ปตท – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 19 Sep 2024 10:01:07 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 สายน้ำแห่งชีวิต ตอน เพราะเรายังมี… https://positioningmag.com/1490968 Fri, 20 Sep 2024 03:04:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1490968

หญิงสาวรุ่นใหม่ที่ตั้งคำถามกับตัวเองตลอดมาว่า… แม่จะทนอยู่กับโลกเก่า ๆ ไปทำไม ทั้ง ๆ ที่เธออยากพาแม่ย้ายถิ่นฐานไปในที่ที่สบายกว่า โมเดิร์นกว่า อะไรที่ผูกพันแม่ไว้กับที่นี่… สถานที่ ผู้คน ชีวิตที่ดี? หรือใครบางคนที่ทำให้มีหวังขึ้น มาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันกับเธอ


]]>
1490968
ปลุกวิญญาณสายวิทย์ในตัวกับโครงการ PTT Group STEM Camp 2024 ค่ายที่ช่วยเปิดโลกวิทยาศาสตร์ให้เยาวชน https://positioningmag.com/1485579 Thu, 08 Aug 2024 12:19:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1485579

วัยมัธยมตอนต้นขึ้นชื่อว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะต้องเลือกเส้นทางในอนาคตว่าจะเรียนต่อในทางสายวิทยาศาสตร์ หรือศิลป์ เพื่อที่จะเลือกเรียนในระดับมหาวิทยาลัย และต่อยอดไปยังอาชีพที่ใฝ่ฝันในอนาคต

แต่เชื่อว่าเด็กๆ หลายคนอาจจะยังไม่มีประสบการณ์ ยังไม่เข้าใจว่าสายวิทย์ฯ เรียนอะไรบ้าง สายศิลป์เรียนอะไรบ้าง จึงอาจทำให้การตัดสินใจเลือกสายมีความสับสนอยู่ไม่น้อย

ปตท. จึงชวนน้องๆ เยาวชนโรงเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นทั่วประเทศ สมัครร่วมโครงการ PTT Group STEM Camp 2024 หรือเรียกง่ายๆ ว่า “ค่าย STEM” ค่ายที่จะมาสร้างแรงบันดาลใจ และให้น้องๆ ได้ค้นหาตัวเองกับการศึกษาต่อในสายวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะ

ในค่ายนี้น้องๆ จะพบกับฐานการทดลองวิทยาศาสตร์สนุกๆ พร้อมสถานการณ์จำลองฝึกการคิดวิเคราะห์และการทำงานเป็นทีม โรงเรียนที่มีความสนใจสามารถส่งนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1 – ม.3) เข้าร่วมโครงการฯ ได้ ณ โรงเรียนกำเนิดวิทย์ จังหวัดระยอง โดยไม่เสียค่าสมัครเข้าร่วมโครงการแต่อย่างใด แต่รับจำนวนจำกัด โดยเปิดค่ายเพียง 2 รอบเท่านั้น ครั้งที่ 1 ในวันเสาร์ – อาทิตย์ที่ 5 – 6 ตุลาคม 2567 และครั้งที่ 2 ในวันเสาร์ – อาทิตย์ที่ 12 – 13 ตุลาคม 2567 โดยรับนักเรียนรอบละ 60 คน และครูรอบละ 20 คน

ปตท. ได้ไอเดียในการสร้างสรรค์ค่าย STEM ขึ้นมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นทั่วประเทศ ได้ค้นหาตัวตนกับการศึกษาต่อในสายวิทยาศาสตร์ ได้เรียนรู้ทักษะด้าน STEM อาทิ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และการคิดวิเคราะห์ ผ่านฐานกิจกรรมการทดลองจริง และสถานการณ์จำลอง สอดแทรกความรู้ควบคู่ไปกับความสนุกสนาน ไม่ได้มีแค่วิชาการ แต่ได้ทดลองจริงเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ

ซึ่งนอกจากน้องๆ เยาวชนจะได้แรงบันดาลใจในการเรียนทางสายวิทยาศาสตร์แล้ว ค่ายนี้ยังเปิดโอกาสให้นักเรียนได้รับการแนะแนวอาชีพสาย STEM ที่จะเป็นสายอาชีพ และทักษะที่จำเป็น          ในอุตสาหกรรมแห่งโลกอนาคตอีกด้วย

คุณสมบัติผู้สมัคร 

  • นักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ตั้งแต่ ม.1 – ม.3 ในปีการศึกษา 2567 หรือ เทียบเท่า (คละชั้นเรียนได้) โดยรับสมัครในนามโรงเรียน
  • โรงเรียนที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ทั้ง 2 ครั้ง และส่งได้มากกว่า 1 ทีม โดยแต่ละทีมประกอบด้วย นักเรียนจำนวน 3 คน ต่อครูผู้ประสานงานจำนวน 1 คน (รายชื่อนักเรียน และครูต้องไม่ซ้ำกัน)

ระยะเวลาในการเปิดรับสมัคร 

เปิดรับสมัครผ่านระบบ Google Form ตั้งแต่วันที่ 1 -31 สิงหาคม 2567 ทาง www.pttplc.com

การคัดเลือกผู้ผ่านเข้าร่วมกิจกรรม  

คณะกรรมการจาก ปตท. จะคัดเลือกจากการตอบคำถามด้าน STEM และคำถามเชิงทัศนคติของนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรม โดยการตัดสินของคณะกรรมการฯ ถือเป็นที่สิ้นสุด

ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ผ่านการคัดเลือก 

ปตท. จะประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ผ่านการคัดเลือกในวันที่ 14 กันยายน 2567 ทาง www.pttplc.com


สถานที่จัดกิจกรรม  

โรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS) จังหวัดระยอง เลขที่ 999 หมู่ 1 ตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง 21210

โรงเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องเดินทางเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมด้วยตัวเอง ณ โรงเรียนกำเนิดวิทย์ จังหวัดระยอง ซึ่งทางปตท. ได้จัดเตรียมที่พัก ณ โรงเรียนกำเนิดวิทย์ จำนวน 2 วัน 1 คืน รวมถึงจัดเตรียมอาหารกลางวัน  อาหารว่าง และเครื่องดื่ม ให้แก่นักเรียนและครูผู้ประสานงาน ฟรีตลอดกิจกรรม

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ : https://www.camphub.in.th/ptt-group-stem-camp-2024/ หรือโทร. 0-2537-2168

]]>
1485579
alt.Eatery ตอกย้ำคอมมูนิตี้ไลฟ์สไตล์แห่งอนาคต จัดงาน “Eat Play Live” เอาใจสายสุขภาพ ชูแนวคิดการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน https://positioningmag.com/1453644 Tue, 28 Nov 2023 06:00:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1453644

อินโนบิก-แสนสิริ-NRF ชวนคนรุ่นใหม่รักสุขภาพ-รักษ์โลก ช้อปชิมในงาน “Eat Play Live” ระหว่าง วันที่ 22 – 24 พ.ย. 66 ณ alt.Eatery คอมมูนิตี้อาหารแพลนท์เบสใจกลางเมืองย่านทองหล่อ พบกับร้านค้าเพื่อสุขภาพ สินค้าแพลนท์เบสกว่า 1,000 รายการ และร่วมสนุกกับกิจกรรมเวิร์คช็อปภายในงานมากมาย

เอ็นอาร์พีที (Nutra Regenerative Protein Co. Ltd : NRPT) บริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด (อินโนบิก) และบริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด หรือ NR Instant Produce Public Company Limited (NRF) และแสนสิริ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับแถวหน้าของประเทศ จัดงาน Eat Play Live” ณ ร้าน alt.Eatery สุขุมวิท 51 ระหว่างวันที่ 22 – 24 พฤศจิกายน 2566 ภายใต้แนวคิดการส่งเสริมวิถีชีวิตที่ยั่งยืนของทุกคน Sustainable Living for Everyone” โดยให้ความสำคัญ 3 เรื่องหลัก ได้แก่ ความยั่งยืนด้านสุขภาพ (Sustainable Health) ความยั่งยืนด้านอาหาร (Sustainable Food) และความยั่งยืนด้านการอยู่อาศัย (Sustainable Living) โดยภายในงานพบกับกิจกรรมร่วมสนุกมากมาย อาทิ การแบ่งปันความรู้ด้านอาหารแพลนท์เบสโดยอินฟลูเอนเซอร์สายรักษ์โลกชื่อดังอย่าง Root The Future กิจกรรมเวิร์คช็อปการทำอาหาร พร้อมเพลิดเพลินกับสินค้าและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากผู้ประกอบการไทยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ดร. บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐานบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด กล่าวว่า จากการเข้าสู่สังคมสูงวัย และเทรนด์การใส่ใจด้านสุขภาพของคนไทย NRPT บริษัทในกลุ่มอินโนบิก มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านการพัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืชแบบครบวงจร เพื่อเป็นอาหารแห่งความยั่งยืนของโลก สนับสนุนวิถีการมีสุขภาพดีแบบคนยุคใหม่ ส่งเสริมการใช้วัตถุดิบทางการเกษตรภายในประเทศ ปัจจุบัน ร้าน alt.Eatery เป็นแบรนด์หนึ่งภายใต้บริษัท NRPT โดยเป็นคอมมูนิตี้อาหารและผลิตภัณฑ์แพลนท์เบสใจกลางกรุงเทพฯ แห่งแรกบนพื้นที่ของแสนสิริ ให้บริการผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพสำหรับทุกคน ทุกวัย ทดแทนการบริโภคเนื้อสัตว์ เน้นย้ำเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต (Life Science) ของอินโนบิก ด้วยการประยุกต์การวิจัยและเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต เพิ่มโอกาสและช่องทางการจำหน่ายให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยเข้าสู่ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพที่มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นในอนาคต

นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) (NRF) และประธานกรรมการบริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจัยของสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี ไม่เพียงเริ่มจากการทานอาหารและความเป็นอยู่ที่ดี แต่จะต้องดีอย่างยั่งยืน ซึ่ง NRF เป็นอุตสาหกรรมผู้ผลิตอาหารที่เล็งเห็นความสำคัญในการผลิตและดำเนินงานอย่างยั่งยืน แม้อุตสาหกรรมอาหารจะเป็น 1 ใน 3 อุตสาหกรรมใหญ่ที่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณสูง ซึ่งนับเป็นจุดสำคัญอย่างยิ่งที่เราคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสีย นี่จึงเป็นที่มาในการพัฒนาธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการลดการปล่อยก๊าซในกระบวนการผลิต การหาแนวทางลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในภาคต้นน้ำ หรือการพัฒนาธุรกิจที่นำมาสู่ “อาหารโปรตีนทางเลือก” เพราะเราเชื่อมั่นว่าผู้บริโภคในปัจจุบันต่างหันมาให้ความใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม ตระหนักรู้ต่อปัญหาโลกร้อนมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นการเลือกทานอาหารที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม ก็นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการช่วยโลก เพราะอาหารโปรตีนทางเลือกปล่อยคาร์บอนเพียง 10% เมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ ในส่วนร้าน alt.Eatery นับเป็นร้านอาหารที่เราภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมสร้างและพัฒนาอย่างต่อเนื่องร่วมกับพันธมิตรที่ต่างก็มีเป้าหมายเดียวกัน โดยร้าน alt.Eatery เป็นร้านแพลนท์เบสที่ตั้งอยู่บนพื้นที่แสนสิริ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น มอบประสบการณ์การทานอาหารที่ยั่งยืน สนับสนุนวัตถุดิบท้องถิ่นที่ดีและมีคุณภาพ รังสรรค์เมนูอาหารที่น่ารับประทานรองรับผู้บริโภคทุกกลุ่มวัย ด้วยฝีมือเชฟชื่อดัง นอกจากนี้นับเป็นแลนด์มาร์คที่เพียบพร้อมทั้งอาหารจานหลัก ขนม เครื่องดื่ม และโซนจำหน่ายสินค้าแพลนท์เบสอีกด้วย

นายสมัชชา พรหมศิริ Chief of Staff บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าแสนสิริ เป็นบริษัทอสังหาฯรายแรกในไทยที่มุ่งมั่นสร้างจุดเปลี่ยนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนภายใต้พันธกิจ Sansiri Sustainability รวมถึงรายแรกที่ตั้งเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็น “ศูนย์” (Net-Zero) ภายในปี 2050 วางเป้าหมายพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของโลก คำนึงถึงลูกค้า และสังคมเป็นสำคัญ โดยทำให้ความยั่งยืนนั้นเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันและไลฟ์ไตล์ของทุกคน

จากเทรนด์ของความยั่งยืนด้านการอยู่อาศัย แสนสิริเล็งเห็นถึงความสำคัญของการออกแบบ และนำมาปรับใช้กับการพัฒนาโครงการอย่างยั่งยืน โดยล่าสุดได้พัฒนาบ้านประหยัดพลังงาน ผ่านแนวคิด Green Living Designed Home ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางความยั่งยืน และตอบโจทย์เทรนด์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และ Well-Being มากขึ้น และที่ alt.Eatery แสนสิริ ได้ตอกย้ำวิสัยทัศน์ความยั่งยืน โดยผลักดันให้เป็นคอมมูนิตี้สีเขียวอย่างครบวงจร ทั้งการส่งเสริมแยกขยะต้นทางให้เกิดประโยชน์กับโครงการ Waste to WORTH: แยกไม่ยาก รวมถึงชวนพันธมิตรพลังงานสะอาดร่วมติดตั้งสถานีชาร์จรถ และติดตั้งโซล่าเซลล์เพื่อทดแทนการใช้ไฟฟ้าอย่างยั่งยืน ซึ่งเราหวังว่า alt.Eatery จะเป็นคอมมูนิตี้ต้นแบบที่เป็นแรงผลักดันให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่าง ๆ ร่วมกันขับเคลื่อนในการพัฒนาต่อไป”

]]>
1453644
กลุ่ม ปตท. 7 บริษัท ยกทัพแสดงนวัตกรรมเพื่อสร้างรอยยิ้มให้ชุมชน ในงาน PTT Group Innovation for Future Society 2023 ตอกย้ำความมุ่งมั่นดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม https://positioningmag.com/1452058 Fri, 17 Nov 2023 12:45:08 +0000 https://positioningmag.com/?p=1452058

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) จัดงาน PTT Group Innovation for Future Society 2023 จุดพลังสร้างอนาคต ขับเคลื่อนชุมชนสู่ความยั่งยืน” แสดงนวัตกรรมและผลสำเร็จของโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม กลุ่ม ปตท.  โดยมี นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เป็นประธานในพิธี  พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัทใน กลุ่ม ปตท. ผู้นำชุมชนและสมาชิกชุมชนจาก 45 พื้นที่เครือข่าย รวมถึงเยาวชนจากโครงการ Restart Thailand เข้าร่วมงาน ณ ปตท. สำนักงานใหญ่

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.  กล่าวว่า “โครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม กลุ่ม ปตท. เป็นอีกหนึ่งโครงการ ที่ ปตท. และบริษัทในกลุ่มรวมพลังกันเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาความเป็นอยู่ของชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  โดยนำนวัตกรรม องค์ความรู้ และความเชี่ยวชาญของแต่ละบริษัทมาพัฒนาชุมชนเครือข่าย 45 ชุมชน ใน 29 จังหวัดทั่วประเทศ ผ่านการพัฒนาให้สอดคล้องกับบริบทชุมชนใน 3 ด้านประกอบด้วย Smart Farming  ยกระดับการเกษตรด้วยนวัตกรรมให้ผลผลิตที่มีคุณภาพในปริมาณที่สูงขึ้น Smart Marketing การเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์โดยการแปรรูปและสร้างมาตรฐานให้ผลิตภัณฑ์  เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้แก่ชุมชน  และ Community-Based Tourism ส่งเสริมการบริหารจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนตามอัตลักษณ์ของท้องถิ่น ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ การดำเนินโครงการฯ เป็นไปตามเป้าหมาย ทุกชุมชนสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากฐานรายได้เดิม ร้อยละ 10 มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนรวม 45 รายการ พัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวโดยชุมชนจำนวน 6 พื้นที่ รวมถึงชุมชนมีทักษะและศักยภาพที่สามารถดำเนินการและพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งผลสำเร็จจากโครงการจะทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป

นอกจากนี้ กลุ่ม ปตท. ยังร่วมแก้ปัญหาการว่างงาน โดยจ้างบัณฑิตจบใหม่ผ่านโครงการ Restart Thailand กว่า 280 อัตรา เพื่อให้เป็นพลังร่วมขับเคลื่อนโครงการฯ พัฒนาและสร้างความเป็นอยู่ที่ดีแก่ชุมชนบ้านเกิด เป็นโอกาสให้เยาวชนที่จบใหม่และอยู่ในพื้นที่โครงการฯ ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับท้องถิ่นและสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้รับจากกลุ่ม ปตท. พัฒนาพื้นที่บ้านเกิด นับเป็นผลสำเร็จของการพัฒนาชุมชนในทุกมิติ ให้ชุมชนในพื้นที่สามารถต่อยอด และพึ่งพาตนเองต่อไปได้

การจัดงาน PTT Group Innovation for Future Society 2023 ครั้งนี้ จึงเป็นการสรุปผลสำเร็จของโครงการฯ ที่ได้ดำเนินมาตลอดเป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2564 – 2566  รวมถึงเป็นการนำนวัตกรรมและองค์ความรู้ของ กลุ่ม ปตท. และองค์ความรู้ของชุมชนที่เกิดขึ้นในโครงการฯ พัฒนาเป็น “จุดเรียนรู้” 12 พื้นที่ มาจุดประกายให้ผู้ที่ร่วมงานได้นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ เพื่อขยายพื้นที่สร้างรอยยิ้มให้กับชุมชนอื่น ๆ ได้ต่อไป เพราะทุกชุมชนคือรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ”

สำหรับการจัดงาน  PTT Group Innovation for Future Society 2023 จุดพลังสร้างอนาคต ขับเคลื่อนชุมชนสู่ความยั่งยืน” จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 14 – 15 พฤศจิกายน 2566 โดยมีการจัดแสดงนวัตกรรมและผลสำเร็จของโครงการฯ ผ่านพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ 3 โซน ประกอบด้วย โซนที่ 1 นวัตกรรมเพื่อชุมชน โดย กลุ่ม ปตท. และพื้นที่เรียนรู้ชุมชน  โซนที่ 2 การท่องเที่ยวโดยชุมชน ผลิตภัณฑ์ชุมชน และโซนที่ 3 ตลาดนัดชุมชน นอกจากนี้ ยังมีเวทีเสวนาเพื่อให้ชุมชนได้แบ่งปันประสบการณ์ในการดำเนินโครงการฯ รวมถึงได้รับเกียรติจากวิทยากรภายนอก อาทิ คุณสรกล อดุลยานนท์ “หนุ่มเมืองจันทร์” เจ้าของสวนสันติเกษตรอินทรีย์ เป็นผู้ดำเนินเวที คุณชารีย์ บุญญวินิจ จาก ฟาร์มลุงรีย์ Uncle Ree Farm คุณนิพนธ์ พิลา จาก พิลาฟาร์มสตูดิโอ คุณจรงศักดิ์ รองเดช จากภัตตาคารบ้านทุ่ง และคุณธราณิศ ประเสริฐศรี Co-Founder Technical จาก Varuna สตาร์ทอัพสายเขียวเกษตรกรยุคใหม่ ร่วมเติมเต็มเรื่องราวการพัฒนาชุมชนที่น่าสนใจอีกด้วย

“กลุ่ม ปตท. จะยืนหยัดมุ่งมั่นดูแลความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศ พร้อมพัฒนาธุรกิจใหม่ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ควบคู่ไปกับการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ปตท. ได้นำส่งรายได้เข้ารัฐเพื่อใช้ในการพัฒนาประเทศ นับตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบัน (9 เดือนแรกของ ปี 2566) ในรูปแบบภาษีเงินได้และเงินปันผล แล้วกว่า 1.21 ล้านล้านบาท  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปตท. ได้ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมและชุมชน ทั้งในกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ  ทั้งด้านการส่งเสริมชุมชนเข้มแข็ง การแก้ปัญหาภัยพิบัติ การส่งเสริมการศึกษา และการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม กลุ่ม ปตท. แม้ว่าระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่เชื่อว่าองค์ความรู้ นวัตกรรม และวิถีการเกษตรครบวงจรจะยังดำเนินการและพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ” นายอรรถพล กล่าวปิดท้าย

 

]]>
1452058
‘เธอคือพลังของฉัน’ บทเพลงจุดพลัง เติมใจ ในวาระ 45 ปี ปตท. https://positioningmag.com/1437650 Thu, 13 Jul 2023 10:30:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1437650

ฉลองความสำเร็จปีที่ 45 ของ ปตท. ไปกับ ‘เธอคือพลังของฉัน’ ซิงเกิลสุดพิเศษ จากความความตั้งใจของ ปตท. ที่พร้อมเป็นกำลังใจและเป็นพลังให้กันและกัน โดยได้สองศิลปินยอดนิยมอย่าง ‘เบิร์ด  ธงไชย’ และ ‘อิ้ง วรญธร’ มาร่วมถ่ายทอดความรู้สึกดี ๆ ส่งต่อสู่คนไทย ซึ่งนับเป็นการโคจรร่วมงานกันครั้งแรก


#PTT #เธอคือพลังของฉัน #เบิร์ดธงไชย #อิ้งค์วรันธร #IgniteLifePotential #จุดพลังชีวิตขับเคลื่อนอนาคต

]]>
1437650
รู้จัก ReAcc บริษัทในกลุ่ม ปตท. ตัวกลางจับคู่ซื้อขาย “เครดิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด” https://positioningmag.com/1410308 Tue, 29 Nov 2022 10:21:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1410308 รู้จัก ReAcc บริษัทในกลุ่ม ปตท. ตัวกลางด้านการซื้อขาย “ใบรับรองพลังงานสะอาด” หรือ RECs เป้าหมายเพื่อสร้างการรับรู้ การใช้งาน และการผลิตพลังงานสะอาดให้มากขึ้นในประเทศไทย
.
RECs คืออะไร? ซื้อขายกันอย่างไร? เหมือนกับคาร์บอนเครดิตหรือไม่? ติดตามได้ที่นี่

.

.


#ReAcc #PTT #ปตท #พลังงานสะอาด #พลังงานหมุนเวียน

]]>
1410308
ปตท. คลายข้อสงสัย ทำไมสงคราม ‘รัสเซีย-ยูเครน’ ถึงส่งผลต่อพลังงานโลก https://positioningmag.com/1388729 Wed, 22 Jun 2022 04:00:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1388729

ตอนนี้ไม่ใช่แค่ประเทศไทยที่เจอกับปัญหาราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะผลกระทบดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นทั่วทั้งโลก ซึ่งเป็นผลพวงมาจากสงคราม ‘รัสเซีย-ยูเครน’ ซึ่งหลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่าสถานการณ์ดังกล่าวนั้นทำไมถึงส่งผลต่อตลาดพลังงานทั่วโลก คุณดิษทัต ปันยารชุน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ปตท. ได้กล่าวถึงประเด็น “สงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” กับพลังงานโลก” ให้คนไทยได้เข้าใจกัน


น้ำมันแพงเพราะผลิตน้อย ไม่ใช่เพราะคว่ำบาตร

หลายคนอาจไม่รู้ว่าทั่วโลกมีความต้องการใช้น้ำมันราว 100 ล้านบาร์เรลต่อวัน และหลายคนอาจไม่รู้ด้วยว่า รัสเซีย เป็นผู้ผลิต น้ำมันดิบอันดับ 2 ของโลก โดยช่วงก่อนเกิดสงครามสามารถผลิตได้เฉลี่ย 11 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็น 11% ของความต้องการทั่วโลก ส่วนผู้ผลิตอันดับ 1 ของโลกคือ สหรัฐอเมริกา โดยผลิตได้วันละ 11.5 ล้านบาร์เรล ส่วน อันดับ 3 ได้แก่ ซาอุดิอาราเบียโดยผลิตที่ 10.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน

หากดูจากตัวเลขคงปฏิเสธไม่ได้ว่า รัสเซียถือเป็นประเทศที่สำคัญต่อพลังงานโลก แต่ตั้งแต่เกิดสงคราม ปริมาณการผลิตของรัสเซียก็ลดลงมาเหลืออยู่ราว 9-10 ล้านบาร์เรลต่อวันเท่านั้น หรือหายไปประมาณ 1-2 ล้านบาร์เรลต่อวัน แม้ตัวเลขเหมือนจะน้อยแต่ก็ส่งผลกระทบหนักมาก เพราะแค่ประเทศไทยประเทศเดียวก็ใช้น้ำมันวันละ 1 ล้านบาร์เรลแล้ว

ประเด็นคือ ในขณะที่รัสเซียผลิตน้ำมันได้น้อยลง แต่ กลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) หรือกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน ที่รวมแล้วคิดเป็นประมาณ 40% ของน้ำมันดิบโลก ไม่ได้เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อมาอุดช่องที่หายไปของรัสเซีย เนื่องจากที่ผ่านมากลุ่มโอเปก ได้พยายามจำกัดปริมาณการผลิตน้ำมันให้อยู่ในจุดที่เพียงพอต่อการใช้งาน เพื่อให้ราคาน้ำมันไม่ต่ำหรือสูงจนเกินไป โดยเฉพาะในช่วงที่โควิด-19 ระบาด ที่มีการใช้น้ำมันน้อย กลุ่มโอเปกก็ได้ลดกำลังการผลิตลง เพื่อประคองราคาน้ำมัน

แม้ว่าสหรัฐฯ จะพยายามกดดันให้ประเทศสมาชิกโอเปกพลัสที่เหลือเพิ่มกำลังการผลิต แต่ก็ไม่สามารถกดดันได้ เพราะต้องเกรงใจรัสเซีย ที่เป็นหนึ่งในสมาชิกโอเปกพลัส ดังนั้น เมื่อรัสเซียผลิตได้น้อยลง กลุ่มโอเปกไม่ผลิตเพิ่ม ราคาน้ำมันก็ลงยาก เนื่องจากที่ผ่านมาปริมาณน้ำมันในตลาดอยู่ในจุดที่ต่ำกว่าความต้องการของตลาดนิดหน่อยอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว จากความต้องการใช้น้ำมันที่ฟื้นตัวหลังจากโควิด-19


รัสเซียสำคัญเกินกว่าจะคว่ำบาตร

แม้จะมีการคว่ำบาตรเกิดขึ้นในหลาย ๆ ส่วน แต่ยังไม่มีประเทศไหนคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย 100% โดยเฉพาะประเทศในทวีปยุโรปที่ส่วนใหญ่ยังต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียถึง 90% ของพลังงานทั้งหมดที่ใช้ภายในประเทศ

โดยเฉลี่ยแล้ว ยุโรปนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียอยู่ที่ราว 25-35% ส่วน ก๊าซธรรมชาติ อยู่ที่ 45% และ ถ่านหิน 45% โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2021 ยุโรปมีปริมาณการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียอยู่ที่ 37% และนำเข้าก๊าซธรรมชาติที่แปรรูปเป็นของเหลวแล้วหรือ LNG อยู่ที่ 23% ซึ่งสาเหตุที่ยุโรปต้องพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียก็เพราะรัสเซียมีท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติกระจายอยู่ทั่วทั้งภูมิภาค

หากประเทศในยุโรปตัดสินใจคว่ำบาตรการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียทั้งหมดนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ แม้ว่าจะมีการประชุมหารือเพื่อหาข้อสรุปก็ตาม เพราะหากประเทศในยุโรปเลือกจะคว่ำบาตรรัสเซีย สิ่งที่ต้องเจอคือ ต้นทุนที่สูงขึ้น เพราะต้องขนส่งมาทางเรือ อย่างน้ำมันที่เป็นของเหลวอาจจะไม่มีปัญหามาก แต่กับก๊าซธรรมชาตินั้นเป็นเรื่องที่ยากกว่ามาก

หรือหากจะสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่เพื่อรองรับการนำเข้าพลังงานจากประเทศอื่นก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปี ดังนั้น แค่สงครามรัสเซีย-ยูเครนก็ส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มสูงขึ้นในเกือบทุกภาคส่วนอยู่แล้ว เนื่องจากราคาพลังงานที่ทำให้ต้นทุนในการผลิตสูงขึ้น หากจะคว่ำบาตรก็จะยิ่งกระทบมากขึ้นไปอีก


ทำไมไทยไม่นำเข้าน้ำมันรัสเซียที่ลดราคา

สำหรับไทยเองนำเข้าน้ำมันกว่า 80% โดยจัดหาน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางประมาณ 55% ส่วนการนำเข้าจากรัสเซียประมาณ 5% เท่านั้น แต่เมื่อยุโรปมีปัญหาจากการนำเข้าน้ำมันรัสเซีย ความต้องการก็จะหันไปยังภูมิภาคอื่น เช่น สหรัฐอเมริกา หรือ ตะวันออกกลางอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูง ไทยเองก็ได้ผลกระทบเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ไทยเองก็ไม่สามารถนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียได้ แม้รัสเซียลดราคาน้ำมันดิบลง เพราะราคาไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่จะใช้ในการตัดสินใจ ยังมีประเด็นด้านคุณสมบัติของน้ำมันและการเมืองมาเกี่ยวข้อง เพราะหากเลือกซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ไทยอาจถูกมองว่าสนับสนุนสงคราม แม้แต่ เกาหลีและญี่ปุ่น ที่แหล่งส่งออกน้ำมันรัสเซียอยู่ติดกับ 2 ประเทศยังเลือกที่จะไม่ซื้อแม้จะได้ราคาที่ดีมากก็ตาม


ราคาน้ำมันไทยแพงเพราะอะไร

สำหรับราคาน้ำมันของบ้านเรา 67% มาจากราคาน้ำมัน 28% มาจากภาษีและกองทุนต่าง ๆ อีก 5% เป็นค่าการตลาด หลายคนคงสงสัยว่าทำไมต้องมีภาษีและหักเข้ากองทุน ซึ่งความจริงแล้วการหักเข้ากองทุนน้ำมันนั้นเป็นความจำเป็นเพื่อเป็นเกราะป้องกันหากเจอราคาน้ำมันที่สูงอย่างไม่คาดคิด ซึ่งส่วนนี้ได้นำมาช่วยเหลือให้สามารถตรึงราคาน้ำมัน รวมถึงอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้ม

สุดท้าย คุณดิษทัต กล่าวว่า จากมุมมองของนักค้าน้ำมันแล้ว สถานการณ์ของรัสเซีย-ยูเครนคงไม่จบลงเร็ว ๆ นี้ แปลว่าผลกระทบจะยังอยู่ต่อไปอย่างน้อยอีก 6 เดือน ดังนั้น ทั้งประเทศต้องช่วยกันบริหารจัดการเพื่อให้ราคาลดลงได้ รัฐเองต้องพยายามควบคุมราคาเพื่อให้ไม่กระทบต่อต้นทุนสินค้า ภาคประชาชนเองก็ช่วยได้โดยการลดใช้พลังงานในครัวเรือน โดยมีการวิจัยแล้วว่าช่วยให้ลดการใช้น้ำมันถึง 10% เลยทีเดียว

]]>
1388729
รู้จัก EVme แพลตฟอร์ม ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ ครบวงจร เปิดโอกาสให้ได้ลอง พลังงานเเห่งอนาคตที่เข้าถึงได้ https://positioningmag.com/1366942 Thu, 16 Dec 2021 04:00:35 +0000 https://positioningmag.com/?p=1366942

การมาของ ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เมื่อเทรนด์โลกกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคพลังงานแห่งอนาคต หรือ Future Energy  ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสิ่งเเวดล้อมมากขึ้น บริษัทต่างๆ เริ่มคำนึงถึงการเติบโตอย่างยั่งยืน รัฐบาลของหลายประเทศตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ในประเทศไทย ก็มีการตื่นตัวในเรื่องนี้มากขึ้น เห็นได้ชัดจากช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 ที่มีจำนวนผู้จดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) คันใหม่ เพิ่มขึ้นถึง 72% ค่ายรถยนต์พาเหรดทำการตลาด ภาครัฐออกนโยบายดึงดูดผู้ใช้ เหล่าธุรกิจพลังงานเดินหน้าขยายสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโต

ท่ามกลางความเคลื่อนไหวที่น่าตื่นเต้นนี้ เราได้เห็นเเววรุ่งของเเพลตฟอร์มน้องใหม่อย่าง EVme’ (อีวี มี) ที่เปิดตัวด้วยการเป็นผู้ให้บริการรถยนต์ไฟฟ้าเเบบ ครบวงจรรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ณ ขณะนี้

ความน่าสนใจของ EVme จุดเด่นของบริการ กลยุทธ์ที่จะมาเจาะตลาด เเละทิศทางของธุรกิจจะเป็นอย่างไร วันนี้เราจะมารู้จัก  EVme ให้มากขึ้นกัน


เป้าหมาย ‘พลังงานเเห่งอนาคต’ ที่เข้าถึงทุกคน

หลังจากโลดเเล่นในวงการเทคโนโลยีระดับโลกมายาวนาน ‘ทอม- สุวิชชา สุดใจ คว้าโอกาสท้าทายตัวเองอีกครั้ง ด้วยการมาทำหน้าที่เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด (EVME PLUS) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

จากประสบการณ์ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ออกเเบบโครงสร้าง วางเเผนกลยุทธ์เเละบริหารจัดการผลิตภัณฑ์กับ Accenture เเละ IBM ในหลายประเทศทั้งในสหรัฐฯ เเละเอเชียเเปซิฟิก ขยับมาสายการเงินเป็นผู้บริหารระดับสูงในธนาคารอย่าง SCB เเละ KTB อยู่ในวงการฟินเทคเเละบล็อกเชน เเละก้าวสำคัญสู่ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า

เขายอมรับว่า งานนี้ ‘ไม่ง่าย’ มีความท้าทายสูง เเต่ก็มีความสนุกเเละเเรงผลักดันของการเป็นผู้บุกเบิกตลาด โดยทุกธุรกิจที่ได้ทำมาหลายอย่างนั้น สามารถนำมาต่อยอดเเละเชื่อมโยงกันได้เสมอ

“ผมหลงรักในโลกเทคโนโลยี เเละอยากพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ในเมืองไทย ให้คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายขึ้น”

ความตั้งใจนี้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกลุ่ม ปตท. ที่มีการปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลง โดยการเดินหน้าพัฒนาธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต และ New S-curve

หนึ่งในพลังงานเเห่งอนาคตที่ กลุ่ม ปตท. เร่งดำเนินการ คือ การเดินหน้าลงทุนในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าตลอดทั้ง Value Chain ทั้งการผลิตเเบตเตอรี่ ประกอบยานยนต์ ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า-สลับเเบตเตอรี่ เเละบริการด้านยานยนต์ไฟฟ้าเเบบครบวงจรอย่าง  EVme

กลุ่ม ปตท. มองว่า การเข้ามาต่อยอดธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้านั้น จะช่วยส่งเสริมและสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ ให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างแพร่หลายในประเทศไทย เเละจะส่งผลที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมของโลกมากขึ้น


EVme เปิดโอกาส ‘ให้ได้ลอง’ 

EVme  ดำเนินธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ผ่านการให้บริการด้านดิจิทัลแพลตฟอร์ม เช่น บริการให้เช่ายานยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบ B2B และ B2C บริการข้อมูลเกี่ยวกับสถานีอัดประจุไฟฟ้าและสถานีซ่อมบำรุงยานยนต์ไฟฟ้าผ่านเเอปพลิเคชัน EVme พร้อมๆ กับการหาโอกาสในผลิตภัณฑ์และบริการใหม่

“EVme วางโพสิชันเป็นเพื่อนคู่คิด เป็นที่ปรึกษาด้าน EV ทั้งเรื่องตัวรถ การชาร์จเเละการดูแลรักษา ให้กับผู้บริโภค เราเป็น Multi-brand platform ที่จะให้ข้อมูลอย่างเป็นกลางและเป็นธรรม ให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการรถ EV หลากหลายรุ่นตามความชื่นชอบ รวมทั้งสามารถซื้อได้ในราคาพิเศษ ทําให้คุณเป็นเจ้าของรถ EV ได้ง่าย และตรงใจมากยิ่งขึ้น”

คุณสุวิชชา มองว่า เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า จะเข้ามาเปลี่ยนลักษณะการเดินทางเเละพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภค

โดยสิ่งที่จะช่วยทำให้ผู้คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น นอกจากเรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่อำนวยความสะดวกในการใช้งานเเล้ว  ขั้นเเรกที่ต้องก้าวผ่านคือ ความกลัว‘  ซึ่ง EVme จะเข้ามาช่วยสร้างประสบการณ์ในจุดนี้ โดยการเปิดโอกาส ให้ได้เห็น ได้ใช้ ได้ลองขับก่อน

“เราเชื่อว่าตลาดจะโตมากขึ้น เมื่อคนไทยได้ลองใช้รถยนต์ไฟฟ้าจริงๆ เราต้องการเป็นเเพลตฟอร์ม EV Lifestyle ที่ทุกคนคิดถึง สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการชาร์จ ได้ลองขับรถหลายรุ่น จากที่บ้านไปที่ทำงาน หรือขับไปเที่ยวต่างจังหวัด ซึ่งหากใครกังวลเกี่ยวกับเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า อยากศึกษา อยากรู้จักอยากทดลอง แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี  อยากให้ลองมาทําความรู้จักกับ EVme ซึ่งจะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ในช่วงต้นปี 2565 นี้”


ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทำให้การใช้รถยนต์ไฟฟ้า เป็นเรื่องง่าย

ปัจจุบัน EVme นำร่องให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน ดาวน์โหลดได้ทันทีทาง AppStore และ Google Play โดยบนเเพลตฟอร์มจะมีรายละเอียดรถ EV หลากหลายค่าย หลากหลายรุ่นทั้ง sedan, hatchback, SUV จากฝั่งจีน ญีปุ่น เกาหลี หรือโซนยุโรปเเละอเมริกา เพื่อตอบโจทย์ทุกการใช้งานของลูกค้า เหมาะสําหรับทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นนั่งคนเดียว ออกทริป รถครอบครัว หรือรถหรูในโอกาสพิเศษ

สำหรับระยะเวลาการเช่าใช้งาน จะเริ่มต้นตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป หรือถ้าใครอยากใช้ยาวๆ เป็นรถคู่ใจประจําบ้านก็สามารถเลือกโปรเเกรม subscribe เป็นรายปีได้ด้วยเช่นกัน ในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 4,000 บาท ซึ่งราคานี้จะรวมพรบ. ประกันภัยชั้น 1 ค่าซ่อมบํารุง พร้อม call center 24 ชม. คอยให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน เเละรถยก รถแบตเตอรี่ที่พร้อมให้บริการทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมเชื่อมต่อเเละสามารถค้นหาจุดชาร์จตามสถานที่ต่างๆ บนเเอปพลิเคชัน

EVme กำลังเดินหน้าหารือกับพาร์ทเนอร์ในหลายธุรกิจ เพื่อเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการบริการต่างๆ ของ Ecosystem ไม่ว่าจะเป็นการซื้อประกันรถยนต์ไฟฟ้า หรือการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า เช่นการขอสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น

“การเเข่งขันในตลาดจะมักมุ่งไปที่วิธีการให้เช่า เเต่เราต้องการนำเสนอสิ่งที่เเตกต่างจากรถยนต์สันดาปด้วย ตอนนี้เราเป็นเจ้าเดียวที่มุ่งเน้นการให้พลังงานสะอาดอย่างเเท้จริง โดยจะให้บริการ Carbon credit ทำให้ลูกค้าเห็นได้ว่าสิ่งที่เขาใช้ สิ่งที่เขาชาร์จนั้นเป็นมิตรกับสิ่งเเวดล้อม ซึ่งในประเทศไทยยังไม่มีบริการในลักษณะนี้อย่างเต็มรูปแบบเหมือน EVme”


ขับเคลื่อนประเทศสู่  Low Carbon Society

เมื่อถามถึงเเนวทางการบริหารงานของ EVme  คุณสุวิชชาบอกว่า หัวใจสำคัญคือ ‘ Agile’ การทำงานที่รวดเร็ว ตอบสนองกับลูกค้าได้ดี นำความเห็นจากลูกค้ามาปรับเปลี่ยนเเละปรับปรุงเพื่อนำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ตอบโจทย์การให้บริการที่เข้าถึงได้มากขึ้น สร้างสรรค์ฟีเจอร์ใหม่ๆ อยู่เสมอ

เเม้จะเริ่มจากทีมเล็กๆ ตามสไตล์สตาร์ทอัพ เเต่ด้วยความที่มีองค์กรใหญ่อย่าง ปตท. ให้การสนับสนุนก็มีส่วนช่วยให้ทีมสามารถดึงคนเก่งๆ ที่มีความสามารถมาร่วมงานได้อย่างต่อเนื่อง จากความน่าเชื่อถือเเละความมั่นคงด้านเงินทุน บวกกับการที่ยังเป็น business model ที่ใหม่มากในตลาดไทย

” EVme จะทําให้ทุกคนมีส่วนร่วมกับการขับเคลื่อนประเทศเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ Low Carbon Society ทําให้ทุกคนเป็นเจ้าของรถได้ง่ายขึ้น รถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นเรื่องทีทุกคนเข้าถึงได้ในชีวิตประจําวันเเละจะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป”

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ evme.io  เเละ  Facebook : EVme

]]>
1366942