มหาวิทยาลัย – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 14 Nov 2023 03:36:33 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 จำนวนนักศึกษาชาวอินเดียในสหรัฐฯ​ ภาคการศึกษาปี 2022 เติบโต 35% ใกล้แซงนักศึกษาชาวจีนแล้ว https://positioningmag.com/1451634 Mon, 13 Nov 2023 17:42:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1451634 ด้วยภาวะเศรษฐกิจรวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ดี ทำให้ล่าสุดตัวเลขจำนวนนักศึกษาชาวอินเดียในสหรัฐอเมริกา ภาคการศึกษาปี 2022 เติบโต 35% มาอยู่ที่ 269,000 คน ใกล้แซงจำนวนนักศึกษาชาวจีนแล้ว ขณะที่ชาวจีนเองเริ่มสนใจให้ลูกหลานตัวเองเรียนที่ประเทศอื่นนอกจากสหรัฐอเมริกาแล้ว

สำนักข่าว Bloomberg รายงานถึงสถานการณ์ที่นักศึกษาชาวอินเดียเริ่มมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในมหาวิทยาลัยสหรัฐอเมริกา และรายได้จากนักศึกษาเหล่านี้ยังช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนรายได้หลังจากจำนวนนักศึกษาชาวจีนที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

Institute of International Education ได้รายงานตัวเลขนักศึกษาชาวอินเดียที่ได้เข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาภาคการศึกษาล่าสุด 2022-23 นั้นมีจำนวนมากถึง 269,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมามากถึง 35% ขณะที่นักศึกษาชาวจีนนั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 290,000 คน

สำหรับมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกายังถือเป็นเป้าหมายสำคัญของนักศึกษาทั่วโลกที่ต้องการศึกษาต่อ เนื่องจากโอกาสในด้านความรู้ทางวิชาการจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลกแล้ว ยังมีโอกาสในการที่จะได้งานหลังจากจบการศึกษาได้

จำนวนที่เพิ่มขึ้นของนักศึกษาชาวอินเดียนั้นมีสาเหตุสำคัญมาจากเศรษฐกิจของอินเดียที่เติบโตมากขึ้น ส่งผลทำให้มีชนขั้นกลางจำนวนเพิ่มมากขึ้น และครอบครัวเหล่านี้สนใจที่จะส่งบุตรหลานของตัวเองเข้าเรียนในสหรัฐอเมริกาเพิ่มมากขึ้นด้วย

ไม่เพียงเท่านี้ การส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนในสหรัฐอเมริกาเองถือเป็นทางด่วนในการเพิ่มสถานะทางสังคมของชาวอินเดียอีกด้วย

แม้ว่าก่อนหน้านี้ในช่วงสมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะมีมาตรการกีดกันนักศึกษาจากต่างประเทศซึ่งรวมถึงนักศึกษาจากอินเดีย แต่ล่าสุดความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ ทำให้เรื่องดังกล่าวคลี่คลายมากขึ้น

ขณะที่สาเหตุสำคัญที่ทำให้จำนวนนักศึกษาชาวจีนแทบไม่เพิ่มขึ้นเลยนั้นมาจากความขัดแย้งของสหรัฐอเมริกากับจีนได้เพิ่มความรุนแรงมากขึ้น

นอกจากนี้ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายในการส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกามีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลทำให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองชาวจีน เริ่มหันมามองมหาวิทยาลัยตามประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย หรือแม้แต่ในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ มาเลเซีย รวมถึงฮ่องกง แทน

]]>
1451634
10 “มหาวิทยาลัย” ในสหรัฐฯ ที่มีค่า “ROI” ดีที่สุด รายได้หลังเรียนจบคุ้มค่าเทอม! https://positioningmag.com/1364095 Fri, 26 Nov 2021 10:07:32 +0000 https://positioningmag.com/?p=1364095 Princeton Review คำนวณ ROI ของมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ จากค่าเทอมตลอดหลักสูตร ร่วมกับสิ่งที่มหาวิทยาลัยมีให้ เช่น ทุนการศึกษา บริการจัดหางาน เทียบกับรายได้ของบัณฑิตหลังเรียนจบ การลงทุนเรียนในสถาบันไหนคุ้มค่าที่สุด

ตั้งแต่ก่อนเกิดโรคระบาด พ่อแม่ที่จะส่งบุตรหลานเข้าเรียนระดับอุดมศึกษาในสหรัฐอเมริกาเริ่มตั้งคำถามแล้วว่า การเรียนมหาวิทยาลัยจะคุ้มค่าหรือไม่ หลังจากค่าเทอมพุ่งทะยานเร็วยิ่งกว่าเงินเฟ้อ

ทำให้ Princeton Review สำรวจเพื่อหาคำตอบให้พ่อแม่และนักเรียนว่า การลงทุนกับสถาบันไหนจะ ‘คุ้มค่า’ วัดจาก Return on Investment (ROI) ที่ดีที่สุด

โดยการสำรวจวัดจากมหาวิทยาลัยและวิทยาลัย 650 แห่งทั่วสหรัฐฯ ใช้ดัชนีชี้วัดเป็นค่าเทอม และชั่งน้ำหนักร่วมกับทุนการศึกษา บริการจัดหางาน อัตราการเรียนจบ จากนั้นนำมาวัดกับรายได้หลังเรียนจบของศิษย์เก่า และภาพรวมหนี้การศึกษาของนักศึกษาทั้งหมด

ทั้งนี้ CNBC ได้ความเห็นเสริมจากผู้เชี่ยวชาญ “อีริค กรีนเบิร์ก” ประธานกลุ่ม Greenberg Educational Group บริษัทที่ปรึกษาในนิวยอร์ก เขาให้ความเห็นกับการจัดอันดับนี้ด้วยว่า ค่าใช้จ่ายและรายได้อาจไม่ใช่ทั้งหมดในการตัดสินใจอยู่แล้ว เพราะพ่อแม่มักจะคำนึงถึงความสุขของลูกๆ ในการเข้าเรียนสถาบันนั้นๆ ด้วย “มีบางอย่างที่ไม่สามารถใช้มาตรวัดได้” กรีนเบิร์กกล่าว

เมื่อคำนึงถึงทุกอย่างรอบด้านแล้ว ไปพิจารณาลิสต์ของ Princeton Review กัน

มหาวิทยาลัยรัฐที่มีค่า ROI สูงที่สุด
  1. University of California, Berkeley
  2. University of Virginia – Charlottesville, Virginia
  3. Georgia Institute of Technology – Atlanta
  4. University of California, San Diego – La Jolla, California
  5. University of North Carolina at Chapel Hill
มหาวิทยาลัย ดีที่สุด
University of California, Berkeley (Photo: Shutterstock)
มหาวิทยาลัยเอกชนที่มีค่า ROI สูงที่สุด
  1. Princeton University – Princeton, New Jersey
  2. Massachusetts Institute of Technology – Cambridge, Massachusetts
  3. Stanford University – Stanford, California
  4. California Institute of Technology – Pasadena, California
  5. Harvey Mudd College – Claremont, California
Princeton University (Photo: Shutterstock)

ท็อปของมหาวิทยาลัยทั้งสองประเภทนั้น ยกตัวอย่างที่ Berkeley ปกติค่าเทอมเฉลี่ยอยู่ที่ 31,400 เหรียญสหรัฐต่อปี แต่มีทุนการศึกษาให้นักศึกษาที่จำเป็นมูลค่า 23,700 เหรียญสหรัฐ ทำให้ต้นทุนจริงอยู่ที่ 7,700 เหรียญเท่านั้น และนักศึกษาจบระดับปริญญาตรีจากที่นี่ จะได้รายได้เฉลี่ย 72,600 เหรียญสหรัฐต่อปี ตั้งแต่ช่วงต้นๆ ของการทำงาน

ขณะที่ Princeton มหาวิทยาลัยเอกชน ค่าเทอมปกติอยู่ที่ 65,800 เหรียญสหรัฐต่อปี แต่มีทุนการศึกษาให้เฉลี่ย 53,500 เหรียญสหรัฐ ทำให้ต้นทุนค่าเทอมลดเหลือ 12,300 เหรียญ และนักศึกษาจบปริญญาตรีจากที่นี่จะมีรายได้เฉลี่ย 77,300 เหรียญสหรัฐต่อปี ตั้งแต่ช่วงต้นของการทำงาน

source

]]>
1364095
มหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย เตรียมเช่าเครื่องบินไปรับ “นักศึกษาต่างชาติ” กลับมาเรียน https://positioningmag.com/1284009 Wed, 17 Jun 2020 11:21:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1284009 มหาวิทยาลัยชื่อดังในออสเตรเลีย วางเเผนเตรียมจัดเครื่องบินเช่าเหมาลำ ไปรับนักศึกษาต่างชาติหลายร้อยคน หลังต้องหยุดเรียนกลางคัน เนื่องจากต้องปิดพรมเเดนตามมาตรการสกัดการเเพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้มหาวิทยาลัยสูญเสียรายได้สำคัญ

โดยมหาวิทยาลัยแคนเบอร์รา (University of Canberra) และมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (Australian National University) เปิดเผยว่า กำลังวางเเผนที่จะเช่าเครื่องบินไปรับนักศึกษาต่างชาติราว 350 คนกลับเข้าออสเตรเลีย เบื้องต้นหวังว่าจะสามารถทำได้ในช่วงเดือนก..นี้ เพื่อให้นักศึกษาต่างชาติได้ผ่านการกักตัวก่อนกลับเข้าชั้นเรียน

อย่างไรก็ตาม เเม้แผนการนี้จะได้รับอนุญาตจากรัฐบาลระดับเมืองแล้ว แต่ยังต้องรอการอนุญาตจากรัฐบาลกลาง ซึ่งมีมาตรการสั่งปิดพรมแดนทั่วประเทศ มาตั้งแต่เดือนช่วงมี..เป็นต้นมา

ตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยทั้ง 2 แห่งยังไม่ได้ระบุแน่ชัดว่า เที่ยวบินดังกล่าวจะมีจุดเริ่มต้นเดินทางจากประเทศใด แต่อาจจะเป็นจุดศูนย์กลางท่องเที่ยวและการเดินทางในภูมิภาค เพื่อให้นักศึกษาจากประเทศต่างๆ สามารถเดินทางได้

โดยจะเป็นโครงการนำร่องเพื่อช่วยเหลือนักศึกษาต่างชาติที่กำลังเรียนอยู่และไม่สามารถกลับเข้ามาในออสเตรเลียได้ เพราะมาตรการล็อกดาวน์กะทันหัน

นักศึกษาต่างชาติ ถือเป็นรายได้หลักของมหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย มีการประเมินว่ามาตรการปิดพรมเเดนจะส่งผลกระทบทำให้มหาวิทยาลัยอาจสูญเสียรายได้ถึง 1.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.4 เเสนล้านบาท)

ด้านรัฐบาลออสเตรเลีย ระบุว่าจะยังไม่เปิดชายแดนรับนักเดินทางต่างชาติไปจนกว่าจะถึงปี 2021 แต่จะพยายามผ่อนคลายระเบียบการเข้าประเทศให้กับนักศึกษาต่างชาติและผู้อาศัยในระยะยาว โดยนายกรัฐมนตรี Scott Morrison ให้ความหวังว่าอาจจะอนุญาตให้มหาวิทยาลัยต่างๆ ดำเนินการนำนักศึกษาต่างชาติกลับมาเองได้ในช่วงเดือนหน้านี้

 

ที่มา : Reuters

]]> 1284009 ส่อง 52 มหาวิทยาลัย กับมาตรการเยียวยานักศึกษา “ลดค่าเทอม-ตั้งกองทุน-ผ่อนชำระ” https://positioningmag.com/1273320 Fri, 17 Apr 2020 14:59:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1273320 “สุวิทย์ เมษินทรีย์” รมว.การอุดมศึกษาฯ สั่ง 52 มหาวิทยาลัย ลดค่าเทอมช่วยนักศึกษาแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจ COVID–19 เริ่มเทอมแรกของปี 2563

ขณะที่ 3 ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ทั้งมหาวิทยาลัย – ราชภัฏ – ราชมงคล หนุนชี้นักศึกษาเป็นเหมือนคนในครอบครัวต้องช่วยเหลือ ลดค่าเทอม 10 – 15% แถมมีมาตรการช่วยให้เด็กทำงานพิเศษเพื่อมีรายได้ ด้านธรรมศาสตร์ ตั้ง 5,000 กองทุนช่วยงบ 15 ล้านบาท, มหิดลให้ 5,บาท ต่อทุน, เกษตรฯ ขอนแก่น เชียงใหม่ ให้ยืมและให้เปล่า, ลาดกระบังคืนเช่าหอและค่าน้ำประปา 2 เดือน

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อมรวมถึงนิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ดังนั้น จึงได้ออกประกาศกระทรวงฯ ขอความร่วมมือจากสถาบันอุดมศึกษาในสังกัด อว.ให้ช่วยเหลือนิสิตนักศึกษา เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง ที่ได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจ

โดยให้มหาวิทยาลัยพิจารณาลดค่าธรรมเนียม ค่าบำรุงการศึกษาต่างๆ ที่เรียกเก็บจากนักศึกษาในภาคการศึกษาที่จะถึงนี้หรือปีการศึกษาแรกของปี 2563 เป็นกรณีพิเศษพร้อมให้ออกมาตรการต่างๆ ในการช่วยเหลือนักศึกษา ล่าสุด มี 52 มหาวิทยาลัย ขานรับนโยบาย อว.ในการพิจารณาออกมาตรการช่วยเหลือนิสิตนักศึกษา ด้วยการลดค่าลงทะเบียนเรียน ขยายระยะเวลาการชำระค่าเทอม ลดหรือคืนค่าธรรมเนียมบริการต่างๆ รวมถึงจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือนักศึกษา เป็นต้น

Photo : Shutterstock

สำหรับ 52 มหาวิทยาลัย มีมาตรการและสัดส่วนในการช่วยเหลือแตกต่างกันไป อาทิ

  • มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขยายเวลาผ่อนผันการชำระค่าเทอมจนถึงสิ้นปีการศึกษา 2562 หรือ 9 ส.ค.นี้ รวมทั้งจัดตั้งกองทุน สนับสนุนการศึกษา 5,000 ทุนรวม 15 ล้านบาท
  • จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คืนเงินค่าหอพัก
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผ่อนผันระยะเวลาการชำระและแบ่งชำระการจ่าย จัดสรรทุนทำงานและทุนให้เปล่าสำหรับนิสิตระดับปริญญาตรี
  • มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือทั้งให้ยืมและให้เปล่า
  • มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี คืนเงินค่าหอพัก
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ผ่อนผันระยะเวลาชำระและลดค่าเทอม
  • มหาวิทยาลัยนเรศวร และมหาวิทยาลัยบูรพา ผ่อนพันระยะเวลาการชำระและตั้งกองทุนช่วยนักศึกษา
  • มหาวิทยาลัยศิลปากร และมหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยมหิดล จัดตั้งกองทุนช่วย 5,000 บาทต่อทุน
  • มหาวิทยาลัยรามคำแหง และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ผ่อนพันระยะเวลาการชำระ
  • มหาวิทยาลัยสวนดุสิต แบ่งการชำระการจ่าย
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง ผ่อนพันระยะเวลาการชำระ คืนเงินค่าเช่าหอพักและค่าน้ำประปา 2 เดือน
  • มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จฯ ลดค่าเทอม 20% มหาวิทยาลัยศรีปทุมลด 25%
  • มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ลดค่าเทอมภาคเรียนที่ 3 ปีการศึกษา 2562 ไม่น้อยกว่า 25% และสามารถขอผ่อนชำระค่าเทอมได้

​“หลายๆ มหาวิทยาลัยได้พยายามปรับตัวและมีมาตรการต่างๆ ออกมาเพื่อช่วยเหลือนักศึกษา อาจารย์ บุคลากรของมหาวิทยาลัย และประชาชนทั่วไปในหลายๆด้าน ขณะที่การลดค่าเทอมจะมีแนวทางในการลดค่าเทอมออกมาในเร็วๆ นี้” ดร.สุวิทย์ กล่าว

สำหรับ 52 มหาวิทยาลัยที่ออกมาตรการช่วยเหลือนักศึกษา ประกอบด้วย

  1. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  2. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  3. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  4. มหาวิทยาลัยมหิดล
  5. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  6. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  7. มหาวิทยาลัยศิลปากร
  8. 8. มหาวิทยาลัยบูรพา
  9. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  10. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  11. มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
  12. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
  13. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
  14. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
  15. มหาวิทยาลัยแม่โจ้
  16. มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
  17. มหาวิทยาลัยนเรศวร
  18. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
  19. มหาวิทยาลัยพะเยา
  20. มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
  21. มหาวิทยาลัยทักษิณ
  22. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
  23. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
  24. มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
  25. มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
  26. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
  27. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  28. มหาวิทยาลัยมหามงกุฎราชวิทยาลัย
  29. ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
  30. สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
  31. สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา
  32. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
  33. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
  34. มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
  35. มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
  36. มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี
  37. มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ
  38. มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา
  39. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
  40. มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
  41. มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
  42. มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
  43. มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
  44. มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
  45. มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ
  46. มหาวิทยาลัยพายัพ
  47. มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
  48. วิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก
  49. วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย
  50. มหาวิทยาลัยศรีปทุม
  51. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
  52. มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

Source

]]>
1273320
มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียเสี่ยงล้มละลายระนาว เซ่นพิษ COVID-19 https://positioningmag.com/1271821 Sun, 05 Apr 2020 05:05:31 +0000 https://positioningmag.com/?p=1271821 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า พรรคแรงงานฝ่ายค้านของออสเตรเลียออกมาเตือนว่ามหาวิทยาลัยหลายแห่งในออสเตรเลียกำลังเผชิญสภาวะล้มละลายเนื่องจากการระบาดของ COVID-19

ทันยา พลิเบอร์เซ็ก (Tanya Plibersek) โฆษกพรรคแรงงานเรียกร้องให้รัฐบาลค้ำประกันเงินทุนของมหาวิทยาลัย และเสนอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยให้พวกเขารอดพ้นจากวิกฤต

โดยทั่วไปมหาวิทยาลัยหลายแห่งของออสเตรเลียพึ่งพารายได้จากนักศึกษาต่างชาติเป็นหลัก โดยเฉพาะจากประเทศจีน ซึ่งสร้างรายได้ให้มหาวิทยาลัยมากกว่า 1 ใน 3

มาตรการห้ามเดินทางในหลายประเทศทำให้การลงทะเบียนระหว่างประเทศลดลงอย่างฮวบฮาบ ส่งผลให้มหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่งเริ่มลดรายจ่าย

พลิเบอร์เซ็กกล่าวกับสำนักข่าวการ์เดียนออสเตรเลียว่า ตอนนี้มีความกังวลอย่างยิ่งว่าหากรัฐบาลกลางไม่ดำเนินการอะไร สถาบันชั้นนำบางแห่งอาจต้องล้มละลาย

ด้าน แดน ทีแฮน (Dan Tehan) รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการของออสเตรเลียเตรียมประกาศแผนการช่วยเหลือระดับอุดมศึกษาในปลายเดือนเมษายนนี้ ซึ่งพลิเบอร์เซ็กกล่าวว่าแผนดังกล่าวต้องรวมถึง สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือไม่มีดอกเบี้ย เพื่อสร้างเสถียรภาพในอีกหลายเดือนต่อจากนี้

มหาวิทยาลัยของออสเตรเลียอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาล เป็นเวลาหลายปีแล้วที่มหาวิทยาลัยต่างๆ สร้างรายได้จากการศึกษาระหว่างประเทศ เพื่อช่วยเหลือด้านการวิจัยชั้นนำระดับโลก การระบาดใหญ่ของ COVID-19 และข้อจำกัดด้านการเดินทางทั่วโลกได้นำไปสู่วิกฤตในด้านการระดมทุน เนื่องจากนักศึกษาต่างชาติลดลงอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาพลิเบอร์เซ็กกล่าว

เมื่อวันที่ 3 เม.. มหาวิทยาลัยลาโทรบ (La Trobe University) ซึ่งมีนักศึกษามากกว่า 30,000 คนเปิดเผยว่า ทางมหาวิทยาลัยคาดว่ารายได้จะลดลง 150 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 3,000 ล้านบาท) เนื่องจากไวรัส

ภาคการศึกษาระดับอุดมศึกษากลับไม่ตื่นตระหนกกับภัยคุกคามที่เกิดจากโรค COVID-19 มากนัก แคทริโอนา แจ็กสัน (Catriona Jackson) หัวหน้าผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มมหาวิทยาลัยในออสเตรเลียกล่าวว่าสถาบันต่างๆ ไม่จำเป็นต้องมีการช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาล

เราแค่ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนเราให้ฝ่าฟันผ่านช่วงเวลาต่อจากนี้ให้ได้ และช่วยพยุงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและชุมชนของเราอีกทางหนึ่งเธอกล่าว

]]>
1271821