อย่างประเทศเกาหลีใต้มีการใช้งาน 5G ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 3 ล้านคน ส่วนประเทศจีนที่เปิดตัวระบบ 5G ในจีนเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีผู้ใช้งานแล้ว 13 ล้านคน

“อีริคสัน” ได้คาดว่าจำนวนผู้ใช้ระบบเครือข่าย 5G ทั่วโลกจะเพิ่มเป็น 2,600 ล้านคนภายในอีก 6 ปีข้างหน้า เนื่องจากระบบนิเวศ 5G ที่มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นยังคาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2568 เครือข่าย 5G จะครอบคลุมสัดส่วนราว 65% ของประชากรทั่วโลก และคิดเป็น 45% ของจำนวนการใช้ดาต้าอินเทอร์เน็ตบนมือถือทั่วโลก

นอกจากนี้ 5G จะส่งผลต่อปริมาณการใช้ดาต้าอินเทอร์เน็ตของสมาร์ทโฟน จากปัจจุบันที่ใช้เฉลี่ย 7.2 GB แต่ภายในปี 2568 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 24 GB ซึ่งเป็นผลมาจากพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบใหม่ของผู้บริโภค เช่น การสตรีมมิ่งแบบ Virtual Reality (VR)

“การใช้งานดาต้าอินเตอร์เน็ต 7.2 GB ต่อเดือน จะสามารถสตรีมวิดีโอความละเอียดระดับ HD (1280 x 720) ได้ที่ความยาว 21 นาทีในแต่ละวัน แต่หากใช้เพิ่มเป็น 24 GB จะรองรับการสตรีมวิดีโอความละเอียดระดับ HD ได้ที่ความยาว 30 นาที และ VR เพิ่มเติมได้อีก 6 นาทีในแต่ละวัน”

ขณะที่การเชื่อมต่อ IoT บนเครือข่ายเซลลูลาร์คาดว่าจะมีจำนวนราว 5 พันล้านชิ้น ภายในสิ้นปี 2568 จากปี 2562 มีจำนวน 1,300 ล้านชิ้น เติบโต 25% ต่อปี โดยคาดว่าเทคโนโลยี NB-IoT และ Cat-M จะครองสัดส่วน 52% ของการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT

“คำถามสำคัญเกี่ยวกับ 5G คือ จะสามารถกระตุ้นการประยุกต์ใช้งานเครือข่าย 5G ที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคและองค์กรได้รวดเร็วแค่ไหน” เฟรดริก เจดลิงก์ รองประธานบริหารและหัวหน้าฝ่ายเครือข่ายของอีริคสัน กล่าว

จากสภาพแวดล้อมปัจจุบัน คาดว่าความนิยมของการใช้งาน 5G จะเพิ่มขึ้นรวดเร็วกว่าเครือข่าย LTE โดยภูมิภาคที่มีการเติบโตเร็วที่สุด ได้แก่ อเมริกาเหนือ คาดว่า 5G จะครองสัดส่วน 74% ของจำนวนผู้ใช้งานมือถือในภูมิภาคดังกล่าวภายในสิ้นปี 2568 ส่วนเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือคาดว่าจะอยู่ที่ 56% ยุโรปอยู่ที่ 55% ส่วนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียคิดเป็น 21% โดย 4G จะยังเป็นเครือข่ายหลัก มีสัดส่วน 63%

ผู้ให้บริการและผู้ประกอบการ ICT จะมีบทบาทมากขึ้นในการใช้งานระบบและแอปพลิเคชั่นในเครือข่าย 5G ซึ่งจะเห็นได้จากจำนวนผู้ใช้งาน 5G ที่เพิ่มขึ้น จากการศึกษาล่าสุดของอีริคสัน ในหัวข้อ ‘5G สำหรับธุรกิจ: เข็มทิศการตลาดปี 2030’ ระบุว่า รายงานมูลค่าธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B) ที่เปิดใช้งาน 5G จะมีมูลค่าสูงถึง 700,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2573 ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการณ์จากผู้ประกอบการ ICT ถึงยอดผู้ใช้งานในตลาดที่รองรับ 5G ที่จะเพิ่มขึ้นถึง 47%

นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังเจาะลึกเกี่ยวกับแผนบริการของผู้ให้บริการรายต่างๆ โดยผู้ให้บริการส่วนใหญ่ที่เปิดตัว 5G ตั้งราคาแพ็กเกจ 5G สูงกว่าบริการ 4G ราว 20%