บล.บัวหลวง – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 27 Nov 2025 15:02:26 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 สรุปแนวทาง ‘ลงทุน’ ปี’69 โดย ‘บล.บัวหลวง’ ในวันที่หุ้นไทยยัง ‘เป็นรอง’ ในภูมิภาค ควรกระจายพอร์ตอย่างไรดี? https://positioningmag.com/1548809 Thu, 27 Nov 2025 04:02:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1548809 หลักทรัพย์บัวหลวง ประเมินทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2569 ว่าจะเริ่ม ทยอยฟื้นตัว อย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากที่ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันและปรับตัวลดลงกว่า 8% ในปี 2568 โดยมีปัจจัยบวกสำคัญที่เข้ามาช่วยพยุงเศรษฐกิจ คือ เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และการฟื้นตัวของ ภาคการท่องเที่ยว ทำให้คงเป้าหมายดัชนี SET Index ปี 2569 ที่ระดับ 1,440 จุด

ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 2569

การฟื้นตัวในปีหน้าจะได้รับแรงขับเคลื่อนหลักจาก 3 ปัจจัย ได้แก่

  1. FDI ในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต: การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศจะเริ่มลงทุนจริงต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่ม ดิจิทัล (Data Center) และ อิเล็กทรอนิกส์ (Semiconductor) ซึ่งได้รับอนุมัติจาก BOI ไปแล้ว
  2. ภาคท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก: คาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 34 ล้านคน โดยเฉพาะตลาดอินเดีย รัสเซีย และยุโรป ส่วนนักท่องเที่ยวจีนเริ่มฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำ
  3. ภาคการส่งออกพลิกฟื้น: การส่งออกคาดว่าจะผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 4 ปี 2568 และมีแนวโน้มจะ ฟื้นตัวในครึ่งหลังของปี 2569

กลยุทธ์การลงทุนที่แนะนำ: Barbell Strategy

บัวหลวงแนะนำให้นักลงทุนใช้ กลยุทธ์ Barbell Strategy เพื่อสร้างสมดุลและลดความผันผวนของพอร์ต โดยแบ่งการลงทุนออกเป็นสองด้าน คือ สินทรัพย์เสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำ:

  • ตลาดหุ้น (60%): เน้นหุ้นคุณภาพสูงหรือหุ้นปันผลสูง แบ่งเป็น หุ้นไทย 10% และ หุ้นต่างประเทศ 50% ผ่าน DR ในธีมสำคัญ เช่น AI ในสหรัฐฯ, เศรษฐกิจดิจิทัลในจีน, รวมถึงอินเดียและเวียดนาม
  • ตราสารหนี้ (30%): ใช้เพื่อสร้างความมั่นคงและลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ต
  • ทองคำ (10%): ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจ โดยราคามีแนวโน้มแข็งแกร่งจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการเข้าซื้อของธนาคารกลางทั่วโลก คาดราคาทองคำเข้าสู่ Super Cycle ระยะที่ 3

“นักลงทุนไทยควรเพิ่มสัดส่วนการลงทุนต่างประเทศ ให้มากกว่าปัจจุบันที่อยู่ประมาณ 5−10% เพราะตลาดทุนไทยอาจจะยังไม่โดดเด่นมากนัก เมื่อเทียบกับคู่แข่งในภูมิภาค โดยเฉพาะการเชื่อมโยงกับ AI ซึ่งไทยยังเป็นแค่ Data Center แต่ไม่ได้เป็นบริษัทต้นน้ำ ซึ่งตลาดหลักที่เม็ดเงินจะไป ได้แก่ ไต้หวัน, เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น” ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าว

ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)

4 ธีมหลักกลุ่มหุ้นน่าสนใจ

บัวหลวงเน้นการลงทุนใน 4 ธีมหลักที่คาดว่าจะมีกำไรเติบโตต่อเนื่องและได้รับประโยชน์จากปัจจัยหนุนต่างๆ:

  1. ผู้นำการเติบโตธีม Data Center และ Digital Transformation:
    • การเติบโตของกลุ่มโรงไฟฟ้า-น้ำ (WHAUP, GULF) และสื่อสาร (ADVANC) ที่ได้รับประโยชน์จากความต้องการใช้ไฟฟ้าและน้ำสำหรับ Data Center ที่เร่งตัวขึ้น
  2. กลุ่มเชื่อมโยงการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก:
    • กลุ่มปิโตรเคมี (PTTGC, SCC) ที่มี Valuation ถูกมาก และจะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมโลก รวมถึงนโยบาย Anti-involution ที่จำกัดอุปทานส่วนเกิน
    • กลุ่มส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยง (ITC) ที่ความต้องการยังคงแข็งแกร่ง
  3. กลุ่มที่กำไรเติบโตต่อเนื่อง และได้รับประโยชน์จากนโยบายภาครัฐ:
    • มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก เช่น “คนละครึ่ง พลัส” เฟส 2 และ “Easy e-receipt” จะหนุนกลุ่มค้าปลีก, ห้างสรรพสินค้า (CPN, CENTEL, AOT)
    • มาตรการแก้หนี้ครัวเรือนจะส่งผลดีต่อกลุ่มการเงินที่มีคุณภาพสินทรัพย์ดี (MTC, TIDLOR)
  4. กลุ่มปันผลสูง กระแสเงินสดสม่ำเสมอ:
    • ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นตลาดทุนใหม่ เช่น โครงการ TISA (Thailand Individual Investment Account) ซึ่งจะหนุนกลุ่มหุ้นพื้นฐานดีอย่างธนาคารและสื่อสาร (KTB, SCB)

หุ้นเด่นภายใต้การลดดอกเบี้ย

การลดดอกเบี้ยหลัก ๆ จะหนุนกลุ่ม Rate Sensitive (อัตราดอกเบี้ยอ่อนไหว) เช่น Finance (การเงิน), Yield Play (ตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือหุ้นกู้เอกชน), และ ICT (กลุ่มที่มีภาระหนี้เยอะ) เนื่องจากได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ย) และมีฟื้นฐานกำไรที่ยังแข็งแกร่ง แต่ในกลุ่ม Finance ต้องระวังเรื่อง Asset Quality (คุณภาพสินทรัพย์) และการก่อตัวของ NPL Formation (หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้) โดยหุ้นเด่นที่แนะนำ คือ GULF (GPC)

กลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยง

หลักทรัพย์บัวหลวงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ และ ยานยนต์ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่คาดว่าจะฟื้นตัวช้าและได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาระ หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง

]]>
1548809