นวัตกรรมทางการเงิน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 15 Nov 2021 10:44:32 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “KBank” รับรางวัลใหญ่แห่งปี “องค์กรนวัตกรรมแห่งอนาคต” ธนาคารแรกของไทยที่คว้ารางวัลนี้จาก IDC Future Enterprise Award 2021 https://positioningmag.com/1362062 Tue, 16 Nov 2021 10:00:37 +0000 https://positioningmag.com/?p=1362062

ในช่วงปีที่ผ่านมาเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของวงการเงินธนาคาร ทั้งสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้สภาพเศรษฐกิจชะลอตัว การถูกดิสรัปชั่นโดยเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้ธนาคารต้องปรับตัวอย่างมาก เช่นเดียวกับธนาคารกสิกรไทยหรือ KBank ที่มีการปรับตัวไปสู่โลกของดิจิทัลมาตลอด โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาสร้างนวัตกรรมทางการเงินให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จนเติบโตและสามารถครองใจลูกค้าได้อย่างเหนียวแน่น

ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทย คว้า 4 รางวัลใหญ่จากเวทีระดับโลก IDC Future Enterprise Award 2021 เป็นธนาคารแห่งแรกของไทยที่ได้รับรางวัล “Future Enterprise of the Year” ทั้งในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและประเทศไทย รวมถึงยังกวาดรางวัล “Best in Future of Digital Infrastructure Thailand” และ “Best in Future of Industry Ecosystem Thailand” มาครอง

ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ทำให้ธนาคารต้องเร่งปรับตัวด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมายกระดับองค์กรในทุกๆ ด้าน เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตและธุรกิจของลูกค้า (To Empower Every Customer’s Life and Business) โดยใช้กลยุทธ์ “K-Strategy” ที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และเพิ่มศักยภาพทั้งด้านเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ บริการ ตลอดจนบุคลากร ตอกย้ำบทบาทของธนาคารกสิกรไทยในฐานะกลไกหลักผู้ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งพิสูจน์ความสำเร็จในเรื่องนี้ได้จากการที่ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารแห่งแรกในไทยที่ได้รับสำหรับรางวัล “Future Enterprise of the Year” ทั้งในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและประเทศไทย โดยได้รับยกย่องให้เป็น “องค์กรนวัตกรรมแห่งอนาคต” จากยุทธศาสตร์องค์กรที่มุ่งเป้าสู่การเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน (Bank of Sustainability)

IDC Future Enterprise Award เป็นรางวัลที่จัดขึ้นโดย International Data Corporation (IDC) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลและวิจัยทางเทคโนโลยีระดับโลก ผ่านการตัดสินจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อมอบให้กับองค์กรที่มีศักยภาพยอดเยี่ยมในการพัฒนาและดำเนินกลยุทธ์ “Digital Transformation” ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญในการก้าวสู่โลกยุคใหม่ โลกที่ต้องตอบโจทย์ใหม่ๆ ของลูกค้า มีความยืดหยุ่นในการปรับตัวโดยใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีดิจิทัล โดยปี 2021 นี้ ธนาคารกสิกรไทยคว้ารางวัลจากเวที IDC มาได้ถึง 4 รางวัล ได้แก่ รางวัล Future Enterprise of the Year ประจำปี 2021 จำนวน 2 รางวัล ทั้งในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและไทย

จุดเด่นของ KBank ที่ทำให้ชนะรางวัลนี้ คือยุทธศาสตร์ “K-Strategy” ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และยกระดับขีดความสามารถขององค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ใช้ในทุกด้านทั้งผลิตภัณฑ์ บริการ บุคลากร ทำให้สามารถตอบโจทย์การการใช้ชีวิตและดำเนินธุรกิจของลูกค้าได้ รวมถึงช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับธนาคาร สร้างประโยชน์ที่ยั่งยืนให้กับระบบเศรษฐกิจ ธุรกิจ และสังคม


รางวัล Best in Future of Digital Infrastructure : Thailand

KBank ได้รับรางวัลนี้จากการเสริมศักยภาพเทคโนโลยีเชื่อมโยงระหว่างในประเทศกับต่างประเทศ สร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อให้กับลูกค้าด้วย “ฟีเจอร์โอนเงินต่างประเทศในแอปพลิเคชัน K PLUS” ปัจจุบันสามารถโอนได้ 14 สกุลเงิน ครอบคลุม 32 ประเทศทั่วโลก ชูจุดเด่น สะดวก ถูก เร็ว ทำธุรกรรมได้แบบเรียลไทม์ ปลายทางรับเงินเต็มจำนวน ตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ทั้งครอบครัว ศึกษาต่อต่างประเทศ ช้อปปิ้ง นักท่องเที่ยว เป็นต้น

และอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์และบริการในการสร้างเสริมให้ลูกค้าเข้าถึงบริการการเงินได้ง่ายขึ้นด้วย “เทคโนโลยีพิสูจน์และยืนยันตัวตนดิจิทัล” ซึ่งทำได้ทั้งใน K-ID Platform และจุดบริการยืนยันตัวตน (K CHECK ID) ลูกค้าไม่ต้องเดินทางไปที่สาขา สามารถใช้บริการธนาคารได้สะดวกรวดเร็ว

รางวัล Best in Future of Industry Ecosystem : Thailand


ความโดดเด่นของ KBank อยู่ที่การเชื่อมต่อระหว่างแพลตฟอร์มแอปฯ K PLUS กับพันธมิตรทางธุรกิจ ประกอบด้วย 2 บริการ คือ “Grab Pay Wallet (Powered by KBank)” ร่วมมือกับ Grab เพื่อเชื่อมโยงผู้คนในระบบนิเวศ (ecosystem) ได้แก่ ลูกค้าที่ใช้บริการ ไรเดอร์ผู้ขับ ร้านค้า และตัวแทนของ Grab ได้บนแพลตฟอร์มเดียวกัน ลูกค้าสามารถจ่ายค่าบริการ Grab ได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องใช้เงินสดและบัตรเครดิต และอีกหนึ่งบริการคือ “การเชื่อมต่อแอปฯ K PLUS เข้ากับแอปฯ สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ” ทำให้สมาชิกสหกรณ์ฯ สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ยิ่งขึ้น

4 รางวัลใหญ่บนเวทีระดับโลก IDC Future Enterprise Awards ที่ KBank ได้รับเป็นเครื่องการันตีให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ที่จัดเจน ทำให้สามารถตอบสนองลูกค้าและธุรกิจในยุคดิจิทัล และเป็นพลังขับเคลื่อนให้ KBank ก้าวสู่การเป็นสถาบันการเงินในระดับภูมิภาคได้สำเร็จตามเป้าหมาย

]]>
1362062
เปิดสูตร ‘ธุรกรรมการเงิน’ ของกรุงศรี กับภารกิจสร้าง ‘บริการดิจิทัล’ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม https://positioningmag.com/1351948 Thu, 16 Sep 2021 10:00:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1351948

หลายคนคงคุ้นเคยกับบริการหลักๆ ของธนาคาร อย่างเงินฝาก สินเชื่อ บัตรเครดิต/เดบิต การบริหารความเสี่ยงด้านอัตราเเลกเปลี่ยน การลงทุนเเละบริการ ‘ธุรกรรมการเงิน’

เมื่อเจาะลึกไปยังส่วนของ ‘ธุรกรรมการเงิน’ จะเห็นว่าเป็นสิ่งที่อยู่ ‘ใกล้ตัวเรามากที่สุด’ ทั้งการรับ-จ่ายเงินในประเทศ ระหว่างประเทศ หรือชำระสินค้าเเละบริการ ส่งเงินให้เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง การรับจ่ายเงินเหล่านี้ จึงครอบคลุม ‘ลูกค้าทุกกลุ่ม’ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา ผู้ประกอบการรายย่อย SMEs ไปจนถึงธุรกิจรายใหญ่เเละหน่วยงานภาครัฐ


บริการที่เปลี่ยนไป ตามเทรนด์ดิจิทัล

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกรรมการเงิน ได้เปลี่ยนเเปลงไปอย่างมาก จากเดิมในอดีตที่ส่วนใหญ่มักจะให้บริการกับองค์กรขนาดใหญ่ ปัจจุบันลูกค้าทั่วไปสามารถเข้าถึงช่องทางดิจิทัลได้ทุกคน โอนเงินผ่านมือถือได้ทุกที่

เเนวโน้มตลาดที่เติบโต ทำให้บรรดาลูกค้าธุรกิจขนาดเล็กเเละขนาดกลาง เริ่มเปิดช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายมากขึ้น โดย ‘ลูกค้าทุกกลุ่ม’ ต่างหันมาใช้บริการทางการเงินดิจิทัล สะท้อนให้เห็นการมุ่งไปสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’ (Cashless Society) อย่างเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้

จากข้อมูลพบว่า จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตของไทย เพิ่มขึ้น 14% จากปี 2559-2563 คิดเป็นกว่า 75% ของประชากรทั้งหมด

เทรนด์เทคโนโลยีเหล่านี้ มีส่วนช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าของ ‘ธนาคารกรุงศรีอยุธยา’ จำนวนมาก หันมาใช้บริการผ่านทางดิจิทัลเพิ่มขึ้น โดยในกลุ่มลูกค้าบุคคล มีการใช้ช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้นกว่า 131% จากปี 2561 เเละลูกค้าธุรกิจ เพิ่มขึ้น 56% จากปี 2562

 ขณะเดียวกัน ช่องทางการใช้บริการก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เช่น ผู้ใช้บริการทางดิจิทัลล้วนๆ จากเดิมมีเเค่ 8% เเต่ขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 33% นับเป็นอัตราการเติบโตที่น่าสนใจทีเดียว

ดังนั้น การสร้างสรรค์ ‘นวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ’ จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่สถาบันการเงิน ต้องพัฒนาให้ก้าวทันพฤติกรรมผู้บริโภค เปิดทางการรับ-จ่ายเงินของทั้งผู้ซื้อเเละผู้ขาย ผู้ส่งเเละผู้รับ ให้ง่าย สะดวกเเละมีความปลอดภัยสูง

วันนี้ เรามีโอกาสพูดคุยกับ ‘ยิ่งลักษณ์ คงคาสัย’ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกรรมการเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ถึงภารกิจการยกระดับธุรกรรมการเงินในยุคดิจิทัล ว่ามีกลยุทธ์เเละทิศทางต่อไปอย่างไรบ้าง


ทันสมัย ครบ เเละเเตกต่าง

 เธอเล่าว่า เมื่อโลกปรับ ธุรกิจต้องเปลี่ยน นำมาสู่เเผนการดำเนินธุรกิจระยะกลางของกรุงศรี ในช่วงปี 2564-2566 เพื่อเป้าหมายสำคัญสู่การเป็นสถาบันการเงินไทยที่เป็น ‘ที่หนึ่งในใจลูกค้า’ พร้อมเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้าทั่วภูมิภาคอาเซียน

โดยปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกรรมการเงิน เติบโตไปกับเทรนด์ของโลกได้ ก็คือการพัฒนาบริการตามพฤติกรรมผู้บริโภค การปรับกฎ กติกาของภาครัฐให้เอื้อต่อการใช้ดิจิทัล รวมไปถึง ต้องก้าวไปพร้อมกับการขยายตัวของธุรกิจในภูมิภาคที่มีการชำระเงินระหว่างประเทศมากขึ้น เเละเทคโนโลยีที่รองรับวิถีการจ่ายเงินในยุคใหม่ อย่าง e-Wallet , QR Payment ฯลฯ

“ธนาคารไม่ใช่เเค่ต้องก้าวให้ทัน เเต่ต้องคาดการณ์ถึงอนาคตได้ว่า ลูกค้ามีความต้องการอย่างไร”

สำหรับเเผนงานหลักของกรุงศรี เพื่อปูทางสร้างรากฐานการให้บริการที่เเข็งเเกร่ง ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เเบ่งออกเป็น 3 ส่วนง่ายๆ คือ

1.ทันสมัย นำเทคโนโลยีมาใช้ในการสร้างนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ เพื่อให้บริการรับ-จ่ายเงินทั้งในเเละต่างประเทศ

2.ครบ ต้องบริการให้ครบความต้องการของลูกค้าเเต่ละกลุ่ม ที่เเตกต่างกัน ทั้งบุคคลทั่วไป ธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่

3.เเตกต่าง ท่ามกลางสมรภูมิการเเข่งขันของเเบงก์ในยุคดิจิทัล กรุงศรี มีจุดเเข็งคือ การนำเครือข่ายธนาคาร MUFG บริษัทเเม่จากญี่ปุ่น และพันธมิตรทางธุรกิจทั่วโลก มาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการให้บริการกับลูกค้า

“การที่ MUFG มีเครือข่ายอยู่กว่า 50 ประเทศทั่วโลก ทำให้กรุงศรีสามารถให้คำปรึกษาเรื่องการลงทุนต่างประเทศกับลูกค้าที่ต้องการได้เป็นอย่างดี ข้อมูลต่างๆ มีความเเม่นยำและมีธนาคารที่สนับสนุนด้านธุรกรรมการเงินเพราะ MUFG ทำธุรกิจอยู่ในประเทศนั้นๆ อยู่เเล้ว” 


บริการที่ดีต้องตอบโจทย์ ‘ลูกค้าทุกกลุ่ม’

 ความเคลื่อนไหวด้านธุรกรรมการเงินดิจิทัลของกรุงศรี ในช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา มีกลยุทธ์ที่น่าศึกษาอย่าง การนำเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า API มาเป็นตัวช่วยเชื่อมต่อการเเลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างลูกค้าเเละธนาคาร ให้มีความสะดวก รวดเร็วเเละปลอดภัยยิ่งขึ้น

นิลวรรณ จีระบุญ ผู้บริหารสายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ธุรกรรมการเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด
(มหาชน) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงผลิตภัณฑ์และบริการในด้านธุรกรรมการเงินว่า ที่ผ่านมามีบริการที่ต่อยอดเทคโนโลยี API มาใช้ในชีวิตประจำวันของลูกค้าทุกคน อย่างเช่น การเติมเงิน จ่ายบิล ออนไลน์ช้อปปิ้งผ่านเเพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่าง ๆ

นอกจากนี้ ยังอัพเกรดการจ่ายเงินด้วย QR Code ให้ครอบคลุมทั้งในเเละต่างประเทศ นำร่องเปิดบริการ cross-border QR payment ระหว่างไทย-ญี่ปุ่นก่อนเมื่อปีที่เเล้ว เเละล่าสุดเพิ่งประกาศเปิดตัวในอินโดนีเซีย ไปในเดือนก.ย. 2564

โดยมุ่งตอบโจทย์การใช้งานในกลุ่มลูกค้าคนไทยที่เดินทางท่องเที่ยวไปที่อินโดนีเซีย และชาวอินโดนีเซียที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นหลัก ซึ่งกรุงศรีจะมีเเผนการขยายไปยังประเทศอาเซียนอื่นๆ ต่อไป

อีกบริการที่ขาดไม่ได้ คือการขยายช่องทางการโอนเงินระหว่างประเทศ โดยเน้นไปที่ลูกค้าบุคคลรายย่อยที่โอนเงิน 15 สกุลเงินผ่านเเอปพลิเคชัน KMA

ด้านลูกค้าธุรกิจนั้น กรุงศรีได้เชื่อมโยงกับภาครัฐในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของประเทศ เช่น การให้บริการยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่ายอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

ในส่วนของปีนี้ ก็มีการพัฒนาต่อยอดบริการ โดยเน้นไปที่การทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยรับ-จ่ายเงินได้สะดวกมากขึ้น สอดคล้องกับวิถีชีวิต New Normal ในช่วงโรคระบาด เช่น เเอปพลิเคชันสำหรับร้านค้า ที่มีชื่อว่า ‘กรุงศรี มั่งมีช้อป’ ขยายการชำระเงินด้วย QR Code เเละ e-Wallet เเละช่องทางรับเงินจากการขายผ่านเว็บไซต์

ทั้งนี้ ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ฟังก์ชั่นธุรกรรมการเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ การจ่ายชำระค่าสินค้า “โดยมีปริมาณการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เเต่จำนวนเงินในแต่ละรายการต่ำลง” เนื่องจากผู้คนจ่ายเงินเพื่อซื้อของเล็กๆ น้อยๆ หลักสิบหลักร้อยกันมากขึ้น เพื่อลดการสัมผัสเงินสด

สำหรับลูกค้าธุรกิจขนาดกลางเเละรายใหญ่ มีการเชื่อมต่อโดยตรงกับระบบของลูกค้าได้เเบบ ‘เรียลไทม์’ รวมถึงการเชื่อมต่อกับการจัดซื้อของลูกค้าได้ เเละนำส่งรายงานต่างๆ ที่จำเป็นให้กับภาครัฐ อย่าง e-WHT , e-TAX Invoice เเละ e-Receipt

“เราต้องการลดขั้นตอนการทำธุรกรรมให้กับลูกค้า ให้ผู้ใช้สะดวกสบายมากขึ้น ลดการเซ็นเอกสาร ให้ลูกค้าสามารถใช้บริการได้ในเเพลตฟอร์มเดียว เเละเรียกดูรายงานได้ทุกที่ ทุกเวลา ได้รับประโยชน์ที่จับต้องได้”

 ด้านการขยายทีมงาน เพื่อพัฒนาด้านดิจิทัลของกรุงศรีนั้น นอกจากจะทุ่มงบเงินลงทุนในส่วนนี้มากขึ้นเเล้ว สิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญก็คือการ ReSkill เเละ UpSkill ขยายทักษะของบุคลากรที่มีอยู่ จัดเทรนนิ่งภายในบริษัท ให้พนักงานก้าวทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป


ความท้าทายของ ‘ดิจิทัลเเบงก์กิ้ง’

เมื่อพูดถึงเเนวโน้มตลาดดิจิทัลเเบงก์กิ้งในอาเซียน ยิ่งลักษณ์ มองว่า ตอนนี้ทุกประเทศมีความตื่นตัวในการใช้ดิจิทัลเพื่อการรับจ่ายเงินเพิ่มขึ้น เเต่การยอมรับเเละการนำไปใช้จริงในเเต่ละประเทศนั้น ‘จะไม่เท่ากัน’

ในส่วนของประเทศไทย ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารเเห่งประเทศไทย (ธปท.) เเละมีเเผนเเม่บทอย่างชัดเจน เเละมีความร่วมมือกับธนาคารกลางในประเทศอื่นๆ ด้วย อย่างอินโดนีเซีย สิงคโปร์ จุดนี้ทำให้เห็นว่า การขับเคลื่อนจากฝั่งรัฐบาลที่มาช่วยเสริมเอกชนนั้น ทำให้ดิจิทัลเเบงก์กิ้งในอาเซียนจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ได้เร็วขึ้น

“ความท้าทายในการยกระดับธุรกรรมการเงินในไทย ไม่ใช่เรื่องเทคโนโลยีหรือการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต เเต่เป็นเรื่องของการยอมรับการใช้ ผู้บริโภครายเล็กจะยอมรับได้ง่ายกว่า เพราะโอนจ่ายในชีวิตประจำวันอยู่เเล้ว เเต่ภาคธุรกิจที่มีปริมาณธุรกรรมเยอะ จะคำนึงถึงระบบความปลอดภัย ความเเม่นยำ ข้อมูลสำหรับตรวจสอบ จึงเป็นความท้าทายในเเง่ของการประยุกต์ใช้”

ต่อไปนี้ เราคงได้เห็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินและระบบการชำระเงินให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สอดคล้องกับทิศทางการทำธุรกรรมการเงินผ่านดิจิทัลที่เติบโต ซึ่งส่งผลดีต่อผู้บริโภคอย่างเราๆ ที่จะได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยยิ่งขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

อ่านรายละเอียดบริการดิจิทัลเเบงก์กิ้งของกรุงศรี ได้ที่ www.krungsri.com

 

]]>
1351948