ปารีส – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 22 Mar 2021 06:46:27 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘ยุโรป’ กำลังเผชิญการระบาด ‘ระลอก 3’ จากโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่รุนแรงกว่าเดิม https://positioningmag.com/1324398 Mon, 22 Mar 2021 05:23:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1324398 การติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณใน ‘เยอรมนี’ และการล็อกดาวน์ครั้งใหม่ใน ‘ปารีส’ เป็นเวลา 1 เดือนได้ตอกย้ำสถานการณ์เลวร้ายทั่วยุโรปว่าเชื้อไวรัส COVID-19 ระบาดอีกครั้ง โดยไวรัส COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ที่ถูกค้นพบในสหราชอาณาจักรถูกมองว่าเป็นสาเหตุของการระบาดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเชื้อสายพันธุ์นี้มีรายงานว่ารุนแรงกว่าสายพันธุ์เดิมมาก

เมืองหลวงของฝรั่งเศสและทางตอนเหนือของประเทศจะเข้าสู่การล็อกดาวน์ใหม่ในวันศุกร์ แม้ว่าโรงเรียนและร้านค้าสำคัญ ๆ จะยังคงเปิดให้บริการอยู่ โดยค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 สายพันธุ์ใหม่มีสูงถึง 25,000 รายในช่วงเวลา 7 วัน โดยเป็นการติดเชื้อที่สูงสุดหลังจากเดือนพฤศจิกายน

ส่วนใน ‘เยอรมนี’ จากที่ นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ได้ประกาศผ่อนคลายการล็อกดาวน์ในเดือนมีนาคม เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อที่ 65 รายต่อ 100,000 คน แต่ตอนนี้ตัวเลขนั้นทะลุ 100 คนเรียบร้อย ซึ่งเกินกว่าระดับ 100 รายที่ห้องผู้ป่วยหนัก (ICU) ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ นั้นสามารถรองรับได้สูงสุด ทำให้รัฐบาลเยอรมันเตรียมประกาศขยายระยะเวลาใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเดือนที่ 5

“ตัวเลขผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอาจหมายความว่าเราไม่สามารถดำเนินการตามขั้นตอนการเปิดตัวเพิ่มเติมได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ในทางกลับกันเราอาจต้องก้าวถอยหลังด้วยซ้ำ” นายเจนส์ สปาห์น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนี กล่าว

(Photo by Pascal Le Segretain/Getty Images )

‘อิตาลี’ ได้ระงับแผนเทศกาลอีสเตอร์ไว้แล้วด้วยการประกาศปิดประเทศครั้งใหม่โดยนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี โดยอิตาลีมีผู้เสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 6 ของโลก โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 103,855 ราย นอกจากนี้ ‘โปแลนด์’ ยังพบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยประมาณ 52% ของผู้ป่วยรายใหม่ที่เชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อจากสหราชอาณาจักร ปัจจุบัน โปแลนด์มีผู้ติดเชื้อทั้งหมดกว่า 2 ล้านราย

ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งของการระบาดหนักมาจากแคมเปญการฉีดวัคซีนของประเทศในสหภาพยุโรปมีประสิทธิภาพต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังมีปัญหาการจัดหาและการจัดซื้อวัคซีน โดยเฉพาะวัคซีน AstraZeneca-Oxford ที่ถูกเบรกลงเนื่องจากพบผลข้างเคียงที่ก่อให้เกิดลิ่มเลือดที่กำลังตรวจสอบอยู่ ขณะที่เยอรมนีได้เตือนว่าปัจจุบันมีวัคซีนไม่เพียงพอในยุโรปที่จะป้องกันการระบาดรอบ 3 นี้

Source

]]>
1324398
ปารีส ปรับโฉม ‘ฌ็องเซลิเซ่’ ถนนดังในตำนาน สร้างอุโมงค์ต้นไม้ เพิ่มทางเท้า ลดทางเดินรถ https://positioningmag.com/1313650 Mon, 11 Jan 2021 09:28:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1313650 ถนนชื่อดังที่เปรียบเสมือนเเลนด์มาร์กเเห่งกรุงปารีส อย่างฌ็องเซลิเซ่’ (Champs-Élysées) กำลังจะได้รับการปรับโฉมใหม่ในรอบหลายทศวรรษ ให้กลายเป็นสุดยอดสวนสวยเป็นมิตรกับสิ่งเเวดล้อม ด้วยการเพิ่มต้นไม้ เพิ่มทางเท้า เเละลดขนาดช่องถนนเพื่อแก้ปัญหามลพิษ 

Anne Hidalgo นายกเทศมนตรีกรุงปารีส ฝรั่งเศส เปิดเผยถึงเเผนการนี้ว่า จะใช้งบประมาณทั้งสิ้นราว 250 ล้านยูโร (ราว 9.1 พันล้านบาท) ในการเนรมิตถนนฌ็องเซลิเซ่ ให้เป็นพื้นที่สีเขียวตลอดระยะทาง 1.9 กิโลเมตร ด้วยคอนเซ็ปต์ ‘Extraordinary Garden’ หลังมีการผลักดันมาตั้งเเต่ช่วงปี 2018

ฌ็องเซลิเซ่ มักถูกเรียกว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลก เเต่พวกเราที่ต้องทำงานอยู่เเถวนี้ทุกวันอาจไม่ได้คิด
เเบบนั้น
Jean-Noël Reinhardt หนึ่งในคณะกรรมการของโครงการปรับปรุงฌ็องเซลิเซ่ กล่าว

เขามองว่า ถนนชื่อดังแห่งนี้ สูญเสียความงดงามไปในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ชาวปารีสเองก็ลดความสำคัญของ
ฌ็องเซลิเซ่ไปเรื่อยๆ อีกทั้งพื้นที่นี้ยังได้รับผลกระทบจากวิกฤตต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการประท้วงเเละปัญหาเศรษฐกิจ

ที่ผ่านมา ฌ็องเซลิเซ่ มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมเพิ่มขึ้นทุกปี ธุรกิจเเบรนด์ดังต้องต่อสู้เพื่อแย่งชิงพื้นที่ร้านค้า แต่สำหรับชาวฝรั่งเศสแล้ว มันกลับดูทรุดโทรมไปมาก

ทางคณะกรรมการฯ ได้หารือเเละรับฟังเสียงประชาชน เพื่อวางเเผนการปรับปรุงครั้งใหญ่ โดยได้ข้อสรุปหลักๆ ว่า จะมีจะลดขนาดช่องเดินรถให้เล็กลงครึ่งหนึ่งจากปัจจุบัน เพื่อลดมลพิษ พร้อมเพิ่มทางเท้าเเละสร้างอุโมงค์ต้นไม้ให้กลายเป็นสวนสวยสุดอลังการ เพื่อให้มีคุณภาพอากาศที่ดีเหมาะกับการอยู่อาศัย

ภาพจำลองโครงการปรับปรุงถนนฌ็องเซลิเซ่ (Photo : PCA-Stream)

ถนนในตำนานเส้นนี้ ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ตอนนั้นถูกเรียกว่าGrand Cours’ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น ฌ็องเซลิเซ่’ (Champs-Élysées)ในปี 1709 ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นเเหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม มีผู้คนมากมายมาเดินเล่นเเละนั่งปิกนิก พร้อมเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญหลายเเห่ง มีร้านอาหารหรู เเละมีเเบรนด์เเฟชั่นชั้นนำมาเปิดสาขาในย่านนี้

ก่อนที่จะเกิดวิกฤต COVID-19 มีผู้คนสัญจรบนถนนฌ็องเซลิเซ่อย่างคึกคักนับเเสนคนต่อวัน โดยกว่า 72% เป็นนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และอีก 22% คือคนท้องถิ่นที่ทำงานอยู่ในย่านนี้

นอกจากคนเดินเท้าจำนวนมากเเล้ว ฌ็องเซลิเซ่ยังประสบปัญหาจราจรติดขัด เเม้จะเป็นถนนใหญ่ขนาด 8 ช่องทางเดินรถ เเต่ก็มีการสัญจรของรถยนต์จำนวนถึง 3,000 คันต่อชั่วโมง สร้างมลพิษทางอากาศให้กรุงปารีสมาเป็นเวลานาน

ด้วยปัจจัยเหล่านี้ ทำให้เกิดโครงการปรับโฉมฌ็องเซลิเซ่ ให้เป็น ‘Extraordinary Garden’ สวนสีเขียวที่เป็น
มิตรกับสิ่งเเวดล้อม โดยคาดว่าจะเเล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2030 เเม้จะเสร็จไม่ทันงานโอลิมปิกฤดูร้อนในปี 2024 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ เเต่ก็มีเเผนจะปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลายเเห่งไว้ รอหลังวิกฤตโรคระบาดผ่านพ้นไป

โดยต่อไป ทางกรุงปารีสก็มีเเผนจะปรับเปลี่ยนหอไอเฟลให้กลายเป็นสวนสีเขียวใจกลางเมืองเช่นเดียวกัน

 

ที่มา : the guardian

]]>
1313650
‘ปารีส’ ยกระดับการแจ้งเตือนขั้น ‘สูงสุด’ หลังผู้ติด COVID-19 ทะลุ 6.2 แสนราย https://positioningmag.com/1300023 Mon, 05 Oct 2020 10:41:23 +0000 https://positioningmag.com/?p=1300023 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ‘ฝรั่งเศส’ ได้รายงานถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่เกือบ 17,000 ราย และในวันอาทิตย์กลับมีผู้ป่วยเพิ่มอีก 12,565 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยทั้งหมดในฝรั่งเศสอยู่ที่ 629,509 ราย ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงในช่วงไม่กี่วัน ส่งผลให้รัฐบาลฝรั่งเศสได้เพิ่มคำเตือนการระบาดของไวรัส COVID-19 เป็นระดับสูงสุดใน ‘ปารีส’ และปริมณฑลโดยรอบ

สำนักนายกรัฐมนตรี ฌอง กัสเต็กซ์ ประกาศว่า สาเหตุที่ประกาศการแจ้งเตือนสูงสุดเป็นเพราะอัตราการเกิดโรค COVID-19 เกินค่าเฉลี่ยของประชากรที่มีผู้ติดเชื้อ 250 คนต่อ 100,000 คน อีกทั้ง ผู้ติดเชื้อที่มีอายุมากกว่า 65 ปีสูงกว่า 100 ต่อ 100,000 คน ขณะที่กว่า 30% ของเตียงคนไข้ตามโรงพยาบาลทุกแห่งในกรุงปารีส และพื้นที่ใกล้เคียง เต็มไปด้วยผู้ป่วยโรค COVID-19

ทั้งนี้ ผับ, บาร์ในเมืองหลวงของฝรั่งเศสจะถูกปิดเป็นเวลา 15 วัน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันอังคารเป็นต้นไป ส่วนร้านอาหารยังสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ แต่เปิดได้ถึง 22.00 น. เท่านั้น ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ออกมาขอความร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวว่าให้ทำงานที่บ้านแทน

นายเจอรัลด์ ดาร์มานิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การปิดบาร์และคาเฟ่ถือเป็นเรื่องที่ ‘ยาก’ สำหรับประชาชนชาวฝรั่งเศส “เราเป็นคนฝรั่งเศสเราชอบดื่มกิน และจูบกัน แต่เราก็ทำ”

Source

]]>
1300023
รถไฟฟ้าใต้ดินในปารีส เตรียมทดลองใช้ AI ตรวจจับว่าผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยหรือไม่ https://positioningmag.com/1277516 Fri, 08 May 2020 10:21:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1277516 รถไฟฟ้ากรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส กำลังเตรียมทดสอบระบบซอฟต์เเวร์เพื่อนำ AI มาทำงานร่วมกับกล้องวงจรปิด CCTV เพื่อตรวจจับว่ามีผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยหรือไม่

เป็นอีกหนึ่งความพยายามของรัฐบาลที่ต้องการจะหยุดยั้งการเเพร่ระบาดของ COVID-19 ขณะเดียวกันก็สร้างความกังวลต่อพลเมือง เพราะอาจจะเป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว

โดยซอฟต์เเวร์ที่จะนำมาใช้ในครั้งนี้ พัฒนาโดย Datakalab บริษัทเทคโนโลยีของฝรั่งเศส ซึ่งจะเริ่มนำร่องระบบที่สถานี Chatelet-Les-Halles กลางกรุงปารีส ที่มีผู้ใช้บริการกว่า 33 ล้านรายต่อปี เป็นระยะเวลารวม 3 เดือน ตามนโยบายของเมืองที่เตรียมจะคลายล็อกดาวน์ในวันที่ 11 พ.ค. นี้

CNIL หน่วยงานรัฐบาลที่ดูแลเรื่องความเป็นส่วนตัว กล่าวว่ามีความกังวลว่าเทคโนโลยีประเภทนี้ เพราะมีความเสี่ยงที่ตัวตนจะถูกปลอมเเปลงขึ้น โดยมาตรการดังกล่าวจะต้องผ่านเกณฑ์การรับรองภายใต้กฎการคุ้มครองข้อมูลของยุโรป เนื่องจากกล้องจะรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้คน

“เราจะไม่เก็บข้อมูลไว้” Xavier Fischer ซีอีโอของ Datakalab ยืนยันต่อประเด็นความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวเเละบอกว่าการส่งต่อข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีระยะเวลาดีเลย์ไม่ต่ำกว่า 15 นาที

ด้านรถไฟใต้ดินในกรุงปารีส ระบุว่าได้รับเเจ้งจาก CNIL เกี่ยวกับแผนการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวเเล้ว เเละจะนำไปปฎิบัติอย่างเคร่งครัด โดยซอฟต์แวร์ดังกล่าวจะถูกนำไปใช้เพื่อวัดสถิติจำนวนคนที่ปฏิบัติตามกฎและจะไม่ถูกนำไปใช้กับคนที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย

สำหรับสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในฝรั่งเศส ล่าสุดมียอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 1.7 เเสนราย มียอดเสียชีวิตสะสมกว่า 2.5 หมื่นคน นับเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 5 ของโลก

 

ที่มา : bloomberg

 

 

]]>
1277516