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 236 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นจากรุ่น A320neo ถึง 50 ที่นั่ง และยังประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่า 12-20%

ดังนั้น แอร์บัส A321neo จะสามารถรองรับแผนการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมได้ในอนาคต เนื่องจากสามารถบริหารความคุ้มทุนและควบคุมต้นทุนต่อหน่วยได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้สายการบินสามารถบริหารจัดการเครื่องบินให้สอดคล้องกับเส้นทางและความต้องการได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอีกด้วย

คงต้องรอดูว่า ตลาดการบินคิดว่าจะกลับมาฟื้นฟูเท่ากับก่อนเกิดการระบาดได้มากน้อยแค่ไหน และการลงทุนต่าง ๆ ของ สกู๊ต จะสามารถแข่งขันกับคู่แข่งรายอื่น ๆ ได้หรือไม่

]]>
1339812
ยื้อไม่ไหว! “นกสกู๊ต” ประกาศเลิกกิจการแล้ว พร้อมชดเชยพนักงาน 425 คน https://positioningmag.com/1285379 Fri, 26 Jun 2020 11:24:21 +0000 https://positioningmag.com/?p=1285379 บอร์ดสายการบินนกสกู๊ต มีมติเลิกกิจการแล้ว โดยผู้ถือหุ้นจะประชุมอีก 14 วัน ตามขั้นตอนหลังเปิดบริการได้ 6 ปี พนักงาน 425 คนจะได้ชดเชยตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน

คณะกรรมการบริษัทสายการบินนกสกู๊ตมีมติเลิกกิจการ โดย บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด ได้แจ้งว่า รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่จะประกาศให้ทราบว่า คณะกรรมการของบริษัทได้มีมติเลิกกิจการ โดยผู้ถือหุ้นของนกสกู๊ตจะลงมติเป็นอย่างเดียวกันในที่ประชุมใหญ่ที่จะมีขึ้นในอีกประมาณ 14 วัน

หลังจากนกสกู๊ต สายการบินร่วมทุนราคาประหยัดระหว่างสายการบินนกแอร์ของคนไทย และสายการบินสกู๊ต จากประเทศสิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2557 นกสกู๊ตได้ดำเนินธุรกิจท่ามกลางความท้าทายในสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงข้อจำกัดในการขยายเครือข่ายการบินภายใต้สภาพแวดล้อมการแข่งขันที่รุนแรงและการระบาดของ COVID-19 ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงอย่างรุนแรง ด้วยเหตุนี้คณะกรรมการของบริษัท จึงไม่เห็นหนทางสู่การฟื้นตัวและการเติบโตที่ยั่งยืนของสายการบินอีกต่อไป

จนถึงปัจจุบัน มีพนักงานนกสกู๊ตที่ถูกเลิกจ้างจำนวน 425 คน โดยสายการบินนกสกู๊ตได้ชดเชยตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานอย่างถูกต้อง ทั้งนี้พนักงานจำนวนหนึ่งยังคงปฏิบัติหน้าที่ เพื่อดำเนินการกระบวนการชำระบัญชีให้เสร็จสมบูรณ์ และพนักงานกลุ่มนี้จะได้รับการชดเชยอย่างถูกต้องเช่นเดียวกัน

นกสกู๊ตจะชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้งเมื่อได้มีการแต่งตั้งผู้ชำระบัญชี และจัดให้เจ้าหนี้ได้ยื่นข้อเรียกร้อง

นกสกู๊ตขอขอบคุณ ลูกค้า ผู้โดยสาร พันธมิตร และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนสำหรับการสนันสนุนอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2557

โดย บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 63 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวาระพิเศษ ครั้งที่ 5/2563 มีมติรับทราบ การเลิกกิจการและชำระบัญชีของ บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด โดยมี บริษัท นกมั่งคั่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 49.65 ของทุนจดทะเบียน หรือคิดเป็น 1,470 ล้านบาท

เนื่องจากบริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานอีกด้วย ทั้งนี้ คณะกรรมการ บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด ครั้งที่ 4/2563 เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2563 ได้กำหนดจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 เพื่อเสนอต่อที่ประชุมให้พิจารณาอนุมัติการเลิกกิจการและการชำระบัญชีต่อไป

ทั้งนี้ บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด มีส่วนของผู้ถือหุ้นขาดทุนเกินทุน มีทรัพย์สินและสัดส่วนรายได้เฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 37.16 และ 37.10 ของบริษัทฯ ในปี 2562 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม การเลิกกิจการของ บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด นั้นไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินของบริษัท

สำหรับการดำเนินธุรกิจต่อไปนั้น เส้นทางที่เป็นสิทธิการบินที่ บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด มีอยู่นั้นจะหยุดให้ดำเนินการในเส้นทางบินจีน ได้แก่ นานจิง ชิงเต่า เทียนจิน เฉินหยาง เส้นทางบินไต้หวัน ได้แก่ ไทเป เส้นทางบินญี่ปุ่น ได้แก่ นาริตะ โอซาก้า ซัปโปโร และเส้นทางบินอินดีย ได้แก่ เดลลี เส้นทางบินเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลกระทบในการดำเนินธุรกิจของบริษัททั้งทางตรงและทางอ้อมแต่อย่างใด

ในส่วนของบริษัทฯ นั้น ยังคงให้บริการในเส้นทางบินในประเทศเป็นหลัก และเส้นทางบินระหว่างประเทศที่มีสิทธิการบินเป็นของตนเอง ได้แก่ เส้นทางบินพม่า ได้แก่ ย่างกุ้ง เส้นทางบินเวียดนาม ได้แก่ โฮจิมินห์ และเส้นทางบินญี่ปุ่น ได้แก่ ฮิโรชิม่า และบริษัทฯ จะแจ้งการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีของ บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด ให้ทราบต่อไป

]]>
1285379
เช็กลิสต์ 9 สายการบิน ขอหยุดบินยาวทั้งเที่ยวบินใน และต่างประเทศ https://positioningmag.com/1270638 Tue, 31 Mar 2020 08:31:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1270638 สายการบินที่ให้บริการในประเทศไทยพร้อมใจหยุดให้บริการทั้งเที่ยวบินในประเทศ และต่างประเทศ มีระยะเวลาตั้วแต่ถึงพฤษภาคม บางแห่งยาวไปถึงตุลาคม

โดยสายการบินที่หยุดทำการบินในเส้นทางต่างๆ มีดังต่อไปนี้

สายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบ 3 ราย ได้แก่

1. การบินไทย หยุดทำการบินเส้นทางในประเทศทุกเส้นทางระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2563 และโอนย้ายเที่ยวบินให้สายการบินไทยสมายล์ทำการบินแทน ด้านเที่ยวบินระหว่างประเทศหยุดทุกเส้นทาง ได้แก่ ทวีปเอเชีย หยุดระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2563 และทวีปยุโรป ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2563

2. สายการบินไทยสมายล์ หยุดทำการบินเส้นทางในประเทศ เชียงใหม่ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2563 และหยุดทำการบินเส้นทางระหว่างประเทศทุกเส้นทาง ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2563

3. สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส หยุดทำการบินเส้นทางในประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯเชียงราย, กรุงเทพฯกระบี่, สมุยกระบี่, เชียงใหม่กระบี่, เชียงใหม่แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่ภูเก็ต, เชียงใหม่สมุย และ สมุยเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 24 ตุลาคม 2563 ด้านเส้นทางระหว่างประเทศหยุดทำการบินทุกเส้นทาง ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 24 ตุลาคม 2563

สายการบินราคาประหยัด 6 ราย ได้แก่

1. สายการบินไทยแอร์เอเชีย หยุดทำการบินเส้นทางในประเทศทุกเส้นทาง วันที่ 1 – 30 เมษายน 2563 ยกเว้นเส้นทางอู่ตะเภาขอนแก่น หยุดบินระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 24 ตุลาคม 2563 และหยุดบินเส้นทางระหว่างประเทศทุกเส้นทาง ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 24 ตุลาคม 2563

2. สายการบินนกแอร์ หยุดทำการบินเส้นทางในประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯกระบี่, นครพนม, น่าน, ร้อยเอ็ด, แม่ฮ่องสอน ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2563 และหยุดทำการบินเส้นทางระหว่างประเทศทุกเส้นทางตั้งแต่ 31 มกราคม – 25 ตุลาคม 2563

3. สายการบินไทยไลอ้อน หยุดทำการบินเส้นทางภายในประเทศและเส้นทางระหว่างประเทศ ทุกเส้นทางระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 30 เมษายน 2563

4. สายการบินไทยเวียดเจ็ท หยุดทำการบินเส้นทางระหว่างประเทศทุกเส้นทาง ได้แก่ ประเทศจีน เดือนมกราคม สิงหาคม 2563, ประเทศไต้หวันและเวียดนาม ระหว่างเดือนมีนาคมสิงหาคม 2563 สำหรับเส้นทางในประเทศให้เปลี่ยนเที่ยวบิน สำหรับผู้สำรองที่นั่งช่วงสงกรานต์ระหว่างวันที่ 13 – 15 เมษายน 2563 และลดความถี่การทำการบินแต่ละเส้นทางวันที่ 24 มีนาคม – 3 เมษายน 2563

5. สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ หยุดทำการบินเส้นทางระหว่างประเทศทุกเส้นทางระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 16 มิถุนายน 2563 และยกเลิกทำการบิน กรุงเทพฯบริสเบน

6. สายการบินนกสกู๊ต หยุดทำการบินเส้นทางระหว่างประเทศทุกเส้นทางระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 30 เมษายน 2563

]]>
1270638