บริจาค – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 26 May 2021 01:31:26 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 สรุปดราม่า #พิมรี่พาย แบรนด์จะพังหรือไม่? เมื่อสุดท้ายการทำบุญคือการ PR https://positioningmag.com/1333109 Thu, 20 May 2021 07:26:10 +0000 https://positioningmag.com/?p=1333109 กลายเป็นดราม่าแค่ชั่วพริบตา เมื่อแม่ค้าออนไลน์ใจบุญ “พิมรี่พาย” ตอบโต้กรณีอดีตนายกทักษิณ ชินวัตรอ้างอิงถึงในคลับเฮาส์ กลายเป็นประเด็นเดือด และตามต่อมาด้วยการทำบุญเพื่อหวัง PR ตัวเอง ด้วยประโยคอย่าง “มึงโกรธกูไปเถอะ เดี๋ยวพอกูปล่อยคลิปทำความดี มึงก็หายโกรธ” ทำเอาคนทั่วไปรู้สึกไม่ดี

จากแม่ค้าออนไลน์ สู่เจ้าแม่บริจาค

แม้ชื่อของ “พิมรี่พาย” จะเป็นที่รู้จักมานานหลายปีแล้ว ในฐานะแม้ค้าออนไลน์ฝีปากกล้า มีลีลาการขายสุดแซบ ทำเอาลูกค้า CF กันถล่มทลาย แต่ต้องบอกว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ชื่อของพิมรี่พายดูเหมือนจะมีสปอตไลท์ฉายดวงใหญ่เป็นพิเศษ เป็นที่จับจ้องทั้งบุคคลทั่วไป และทางฝากฝั่งของรัฐบาลด้วย

พิมรี่พายแจ้งเกิดจากการเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์ จุดเด่นคือขายสินค้าทุกอย่างตั้งแต่อาหาร ปลาร้า น้ำพริก พริกทอด ไปจนถึงสินค้าความงามอย่างน้ำหอมและสกินแคร์ โดยมีราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป พิมรี่พายมักใช้ช่องทาง “ไลฟ์สด” ผ่านเฟซบุ๊ก “พิมรี่พายขายทุกอย่าง” มีผู้ติดตามถึง 4.5 ล้านราย การไลฟ์แต่ละครั้งมีผู้เข้าชมแบบเรียลไทม์หลายแสนคน มียอดรวมนับล้านครั้ง

ช่วงพีคๆ ที่พิมรี่พายถูกพูดถึงเยอะๆ ในช่วงเดือนมกราคม ในการไลฟ์ขายของเพียง 1 ชั่วโมง มียอดสั่งซื้อกว่า 16,000 ออเดอร์เลยทีเดียว

แต่นอกจากจะเป็นแม่ค้าออนไลน์แล้ว พิมรี่พายยังพ่วงตำแหน่ง YouTuber อีกขานึงด้วย โดยช่อง “พิมรี่พาย” ใน YouTube มีผู้ติดตามถึง 4.1 ล้านราย รวมถึงในเฟซบุ๊กเพจส่วนตัว Pimrypie – พิมรี่พาย ที่มียอดคนติดตามถึง 9.9 ล้านราย คอนเทนต์มีหลากหลาย ทั้งเรื่องอาหาร รีวิวสินค้าของตัวเอง เพลง และการทำบุญ

สปอตไลท์ดวงใหญ่ที่ฉายมาที่พิมรี่พายเกิดจากกระแส “คอนเทนต์ใจบุญ” ของเธอนี่เอง เริ่มต้นตั้งแต่เดือนมกราคมที่ได้นำเงิน 550,000 บาทไปซื้อทีวี ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และสร้างแปลงผักให้แก่เด็กๆ ที่หมู่บ้านแม่เกิบ ต.นาเกียน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เพื่อเป็นของขวัญในวันเด็กแห่งชาติ

เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถเข้าถึงกระแสไฟฟ้า และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งพิมรี่พายมองว่าการที่ให้เด็กๆ ได้ดูทีวี ทำให้เด็กๆ มีความฝัน ได้เห็นว่าตัวเองอยากเป็นอะไร ทำให้คลิป “สุขสันต์วันเด็ก พิมรี่พายจัดใหญ่ให้น้องบนดอยสูง” ในยูทิวบ์มียอดเข้ามากกว่า 6.8 ล้านวิว

แน่นอนว่าคอนเทนต์นี้ทำให้ชาวเน็ตต่างยกย่องชมเชย และอวยยศเธออย่างมาก ชื่อของพิมรี่พายกลับมาเป็นกระแสอีกครั้งหนึ่ง เป็นตัวอย่างของคนทำความดี ในวันนั้นทำให้ #พิมรี่พาย ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ในทวิตเตอร์ด้วย

หลังจากนั้นเราก็ได้เห็น “โปรเจกต์ใจบุญ” ของพิมรี่พายมาอีกหลาย EP ไม่ว่าจะเป็น การขุดน้ำบาดาล, พัฒนาสำนักสงฆ์, เหมาก๋วยเตี๋ยวยายตาบอด, ติดไฟชุมชนคลองเตย, เลี้ยงหมาแมว และอื่นๆ อีกมากมาย มาจนถึงโปรเจกต์ล่าสุดคือ “โรงพยาบาลสนาม”

การทำบุญของพิมรี่พายย่อมถูกนำไปเปรียบเทียบกับโครงการ หรือการบริหารของรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณที่น้อยกว่าหลายเท่าตัว รวมถึงการปฏิบัติการที่รวดเร็ว ช่วยเหลือได้เร็วกว่า แน่นอนว่าแต่ละโปรเจกต์ต้องตามมาด้วยประเด็นดราม่า ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบ หรือการบุกรุกพื้นที่ ซึ่งแล้วแต่กรณีไป

อย่างไรก็ดี พิมรี่พายได้กลาย “ไอคอน” ของการทำบุญ ช่วยเหลือไปโดยปริยาย หากเป็นแต่ก่อน ถ้าชาวเน็ตอยากขอความช่วยเหลือ คงจะนึกถึงเพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” หรือเพจอื่นๆ ที่ค่อนข้างมีอิทธิพล แต่ตอนนี้มีแต่คนนึกถึงพิมรี่พาย ถ้าใครได้รับความลำบาก ก็จะนึกถึงให้พิมรี่พายช่วยทั้งนั้น

โทนี่พูดถึง สะเทือนความมั่นคง

ด้วยความเป็นไอคอนของการช่วยเหลือนี่เอง บวกกับกระแสที่คนไทยพูดถึงอย่างมาก แม้แต่รัฐบาลยังจับจ้อง ไม่เว้นแม้แต่ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ปัจจุบันจะนิยมเรียกกันว่า “โทนี่” เป็นชื่อที่ใช้ในคลับเฮาส์

ประเด็นร้อนแรงล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อโทนี่ได้พูดคุยในคลับเฮาส์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในหัวข้อ “CARE Clubhouse x CARE Talk #เป็นไงวัยรุ่น : ปลดล็อกยูนีคสกิลสู่ยุคใหม่ของวัยเยาวรุ่น กับ Tony Woodsome” โดยในบางช่วงบางตอนทักษิณพูดถึงในประเด็น​ว่า

“ภายในเรือนจำเขามีสนามฟุตบอล มีโรงอาหาร เราสามารถเปลี่ยนมาเป็นโรงพยาบาลสนามชั่วคราวได้หรือไม่ หรือถ้าตั้ง (รพ.สนาม) มันแพง ก็ไปขอพิมรี่พายตั้งให้ พอตั้งแล้วก็เอาคนออกมาตรงนั้นซะ และไปทยอยฉีดวัคซีน”

ทำให้พิมรี่พายถึงกับต้องตอบโต้เลยทีเดียว ได้พูดผ่านการไลฟ์สดขายสินค้า มีใจความประมาณว่า

“คุณโทนี่ที่ฉันพูดถึงก็คือคุณทักษิณ ชินวัตร พูดถึงดิฉันเมื่อคืน ดิฉันไม่ทราบเพราะดิฉันไม่ได้ไปเล่นโซเชียลอะไร ดิฉันไม่ว่าง ดิฉันทำงาน ดิฉันทำบุญ มีคนส่งคลิปมาให้ดิฉันเยอะมาก ดิฉันขอพูดหน่อยนะคะ ท่านอยู่ข้างนอกประเทศ ท่านจะพูดอะไรก็ได้ แต่คนข้างในประเทศจะซวยเอา ได้โปรดอย่าลากดิฉันไปเกี่ยวข้องนะคะ กราบขอร้อง ทุกๆ คน หรือทุกๆ สื่อ ดิฉันยังอยากทำบุญต่อ อย่าให้ดิฉันซวยเลยค่ะ ท่านพูดทีหนึ่งอีกฝั่งก็ด่าดิฉัน ดิฉันรู้เรื่องไหมคะ ยืนขายปลาร้า ก็โดนด่า มันใช่เรื่องไหม ทำความดีต้องมาโดนด่าไหมเพราะว่ามึ…พูด ดิฉันอยากอยู่ในประเทศนะคะ ดิฉันไม่อยากจะไปตายที่ต่างประเทศ อยากอยู่ต่อ อยากทำความดีต่อ ขอความกรุณาเลิกเอาดิฉันไปเป็นเครื่องมือเหน็บแนม อย่าแปลเจตนาดิฉันผิด ขอบพระคุณค่ะ”

ในประเด็นมีเสียงแตกออกเป็นหลายทาง บ้างก็มองว่าโทนี่ต้องการแค่แซะรัฐบาลที่บริหารจัดการอะไรไม่ได้ ให้ไปขอความช่วยเหลือพิมรี่พายที่เสกสรรค์โปรเจกต์ออกมาได้ว่องไวกว่า หรือบางคนก็มองว่าโทนี่แค่พูดอ้างอิงถึงไม่ได้ไปในทางลบ ทำไมไม่มองที่ต้นเหตุที่ว่าสังคมนี้ แค่คนคนนึงพูดถึง จะต้องอยู่ยากมากขึ้น

แบรนด์พังเพราะประโยคเดียว?

ดราม่านี้ร้อนแรงถึงขั้น #พิมรี่พาย ขึ้นเทรนด์ในทวิตเตอร์อีกครั้ง ตอนนี้ไม่ได้มีแค่ประเด็นเรื่องการอ้างอิงของโทนี่ แต่เป็นเรื่องของทัศนคติของพิมรี่พายที่มีต่อการทำบุญบริจาค

เมื่อพิมรี่พายพูดถึงกรณีนี้ในไลฟ์ขายของอีกครั้ง พูดถึงคนที่โกรธเธอว่า โกรธที่ปกป้องตัวเองหรือ ซึ่งมั่นใจว่าพูดไม่ผิด พร้อมกับประโยคที่ว่า “มึงโกรธกูไปเถอะ เดี๋ยวพอกูปล่อยคลิปทำความดี มึงก็หายโกรธ”

กลายเป็นประโยคที่จุดชนวนให้คนดราม่ามากขึ้น เกิดความไม่พอใจอย่างหนัก เพราะหลายคนมองว่าการทำความดีที่ผ่านมาล้วนมีผลประโยชน์ทั้งสิ้น รวมถึงการเอาคนจน คนด้อยโอกาสเป็นเครื่องมือในการทำ PR ให้ตัวเอง สร้างชื่อเสียง และขายของได้มากขึ้น เพราะถึงแม้ร้านของพิมรี่พายจะมีลูกค้าประจำที่ซื้อของสินค้าราคาถูก มีคุณภาพ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีจำนวนไม่น้อยที่ตามซื้อเพราะกระแสโปรเจกต์ใจบุญ เพราะรู้สึกว่าได้ร่วมสนับสนุน ได้ร่วมทำบุญไปด้วย

รวมถึงยังมีประเด็นที่ว่า “ไม่อยากไปตายต่างประเทศ” เพราะไม่อยากเป็นปรปักษ์กับรัฐบาล หลายคนมองว่าเป็นการแซะผู้ลี้ภัยทางการเมือง หรือผู้ต่อสู้ทางการเมืองด้วย

แปลเจตนาไม่ออกหรอ?

เมื่อเกิดกระแสการไม่สนับสนุนพิมรี่พายมากขึ้นเรื่อยๆ เธอก็ยังคงพูดถึงในไลฟ์ขายของต่อ โดยยังคงย้ำว่า “แปลเจตนาไม่ออกหรอ” ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญที่ผ่านมา หรือการพูดตอบโต้ต่างๆ เป็นการบอกเป็นนัยๆ ว่า ถึงแม้การกระทำจะเป็นอย่างนี้ แต่ให้ดูที่เจตนาหลักของเธอก็พอ พร้อมกับพูดถึงโทนี่อีกว่า

“ท่านพูดถึงใครได้รับผลกระทบหมด ท่านเป็นคนมีอิทธิพล แค่บอกว่าจะคุยกับปูตินเรื่องวัคซีน อีก 2 วันมีวัคซีนแล้ว แต่รอบนี้พูดถึงพิมรี่พาย เราจะอยู่อย่างไร เป็นคนธรรมดา อยากอยู่แบบปลอดภัย พูดถึงแค่ 5 วินาที ตอนเช้าส่งของไปบริจาค 200,000 บาท เขาส่งกลับ ไม่ยอมรับของ”

การทำบุญ กับโครงสร้างสังคม

ต้องบอกว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาแต่ไหนแต่ไร ใครที่ได้รับความเดือดร้อน หรือประสบภัยพิบัติ ก็มีการช่วยเหลือกันเอง บริจาคกันเองมาโดยตลอด เพราะความมีน้ำใจ และมองว่าเป็นการช่วยเหลือพี่น้องด้วยกัน ยิ่งด้วยนิสัยคนไทยที่มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือ ยิ่งยุคปัจจุบันเป็นยุคโอนไว ย่อมได้เห็นคนได้รับบริจาคจำนวนหลายๆ ล้านอยู่บ่อยครั้ง

หลายคนมองว่าการทำบุญ บริจาคในทำนองนี้มันบิดเบี้ยวมาตั้งแต่โครงสร้างทางสังคม ถ้าหน่วยงานราชการ หรือรัฐบาลมีการบริหารจัดการที่ดี จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือที่ดี ก็สามารถเข้าถึงคนได้ทั่วประเทศ ลดการเหลื่อมล้ำได้ การบริจาคเป็นแค่ปลายเหตุเท่านั้น ไม่สามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

ทำให้การทำบุญ การทำความดี การบริจาค เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ CSR ของแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะแบรนด์เล็ก แบรนด์ใหญ่ เป็นอีกหนึ่งเครื่องมีในการ PR ภาพลักษณ์ของตนเองให้ดี เมื่อผู้บริโภคเห็นว่าแบรนด์นี้ได้ช่วยเหลือคน ก็จะรู้สึกดีไปด้วย

ล่าสุดวันนี้ เวลา 17.00 น. พิมรี่พาย ได้ไลฟ์สดขายของเช่นเคย และได้ชี้แจง พร้อมกล่าวขอโทษลุงโทนี่

“หลังจากพูดพาดพิงไป โดยชี้แจงแล้วเมื่อวานว่าไม่อยากเป็นเครื่องมือทางการเมืองของใคร ซึ่งสืบเนื่องจากไลฟ์สดเมื่อวานนี้ อยากบอกว่าหากพูดจาพาดพิงถึงคุณทักษิณ หรือลุงโทนี่ ด้วยถ้อยคำที่ขาดสติ ทำให้ประชาชนไม่พอใจ พิมจึงอยากพูดแบบเด็กพูดกับผู้ใหญ่ว่า กราบขอโทษคุณทักษิณและประชาชนที่พิมปากไว และจากนี้จะพูดจาและไตร่ตรองให้มากกว่านี้ โดยจะเป็นเด็กที่น่ารักกว่านี้”

สุดท้ายแล้วแบรนด์ “พิมรี่พาย” จะพังหรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ เพราะขึ้นอยู่กับการตีความ และความพอใจของแต่ละคน เมื่อเธอลงคลิปความดี คนอาจจะหายโกรธแล้วลืมเรื่องราวต่างๆ ก็ได้ หรือบางคนอาจจะเลิกติดตามไปเลยก็ได้…
]]>
1333109
‘Nike’ บริจาครองเท้า ‘Air Zoom Pulse’ 30,000 คู่ ให้บุคลากรทางการเเพทย์ใส่สู้ COVID-19 https://positioningmag.com/1276839 Tue, 05 May 2020 07:33:24 +0000 https://positioningmag.com/?p=1276839 จนถึงปัจจุบัน Nike และมูลนิธิ Nike ได้ทุ่มเงินกว่า 25 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการช่วยเหลือหลาย ๆ ส่วนที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ล่าสุด Nike ได้บริจาครองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับบุคลากรทางการแพทย์กว่า 30,000 คู่ให้กับโรงพยาบาลในเมืองต่าง ๆ ทั่วสหรัฐอเมริกา

Photo : Sneakernews

Nike ร่วมมือกับ Good360 องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่เชี่ยวชาญด้านการกระจายสิ่งของอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อช่วยส่งมอบรองเท้าให้กับบุคลากรทางการแพทย์ใน ชิคาโก ลอสแองเจลิส เมมฟิสและนิวยอร์กซิตี้ โดย Nike ได้บริจาค ‘Air Zoom Pulse’ รองเท้าที่เคยเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2562 ซึ่งถือเป็นรองเท้ารุ่นแรกที่ออกแบบมาสำหรับผู้ทำอาชีพด้านการดูแลสุขภาพ ซึ่งเป็น ‘ฮีโร่ในทุกวัน’ เนื่องจากบุคลากรเหล่านี้ ต้องใช้เท้าเป็นเวลานานในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเดิน ยืน Nike กล่าว

ขณะที่โรงพยาบาลทั่วยุโรป รวมถึงบาร์เซโลนา เบอร์ลิน ลอนดอน มิลาน ปารีส และเบลเยียม Nike ได้บริจาคเพิ่มอีก 2,500 คู่

ที่ผ่านมา Nike ได้ร่วมกับ OHSU ทำในการผลิตภัณฑ์ Face Shield ปกป้องทั้งใบหน้าจากการกระเด็นของของเหลว และเลนส์สำหรับใช้กับหมวกป้องกันเชื้อแบบเต็มใบ โดยเลนส์นี้สามารถกรองอากาศบริสุทธิ์ได้ด้วยฟังก์ชัน PAPR (Powered Air-purifying Respirator)

ปัจจุบัน ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อ COVID-19 มากกว่า 3.5 ล้านราย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 251,000 คน

Photo : Sneakernews

Source

]]>
1276839
“ชงเพื่อหมอ” กาแฟในขวดระบุชื่อผู้ให้ ส่งต่อกำลังใจแด่แพทย์-พยาบาลจาก “คาซ่า ลาแปง” https://positioningmag.com/1276096 Wed, 29 Apr 2020 16:20:35 +0000 https://positioningmag.com/?p=1276096 “คาซ่า ลาแปง” เปิดกิจกรรมส่งเครื่องดื่มเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ในชื่อโครงการ “ชงเพื่อหมอ” โดย 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ร้านกาแฟสเปเชียลตี้แห่งนี้ส่งเครื่องดื่มให้หมอ-พยาบาลไปแล้วกว่า 5,000 ขวด ล่าสุดคาซ่า ลาแปง อัปเกรดขวดลายใหม่น่ารักๆ ที่สามารถระบุชื่อผู้ร่วมบริจาคลงไปได้ด้วย

โครงการ “ชงเพื่อหมอ” ของ คาซ่า ลาแปง ร้านกาแฟในเครือเจมาร์ท เริ่มขึ้นตั้งแต่ 3 สัปดาห์ก่อน โดยร้านจัดทำเครื่องดื่มเพื่อบริจาคให้กับเหล่าคุณหมอและพยาบาล และเปิดโอกาสให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคกันได้ คาซ่า ลาแปงระบุว่าได้ส่งมอบกำลังใจเหล่านี้ไปแล้วกว่า 5,000 ขวดตลอดการดำเนินโครงการ

ล่าสุด ร้านคาซ่า ลาแปงยังอัปเกรดบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ด้วย จากเดิมติดสติกเกอร์ของร้านเท่านั้น กลายมาเป็นลายบนขวดระบุว่า “ขอบคุณที่เสียสละเพื่อเรา จาก… #ไม่ขายแต่อยากให้” และ “รู้นะ…ว่าเหนื่อย เราจะผ่านมันไปด้วยกัน จาก… #ไม่ขายแต่อยากให้” สร้างกำลังใจที่ดีให้กับบุคลากรการแพทย์ และยังมีกิมมิกน่ารักๆ ให้ผู้ร่วมบริจาค สามารถระบุชื่อของตนเพื่อให้พนักงานร้านเขียนชื่อลงไปในช่องว่างบนขวดได้ด้วย

ขวดแบบใหม่ในโครงการ “ชงเพื่อหมอ” จากคาซ่า ลาแปง

สำหรับผู้ที่สนใจยังร่วมบริจาคแบบไม่มีขั้นต่ำได้เหมือนเดิม เพื่อสมทบทุนให้โครงการชงเพื่อหมอที่คาซ่า ลาแปงจะจัดทำบริจาควันละ 200 แก้ว ส่วนท่านที่สนใจบริจาคแบบระบุชื่อบนขวด สามารถสั่งเป็นเซตได้ในราคา 10 ขวด 400 บาท มีให้เลือกรสชาติ 6 รายการ ได้แก่ Americano, Coffee Thai Style, Nutty Latte, Thai Milk Tea, Pink Guava และ Honey Lemon

ติดต่อได้ที่ Facebook : Casa Lapin Specialty Coffee หรือ Instragram : @casalapin หรือ Line Official : @casalapin (มี @นำหน้า)

รีวิวจากคุณหมอตัวจริง

การออกแบบลายให้สามารถระบุชื่อผู้ส่งกำลังใจได้ น่าจะช่วยให้ทั้งผู้รับและผู้ให้ได้ใกล้ชิดกันทางจิตใจมากขึ้น แม้จะไม่ได้ไปส่งสิ่งของบริจาคด้วยตนเองก็ ‘connect’ กันได้นะ

]]>
1276096
‘Microsoft’ เตรียมเปิดรับบริจาค ‘เกล็ดเลือด’ จากผู้ที่หายจาก ‘COVID-19’ เพื่อคิดค้นยารักษา https://positioningmag.com/1274137 Sun, 19 Apr 2020 06:00:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1274137 Microsoft กำลังให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังระหว่างกลุ่มบริษัทยาที่ร่วมมือกันเพื่อรับสมัครผู้ป่วยที่ฟื้นตัวจาก COVID-19 เพื่อบริจาค ‘พลาสม่า’ หรือ ‘เกล็ดเลือด’ เพื่อนำไปพัฒนาเป็นยาต่อไป

ภาพจากรอยเตอร์

Convalescent plasma หรือการนำเลือดที่มีโปรตีนภูมิคุ้มกันมาใช้ทำยา เป็นวิธีการที่มีอายุหลายทศวรรษที่มีศักยภาพมาก แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง ดังนั้น Microsoft จึงเตรียม ‘plasmabot’ หรือ chatbot ที่ประกอบด้วยชุดคำถามหลายชุด ที่จะช่วยพิจารณาว่าผู้ที่บริจาคเป็นผู้สมัครที่เหมาะสมหรือไม่ นอกจากนี้ Plasmabot ยังจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนและนำพวกเขาไปยังไซต์ใกล้เคียงที่พวกเขาสามารถบริจาคได้อย่างปลอดภัย

“การใช้พลาสมาพักฟื้น เป็นวิธีการรักษาเป็นความคิดที่มีอายุหลายทศวรรษ เมื่อผู้ป่วยฟื้นจากโรค พวกเขาผลิตแอนติบอดี้เพื่อต่อสู้กับการปรากฏตัวของแอนติเจนที่ทำให้เกิดโรค และโปรตีนเหล่านั้นจะยังคงอยู่ในเลือดเป็นเวลาไม่กี่เดือน”

BANGKOK, THAILAND – 2020/04/05: A nurse wears a protective mask holds a plasma blood bag from a donor at Thai Red Cross Society.
Thai Red Cross has requested to donate plasma blood from patient recovered from COVID-19 . (Photo by Adisorn Chabsungnoen/SOPA Images/LightRocket via Getty Images)

Peter Lee หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Microsoft กล่าวว่า เป้าหมายคือ การรับสมัคร plasma ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าเราได้รับผลกระทบหรือใกล้จะถึงจำนวนคดีที่สูงที่สุดในหลายเมือง เขากล่าวว่า บริษัท สนับสนุนความพยายามของพันธมิตร plasma ที่เกิดขึ้นจากบริษัทต่าง ๆ เช่น Octapharma, Takeda, CSL Behring และอื่น ๆ โครงการดังกล่าวเริ่มขึ้นในปลายเดือนมีนาคม โดยมีมูลนิธิ Bill & Melinda Gates เป็นที่ปรึกษา

หลังจากทำวิจัยของตัวเอง Lee กล่าวว่า เขาเชื่อว่ามันมี ‘ศักยภาพในการช่วยชีวิต’ ดังนั้น บริษัท จึงจัดสรรทรัพยากรด้านคอมพิวเตอร์และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ รวมถึงความสามารถด้านวิศวกรรม นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริม plasmabot ผ่านเว็บไซต์และเป็นการค้นหาเว็บและช่องทาง Social

BANGKOK, THAILAND – 2020/04/05: A nurse wears a protective mask takes plasma blood sample from a donor during blood donation.
Thai Red Cross has requested to donate plasma blood from patient recovered from COVID-19 . (Photo by Adisorn Chabsungnoen/SOPA Images/LightRocket via Getty Images)

อย่างไรก็ตาม Lee ตั้งข้อสังเกตว่า วิธีการนี้จะไม่ได้มาทดแทนการรักษาเต็มรูปแบบ เช่น วัคซีน แต่วัคซีนอาจใช้เวลานานกว่าหนึ่งปีในการพัฒนาและในพลาสม่าอาจช่วยบรรเทาผู้ป่วยที่ป่วยได้ทันทีและอาจมีการป้องกันบางอย่าง (แม้ว่าจะยังไม่เข้าใจ) สำหรับบุคคลากรแนวหน้าทางการแพทย์

Source

]]>
1274137
นักธุรกิจ-ผู้บริจาคในเวียดนามตั้ง “ตู้ ATM แจกข้าว” ช่วยคนตกงานจากผลกระทบ COVID-19 https://positioningmag.com/1273500 Wed, 15 Apr 2020 05:37:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1273500 เวียดนามทยอยติดตั้ง “ตู้ ATM แจกข้าว” จากการบริจาคของนักธุรกิจและผู้มีจิตศรัทธา โดยติดตั้งไปแล้วในเมืองฮานอยและเว้ ให้ประชาชนที่เดือดร้อนจากไวรัส COVID-19 สามารถมารับข้าวสารฟรีได้คนละ 2 กิโลกรัม

เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากไวรัส COVID-19 น้อยมาก โดยขณะนี้มีผู้ติดเชื้อเพียง 265 ราย และยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เวียดนามสามารถควบคุมการระบาดได้เนื่องจากรัฐบาลเร่งปิดทำการกิจการขนาดเล็กจำนวนมาก และส่งเสริมการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งทำให้คนหลายพันคนต้องตกงาน

จากเหตุการณ์นี้ทำให้นักธุรกิจและผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเพื่อติดตั้งตู้ ATM แจกข้าวสารฟรีในหลายเมืองของเวียดนาม เริ่มจากเมือง ฮานอย ที่เปิดแท็งก์แจกข้าวสารฟรีตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น. ของทุกวัน โดยมีกฎเพียงว่าผู้รับบริจาคต้องยืนเข้าคิวห่างกัน 2 เมตรและล้างมือก่อนรับข้าวสาร ปรากฏว่าแค่เพียงวันแรกมีประชาชนขอรับบริจาคข้าวสาร 700 คน แจกข้าวไป 2.3 ตันในวันเดียว

โมเดลเดียวกันนี้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักธุรกิจในเมืองอื่นด้วย เช่น เมืองเว้ ทางตอนกลางของเวียดนาม เริ่มมีแท็งก์แจกข้าวสารฟรีจากผู้ร่วมบริจาคในเมือง ขณะที่สมาคมผู้ประกอบการหนุ่มสาวแห่งเมืองดานัง ร่วมรณรงค์รับบริจาคข้าวสารมาได้ 40 ตัน และจะติดตั้งแท็งก์แจกข้าวสารฟรี 2 แห่งในเมืองดานัง

เลยไปถึง โฮจิมินห์ เมืองหลวงที่ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ นักธุรกิจรายหนึ่งระดมรับบริจาคข้าวได้ 10 ตันเพื่อแจกผ่านแท็งก์แจกข้าวสารและจะเปิด 24 ชั่วโมง

แท็งก์ ATM แจกข้าวสารนี้จะเปิดบริการจนถึง 30 เมษายน 63 หรือจนกว่าข้าวสารบริจาคจะหมด ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานวิธีการป้องกันไม่ให้บุคคลเดิมรับข้าวสารบริจาคซ้ำ แต่ก่อนเข้าคิวจะต้องลงทะเบียนตัวตนกับพนักงานก่อน

Source: CNN, Hanoi Times

]]>
1273500
เล็กใหญ่ไม่สำคัญ! รวมรายชื่อบริษัท “บริจาค” เงิน-สิ่งของ-ความช่วยเหลือ สู้ไวรัส COVID-19 https://positioningmag.com/1272152 Wed, 08 Apr 2020 08:37:35 +0000 https://positioningmag.com/?p=1272152 นาทีนี้ คนที่ยังพอมีกำลังช่วยเหลือได้ต่างร่วมบริจาคเงินและสิ่งของให้กับหน่วยงานทางการแพทย์ เพื่อช่วยกันรับมือโรคระบาดไวรัส COVID-19 รวมถึงภาคเอกชนหลายบริษัทที่ร่วมกันบริจาคตามกำลัง ไม่ว่าการบริจาคจะมากน้อยหรือบริษัทจะเล็กใหญ่ Positioning ขอรวบรวมไว้ในบทความนี้เพื่อเผยแพร่สู่สาธารณชนรับทราบ บอกก่อนเลยว่าลิสต์คนใจดีของเรายาวมาก!

 

กลุ่มสินค้าอุปโภค

  • บริษัท คิงส์แพ็ค อินดัสเตรียล จำกัด ผู้ผลิตถุงขยะตรา Hero บริจาคถุงขยะ 5 แสนใบให้กับกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และเปิดให้โรงพยาบาลติดต่อขอรับถุงขยะรวม 1 ล้านใบ ช่วยจัดการขยะติดเชื้อ
  • กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย บริจาคสบู่ 1.2 แสนก้อน และเจลล้างมือแอลกอฮอล์ 30,000 หลอด ให้กับยูนิเซฟเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับเด็กและเยาวชนกลุ่มเปราะบาง และบริจาคเจลล้างมือแอลกอฮอล์ สบู่ ผลิตภัณฑ์ซักผ้า และอาหารแห้ง รวมมูลค่า 40 ล้านบาท ให้กับกระทรวงสาธารณสุขนำส่งโรงพยาบาลในสังกัด นอกจากนี้ แบรนด์ วาสลีน ในเครือเดียวกัน ยังมอบเจลล้างมือแอลกอฮอล์ 1 แสนชิ้น มูลค่ารวม 5.9 ล้านบาท ให้กับสถานพยาบาล เช่น สถาบันบำราศนราดูรและโรงพยาบาลราชวิถี
  • บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ นีเวีย และ ยูเซอริน บริจาคแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ 20,000 ลิตร ให้โรงพยาบาล 1,000 แห่งทั่วไทย รวมถึงสถานสงเคราะห์บ้านเด็กกำพร้าและเด็กด้อยโอกาส ทั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก DHL เพื่อจัดส่งให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
  • บมจ.ซีพีแอล กรุ๊ป ผู้ผลิตหนังวัวฟอกสำเร็จ บริจาคอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัย ประกอบด้วย ชุดป้องกันสารเคมีจำนวน 1,800 ชุด Face Shield 200 ชุด หน้ากากอนามัย 1,000 ชิ้น หน้ากาก N-95 จำนวน 200 ชิ้น และ Rain Sock สวมคลุมรองเท้า 500 คู่ รวมมูลค่า 8 แสนบาท ให้กับโรงพยาบาลรามาธิบดี
  • บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย จัดโครงการเย็บหน้ากากผ้าให้โรงพยาบาล โดยบริษัทจัดเตรียมอุปกรณ์จักรเย็บผ้า ผ้า ยางยืด และมีครูสอนการเย็บให้ประชาชนร่วมกันเย็บหน้ากาก โดยจัดส่งให้โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลตำรวจแล้ว 5,000 ชิ้น (โครงการต่อเนื่อง และเปิดรับคำขอรับบริจาคจากทุกโรงพยาบาล)
  • บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด มอบเงินบริจาครวม 3.6 ล้านบาทให้กับโรงพยาบาล 7 แห่ง
  • Protex มอบสบู่ 1 ล้านก้อน มูลค่ารวม 3.46 ล้านบาท ให้กับหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร

กลุ่มเกษตร-อาหาร-เครื่องดื่ม

  • กลุ่มมิตรผล มอบแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อและเจลล้างมือแอลกอฮอล์ซึ่งผลิตจากเอทานอลที่ได้จากอ้อย
    มูลค่ารวม 7.2 ล้านบาท ให้กับสถานพยาบาล สถานศึกษา และหน่วยงานราชการใน 20 จังหวัด
  • บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด บริจาคเงิน 1 ล้านบาทให้กับมูลนิธิรามาธิบดี
  • ซีพีเอฟ ส่งอาหารให้กับบุคลากรการแพทย์ในโรงพยาบาล 88 แห่ง และผู้อยู่ระหว่างกักตัว 20,000 คน
  • หมูทอดเจ๊จง ผลิตข้าวกล่องส่งสถาบันบำราศนราดูรและโรงพยาบาลศิริราช วันละ 1,300 กล่อง โดยได้รับสนับสนุนเนื้อหมูจาก เบทาโกร และข้าวสารจาก ข้าวตราฉัตร
  • กลุ่มธุรกิจ TCP ส่งมอบหน้ากากผ้า 1.2 แสนชิ้น ให้กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์และโรงพยาบาลที่ขาดแคลนทั่วประเทศ รวมถึงแจกแก่ประชาชนทั่วไป
  • บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด บริจาคเงินรวม 50 ล้านบาทให้กับโรงพยาบาลรัฐ 25 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้จะสนับสนุนอาหารและน้ำดื่มสิงห์ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ เพิ่มเติม
  • บริษัท แลคตาซอย จำกัด มอบผลิตภัณฑ์นมถั่วเหลืองแลคตาซอย โกลด์ซีรีย์ ให้กับโรงพยาบาลและสถาบันทางการแพทย์ 8 แห่ง รวม 55,056 กล่อง มอบนมถั่วเหลืองซังซัง 2 ล้านกล่อง รวมมูลค่า 10 ล้านบาท กระจายให้โรงพยาบาล 441 แห่งทั่วประเทศ
  • บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หนึ่งในเครือ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ หอการค้าไทย และ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย บริจาคเงินและอาหาร-เครื่องดื่มของโออิชิ กรุ๊ป ให้กับโรงพยาบาล 7 แห่ง รวมมูลค่า 24 ล้านบาท
  • อันอันเหลา มอบอาหารปรุงสุกพร้อมเครื่องดื่มให้กับโรงพยาบาลต่างๆ เช่น โรงพยาบาลราชวิถี สถาบันบำราศนราดูร สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ (มหิดล บางพลี) จำนวนกว่า 3,000 ชุด
  • เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป บริจาคอาหารจากร้านเอ็มเคสุกี้และร้านยาโยอิ จำนวน 5,500 กล่องต่อวัน ให้กับโรงพยาบาล 25 แห่งใน 16 จังหวัด ต่อเนื่องถึง 30 เม.ย. 63 และมอบเงิน 10,000,000 บาทสนับสนุนการพัฒนาชุดคัดกรอง COVID-19 คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • บริษัท โฮปฟูล จำกัด มอบเครื่องช่วยหายใจมูลค่ากว่า 7 แสนบาท แก่โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่
  • เบทาโกร มอบเงินบริจาคจำนวน 5,000,000 บาท เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ พร้อมมอบเจลแอลกอฮอล์ 5,000 ขวด ให้กับโรงพยาบาล 5 แห่ง, มอบวัตถุดิบอาหารสดแช่แข็ง กว่า 30,000 กิโลกรัม
  • โคคา-โคล่า ประกาศหยุดโฆษณาเป็นการชั่วคราว และจับมือมูลนิธิชัยพัฒนา ร่วมสนับสนุน “กองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด 19 (และโรคระบาดต่างๆ)” มอบเงินสมทบกองทุนเบื้องต้น 25 ล้านบาท
  • บริษัท กรีนสปอต จำกัด ส่งนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์ และวีซอย 500,000 กล่อง ให้โรงพยาบาล 46 แห่งทั่วประเทศ
  • ไทย โคโคนัท มอบเครื่องช่วยหายใจชนิดอัตราการไหลสูง และเครื่องวัดความดัน มูลค่า 600,000 บาท พร้อมน้ำมะพร้าวแท้ 100% พร้อมดื่ม “โคโค่บุรี”  1 แสนขวด ให้กับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์
  • กลุ่มบริษัท พัทยาฟู้ด ภายใต้แบรนด์ นอติลุส, มงกุฎทะเล และ ซีคราวน์ ส่งมอบมื้ออาหารปรุงสดใหม่ให้กับทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ของศูนย์ COVID19 โรงพยาบาลราชวิถี ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน
  • เจียไต๋ ส่งมอบผัก ผลไม้สด 6,000 กิโลกรัม ให้บุคลากรทางการแพทย์ พร้อมแจกเมล็ดพันธุ์ผักคุณภาพ 2,500 ซองผ่านทางเฟซบุ๊ก Chia Tai Home Garden ให้กับประชาชนที่สนใจระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 10 เมษายน 2563 ให้คนไทยปลูกผักอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ
  • บริษัท เนเชอรัล เบฟ จำกัด มอบ P80 Natural Essence มูลค่ารวม 20 ล้านบาท ให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ
  • บ้านดุสิตธานี มอบอาหารกล่องให้บุคลากรทางการแพทย์ รพ.จุฬาลงกรณ์
  • บริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) มอบข้าวกล่องร้านแซ่บ คลาสสิกมูลค่า 100,000 บาท
  • กลุ่มบริษัททีเอพี บริจาคแอลกอฮอล์ 70% จำนวน 300 ลิตร หรือกว่า 80 แกลลอน ให้กับอบต.ไทรใหญ่ และอบต.ราษฎร์นิยม

กลุ่มอสังหาริมทรัพย์-ก่อสร้าง

  • บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด หรือ SAM มอบเงินบริจาค 2 แสนบาทให้กับโรงพยาบาลราชวิถี
    และผู้บริหาร-พนักงานองค์กรสมทบเงินบริจาคเพิ่มอีก 144,825 บาท
  • บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ บริจาคเงินและหน้ากากอนามัย รวมมูลค่า 1 ล้านบาทให้กับโรงพยาบาลรัฐ 9 แห่ง
  • เครือ LPN : บริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) เปิดพื้นที่คอนโดมิเนียม 16 แห่งในความดูแลเป็นจุดรับบริจาคโลหิตของสภากาชาดไทย ขณะที่ บริษัท แอล พี ซี วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด (LPC)  ผลิต Face Shield จำนวน 5,000 ชิ้น มอบให้กับโรงพยาบาลต่างจังหวัดตามภูมิลำเนาของพนักงานบริษัท LPC
  • บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัลรีเทล สนับสนุนการผลิตอุปกรณ์ครอบเพื่อป้องกันแพร่เชื้ออันเกิดจากการไอ จาม ของผู้ป่วย ส่งมอบให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
  • มูลนิธิร่วมทางฝัน ในเครือ เสนาดีเวลลอปเม้นท์ บริจาคเงิน 5 ล้านบาทให้กับโรงพยาบาลรามาธิบดี
  • เครือ ช.การช่าง บริจาคเงินรวม 6 ล้านบาท ให้แก่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดล และร่วมกับอีก 3 กลุ่มเอกชน คือ สโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด, มูลนิธิวิชัยศรีวัฒนประภา และ บริษัทพลังงานบริสุทธิ์จำกัด (มหาชน) หรือ EA ทำประกันภัยโควิด-19 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 50,000 กรมธรรม์
  • บมจ.สิงห์ เอสเตท จัดทำ Face Shield 2,400 ชิ้น บริจาคให้กับโรงพยาบาลหัวหิน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
  • บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ให้อาคารโรงพยาบาลเมืองเพชร ซึ่งเป็นทรัพย์ NPA ใช้เป็นโรงพยาบาลสนามใน จ.เพชรบูรณ์ พร้อมมอบเงินบริจาค 5 แสนบาทให้กับ จ.เพชรบูรณ์
  • บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด ผู้ผลิตเหล็กเอชบีม ไวด์แฟลงก์ มอบเงินสนับสนุนจำนวน 350,000 บาท เพื่อจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์

กลุ่มโลจิสติกส์-ขนส่ง

  • ไปรษณีย์ไทย เปิดให้ประชาชนส่งสิ่งของเพื่อบริจาคให้กับโรงพยาบาลได้ฟรี (ไม่รวมค่ากล่อง) จนถึงวันที่ 30 เม.ย. 63
  • ลาลามูฟ เปิดให้หน่วยงานทางการแพทย์ทั้งรัฐและเอกชน ขอรับบริการขนส่งอุปกรณ์การแพทย์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
  • BEST Express มอบกล่องฟรี 10,000 กล่องให้ลูกค้าที่ต้องการบริจาคส่งสิ่งของให้โรงพยาบาล (เฉพาะลูกค้าพื้นที่ภาคใต้ยกเว้นภูเก็ต และลูกค้า จ.ลำปาง เพิ่มเติมค่าจัดส่งฟรีให้ด้วย) พร้อมกันนี้ ได้สนับสนุน “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ในการจัดส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปยังโรงพยาบาล 30 แห่ง โดยมอบกล่อง 50 ชิ้นและรับขนส่งให้
  • ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มอบเงิน 4 ล้านบาท และมูลนิธินายแพทย์สมยศ อนันตประยูร 1 ล้านบาท แก่ศิริราชมูลนิธิ กองทุนศิริราชกู้ภัยโควิด รวมเป็นเงิน จำนวน 5 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์

กลุ่มธุรกิจการเงิน-ประกัน

  • ธนาคารยูโอบี (ไทย) มอบชุดป้องกันเชื้อโรค (PPE) 1,000 ชุดให้กับโรงพยาบาลราชวิถี
  • ธนาคารไทยพาณิชย์ บริจาคเงินรวม 5 ล้านบาทให้โรงพยาบาล 5 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช
    โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี สถาบันบำราศนราดูร และ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
  • ธนาคารกรุงเทพ บริจาคเงินรวม 40 ล้านบาทให้กับโรงพยาบาล 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
  • ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มอบเงินบริจาค 1 แสนบาท ให้กับสภากาชาดไทย
  • ธนาคารกรุงไทย มอบเงินบริจาค 1.9 ล้านบาท ให้กับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
  • FWD ประกันชีวิต บริจาคเงิน 5 แสนบาทให้กับโรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี จ.ปทุมธานี
  • KTC มอบเงิน 2 ล้านบาทให้กับโรงพยาบาลรามาธิบดีฯ สนับสนุนการจัดซื้อเครื่องไตเทียมแบบพิเศษ CRRT เพื่อผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะ พร้อมเปิดรับคะแนนสะสมเพื่อเปลี่ยนเป็นเงิบริจาคสมทบจากสมาชิกเคทีซี
  • TIC ไทยประกันภัยมอบทุนประกัน 8 ล้านบาท แก่ทีมแพทย์
  • บ้านปูฯ สนับสนุนเงิน 10.5 ล้านบาทให้แก่รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
  • อาคเนย์ มอบหน้ากากผ้า 2,000 ชิ้น แก่เจ้าหน้าที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว-โรงแรม

  • Airbnb ร่วมกับโฮสต์เจ้าของที่พัก เปิดห้องพักรอบโลกให้บุคลากรทางการแพทย์พักฟรี 1 แสนคน(รวมประเทศไทย)
  • โอโย ประเทศไทย เปิดที่พักให้บุคลากรทางการแพทย์เข้าพักฟรี ในกทม. และชลบุรี

กลุ่มธุรกิจพลังงาน

  • บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ บริจาคเงินรวม 9 ล้านบาทให้กับโรงพยาบาล 3 แห่ง ได้แก่ รพ.ราชวิถี สถาบันบำราศนราดูร และสถาบันโรคทรวงอก
  • กลุ่ม ปตท. : PTT บริจาคเงิน 1 ล้านบาทให้กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, จัดหาแอลกอฮอล์ทางการแพทย์ประมาณ 150,000 ลิตร ให้แก่หน่วยงานทางการแพทย์, ผู้บริหารและพนักงานของกลุ่ม ปตท.ร่วมกันบริจาคโลหิต จำนวน 115,300 ซีซี ตลอดเดือนมีนาคม, ส่งมอบหน้ากากอนามัยจากผ้า จำนวน 10,000 ชิ้นดูแลผู้สูงอายุ , PTTGC สนับสนุนเสื้อกาวน์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Disposable Gown) ให้บุคลากรทางการแพทย์จำนวน 91,000 ชุด แก่ 61 โรงพยาบาลใน 24 จังหวัดทั่วประเทศ, ปตท.สผ. มอบเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแรงดันลบ 100 เตียง และกล่องทำหัตถการแรงดันลบ 90 กล่อง ให้กับคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล, OR แจกเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือ แก่ผู้ที่ใช้บริการ PTT Station จำนวน ล้านชิ้น ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ, แจกน้ำดื่มขนาด 35 มิลลิลิตร จำนวน ล้านขวด มอบให้กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับส่งอาหาร รวมถึงรถมอเตอร์ไซด์ทุกคันที่เข้ามาใช้บริการ, มอบกาแฟดริป Cafe Amazon จำนวนรวม 30,000 ซอง ให้แก่ สถาบันทางการแพทย์
  • บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนแอลกอฮอล์จำนวน 3,000 ลิตร แก่กระทรวงพลังงาน เพื่อนำไปใช้สนับสนุนงานด้านสาธารณสุขใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมระดมจิตอาสาทำ Face shield จำนวน 5,000 ชิ้น มอบสาธารณสุขจังหวัดเพื่อนำไปให้โรงพยาบาลที่ขาดแคลน และส่งมอบเครื่องให้อากาศผสมออกซิเจน จำนวน 10 เครื่อง แก่ 5 โรงพยาบาลใน จ.ชลบุรี
  • บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) มอบผ้าแก่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพื่อใช้สำหรับตัดชุด PPE จำนวน 10,000 ชุด และมอบแอลกอฮอล์ล้างมือ จำนวน 120 ลิตร แก่โรงพยาบาลระยองและสำนักงานที่ดิน
  • บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนการพัฒนาชุดตรวจโควิด-19 ให้แก่ VISTEC ร่วมบริจาค Face Shield จำนวน 1,000 ชิ้น พร้อมชุด PPE จำนวน 500 ชุด และหน้ากาก N95 จำนวน 1,000 ชิ้น และหน้ากากผ้า 2,000 ชิ้น ให้หน่วยงานต่างๆ ใน จ.ระยอง พร้อมบริจาคผ้าเพื่อตัดเย็บชุด PPE จำนวน 900 ชุด ให้แก่โรงพยาบาลปัตตานี
  • บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) มอบเงินบริจาคจำนวน 6,500,000 บาท สนับสนุนการทำประกันชีวิตให้กับบุคลากรทุกท่านของโรงพยาบาลรามาธิบดี

กลุ่มธุรกิจรีเทล ขายตรง อีคอมเมิร์ซ

  • บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด บริจาคเงิน 1.32 ล้านบาทให้กับมูลนิธิรามาธิบดี
  • มูลนิธิวิชัยศรีวัฒนประภา (คิง เพาเวอร์) บริจาคเงิน 20 ล้านบาทให้กับสถาบันบำราศนราดูร และอีก 20 ล้านบาทให้กับโรงพยาบาลรามาธิบดี
  • มูลนิธิแจ็ค หม่า และมูลนิธิอาลีบาบา บริจาคหน้ากากอนามัยจำนวน 2 ล้านชิ้น ชุดตรวจโรค 150,000 ชุด ชุดป้องกันเชื้อโรค 20,000 ตัว และอุปกรณ์ป้องกันใบหน้า 20,000 ชิ้นไปยังอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย
  • มูลนิธิตลาดยิ่งเจริญ มอบเงิน 2 ล้านบาทจากค่าสมัครโครงการ “วิ่งติดปีก แชริตี้รัน” ให้กับกรมแพทย์ทหารอากาศ เพื่อโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช และโรงพยาบาลทหารอากาศ (สีกัน)
  • Sea (ประเทศไทย) เจ้าของบริการ Shopee, เกมออนไลน์ การีนา, บริการชำระเงิน Airpay บริจาคหน้ากาก N95 จำนวน 1,870 ชิ้น ไปยัง 2 โรงพยาบาลหลัก ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และ โรงพยาบาลรามาธิบดี
  • กลุ่มเซ็นทรัล บริจาคเงิน อุปกรณ์การแพทย์จำเป็น และอาหาร มูลค่ารวม 30 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาล 20 แห่งทั่วประเทศ
  • บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด บริจาคเงิน 1 ล้านบาท ให้กับสถาบันบำราศนราดูร
  • Pomelo มอบกำไรจากการจำหน่ายหน้ากากผ้าให้กับหน่วยงานสาธารณสุข เช่น สภากาชาดไทย สภากาชาดสิงคโปร์ และบริจาคหน้ากากอนามัย 40,000 ชิ้นให้กับสภากาชาดไทย
  • เดอะมอลล์ กรุ๊ป ตั้งโครงการ “เดอะมอลล์ กรุ๊ป – รพ. ราชวิถี รวมใจเพื่อคนไทย ปลอดโควิด-19” ร่วมกับพันธมิตรหลายฝ่าย บริจาคเงินตั้งต้น 1.68 ล้านบาท เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์จำเป็น
  • กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี มอบแอลกอฮอล์ ภายใต้แบรนด์ BJC Hygienist จำนวน 1,000 ลิตร
  • อาร์เอส กรุ๊ป มอบเงิน 2 ล้านบาท จัดซื้อเครื่องช่วยหายใจแก่โรงพยาบาลตำรวจ
  • กลุ่มบริษัทเอสบี เฟอร์นิเจอร์ มอบ หน้ากากอนามัย จำนวน 3,000 ชิ้น ให้แก่สำนักงานเหล่ากาชาด จังหวัดนนทบุรี
  • บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) มอบเงินจำนวน 200,000 บาท และน้ำดื่มสนับสนุนโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
  • เทสโก้ โลตัส มอบชุดของขวัญทั้งหมด 7,000 ชุดให้กับ 30 โรงพยาบาลทั่วประเทศ

กลุ่มธุรกิจไอที

  • ทรู มอบแท็บเล็ต True Smart และเครื่อง True Smart 4G Adventure จำนวนรวม 600 เครื่อง ซิมทรูมูฟ เอช ไม่จำกัดปริมาณการใช้งานแก่โรงพยาบาล 50 แห่งทั่วประเทศ, พัฒนาแพลตฟอร์มระบบคัดกรองเบื้องต้น ประเมินความเสี่ยงติดเชื้อแก่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ติดตั้งระบบ VDO Conference เพื่อให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญใช้สื่อสารและให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วยที่พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน รวมทั้งใช้ในการเรียนการสอนทางไกลแก่นิสิตแพทย์จุฬาฯ, ติดตั้งโครงข่าย True 5G เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ และนำ True 5G ควบคุมการเชื่อมต่อหุ่นยนต์ขนส่งอัจฉริยะ (Quarantine Delivery Robot) ผ่านระบบสื่อสารทางไกล เพื่ออำนวยความสะดวกและลดความเสี่ยงให้หมอและพยาบาล ซึ่งได้มีการใช้งานจริงแล้วในโรงพยาบาลหลายแห่ง, มอบซิม “ฮีโร่ไทย Fight โควิด” จากทรูมูฟ เอช แก่บุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 2,000 ซิม, มอบ “ซิมกักตัว ไม่กลัวเหงา” จำนวน 20,000 ซิมฟรี ดูแลคนไทยผู้เสี่ยง
  • เอไอเอส วางเครือข่าย 5G ในโรงพยาบาล 20 แห่ง และจะทยอยติดตั้งเพิ่มให้ครบ 158 แห่งภายในเดือนเมษายนนี้, ตั้งศูนย์ AIS Robotic Lab วิจัยพัฒนาหุ่นยนต์ทางการแพทย์, ส่งมอบหุ่นยนต์การแพทย์ Robot For Care 21 ตัวให้กับโรงพยาบาล 20 แห่ง รวมมูลค่า 100 ล้านบาท

อื่นๆ

  • อเมริกันสแตนดาร์ด มอบเจลแอลกอฮอล์ล้างมือจำนวนมากกว่า 30,000 ขวด ให้หน่วยงานการแพทย์ หน่วยงานทหาร 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า
  • SUITCUBE จัดทำ Face Shield 5,000 ชิ้น บริจาคให้กับบุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาล
  • บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย บริจาคหน้ากากอนามัยจำนวน 5,000 ชิ้นให้แก่โรงพยาบาลและหน่วยงานทางการแพทย์ 5 แห่งในประเทศไทย
  • ฮอนด้า ประเทศไทย กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย ตั้งทีมเฉพาะกิจเปิดสายการผลิตในโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผลิตเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อแบบแรงดันลบ (Negative Pressure Mobile Bed) จำนวน 100 เตียง และสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์รวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท
  • กสทช. อนุมัติเงินสนับสนุนสถานพยาบาลและ รพ.ของรัฐ 1,294.98 ล้านบาท
  • บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มอบแอลกอฮอล์ 90% จำนวน 5,000 ลิตร ให้แก่กระทรวงสาธารณสุข
  • สำนักงานสลาก มอบเงินสนันสนุนให้โรงพยาบาล 5 แห่ง 5,000,000 บาท กับมูลนิธิรามาธิบดี, ศิริราชมูลนิธิ, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถีและสถาบันบำราศนราดูร
  • สยามคูโบต้า มอบเงิน 1,000,000 บาท สนับสนุนกรมควบคุมโรค และรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
  • บริษัท ไทยโตชิบาอุสาหกรรม จำกัด และบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด มอบเงิน พร้อมตู้เย็นแบบเคลื่อนที่ สำหรับใช้ในการแพทย์จำนวน 2 เครื่อง และหน้ากากอนามัย N95 จำนวน 100 ชิ้น มูลค่ารวม 2,121,000 บาท
]]>
1272152
เศรษฐีรวยสุดในโลก Jeff Bezos บริจาค 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ตั้งกองทุนสู้ปัญหาสภาพอากาศ https://positioningmag.com/1264902 Tue, 18 Feb 2020 09:58:45 +0000 https://positioningmag.com/?p=1264902 มหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก Jeff Bezos ประกาศบริจาคเงินกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.1 แสนล้านบาท) จัดตั้งกองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ชื่อว่า Bezos Earth Fund เพื่อช่วยศึกษาปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเเละภาวะโลกร้อน

Jeff Bezos ซีอีโอของบริษัทค้าปลีก Amazon และเจ้าของสื่อใหญ่อย่าง Washington Post เปิดเผยผ่าน
อินสตาเเกรมว่า “การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเป็นภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อโลกใบนี้”

โดยเขาพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน บริษัทขนาดใหญ่หรือเล็ก หรือหน่วยงานระดับสากลเพื่อศึกษาหนทางที่มีอยู่และหาหนทางใหม่เพื่อต่อสู้กับผลกระทบอันรุนแรงของปัญหานี้

สำหรับเงินทุนกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ก้อนนี้ จะนำไปใช้เพื่อช่วยสนับสนุนงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์
นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม และกลุ่ม NGO ซึ่งจะเริ่มอนุมัติเงินได้ตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนปีนี้เป็นต้นไป

ปัจจุบัน Jeff Bezos มีทรัพย์สินรวมกว่า 1.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ( 4.06 ล้านล้านบาท) การบริจาคครั้งนี้ นับเป็นเงินราว 7.7% ของเขา

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับมหาเศรษฐีที่ติดอันดับโลกหลายคนอย่าง Warren Buffett , Bill Gate เเละ Michael Bloomberg การบริจาคของ Bezos ที่ผ่านมายังถือว่าน้อย โดยการบริจาคครั้งที่ใหญ่ที่สุดก่อนหน้านี้คือการช่วยเหลือครอบครัวผู้ยากไร้เเละโรงเรียน ราว 2 พันล้านดอลลาร์เมื่อเดือน ก.ย. ปี 2018

Bezos ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์หลังเขาปฎิเสธไม่เข้าร่วมโครงการ The Giving Pledge หรือพันธสัญญาที่จะมอบเงินมากกว่าครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม

เมื่อปีที่เเล้ว Bezos ประกาศว่าบริษัท Amazon พร้อมจะสนับสนุนเป้าหมายของข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ให้เร็วขึ้นกว่าแผนที่วางไว้ 10 ปี รวมทั้งเพื่อบรรลุแผนทำให้โลกปลอดคาร์บอนภายในปี 2040 ใช้พลังงานหมุนเวียนให้ได้ 100% ภายในปี 2030 และใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อขนส่งสินค้า 100,000 คันภายในปี 2030

อ่านเพิ่มเติม : Amazon เริ่มใช้ “รถสามล้อไฟฟ้า” ส่งสินค้าในอินเดีย ตั้งเป้าถึงหมื่นคันในปี 2025

ก่อนหน้านี้ พนักงานของ Amazon หลายคนเรียกร้องให้บริษัทมีส่วนร่วมเชิงรุกมากขึ้นในการบรรลุเป้าหมายเรื่องการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ พร้อมขู่จะประท้วงหยุดงานเเละจะให้ความเห็นต่อสื่อสาธารณะด้วย

 

ที่มา : BBC , businessinsider

]]>
1264902