บรรทัดทอง – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sat, 13 Sep 2025 02:56:58 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ทรัพย์สินจุฬาฯ เดินหน้าผลักดัน ‘บรรทัดทอง’ ย่านที่มีร้านในตำนานที่หลายคนยังคิดถึง https://positioningmag.com/1537894 Sat, 13 Sep 2025 02:55:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1537894 สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (PMCU) เดินหน้ายุทธศาสตร์ใหม่ของอธิการบดี   จุฬาฯ ศาสตราจารย์.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร ที่อยากให้จุฬาฯเติบโตเคียงข้างผู้เช่า ไม่ใช่แค่ในฐานะผู้เช่า-ผู้ดูแลพื้นที่       แต่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ที่พร้อมจะสนับสนุน และเติบโตไปพร้อมๆ กัน โดยในงานนี้ ทางสำนักงานได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ PMCU Prestige Partnership ให้แก่ผู้เช่าที่ยังประกอบธุรกิจอยู่ในพื้นที่ของจุฬาฯอย่างแน่นแฟ้นยาวนานและเป็นการตอกย้ำเสน่ห์ของบรรทัดทอง-สามย่าน ที่เต็มไปด้วยร้านเก่าแก่อีกมากมาย ที่ยังรอให้ทุกคนได้มาสัมผัสความเป็นต้นตำรับที่สืบทอดมายาวนาน จากรุ่นสู่รุ่น

 

ตัวอย่างร้านเด็ดในตำนาน Living Legend ชวนให้ไปสัมผัสความอร่อย อาทิ สมบูรณ์โภชนา ตั้งอยู่ซอย จุฬาฯ 8 สาขานี้เปิดมาตั้งแต่ปี 2534, ล้งเล้ง ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา สาขาบรรทัดทอง ตำนานของก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาทำเอง การันตีความอร่อยด้วยรางวัลมิชลิน 6 ปีซ้อน กับเมนูเด็ดที่ชวนให้ทุกคนต้องมาลอง . บะหมี่เย็นตาโฟแห้งต้มยำ, บ๊วยโภชนา อยู่ปากซอยจุฬาฯ 36 ตำนานของก๋วยเตี๋ยวเป็ด ต้นตำรับความอร่อยนี้อยู่คู่จุฬาฯ มาไม่ต่ำกว่า 50 ปี ฯลฯ

งานนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ของนโยบาย และแผนระยะยาว ภายใต้แนวคิด PMCU Where Togetherness Grows Further ที่เชื่อว่า สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ มีบทบาทสำคัญในการเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมโยงความร่วมมือจาก นิสิต คณาจารย์ในจุฬาฯ ผู้เช่า รวมไปถึงภาคเอกชน และภาครัฐ ที่จะมาร่วมกันสร้างความยั่งยืนภายในพื้นที่ใจกลางเมือง ที่เป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถเติบโต และใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข พร้อมเดินหน้าความผลักดันให้เกิดเป็นต้นแบบของการสร้างเมืองและชุมชนที่ยั่งยืน หรือ Chula SDGs City of Togetherness

 

ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า  ภายในงานวันนี้ นอกจากมอบโล่ให้กับผู้เช่าเก่าแก่ทั้งร้านค้าธุรกิจชุมชนไปจนถึงธุรกิจใหญ่อย่าง MBK และ บริษัทสยามสแควร์ทาวเวอร์ จำกัด (Novotel) ที่อยู่กับ PMCU มาอย่างยาวนาน สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้น ระหว่างสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ ผู้เช่า และชุมชนที่ยังเข้มแข็ง และเตรียมพร้อมสู่การพัฒนาบรรทัดทอง-สามย่านอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน

 

นอกจากนี้ยังถือเป็นอีกเวทีในการแสดงศักยภาพของนิสิตจุฬาฯ ที่มาร่วมจัด Showcase อาหาร โดย น.ส.เชษฐ์ธิดาภรณ์ มหบุญพาชัย หรือน้องน่านฟ้า นิสิตปริญญาโท คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ จะร่วมจัดโต๊ะ นำเสนอเมนูเด็ด จากร้านในตำนานพร้อมร่วมนำเสนอเรื่องราวของร้านต่างๆ

ผนึกกำลัง a day- Robinhood ต่อยอดโปรโมทร้านอาหารในตำนานบรรทัดทอง – สามย่าน

โดยหลังจากนี้ โครงการ Living Legend ยังเดินหน้าต่อไป โดย PMCU ได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง a day สื่อออนไลน์ที่จะมาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวความเก่าแก่ของร้านในตำนาน ร่วมกับนิสิตจุฬาฯ และร่วมจัดทำแผนที่ย่าน พร้อมกิจกรรม City Tour ที่เสริมความน่าสนใจด้วย Robinhood food delivery platform สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในการยกระดับย่านบรรทัดทอง-สามย่าน ร้านอาหารระดับตำนานที่อยู่คู่ย่านมายาวนาน ถ่ายทอดเสน่ห์และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ให้เข้าถึงง่ายผ่านแอป Robinhood แอปพลิเคชันที่โดดเด่นด้วยบริการส่งไวไม่พ่วงออร์เดอร์ใช้งานง่าย และมุ่งสนับสนุนร้านค้าทุกประเภทให้เติบโตอย่างยั่งยืน ความร่วมมือครั้งนี้ยังมาพร้อมกับการนำเสนอคอนเทนต์และกิจกรรมทางการตลาดที่ทันสมัยและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในหลายช่องทาง เพื่อสร้างการรับรู้ ดึงดูดผู้บริโภค และคืนชีวิตชีวาให้กับย่านในทุกมื้อของผู้ใช้งาน

ภารกิจหลักของ PMCU ในวันนี้ จึงไม่ใช่แค่มุ่งเน้นการสร้างรายได้ในเชิงธุรกิจเท่านั้น แต่เป็นการสร้างการพัฒนาย่านบรรทัดทอง – สามย่าน ให้เติบโตในทุกมิติ ทั้งในเรื่องความเป็นอยู่อย่างมีความสุขของผู้เช่า และชุมชนในพื้นที่ รวมถึงความประทับใจบุคคลภายนอกที่เข้ามาสัมผัสย่านนี้ รวมถึงการพัฒนาย่านในด้านรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยการเป็นพื้นที่สีเขียว และการประหยัดพลังงาน ฯลฯ เพื่อให้ทุกภาคส่วนเติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน

“ดัชนีชี้วัดทางธุรกิจทั่วไป อาจเป็นเรื่องการเติบโตในมิติเรื่องรายได้และผลกำไรเท่านั้น

แต่สำหรับ PMCU มิติของการเติบโตของธุรกิจ คือ ความสุขของคนที่อยู่ในย่าน และการเห็นการพัฒนาของชุมชน และสังคมที่เติบโตไปพร้อมกัน

]]>
1537894
ทำไม ‘สุกี้ช้างเผือก’ (กล้า)เลือก ‘บรรทัดทอง’ เป็นสาขาแรกในกรุงเทพฯ https://positioningmag.com/1533294 Mon, 11 Aug 2025 07:11:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1533294 ‘สุกี้ช้างเผือก’ ร้านดังจากเชียงใหม่อายุ 33 ปี กำลังจะเปิดสาขาแรกในกรุงเทพฯ ณ ‘ย่านบรรทัดทอง’ ซึ่งน่าสนใจเป็นอย่างมากว่า ทำไมร้านแห่งนี้ถึงตัดสินใจเลือกย่านดังกล่าวเพื่อเปิดเกมรุกตลาดกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก ทั้ง ๆ ที่บรรทัดทองคือ ‘ย่านปราบเซียน’ และกำลังอยู่ในช่วง ‘ขาลง’

 

“มีหลายคนถามเรื่องนี้เหมือนกันว่า ทำไมเลือกโลเคชั่นนี้ เพราะกำลังอยู่ในช่วงซบเซา และถามว่า กังวลไหม คำตอบก็กังวลบ้าง แต่ด้วยโจทย์ที่วางไว้ในการบุกตลาดกรุงเทพฯ ในรูปแบบสตรีทฟู้ดส์ เราก็ยังไม่เห็นที่ไหนเหมาะสมเท่ากับบรรทัดทอง” ‘ณัฐสุวรรณ อิ่มใจบุญ’ ทายาทรุ่น 2 สุกี้ช้างเผือกบอกกับ Positioning

 

การตัดสินใจเลือกบรรทัดทอง เป็นหมุดหมายแรกของการเปิดสาขาสุกี้ช้างเผือกในกรุงเทพฯ ณัฐสุวรรณบอกว่า ใช้เวลาศึกษาพื้นที่นานกว่า 1-2 ปี เหตุผลนอกจากจะเป็นย่านที่สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ของร้านแล้ว บรรทัดทองยังเป็นย่านที่มีความครบทั้งที่จอดรถ ใกล้สถานศึกษา และภายในย่านมีร้านอาหารหลากหลาย ซึ่งเป็นแม่เหล็กและตัวเลือกในการดึงลูกค้าได้เป็นอย่างดี

 

สำหรับการวางราคาขาย ณ สาขาบรรทัดทอง จะเป็นราคาปกติของร้าน คือ เริ่มต้นที่ 80-90 บาท ส่วนกลุ่มเป้าหมายจะเน้นคนไทยเป็นหลัก รองลงมาเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

 

“เรามั่นใจในเรื่องคุณภาพ และรสชาติของเราที่มีเอกลักษณ์ในเรื่องวุ้นเส้นเหนียวนุ่ม ผักกรอบ มีกลิ่นหอมกระทะ และน้ำจิ้มเฉพาะตัว บวกกับราคาเข้าถึงได้ เราจึงมั่นใจจะไปได้ ซึ่งขณะนี้สาขาดังกล่าวอยู่ระหว่างการตกแต่งและรับสมัครพนักงาน ถ้าพร้อมเปิดให้บริการเมื่อไรจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้ง”

 

สำหรับสุกี้ช้างเผือก เป็นร้านดังจากเชียงใหม่ที่ก่อตั้งขึ้นมาในปี 2535 โดยมีคุณพ่อคุณแม่ของณัฐสุวรรณ      เป็นผู้บุกเบิก เริ่มต้นจากร้านรถเข็นริมทางหลังโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ก่อนจะย้ายมาเปิดที่ประตูช้างเผือก และเป็นที่มาของชื่อสุกี้ช้างเผือกอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

 

ตอนนี้สาขาทั้งหมดอยู่ในเชียงใหม่มีด้วยกัน 6 แห่ง ได้แก่ สาขาประตูช้างเผือก, หลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, สี่แยกสนามบิน, กรีนปาร์คฯ , โรงพยาบาลกรุงเทพ และกาดฝรั่งแม่ริม

]]>
1533294
HAAB ขนมไข่สงขลาบรรทัดทอง กับยอดขายเดือนละ 3 ล้านชิ้น ฝันอยากเป็น “คริสปี้ครีม” ขนมที่คนต้องซื้อฝาก https://positioningmag.com/1506157 Fri, 10 Jan 2025 10:24:39 +0000 https://positioningmag.com/?p=1506157
  • HAAB แบรนด์ขนมไข่พรีเมียมเจ้าดังย่านบรรทัดทอง กับการยกสูตรขนมไข่สงขลาเข้ากรุง ใส่เนยฉ่ำๆ 
  • ใช้งบลงทุนเริ่มต้น 20,000 บาท เริ่มจากซุ้มเล็กๆ จนล่าสุดมี 11 สาขา พร้อมกับยอดขายรวม 3 ล้านชิ้น/เดือน
  • ตั้งเป้าเป็นเชนร้านอาหารที่มีสาขาครอบคลุม และอยากเป็นแบบคริสปี้ครีมที่คนนิยมซื้อฝากเวลากลับบ้าน
  • เริ่มจากทำอีคอมเมิร์ซ จนพัฒนาสูตรขนมไข่จากคุณยาย

    ใครที่เป็นสายขนมหวาน หรือเป็นบรรทัดทองเลิฟเวอร์ต้องคุ้นเคยกับแบรนด์ HAAB (หาบ) ร้านขนมไข่ฉ่ำเนยผู้เคยสร้างกระแสบนโลกออนไลน์มาแล้ว หลายคนอาจจะเรียกว่าเป็นขนมไข่ชื่อดังย่านบรรทัดทองเลยก็ได้ เพราะเป็นย่านที่ทำคลอดแบรนด์นี้ให้แจ้งเกิด  

    HAAB ขนมไข่บรรทัดทอง

    Positioning พาไปพูดคุยกับ “มอส-จรรยธร บิลพัฒน์” ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ HAAB ร้านขนมไข่สุดโมเดิร์น ยกระดับขนมท้องถิ่นให้พรีเมียม แถมยังไปไกลถึงต่างประเทศแล้ว โดยเริ่มต้นจากบริษัท e-Commerce จนมองเห็นช่องวางในการขายอาหารที่ย่านบรรทัดทอง จึงเริ่มจากขายขนมไข่สงขลา

     

    จรรยธรเริ่มเล่าว่า “แต่เดิมทำบริษัทขายสินค้า e-Commerce ก่อตั้งได้ 5 ปี ตั้งแต่ช่วงก่อน COVID-19 เคยขายตั้งแต่เครื่องซีลสูญญากาศ, เครื่องฉายโปรเจ็คเตอร์ ไปจนถึงแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ มีโต๊ะ DreamDesk เป็นฮีโร่โปรดักส์ พอทำแบรนด์เริ่มอยู่ตัว เริ่มหาไอเดียสินค้าใหม่ๆ ด้วยความออฟฟิศอยู่ที่บรรทัดทองพอดี เลยได้เห็นพัฒนาการของย่านนี้ จากเงียบๆ จนเติบโต เลยคิดที่จะหาของมาขาย ส่วนตัวเป็นคนสงขลาเลยหาไอเดียขนมไข่สงขลา จะแตกต่างจากขนมไข่ กทม. ที่จะหวานๆ กรอบๆ แต่ขนมไข่สงขลาจะมีไส้เนย ประกอบกับที่ตอนนั้นบรรทัดทองมีแต่ร้านอาหาร ยังไม่มี Grab&Go ที่เดินกิน เลยทำเป็นขนมไข่ขาย”

    HAAB

    โดยที่ตอนนี้บริษัทก็ยังคงทำในส่วนของ e-Commerce อยู่ แต่เน้นโฟกัสในส่วนของธุรกิจอาหารมากกว่า มีการแบ่งทีมชัดเจน มีบางคนทำแค่ DreamDesk บางคนขอทำ 2 แบรนด์

    เริ่มต้นจาก 20,000 บาท

    จรรยธรเรียนจบทางด้านเศรษฐศาสตร์ แรกเริ่มได้ทำงานในส่วนของที่ปรึกษา แต่ด้วยความมีหัวทางด้านการค้า จึงเปิดบริษัทขายของ แต่เป็นคนชอบทานขนมไข่ จึงได้นำสูตรขนมไข่จากคุณยายมาทำแบรนด์ เพราะหลายคนยังไม่รู้จักขนมไข่สงขลา 

    แบรนด์ HAAB เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 ใช้เวลาพัฒนาสูตร 1 เดือน ทดลองการใช้ไฟ ใช้แป้ง ใช้เนยขนาดเท่าไหร่ให้เหมาะสม ทดลองทานกันในออฟฟิศก่อน

    บูทเล็กๆ สาขาแรกที่ซอยจุฬา 14

    ส่วนชื่อแบรนด์ HAAB มีแนวคิดที่อยากใช้คำที่มีความเป็นไทย คอนเซ็ปต์โมเดิร์น ขายขนมไทยที่หาทานยาก เลยจบที่ HAAB (Heart Attack Amount of Butter) หรืออ่านว่าหาบ ประมาณว่าใส่เนยจุกๆ จนหัวใจจะวาย แปลอีกนัยหนึ่งว่าหาบเร่แผงลอยก็ได้ 

    จรรยธร บอกว่าใช้งบลงทุนเริ่มต้นที่ 20,000 บาท เริ่มตั้งบูทเล็กๆ ในซอยจุฬา 14 มีโต๊ะ 1 ตัว กับเตาอั่งโล่ เริ่มจากสเกลเล็ก เน้นแจกฟรีก่อน ส่วนใหญ่คนที่ลองชิม 90% จะเดินกลับมาซื้อ รวมถึงมี KOL มารีวิวช่วยโปรโมต วันแรกมียอดขาย 2,000 บาท 

    HAAB

    จากนั้นแบรนด์ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนขยายจุดขายอีกจุดหนึ่งในซอยเดียวกัน พอเริ่มขายในแกร็บก็เริ่มทำไม่ทัน บางวันลูกค้ารอนาน 3-4 ชั่วโมง แล้วมาจับจุดได้ว่าลูกค้าซื้อขนมไข่กลับบ้าน ไม่ได้ทานเดี๋ยวนั้น ไม่จำเป็นต้องทำสดๆ ก็ได้ เลยทำเป็นครัวกลางทำแบบกล่องเตรียมไว้จะได้ขายได้เร็ว 

    เปิดร้านแฟล็กชิปสโตร์ที่บรรทัดทอง

    หลังจากที่ในปี 2567 ได้เปิดร้านครบ 1 ปี จรรยธรจึงหาทำเลที่เปิดร้านเป็นแฟล็กชิปสโตร์ยังอยู่ในเส้นบรรทัดทอง ระหว่างซอยจุฬา 14 และจุฬา 16 ดีไซน์เป็นคอนเซ็ปต์สงขลา ใช้เก้าอี้ชานชาลารถไฟมาเป็นที่นั่งคอย เพราะสงขลาเป็นชุมทางรถไฟ ทำเป็นครัวเปิดเพื่อให้ลูกค้าได้เห็นการทำขนมไข่ และใช้ถ่านแบบพรีเมียม ไร้ควัน 

    HAAB

    ทำให้ปัจจุบันที่ย่านบรรทัดทอง HAAB มีจุดขาย 3 จุด ก็คือ แฟล็กชิปสโตร์, ซอยจุฬา 14 และครัวกลาง

    “เราทราบดีว่าเราเป็น Social Food ก็มาคิดว่าต้องทำยังไงให้ลูกค้าอยากทานอีกเรื่อยๆ เราดึงลูกค้ามาด้วยความโมเดิร์น แต่โฟกัสที่รสชาติ หาเมนูใหม่ๆ ดิปใหม่ๆ ทำให้ทานได้ทุกวัน โฟกัสความรู้สึกลูกค้า อยากให้ซื้อกลับไปฝากพ่อแม่ เหมือนที่พอ่แม่ชอบซื้อขนมไข่มาวางไว้บนโต๊ะกินข้าวที่บ้าน อยากเป็นขนมไข่ในดวงใจของคนไทย อยากหาบตัวเองไปอยู่ใกล้ลูกค้ามากขึ้น” 

    อยากเป็นแบบ “คริสปี้ครีม” ที่คนต้องซื้อฝาก

    จรรยธรบอกว่า ตอนนี้บริษัทมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในช่วงแรกมีทีมงานอยู่ 20 คน ปัจจุบันมีกว่าร้อยคนแล้ว ในกลุ่มธุรกิจอาหารมีแบรนด์ HAAB และ Layers ที่มีร้านที่บรรทัดทองเช่นกัน ตั้งเป้าภายใน 1-2 ปีนี้จะต้องมี 3 แบรนด์ อยากเป็นเชนร้านอาหารที่มีสาขาครอบคลุมในต่างจังหวัด และมีความฝันอยากเป็นเหมือน “คริสปี้ครีม” ที่คนนิยมซื้อเป็นของฝาก

    “ภายในปีหน้าอยากทำบริษัทให้เป็นเชนร้านอาหารที่มีหลายสาขาในต่างจังหวัด ตอนนี้มีโอกาสขยายสาขาไปในสนามบินดอนเมือง มีความฝันอยากเป็นเหมือนแบรนด์คริสปี้ครีม ที่หลายคนนิยมซื้อเป็นของฝากเวลากลับต่างจังหวัด ถ้าแบรนด์ไปต่างจังหวัดคนก็รู้จักมากขึ้น”

    ปัจจุบัน HAAB มีหน้าร้านรวม 11 แห่ง ได้แก่ HAAB Flagship Store สาขาบรรทัดทอง, จุฬาซอย 14, จุฬา ซอย 1, สยามพารากอน, One Bangkok, เซ็นทรัล เวสต์เกต, สามย่านมิตรทาวน์, ซีคอนสแควร์, สนามบินดอนเมือง, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า และตลาดสดธนบุรี รวมถึงสาขาในประเทศมาเลเซียอีก 4 แห่ง เป็นการลงทุนในโมเดลร่วมทุนกับบริษัทโลคอลที่นั่น เตรียมหาพาร์ทเนอร์ในต่างประเทศอยู่เรื่อยๆ

    ตอนนี้ HAAB มียอดขายเฉลี่ยรวมวันละ 80,000-100,000 ชิ้น หรือประมาณเดือนละ 3 ล้านชิ้น มียอดขายประมาณ 250 ล้านบาท

    ]]>
    1506157