ใครว่ามีแค่ผู้หญิงที่ติดซื้อสินค้าลักซูรีหรือไฮเอนด์ เพราะผลวิจัย “Unstoppable Luxumer เจาะอินไซต์ หยุดไม่ได้ใจมันลักซ์” ของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU ชี้ชัดว่า “ยุคนี้ผู้ชายมีแนวโน้มติดหรูมากกว่าผู้หญิงแล้ว”
ดร. ตรียุทธ พรหมศิริ หัวหน้าสาขาภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรม จาก CMMU กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงที่กระตุ้นตลาด Luxumer ในกลุ่มผู้ชายเติบโตอย่างรวดเร็ว มาจาก 4 สาเหตุหลัก ได้แก่
1.สินค้าเทคโนโลยีและแกดเจ็ต
กลุ่ม Luxumer ชาย ให้ความสำคัญกับสินค้าเทคโนโลยี อาทิ มือถือ คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์เสริมต่างๆ
มองว่าสินค้าเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือหรืออุปกรณ์สำหรับใช้งาน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมีระดับ มีสไตล์ และสะท้อนรสนิยมของผู้ใช้
2.สินค้างานอดิเรกและของสะสม สะท้อนรสนิยมสุดเท่
กลุ่ม Luxumer ชาย มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายกับสินค้าที่เกี่ยวกับงานอดิเรกมากขึ้น เช่น กล้อง เครื่องเล่นแผ่นเสียง ของเล่น ของสะสมที่มีมูลค่าสูง เช่น Art toy เป็นต้น
3.สินค้าเกมและอุปกรณ์เสริม เพื่อนแท้ชายทุกวัย
เกมเป็นอีกหนึ่งตลาดใหญ่ที่กลุ่ม Luxumer ชาย พร้อมเทกระเป๋า เนื่องจาก ผู้ชายส่วนใหญ่เล่นเกมมาตั้งแต่เด็กๆ และเติบโตมากับเกม
เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ สามารถหารายได้ด้วยตนเอง จึงเต็มใจที่จ่ายเพื่อซื้อเกมและอุปกรณ์เสริมต่างๆ ไปจนถึงอุปกรณ์เกมระดับไฮเอนด์ที่ช่วยให้เล่มเกมได้สนุกยิ่งขึ้น เช่น เกมที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้อง จอยเกมที่ปรับแต่งได้ จอมอนิเตอร์ หูฟัง หรือเครื่องเล่นเกมคุณภาพสูง
4.สินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มหรู
ชาว Luxumer ชาย พร้อมจ่ายเพื่อแลกกับประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดพิเศษ อาทิ ร้านมิชลินสตาร์ โอมากาเสะ Fine Dining ที่มีชื่อเสียง และนิยมดื่มเครื่องดื่มที่สะท้อนความมีระดับ เช่น ไวน์หรือวิสกี้เกรดพรีเมียม
“การทานอาหารในสถานที่หรูหรา ถูกมองว่าเป็นโอกาสในการสร้าง Connection และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มคนระดับเดียวกัน”
5.แฟชั่น กีฬา และ Health-Tech – โดนใจสาย Healthy ติดแกลม
โดยปกติผู้ชายจะชอบออกกำลังกายและเล่นกีฬาอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันสินค้าและอุปกรณ์กีฬาต่างๆ ได้รับการยกระดับขึ้นไปอีกขั้นด้วยการออกแบบให้สวยงาม ทันสมัย และเพิ่มเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพเข้าไปด้วย
เกิดเป็นเทรนด์ใหม่มาแรง คือ “แฟชั่นกีฬาและเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ” เช่น นาฬิกาออกกำลังกายอัจฉริยะ รองเท้าวิ่งเพื่อสุขภาพ การแต่งจักรยานคู่ใจ
นอกจากจะมีประโยชน์โดยตรงแล้ว ยังบ่งบอกถึงรสนิยม ไลฟ์สไตล์ของผู้ชายยุคใหม่ที่ใส่ใจทั้งการแลสุขภาพและภาพ “ลักซ์”
ดร. ตรียุทธ ได้สรุปว่า พฤติกรรมติดหรูของผู้ชายส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับการแสดงสถานะทางสังคม ความสำเร็จ ความสนใจในเทคโนโลยี การสร้างเอกลักษณ์เฉพาะ การจะเจาะตลาดมัดใจชายติดหรู ต้องมีกลยุทธ์ที่เรียกว่า “TOPS” ดังนี้
1.Tech-Driven เน้นเทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัย
ชายไทยชอบเทคโนโลยีมากสุด การนำเสนอสินค้า หรือบริการที่ผสานนวัตกรรม เน้นความทันสมัย และฟังก์ชันการใช้งานที่เหนือชั้น จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะดึงดูดใจชาว Luxumer ชายได้ เช่น อุปกรณ์อัจฉริยะ แกดเจ็ตสุดล้ำ หรือระบบอัตโนมัติต่างๆ
2.Outstanding & Personalization สร้างความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์
Luxumer ชาย อยากได้รับการยอมรับ ชอบความโดดเด่น และต้องการแสดงตัวตนที่แตกต่าง สินค้าที่จะมัดใจ Luxumer ชายจึงต้องมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ไม่ซ้ำแบบใคร
เช่น สินค้าที่มีจำนวนจำกัดเป็น Limited Edition หรือ Rare Item ที่ใครๆ ก็อยากครอบครอง เช่น นาฬิกา Limited Edition ที่มีเพียงไม่กี่เรือน รถสปอร์ตสั่งทำพิเศษที่มีดีไซน์ล้ำสมัยและเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีคันเดียวในประเทศไทย
รวมถึงสินค้าที่มีความ Personalization สามารถปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการและรสนิยมของลูกค้าแต่ละรายได้ เช่น ชุดสูทที่ออกแบบตัดเย็บพิเศษ รองเท้า Sneaker ที่ออกแบบลวดลายได้เอง หรือสามารถปรับแต่งฟังก์ชันการใช้งานให้เหมาะสมกับแต่ละคนได้
3.Premium Experience & Priviledge สร้างประสบการณ์พิเศษเหนือระดับ สุดประทับใจ
Luxumer ชาย ชื่นชอบประสบการณ์ที่สะท้อนถึงความหรูหราและความพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น
สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะทำให้ลูกค้ารู้สึกได้ถึงการเป็นลูกค้าคนสำคัญและได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด ซึ่งล้วนแต่เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ และจะสามารถสร้าง Brand Loyalty ให้เกิดขึ้นได้ในระยะยาว
4.Social Status สร้างภาพลักษณ์ที่สะท้อนสถานะทางสังคม
Luxumer ชายให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับภาพลักษณ์ที่สะท้อนสถานะทางสังคม หากจะมัดใจลูกค้ากลุ่มนี้แบรนด์ต้องมีภาพลักษณ์ที่ดีด้วย ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี หลักๆ เช่น
]]>รวมไปถึงการเลือกช่องทางการสื่อสารที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ เช่น นิตยสารเฉพาะสำหรับนักธุรกิจหรือนิตยสารที่เจาะกลุ่มชนชั้นสูง เว็บไซต์รีวิวเทคโนโลยี หรือแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เจาะกลุ่มเฉพาะ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและเสริมสร้างภาพ “ลักซ์” ให้กับแบรนด์
ลาซาด้า เผยเทรนด์ผู้ชายช้อปออนไลน์สูงกว่าผู้หญิง ในช่วง New Normal ทั้งเวลาเฉลี่ยในการใช้งานบนแอปพลิเคชัน และยอดใช้จ่ายต่อออเดอร์ที่มากกว่าผู้หญิง
ข้อมูลจาก KPMG เผยว่า ผู้ชายใช้เงินไปกับการทำธุรกรรมมากกว่าผู้หญิงถึง 68% จึงเป็นสาเหตุที่พวกเขามีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าเกี่ยวกับการดูแลรูปลักษณ์ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีราคาสูง รวมทั้งซื้อสินค้าในจำนวนที่มากกว่าผู้หญิง นอกจากนี้ผู้ชายยังมีแนวโน้มที่จะใช้เวลาในการซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ หรือซื้อสินค้าหลายชิ้นได้ในคราวเดียว เพื่อที่พวกเขาจะไม่ต้องกลับมาดูสินค้านั้นๆ ในภายหลังอีกด้วย ส่งผลให้ผู้ชายจะจ่ายเงินในจำนวนที่มากกว่าผู้หญิงในการซื้อของแต่ละครั้ง
ซึ่งมีความสอดคล้องกับข้อมูลของลาซาด้าที่พบว่า
เป็นข้อสรุปได้ว่าคนไทยมีการช้อปปิ้งออนไลน์กันมากขึ้น เพียงแต่พฤติกรรมของผู้ชายกับผู้หญิงมีความแตกต่างกัน ผู้หญิงอาจจะมีความถี่ในการซื้อเยอะกว่า แต่ซื้อของกระจุกกระจิก มูลค่าในการซื้อต่อครั้งไม่ได้สูงมาก แต่ผู้ชายจะซื้อของที่มีมูลค่าชิ้นใหญ่ๆ เช่น สินค้าไอที อุปกรณ์ต่างๆ และใช้เวลาในการหาข้อมูลนาน จึงมียอดการซื้อสูงกว่านั่นเอง
]]>จากรายงานของ Mordor Intelligence ระบุว่า ตลาดเครื่องแต่งกายสำหรับผู้ชาย มีแนวโน้มที่จะเติบโตถึง 5.7% ในระหว่างปี 2020 – 2025 ปัจจัยหลักๆ มาจากความนิยมของแฟชั่นสายสตรีท หรือเสื้อผ้ากลุ่ม Streetwear ที่กำลังมาเเรงในยุคนี้ รวมถึงเทรนด์ชุดกีฬาที่มีการสวมใส่ในชีวิตประจำวันกันมากขึ้น
สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้ชายมี “ทางเลือก” ในการเเต่งตัวมากขึ้นและตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เมื่อเทียบกับสมัยก่อนที่มักจะจำกัดเเค่ชุดสูทหรือเสื้อเชิ้ตแบบทั่วไป
ด้วยการเติบโตของเสื้อผ้าผู้ชาย ที่คาดว่าจะตามทันเสื้อผ้าผู้หญิงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แบรนด์เเฟชั่นไฮเอนด์รายใหญ่ อย่าง Prada, Gucci และ Dior ปรับรับเทรนด์ใหม่นี้ด้วยการเริ่มเปิดสาขาที่เน้นขายเครื่องเเต่งกายผู้ชายมากขึ้น
ล่าสุดเเบรนด์หรูอย่าง Louis Vuitton เตรียมเปิด Flagship Store จำหน่ายเฉพาะสินค้าสำหรับ “ผู้ชาย” เป็นครั้งเเรก นำร่องที่ญี่ปุ่น เเม้ตามสาขาทั่วไปของเเบรนด์จะมีสินค้าผู้ชายวางขายอยู่เเล้วก็ตาม เเต่ครั้งนี้จะเป็นการเปิดสาขาที่ขายสินค้าของผู้ชายโดยเฉพาะ
สาขาดังกล่าวจะตั้งอยู่ในย่านเเฟชั่นสำคัญอย่าง มิยาชิตะปาร์คในชิบูย่า ของกรุงโตเกียว มีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 กรกฎาคมนี้ โดยสินค้าภายในร้านจะมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น อุปกรณ์กีฬา เครื่องประดับ น้ำหอม รวมถึงคอลเลกชั่นพิเศษต่างๆ
ท่ามกลางการระบาดของ COVID-19 ผู้ที่จะเข้าไปเยี่ยมชม Flagship Store สาขานี้จะต้องปฏิบัติตามมาตรการ Social Distancing โดยจะต้องลงทะเบียนจองล่วงหน้า ผ่านทางเว็บไซต์ของ Louis Vuitton ก่อน เพื่อจำกัดจำนวนลูกค้า ให้มีความปลอดภัยในการใช้บริการ
Louis Vuitton หันมาให้ความสำคัญกับตลาดเสื้อผ้าผู้ชายอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยมีการทุ่มลงทุนครั้งใหญ่ด้วยการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญด้าน Streetwear อย่าง Virgil Abloh มานั่งตำเเหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ นำทัพสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายสำหรับผู้ชาย ซึ่งเขาประสบความสำเร็จอย่างมากในญี่ปุ่น นำมาสู่การเปิด Flagship Store ในย่านชิบูย่าครั้งนี้
นอกจาก Virgil Abloh ที่กำลังเป็นดีไซเนอร์ดาวรุ่งของวงการเสื้อผ้าผู้ชายเเล้ว ยังมีดีไซเนอร์ที่น่าจับตามองอย่าง Kim Jones ของ Dior Men เเละ Hedi Slimane ของ Celine และล่าสุด Givenchy ก็เพิ่งแต่งตั้ง Matthew Williams ดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งเเบรนด์สตรีทชื่อดัง Alyx เจ้าของคอลเลกชั่น 1017 ALYX 9SM ขึ้นมาเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนล่าสุด
ความเคลื่อนไหวของเเบรนด์หรูเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นทิศทางของ “เเฟชั่นผู้ชาย” ที่กำลังถูกขับเคลื่อนเเละจะเปลี่ยนเเปลงครั้งสำคัญในเร็วๆ นี้
ที่มา : CNA , WWD , fashionnetwork
]]>