ปั๊มลม – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 23 Mar 2022 06:57:04 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Atlas Copco ผู้บุกเบิกนวัตกรรมประหยัดพลังงานกับโครงการ Water for All น้ำสะอาดเพื่อทุกคน https://positioningmag.com/1378499 Thu, 24 Mar 2022 04:00:30 +0000 https://positioningmag.com/?p=1378499

Atlas Copco กับเป้าหมายด้านความยั่งยืนเนรมิตโครงการ Water for All หรือน้ำสะอาดเพื่อทุกคนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงน้ำสะอาดเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับทุกคน บริษัทยังคงดำเนินโครงการเพื่อสังคมพร้อมกับนวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า


รู้จัก Atlas Copco

ถ้าในมุมผู้บริโภคทั่วไปอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับชื่อ Atlas Copco (แอตลาส คอปโก้) มากนักแต่ถ้าใครที่อยู่ในธุรกิจอุตสาหกรรมรับรองว่าต้องรู้จักเป็นอย่างดีเพราะ Atlas Copco ผู้นำเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านงานอุตสาหกรรมสัญชาติสวีเดนที่สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าโดยแนวคิดมุ่งเน้นไปที่การลดต้นทุนตลอดอายุการใช้งานของเครื่องจักรซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการลงทุนของการทำธุรกิจ

Atlas Copco ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2416 หรือมีอายุ 149 ปีแล้วเริ่มต้นจากเทคโนโลยีอากาศอัดแบบ Oil-free air และเครื่องยนต์ระบบไอน้ำที่มีประสิทธิภาพตลอดจนการพัฒนาเครื่องมือลม (Pneumatic tools) และเครื่องมือสำคัญในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ

ปัจจุบันเราได้พัฒนาเทคโนโลยีให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นโดยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดร์ออกไซต์ผ่านนวัตกรรมที่ต่างๆ ที่ช่วยประหยัดพลังงานไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือไฟฟ้าปั๊มสุญญากาศระบบจัดเก็บพลังงานรวมไปถึงเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมแบบ VSD ซึ่งทางบริษัทมีความมุ่งมั่นเพื่อที่จะสร้างอนาคตที่ดีกว่าด้วยการเป็นผู้นำในด้านระบบอัดอากาศเครื่องมือลมเครื่องจักรก่อสร้างรวมไปถึงระบบสูญญากาศและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ได้มีการแพร่ระบาดมากกว่า 2 ปีแล้วทาง Atlas Copco ยังคงพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องและได้นำเสนอเทคโนโลยีในการควบคุมการทำงานของเครื่องจักรในด้านการประหยัดพลังงาน และการตรวจสอบระยะไกลของเครื่องจักรแก่ลูกค้าซึ่งช่วยให้เรา และลูกค้าสามารถดูการทำงานหลักของเครื่องได้จากระยะไกลเพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพสูงสุดซึ่งเทคโนโลยีนี้มีความสำคัญมากขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดเนื่องจากบางครั้งการเข้าทำงานในโรงงานลูกค้าอาจจะติดขัดและมีผลกระทบต่อการผลิตได้เนื่องจากการแพร่ระบาดยังคงมีอยู่

สิ่งที่ Atlas Copco มุ่งมั่นเป็นพิเศษก็คือการเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์รักษาโลกสีเขียว เพราะเราทุกคนทราบดีกว่าทรัพยากรบางอย่างบนโลกใช้แล้วหมดไป ดังนั้นการนำพลังงานหมุนเวียนมามีส่วนร่วมในการผลิตจึงเป็นส่วนสำคัญของการสร้างโลกสีเขียวอย่างยั่งยืน ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทไม่ว่าจะเป็นปั๊มสูญญากาศเครื่องอัดอากาศ หรือปั๊มลมเครื่องมืออุตสาหกรรมที่ใช้ในการประกอบยานยนต์ และเครื่องมือขุดเจาะล้วนมีการพัฒนาเทคโนโลยีให้มีส่วนช่วยประหยัดพลังงานและการใช้พลังงานแสงอาทิตย์

เทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนได้เพื่อผลักดันให้เกิดสังคมที่มีก๊าซคาร์บอนต่ำ และยังส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจใหญ่หรือโอกาสที่จะช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างๆเพราะจุดประสงค์คือการลดสภาวะก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานและพลังงานที่ใช้ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายว่าเราจะช่วยลดการปล่อยมลพิษเพื่อช่วยจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไว้ที่สูงสุด 1.5 °C (2.7 °F) เพื่อให้บรรลุสิ่งนี้ Atlas Copco จะสามารถลดการปล่อยมลพิษที่เกิดขึ้นในส่วนต่างๆ ลง 46% ภายในปี 2030

สำหรับในประเทศไทย Atlas Copco ได้ดำเนินธุรกิจมา 30 ปีแล้วมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของหลายๆ บริษัทแต่บริษัทของเรายังคงเติบโตเนื่องจากเราได้ทำการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอยู่ตลอดเวลา พร้อมกับเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดต้นทุนการผลิตโดยมุ่งเน้นเรื่องการประหยัดพลังงานที่เกี่ยวข้องกับการลดค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าไฟฟ้าในการผลิตให้ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เพราะว่าตลอดอายุการใช้งานของเครื่องจักรค่าไฟฟ้าตลอดอายุการใช้งานของเครื่องจักรคิดเป็น 75%-80% ซึ่งเป็นต้นทุนหลักเมื่อเทียบกับราคาเครื่องจักรและค่าบำรุงรักษาเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งประมาณ 20%-25%

ในหลายธุรกิจอาจได้รับผลกระทบและบริษัทเหล่านั้นมีอาจจะการปลดพนักงานเพื่อควบคุมรายจ่ายแต่สำหรับ Atlas Copco ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมาได้มีการเพิ่มจำนวนบุคลากรขึ้น 9% สำหรับหน่วยงานบริษัทแอตลาสคอปโก้ (ประเทศไทย) จำกัด และได้ทำการปรับปรุงอาคารสำนักงานของเราในเมืองไทยเพื่อตอบสนองกับนโยบายพลังงานหมุนเวียนซึ่งเรามั่นใจว่าพลังงานที่ใช้ 70% ที่ใช้ในอาคารสำนักงานของเรานั้นเป็นการใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อการประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืน

และสิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทยก็คือการที่ประเทศไทยถูกแต่งตั้งเป็นสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียย้ายฐานจากประเทศสิงคโปร์ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยและเพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นด้วย


บิ๊กโปรเจ็คต์ Water for All น้ำสะอาดเพื่อทุกคน

นอกจากนวัตกรรมต่างๆ ของ Atlas Copco จะตอบโจทย์เรื่องการประหยัดพลังงาน และความยั่งยืนแล้วสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือการทำโครงการเพื่อสังคมหรือ CSR ซึ่งจะมีโครงการ Water for All เป็นโครงการใหญ่ในระดับโกลบอลที่ทำต่อเนื่องอย่างยาวนานในแต่ละประเทศจะมีโครงการย่อยๆ ทั้งในระดับภูมิภาค และทั่วโลกอีกด้วย

ฮอสท์ปีเตอร์วูล์ฟกังวาเซล Vice President Holding Atlas Copco SE-Asia & Oceania กล่าวว่า

“โครงการน้ำเพื่อทุกคน (Water for All) ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ. 2527 ในประเทศสวีเดน เป็นโครงการการกุศลไม่แสวงหาผลกำไร (CSR) เพื่อคืนกำไรสู่สังคมในการส่งเสริมให้ทุกคนสามารถเข้าถึงน้ำดื่มที่สะอาดมีสุขาภิบาล และอนามัยที่ดีตามหลักสิทธิมนุษยชนเป็นโครงการที่พนักงานของเราทุกคนให้ความสำคัญอย่างยิ่งด้วยการบริจาคเงินของพนักงานโดยความสมัครใจ และบริษัทจะทำการสมทบเพิ่มให้อีกเป็นสองเท่าเพื่อจัดหาน้ำดื่ม และน้ำเพื่อการสุขาภิบาลที่สะอาดให้กับผู้คนที่ต้องการเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดในถิ่นทุรกันดารต่างๆ ทั่วโลก”

นอกจากการบริจาคเงินแล้วยังรวมไปถึงการพัฒนา และการเข้าถึงแหล่งน้ำที่สะอาดนั้นสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) ที่องค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UN Thailand) ได้กำหนดไว้เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจช่วยให้มีระบบนิเวศที่ดีและเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานของการดำรงชีวิต

จากการวิจัยของ World Bank พบว่ายังมีประชากรทั่วโลกกว่า 2.2 พันล้านคนที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดเพื่อบริโภคได้ประชากรกว่า 4.2 พันล้านคนที่ไม่ได้รับบริการด้านสุขอนามัยที่ดีและประชากรอีกกว่า 3 พันล้านคนไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการล้างมือขั้นพื้นฐานช่องว่างในการเข้าถึงแหล่งน้ำและการสุขาภิบาลเกิดจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นทำให้ความต้องการใช้น้ำมากขึ้นรวมถึงความแปรปรวนของสภาพอากาศในปัจจุบันซึ่งส่งผลให้เกิดกระทบในหลายพื้นที่ทั่วโลกน้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญในการเติบโตทางเศรษฐกิจและช่วยในการพัฒนาแหล่งชุมชนอย่างยั่งยืน

โครงการ Water for All ได้เริ่มดำเนินการครั้งแรกที่เมือง Anden ในอเมริกาใต้ต่อมาก็ได้ขยายไปไปยังถิ่นธุรกันดารอีกหลายประเทศทั่วโลกอาทิประเทศจีนประเทศอินเดียรวมถึงประเทศต่างๆ ในแถบแอฟริกา

ทาง Atlas Copco มีความเชื่อว่าแค่น้ำก็สามารถเปลี่ยนชีวิตได้คนทั่วโลกต้องการเข้าถึงน้ำสะอาดต้องการช่วยให้ผู้คนเหล่านี้บรรลุเป้าหมายเพราะเชื่อว่าน้ำสะอาดเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน

ทางด้าน ซานเจย์ ซาฟายา กรรมการผู้บริหารบริษัท แอตลาส คอปโก้ (ประเทศไทย) จำกัด เสริมว่า

“สำหรับโครงการ Water for All ในประเทศไทยได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 แล้วในปี พ.ศ. 2564 ได้เดินทางไปพัฒนาระบบน้ำประปา และก่อสร้างถังเก็บน้ำให้กับหมู่บ้านบนดอยจำนวน 3 หมู่บ้านในจังหวัดเชียงรายได้แก่หมู่บ้านแม่ตาซาง, หมู่บ้านบาลาห์และหมู่บ้านร่วมใจ ครอบคลุมช่วงเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม พ.ศ. 2564 โครงการได้รับทุนสนับสนุนจากบริษัท แอตลาส คอปโก้ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นจำนวนเงินรวมทั้งหมดประมาณ 400,000 บาท”

โครงการนี้จะช่วยลดปัญหาด้านการขาดแคลนน้ำทั้ง 3 หมู่บ้าน เพื่อให้มีน้ำเพียงพออย่างน้อย 50 ลิตรต่อวันตามที่ระบุไว้ในมาตรฐานสากล (มาตรฐานด้านมนุษยธรรม SPHERE) สำหรับการใช้งานต่อวันสำหรับการบริโภค และการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล

ด้วยการสนับสนุนการเงินจาก Atlas Copco และการช่วยเหลือด้านการจัดการของบริษัทแพลนอินเตอร์เนชั่นแนลประเทศไทยได้ส่งเสริมชุมชนเพื่อสร้างถังเก็บน้ำในบ้านร่วมใจและท่อส่งน้ำแรงโน้มถ่วงที่บ้านแม่ตาช้างและบ้านบาลาร์ได้สำเร็จ ส่งผลให้โครงการตอบสนองการเข้าถึงแหล่งน้ำสำหรับประชากรในหมู่บ้านจำนวน 1,969 คน

ซึ่งหมายความว่ามีน้ำเพียงพอตลอดทั้งปีโดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งซึ่งจะมีปริมาณน้ำที่พอเพียงสำหรับสมาชิกในครัวเรือนเพื่อที่จะสามารถทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดการเพิ่มผลผลิตและเพิ่มรายได้มากขึ้นสำหรับชุมชนเหล่านี้อีกทั้งยังจะช่วยให้เด็กและเยาวชนมีความปลอดภัยโดยไม่จำเป็นต้องไปตักน้ำจากแหล่งน้ำที่ไกลจากชุมชนอีกด้วย

จะเห็นได้ว่า Atlas Copco มีความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนในทุกมิติทั้งการพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมต่างๆเพื่อประหยัดพลังงานนำไปสู่การลดต้นทุนลดการปล่อยสารพิษได้อย่างมหาศาลอีกทั้งยังมีโครงการที่สร้างความยั่งยืนให้กับชุมชมและสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย

 

]]>
1378499
มองตลาด ‘ปั๊มลม’ เมืองไทยกับก้าวใหม่ของ ‘เดลต้า’ ปั๊มลมยุคดิจิทัล เทคโนโลยี DSV ออนไลน์ทุกที่ทุกเวลา https://positioningmag.com/1318261 Wed, 10 Feb 2021 07:00:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1318261

ตลาด ‘ปั้มลม’ เมืองไทย เเข่งดุเเละโตต่อเนื่อง ‘DELTA เดลต้า’ เเบรนด์ดังจากอิตาลี งัดทีเด็ดสร้างความเเตกต่าง พัฒนาระบบ ‘DSV’ ปั๊มลมสุดล้ำรับยุคดิจิทัล ตรวจสอบการทำงานเเบบเรียลไทม์ ผ่านออนไลน์ทุกที่ทุกเวลา เก็บข้อมูลไว้บน ‘คลาวด์’ วิเคราะห์ได้ พร้อมเผยกลยุทธ์หาลูกค้าในตลาด Niche Market

‘ปั๊มลม’ เป็นสินค้าจำเป็นในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม เพราะเป็น 1 ใน 3 พลังงานในโรงงานที่เครื่องจักรต้องใช้ ทั้ง ‘ไฟฟ้า-น้ำ-ลม’ ถ้าหากอย่างใดอย่างหนึ่งหยุดทำงานไป ก็จะทำให้กระบวนการผลิตได้รับผลกระทบได้ ดังนั้นการเลือกใช้ปั๊มลมที่มีคุณภาพ เหมาะกับการใช้งาน ช่วยลดต้นทุนเเละมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย จึงเป็นการ ‘ลงทุน’ ที่คุ้มค่า

ตลาดปั๊มลมในเมืองไทย มีการเติบโตต่อเนื่อง โดยอิงกับการเติบโตภาค ‘อุตสาหกรรม’ ปัจจุบันมีผู้ใช้เเบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้เเก่ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่มองว่าปั๊มลมเป็นทรัพยากรสำคัญ ราว 70% ส่วนอีกกลุ่มเป็นรายย่อยที่ใช้พลังงานลมทั่วไปราว 30% 

พัชร์พล พชรวรณวิชญ์  กรรมการบริหาร บริษัท เดลต้า คอมเพรสเซอร์ (เอเซีย) จำกัด เล่าให้ฟังว่า ย้อนกลับไปราว 5 ปีที่ผ่านมา มีจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการปั๊มลม เมื่อเทรนด์ ‘พลังงานสะอาด’ เข้ามา เเม้ตลาดในประเทศไทยยังไม่ได้เห็นภาพเปลี่ยนไปเร็วมากนัก เเต่ก็เห็นว่าลูกค้าที่มีการใช้ปั๊มลมอยู่เเล้ว มีการ ‘อัพเกรด’ หรือเปลี่ยนรุ่นใหม่ เพื่อให้ประหยัดพลังงานเเละเป็นมิตรกับสิ่งเเวดล้อมมากขึ้น

สำหรับเเบรนด์ ‘เดลต้า’ (DELTA) ผู้นำด้านเทคโนโลยีปั๊มลมและแก๊สชนิดต่างๆ สำหรับใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมทุกประเภท จากประเทศอิตาลีที่มีอายุยาวนานนับร้อยปี เริ่มเข้ามาทำตลาดในไทยตั้งเเต่เมื่อ 30 ปีก่อน

โดยมีกลุ่มลูกค้ากระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ ทั้งโรงงานขนาดใหญ่เเละกลาง ซึ่งหลักจะอยู่ที่
‘ภาคตะวันออก’ เนื่องจากมีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพเเละปริมณฑล รวมไปถึงตามปั๊มน้ำมันด้วย 

ในปัจจุบันบริษัทมีการพัฒนาธุรกิจให้เป็นมากกว่า ‘ปั๊มลม’ ยกตัวอย่างเช่น บริษัทเเม่ที่อิตาลีจะขยายไปสู่งาน ‘สั่งทำ เเบบพิเศษโดยเฉพาะ ทำปั๊มลมกันระเบิด ปั๊มลมที่ใช้ในเเท่นขุดเจาะน้ำมัน เเละเข้าถึงธุรกิจก๊าซธรรมชาติเเละใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำมากขึ้น

-พัชร์พล พชรวรณวิชญ์  กรรมการบริหาร บริษัท เดลต้า คอมเพรสเซอร์ (เอเซีย)

@เเบรนด์ตะวันตก ชิงตลาดปั๊มลมไทย 

เมื่อมองการเเข่งขันของธุรกิจปั๊มลมในไทย พบว่า ส่วนใหญ่จะเป็นการต่อสู้กันของ ‘เเบรนด์ตะวันตก’ ทั้งอิตาลี เยอรมัน สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ตามมาด้วยญี่ปุ่นเเละออสเตรเลีย

โดยลูกค้าคนไทย มักจะเลือกซื้อปั๊มลมจากเเบรนด์ยุโรป เพราะมีชื่อเสียงในวงการนี้มานาน เเต่อย่างไรก็ดี การตัดสินใจของลูกค้าก็เเตกต่างกันไป เช่น กลุ่มลูกค้าที่ตั้งธงว่าจะใช้เพียงเเบรนด์ใดเเบรนด์หนึ่ง หรือโรงงานของชาวญี่ปุ่นก็จะเลือกใช้สินค้าของเเบรนด์ญี่ปุ่น เเต่ทุกวันนี้ลูกค้าก็มีการเปิดใจรับในเรื่องเทคโนโลยีมากขึ้น

@เหตุผลในการเลือกซื้อ ‘ปั๊มลม’ คืออะไร ?

ธวัชชัย อัฐปัน กรรมการบริหาร บริษัท เดลต้า คอมเพรสเซอร์ (เอเซีย) จำกัด บอกว่า เรื่องเเรกที่ลูกค้าให้ความสำคัญในการเลือกซื้อ ‘ปั๊มลม’ มากที่สุดคือ ‘คุณภาพ’ เเม้จะฟังดูวัดผลยาก เเต่ลูกค้าทุกคนต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูง

รองลงมาคือเรื่อง ‘การบริการหลังการขาย’ ต้องมีอะไหล่ที่หาง่าย ทีมช่างที่มีทักษะเเละ Know – How ขององค์กร จากนั้นจึงมาดูที่เรื่อง ‘ราคา’ ที่มีทั้งราคาถูกเเละเเพงเเตกต่างกันไป ตามขนาดเเละการใช้งาน

อีกเรื่องที่สำคัญที่หลายคนอาจมองข้ามไป หรืออาจจะเพิ่งเริ่มลงทุน มีงบน้อยอยากผลิตให้ได้ก่อน จึงไม่ได้คำนึงถึงการลดต้นทุนมาก คือ ‘ประสิทธิภาพทางไฟฟ้า’ ซึ่งหากเลือกลงทุนซื้อใช้ปั๊มลมที่มาช่วยในส่วนนี้ ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้มาก

‘ปั๊มลมเดลต้า มีราคาในเรทกลางๆ เรทราคาคอนข้างกว้างเพราะมีหลายสเปก ตามขนาดการใช้งาน ตั้งเเต่หลักเเสน-หลายล้านบาท’ 

-ธวัชชัย อัฐปัน กรรมการบริหาร บริษัท เดลต้า คอมเพรสเซอร์ (เอเซีย) จำกัด

สำหรับบริการหลังการขายของปั๊มลมเดลต้า จะมีเจ้าหน้าที่ส่วนกลางที่ผ่านการอบรมทักษะตามมาตรฐานสากล มีการจัดเทรนนิ่งระดับลึก เพื่อดูเเลลูกค้าทั่วประเทศ ปัจจุบันมีอยู่มากกว่า 10 ทีม นอกจากนี้ ยังมีทีมเซอร์วิสที่เป็นเครือข่ายพันธมิตรกระจายอยู่ทั่วภูมิภาค

มีฐานข้อมูลเเละระบบเชื่อมโยงให้เครือข่ายมีมาตรฐานเดียวกัน ทำให้สามารถดูเเลลูกค้าได้รวดเร็ว ยกตัวอย่าง ลูกค้ารายใหญ่อย่าง ‘ปตท.’ ที่มีปั๊มน้ำมันอยู่ทั่วประเทศ โดยไทยถือว่าเป็น Service Center ของเดลต้าในภูมิภาคอาเซียน จากทั้งหมดที่มีศูนย์กระจายอยู่ทั่วโลกเเละมีตลาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย

@รู้จักเทคโนโลยี DSV ปั๊มลมยุคดิจิทัล 

เมื่อมีการเเข่งขันสูง การพัฒนาสินค้าให้ ‘เเตกต่าง’ เเละ ‘ก้าวล้ำ’ จึงเป็นทิศทางของธุรกิจนี้ พัชร์พล อธิบายถึงจุดเด่นของ ‘ปั๊มลมเดลต้า’ ว่าเป็นเครื่องจักรที่มีคุณภาพสูงและทนทานเป็นพิเศษ ถูกออกแบบให้สามารถผลิตลมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงานมากกว่าปั๊มลมทั่วไป ช่วยลดต้นทุนการผลิต ควบคุมการทำงานได้ทั้งระบบขับหลักและระบบระบายความร้อน

โดยความโดดเด่นที่เป็นจุดขายล่าสุดที่ทำให้ปั๊มลมเดลต้า เเตกต่างจากยี่ห้ออื่นในตลาด คือ การเป็น Smart Air Compressor ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี IoT ของตังเองขึ้นมาที่มีชื่อว่าเทคโนโลยี DSV หรือ Delta Smart Visions 

มีระบบสังเกตการณ์ผ่าน Internet 100% โดยเดลต้าเป็นแบรนด์แรกของประเทศไทยที่สามารถดูการทำงานของปั๊มลมได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านเบราว์เซอร์ของคอมพิวเตอร์ หรือ สมาร์ทโฟน” เริ่มติดตั้งให้กับปั๊มลมเดลต้า ‘ทุกเครื่อง-ทุกรุ่น-ทั่วโลก’ มาตั้งเเต่ช่วงปลายปี 2020 ซึ่งลูกค้าที่ใช้รุ่นเก่าอยู่มีการอัพเดทให้ทันที

โดยมีการทำงานที่น่าสนใจมาก คือ เมื่อปั๊มลมมีอาการผิดปกติหรือส่งสัญญาณแจ้งเตือน ระบบ DSV จะสามารถวิเคราะห์ถึงอาการที่ผิดปกติของปั๊มลมให้ผู้ที่ใช้งานทราบผ่านเเอปพลิเคชั่น Line ได้เเบบเรียลไทม์

“มีกราฟวิเคราะห์ อุณหภูมิ การทำงานของเครื่อง ระบุถึงความดันต่างๆ ระยะเวลาทำงานอีกทั้งยังบอกได้ว่าอุปกรณ์ชิ้นไหนต้องถึงเวลาซ่อมบำรุง จึงทำให้พนักงานจะทำงานได้เเม่นยำเเละสะดวกขึ้นมาก” 

นอกจากนี้ ระบบ DSV ยังมีการเก็บข้อมูลการใช้งานไว้ทั้งหมดไว้บน ‘คลาวด์’ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบและวิเคราะห์การทำงานของเครื่องจักรได้ตลอดการผลิต ตั้งแต่เปิดใช้งานวันแรก โดยนำข้อมูลที่บันทึกได้ สามารถนำมาช่วยโรงงานทั้งการวางเเผนตั้งงบพลังงาน วางเเผนการซ่อมบำรุงเเละเพิ่มกำลังผลิต รวมไปถึงขยายไลน์การผลิต

“ปัจจุบันโลกเทคโนโลยี 4.0 คนจะกลายมาเป็นผู้ดูเเลการทำงานของเครื่องจักรเเทน ตอนนี้คนที่คุมโรงงานจะไม่ต้องนั่งเฝ้าหรือเดินดูเพื่อจดตัวเลขเเล้ว พวกเขาจะอยู่คอนโทรลรูม เเล้วเห็นการทำงานของเครื่องจักรได้ทุกอย่างเเบบเรียลไทม์” 

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของปั๊มลม DELTA ได้แก่ โรงงานอุตสาหกรรมที่มีการผลิตอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ ที่ต้องการใช้ปั๊มลมที่ทันสมัยและประหยัดพลังงาน เช่น โรงงานผลิตรถยนต์และชิ้นส่วน โรงงานพลาสติก โรงงานปาร์มน้ำมัน โรงสีข้าว โรงกลั่นน้ำมัน เป็นต้น

ปัจจุบัน DELTA มีสินค้าพร้อมจำหน่ายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น สินค้าในกลุ่มพลังงานทดแทน, กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานแก๊ส, ปั๊มลมแบบลูกสูบ, ปั๊มลมแบบสกรู และเครื่องทำอากาศแห้ง โดยสินค้าทั้งหมดถูกออกแบบและผลิตมาให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการและความแตกต่างของทุกโรงงานได้อย่างครบวงจร โดยเฉพาะในด้านระบบอัดแก๊สต่าง ๆ

“DELTA มีเครื่องอัดลมคุณภาพสูงที่ผลิตขึ้นเพื่อเสริมแรงขับเคลื่อนให้แก่อุตสาหกรรมทุกประเภท ช่วยให้เครื่องจักรสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ปั๊มลมเดลต้าพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการโรงงานในประเทศไทย ก้าวเข้าสู่ Smart Factory 4.0 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ” 

กลยุทธ์หา “ลูกค้าปั๊มลม” อย่างไร ในตลาด Niche Market

ผู้บริหารเดลต้า เปิดเผยว่า บริษัทมีทีมฝ่ายขายที่มีการเข้าหาลูกค้าโดยตรง ซึ่งต้องเป็น‘วิศวกร’ ผู้ผ่านการเทรนนิ่งมาโดยเฉพาะ มีการสอบวัดผลทุกเดือน โดยจะไม่ได้เข้าไปเพื่อขายสินค้าโดยตรง เเต่จะเน้นไปที่การ ‘Consulting’ ให้คำปรึกษาตามหลักวิศวกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าบอกกลับมาว่า ‘ชอบมาก’ ส่วนอื่นๆ จะเน้นการทำมาร์เก็ตติ้ง ออนไลน์-ออฟไลน์ สื่อสารไปให้ถึงกลุ่มเป้าหมายในอย่าง กลุ่มวิศวกร เจ้าของโรงงาน เจ้าของกิจการเป็นหลัก นอกจากนี้ ยังเข้าถึงกลุ่มคนทั่วไปโดยการออกบูธตามงานนิทรรศการต่างๆ

ในส่วนออนไลน์ จะเน้นไปที่การให้ ‘คอนเทนต์ความรู้’ มากกว่าการโฆษณาสินค้า เพราะจุดเเข็งของ DELTA คือคลังความรู้เฉพาะ Know-how ของบริษัทที่น่าเชื่อถือเเละมีมายาวนานนับร้อยปี พร้อมอธิบายให้ผู้อ่านได้เข้าใจเเบบ ‘ง่ายๆ’ 

ช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา DELTA ก็ได้รับผลกระทบเหมือนกันกับทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก เมื่อการจับจ่ายใช้สอยน้อยลง โรงงานก็มียอดการผลิตน้อยลงไปด้วย นโยบายขยายการผลิตก็ลดลงไปด้วย ซึ่งกระทบต่อยอดขายปั๊มลมเช่นกัน

“เเต่ในอีกมุมหนึ่งของวิกฤต COVID-19 เราจะเห็นได้ว่ามีธุรกิจที่เติบโตขึ้น จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้ต้องเพิ่มการผลิต เช่น อุตสาหกรรมถุงมือยาง หน้ากากอนามัย เเละธุรกิจเเพ็กเกจจิ้งที่เฟื่องฟูจากกระเเสเดลิเวอรี่ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เหล่านี้ล้วนเป็นอุตสาหกรรมที่หันมาใช้ปั๊มลมมากขึ้น” 

สำหรับปีนี้ เดลต้า มองทิศทางอุตสาหกรรมไทยว่าเป็น ‘ปีที่ยาก’ เพราะการระบาดยังไม่หายไปง่ายๆ เศรษฐกิจไทยยังอิงกับการค้าโลกค่อนข้างเยอะ ทั้งอุตสาหกรรมต้องเเข่งขันกันมากขึ้น ดังนั้นจึงเป็นความท้าทายที่จะต้องพัฒนาสินค้าให้มี ‘จุดเด่น’ ที่เเตกต่างจากตลาดจริงๆ เเล้วทำการสื่อสารไปยังลูกค้าให้ตรงจุด สร้างความเข้าใจเเละพบเห็นเราให้มากที่สุด

ผุดไอเดียใหม่ ‘ขายลม’ 

ผู้บริหารเดลต้า กล่าวถึงความท้าทายของธุรกิจปั๊มลมว่า คือการก้าวผ่านขีดจำกัดของเทคโนโลยีเครื่องจักร โดยการเอาระบบไอทีเข้ามารวมกับเรื่อง ‘Mechanics’ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้เเตกต่าง ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ต่างอะไรกับปั๊มลมยี่ห้ออื่น ดังนั้นจึงต้องพัฒนา ‘หาสิ่งใหม่’ ให้ก้าวหน้าขึ้นไปตลอดเวลา

“เดลต้า กำลังมีโปรเจ็กต์ที่น่าสนใจมาก คาดว่าจะเริ่มได้ประมาณปลายเดือน ก.พ.นี้ คือการ
‘ขายลม’ คิดง่ายๆ อย่างทุกวันนี้เราซื้อน้ำจากการประปา ซื้อไฟกับการไฟฟ้า เเละถ้าอยากได้พลังงานลมก็ให้มาซื้อกับเดลต้าได้ ตั้งใจเจาะกลุ่มโรงงานที่ต้องการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย เเปลงจาก fixed cost เป็น variable cost…

โดยกระบวนการคร่าวๆ คือการเอาปั๊มลมของเราไปติดตั้ง วัดการทำงานจากระบบ DSV เเล้วลูกค้าจ่ายเป็นค่าลม ถ้าใช้เยอะก็จ่ายเยอะ ใช้น้อยก็จ่ายน้อย ซึ่งต่างจากการเช่าเครื่องปั๊มลมทั่วไป เพราะเช่าเครื่องเเต่ไม่ได้ใช้ก็ต้องจ่ายเป็นรายวัน/รายเดือน เเต่โปรเจ็กต์นี้จะนับเป็นบปริมาณที่ใช้ลมไปจริงๆ ลูกค้าจึงไม่ต้องกังวลเรื่องซ่อมบำรุงหรือหาอะไหล่ ไม่ต้องซื้อเครื่องก็ไม่ต้องจ้างทีมช่างเอง”

นับเป็นโปรเจ็กต์ล้ำๆ กับเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจแห่งวงการ ‘ปั๊มลม’ เมืองไทยเลยทีเดียว…
‘เดลต้า’ จะเปิดตัวอะไรใหม่ๆ มาเอาใจลูกค้ายุคดิจิทัลกันอีก…ต้องติดตาม

]]>
1318261