ยาสมุนไพร – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 20 May 2025 12:32:19 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 I-HERB รีเฟรชแบรนด์ สร้างภาพจำเม็ดอมสมุนไพรคนรุ่นใหม่ https://positioningmag.com/1522547 Tue, 20 May 2025 12:32:02 +0000 https://positioningmag.com/?p=1522547 I-HERB (ไอ-เฮิร์บ) สบโอกาสเทรนด์สุขภาพมาแรง รีเฟรชแบรนด์ ดึง ‘มาริโอ้ เมาเร่อ’ มาทำหน้าที่พรีเซนเตอร์ สร้างภาพจำคนรุ่นใหม่ เจาะตลาดยาอมสมุนไพรทางเลือกเพื่อสุขภาพ ตั้งเป้าหมาย Top of Mind ในใจผู้บริโภคภายใน 3 ปี 

 

จากข้อมูลของกรมการแพทย์แผนไทยฯ ระบุว่า ตลาดสมุนไพรไทยมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท ขณะที่ Euromonitor เคยคาดการณ์ว่า ปี 2569 ตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรในประเทศไทยจะมีมูลค่าสูงถึง 59,500 ล้านบาท

 

พันธิกันต์ สุวรรณคีรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิลลิเมด จำกัด ผู้ผลิตและทำตลาดเม็ดอมสมุนไพรไอ-เฮิร์บ กล่าวว่า แม้ตลาดยาอมสมุนไพรในไทยจะยังไม่มีการเก็บตัวเลขขนาดตลาดอย่างชัดเจน แต่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องอย่างก้าวกระโดดหลังยุคโควิด-19 จากแรงขับเคลื่อนทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ไปจนถึงการแข่งขันด้านนวัตกรรมรสชาติ และคุณสมบัติ 

 

ขณะเดียวกันก็พัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายแบรนด์ ทั้งรายเดิมและผู้เล่นรายใหม่ต่างเร่งพัฒนาจนเกิดการแข่งขันสูงในกลุ่มผลิตภัณฑ์ 4 ประเภทหลัก ได้แก่ ยาอมแบบเม็ดแข็ง, เม็ดตอก, เม็ดลูกกลอน และยาอมแบบลูกอม (soft lozenge)

สำหรับไอ-เฮิร์บเอง วางตำแหน่งทางการตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากธรรมชาติ ด้วยจุดเด่นตอบโจทย์ด้านรสชาติที่ดี แต่ยังคงประโยชน์ด้านสุขภาพเหมือนเดิม ภายใต้แนวคิดเม็ดอมสมุนไพรสูตรใหม่ปราศจากน้ำตาล โดยใช้สารให้ความหวานจากไอโซมอลต์ (Isomalt)ไม่ทำให้ฟันผุและไม่กระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือด พร้อมกลิ่นและรสชาติที่ทานง่าย ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถบริโภคได้บ่อย แม้ไม่มีอาการไอหรือเจ็บคอ 

 

ด้วยจุดเด่นดังกล่าว สอดคล้องกับเทรนด์พฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันที่ต้องการ ‘สินค้าเพื่อสุขภาพที่ให้ประสบการณ์ดี’ทำให้ I-HERB ได้การตอบรับดีทั้งในกลุ่มผู้บริโภคคนไทย และ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่นิยมซื้อสินค้าสมุนไพรเพื่อเป็นของฝากของที่ระลึก ทำให้ปีนี้บริษัทฯ ได้เลือก ‘มาริโอ้ เมาเร่อ’ นักแสดงชายชื่อดังมาเป็นพรีเซนเตอร์แบรนด์ไอ-เฮิร์บ เป็นครั้งแรก พร้อมใช้เครื่องมือสื่อสารการตลาดครบวงจร เพื่อขยายฐานผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ในวงกว้างมากขึ้น

 

“มาริโอ้มีคาแรกเตอร์ที่มีความเป็นธรรมชาติ เข้าถึงง่าย และวางตัวดี มีฐานแฟนคลับหลากหลายทุกเพศวัยทั้งในและต่างประเทศ ที่สำคัญยังบาลานซ์ด้านการดูแลสุขภาพและการใช้ชีวิตของตัวเองได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยสะท้อนภาพลักษณ์เม็ดอมสมุนไพรไอ-เฮิร์บ ให้มีภาพลักษณ์ที่ทันสมัยมากขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และยังคงความเป็นธรรมชาติความน่าเชื่อถือของแบรนด์ 

 

บริษัทฯ ยังได้จัดกิจกรรมแคมเปญการตลาดเพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมสื่อทุกช่องทาง อาทิ ภาพยนต์โฆษณา, สื่อนอกบ้าน, สื่อในร้านค้า รวมถึงการจัด On-ground Marketing โดยแจกตัวอย่างสินค้าให้ทดลองใช้จริง และการใช้สื่อออนไลน์ พร้อมทั้งการจัดกิจกรรมในช่องทางโซเชียลมีเดียให้กับผู้บริโภคได้ร่วมสนุกพร้อมรับของรางวัลมากมาย เพื่อสร้างประสบการณ์แบรนด์แบบไร้รอยต่อ และสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งในระยะยาว 

 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเลือกใช้แพลตฟอร์มสื่อโซเชียลมีเดีย แบบเฉพาะเจาะจงไปยังกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวจีน ซึ่งเป็นหนึ่งตลาดสำคัญของ ไอ-เฮิร์บ ขณะเดียวกันยังเพื่อเป็นการสื่อสารการทำตลาดเม็ดอมสมุนไพรไอ-เฮิร์บ ที่ถูกพัฒนาขึ้นตามหลักการและจุดเด่นของแบรนด์ ภายใต้ชื่อ I-HERB   คือ

I – Ingredients การคัดสรรวัตถุดิบที่ดี มีคุณภาพ

H – High Quality ให้ความสำคัญและใส่ใจตลอดทุกกระบวนการผลิต ซึ่งได้การรับรองจากรางวัล อย. ควอลิตี้ อวอร์ด อย่างต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน

E – Extraordinary พิเศษด้วยรสชาติที่อร่อยลงตัว ทานง่ายจนลืมภาพจำของรสสมุนไพรแบบเดิมๆ

R – Result ให้ประสิทธิภาพเห็นผลจริง

B – Benefit เพื่อให้ได้ประโยชน์ที่ดีที่สุด

 

ปัจจุบัน ไอ-เฮิร์บ  มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 10% ของยอดขายรวมของบริษัท โดยสินค้าหลัก ประกอบด้วย เม็ดอมสมุนไพร ยาอมและยาน้ำแก้ไอ และ สเปรย์พ่นคอ วางจำหน่ายในร้านขายยาทั่วประเทศ,ร้านสะดวกซื้อ 7-11, Jiffy และทัวริสต์ สโตร์ (Tourist Store) รวมถึงช่องทางอี-คอมเมิร์ซ ได้แก่ Lazada และ Tiktok shop เพื่อให้ครอบคลุมและเข้าถึงทุกพฤติกรรมการซื้อสินค้าของกลุ่มเป้าหมาย 

 

สำหรับแผนในอนาคต จะมีการพัฒนาสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง และการทำตลาดส่งออกไปยังต่างประเทศ เบื้องต้นโฟกัสไปที่ตลาดเอเชีย พร้อมวางเป้าหมายสู่การเป็น Top of Mind แบรนด์ในใจผู้บริโภคที่คาดเห็นความชัดเจนใน 3 ปี

]]>
1522547
“ไอจัสวอนนาแฮฟอ้วยอันได้บ่” ย้ำภาพลักษณ์ “อ้วยอันโอสถ” ยาสมุนไพรทันสมัยของคนทุกเจนฯ https://positioningmag.com/1425466 Fri, 31 Mar 2023 10:00:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1425466

ผ่านมาแล้วกว่าทศวรรษที่ “อ้วยอันโอสถ” เริ่มภารกิจสร้างแบรนด์ “ยาสมุนไพร” ทันสมัยที่เข้าถึงคนได้ทุกเจนเนอเรชัน ล่าสุดปีนี้บริษัทกลับมาย้ำภาพลักษณ์ผ่านแคมเปญ “ไอจัสวอนนาแฮฟอ้วยอันได้บ่” ทำการตลาดผ่านเสียงเพลงที่ทุกคนคุ้นเคยกับท่อนฮุก “โด่ดิดง” ของ “สิงโต-นำโชค” เพื่อให้ชื่อของอ้วยอันโอสถติดหูคนทุกวัย จูงใจคนรุ่นใหม่ให้รู้สึกเป็นมิตรกับยาสมุนไพรมากขึ้น

“อ้วยอันโอสถ” ฉลองครบรอบ 70 ปีบริษัทในปี 2566 จากร้านขายยาเล็กๆ ในรุ่นคุณปู่ มีชื่อเสียงจากยาลูกกลอนทำจากสมุนไพรจีน มาสู่รุ่นคุณพ่อที่ขยายกิจการจนเป็นโรงงานขนาดใหญ่ในย่านบางแค พร้อมดึงสมุนไพรไทยเข้ามาเสริม วันนี้อ้วยอันโอสถอยู่ภายใต้การบริหารของลูกๆ ในรุ่นที่ 3 และเป็นรุ่นที่สร้างการเปลี่ยนแปลงในด้านภาพลักษณ์แบรนด์

“ยุคคุณพ่อจะมีคู่แข่งไม่เยอะ ทำให้ไม่ค่อยมีการสร้างแบรนด์เท่าไหร่ แต่เมื่อพวกเรารุ่น 3 เข้ามาช่วง 10 ปีก่อน เราเริ่มเห็นว่าอ้วยอันโอสถไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แม้ว่าเราจะมีสินค้าขายในร้านขายยาทั่วประเทศ” นิชา สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด กล่าว

นิชา สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด ด้านหน้าป้ายห้างขายยาอ้วยอันโอสถในรุ่นคุณพ่อ

เมื่อเห็นจุดที่สามารถเสริมแกร่งได้ ทำให้รุ่น 3 เริ่มต้นการสร้างแบรนด์ให้อ้วยอันโอสถ ขั้นแรกคือเริ่มปฏิรูปโลโก้และแพ็กเกจจิ้งสินค้ายาทั้งหมดที่มีกว่า 100 SKUs (ยกเว้นยาอมแก้ไอและยาลูกกลอนจีนตำรับเดิม ซึ่งผู้บริโภคคุ้นเคยกับแพ็กเกจจิ้งแล้ว) ออกแบบให้มี mood & tone ที่สื่อถึงความสะอาดปลอดภัย รวมถึงให้ปรากฏชื่อแบรนด์ “อ้วยอันโอสถ” ไว้บนฉลาก โดยมีน้องชายอีก 2 คนเข้ามาช่วยดูแลด้านการวิจัยและพัฒนา (Research & Development) คิดค้นสินค้าใหม่ๆ ให้ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

รุ่น 3 ของอ้วยอันโอสถ: (จากซ้าย) ชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการ, นิชา สมบูรณ์เวชชการ และทานุ สมบูรณ์เวชชการ

“เราได้ปรับตัวเองจากภาพของคุณหมอที่มีอายุแล้ว มาเป็นคุณหมอวัย 30 ปีเพื่อให้ดูเข้าถึงง่ายกับคนรุ่นใหม่ แต่ยังคงเป็นคุณหมอที่เชี่ยวชาญอยู่” นิชากล่าวเสริม

mood & tone ของโลโก้และแพ็กเกจจิ้งที่ปรับปรุงใหม่ให้สื่อสารถึงความทันสมัย

หลังจากเตรียมสินค้าพร้อมแล้ว อ้วยอันโอสถจึงเริ่มทำโฆษณามาอย่างต่อเนื่อง โดยโฆษณาชุดที่เห็นผลมากที่สุดออกมาเมื่อ 4-5 ปีก่อนเป็นโฆษณายาขมิ้นชันที่มี “แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์” เป็นพรีเซ็นเตอร์ เป็นภาพที่ทำให้คนจดจำอ้วยอันโอสถได้ดีที่สุด

ตามด้วยการออกโฆษณาในกลุ่มยาเด็ก โดยครั้งนี้ใช้พรีเซ็นเตอร์เป็น “คุณแม่โอปอล-ปาณิสรา และน้องอลิน-อลัน” ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน เพราะช่วยให้กลุ่มยาเด็กอ้วยอันโอสถดูน่าเชื่อถือ ปัจจุบันยาน้ำแก้ร้อนในเขากุยเป็นสินค้าขายดีอันดับ 2 ของบริษัท

น่าเสียดายที่หลังจากนั้นเกิดโรคระบาดโควิด-19 ขึ้น ทำให้กิจกรรมการตลาดเพื่อสร้าง Corporate Brand ต้องชะลอลง แต่ข้อดีคือโควิด-19 เป็นสถานการณ์ที่ช่วยพิสูจน์ความสำเร็จของแคมเปญที่ทำมาตลอดหลายปี

“ช่วงโควิด-19 เป็นช่วงที่คนรู้จักสมุนไพรสูงขึ้นจากการรับประทานฟ้าทะลายโจร และทำให้เราเห็นภาพว่าเราทำสำเร็จแล้วระดับหนึ่ง เพราะช่วงนั้นคนเดินเข้าร้านขายยาจะถามหาฟ้าทะลายโจรของอ้วยอันโอสถก่อนยี่ห้ออื่น จนฟ้าทะลายโจรกลายมาเป็นสินค้าขายดีอันดับ 1 ของบริษัทในช่วงที่เกิดโควิด-19” นิชากล่าว


“ไอจัสวอนนาแฮฟอ้วยอันได้บ่” เพลงที่เข้าถึงคนทุกวัย

หลังสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลาย บริษัทจึงต้องการกลับมาสร้างแคมเปญให้กับ Corporate Brand อีกครั้ง โดยเลือกที่จะใช้กลยุทธ์มิวสิก มาร์เก็ตติ้ง และมาลงตัวที่เพลง “อ้ายจัสวอนน่าเป็นแฟนยูได้บ่?” ของ สิงโต-นำโชค เพราะเป็นเพลงดังที่มียอดวิวบน YouTube เกิน 150 ล้านวิว และดังเป็นวงกว้าง คนทุกเพศทุกวัยรู้จัก มีจังหวะสนุกสนานติดหูผู้คน


อ้วยอันโอสถจึงนำมาแปลงเนื้อเพลงเป็น “ไอจัสวอนนาแฮฟอ้วยอันได้บ่” และสร้างสรรค์ MV โฆษณาที่มีเนื้อหาพาทุกคนไปรู้จักกับสมุนไพรไทย เน้นที่แบรนด์อ้วยอันโอสถมากกว่าสินค้าใดสินค้าหนึ่ง พร้อมกับมีท่าเต้นน่ารักๆ เข้ากับเพลง เพื่อจะต่อยอดไปเป็นชาเลนจ์สำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ได้ โดยจะเริ่มแคมเปญบน TikTok ในเดือนพฤษภาคมนี้

แคมเปญนี้เริ่มเผยแพร่ไปทุกช่องทางทั้งวิทยุ โทรทัศน์ สื่อ ณ จุดขาย และทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย จุดประสงค์เพื่อสร้างเพลงโฆษณาที่ ‘ติดหู’ จนทุกคนนึกถึงอ้วยอันโอสถเป็นเจ้าแรกเมื่อจะซื้อยาสมุนไพร


เดินหน้าต่อกับการตอกย้ำแบรนด์ในกลุ่ม “คนรุ่นใหม่”

แคมเปญ “ไอจัสวอนนาแฮฟอ้วยอันได้บ่” นั้นวางกลุ่มเป้าหมายเป็นวงกว้างสำหรับคนทุกวัย แต่กลุ่มที่อ้วยอันโอสถมุ่งเป้าจะเข้าถึงให้ได้มากขึ้นคือกลุ่ม “คนรุ่นใหม่”

เพราะถึงแม้ว่าลูกค้าหลักของอ้วยอันโอสถมักจะเป็นคนวัยทำงานซึ่งเป็นวัยที่โรคเรื้อรังเริ่มถามหา หรือเป็นช่วงวัยที่เริ่มมีลูกและต้องการยาสำหรับเด็ก แต่ในกลุ่มวัยรุ่นนั้นถ้าหากไม่ ‘ทำความรู้จักกัน’ ตั้งแต่เนิ่นๆ เมื่อวัยรุ่นโตเป็นผู้ใหญ่ก็อาจจะไม่สนใจยาสมุนไพรและไม่เลือกซื้ออ้วยอันโอสถก็ได้

“สมัยเราเป็นวัยรุ่นเราก็ไม่อยากใช้สมุนไพรเพราะมองดูเชยๆ แต่ถ้าเราปรับภาพลักษณ์ตัวเองให้มีสีสัน และทำความรู้จัก ไปใกล้ชิดกับเขา ทำให้วัยรุ่นรู้สึกดีกับเรา สร้างความผูกพันไว้ก่อน เราก็จะไปยืนในใจเขาได้” นิชากล่าว

นิชามองว่าคนรุ่นใหม่ยุคนี้มีแนวโน้มที่จะไม่ปฏิเสธสมุนไพร เพราะเทรนด์ปัจจุบันเริ่มมีแนวคิด “ไม่ใช้สารเคมี” ทั้งอาหารและของใช้ประจำวัน เริ่มอยู่กับธรรมชาติ ดูแลรักษาสุขภาพ ดังนั้น เป็นไปได้ที่การทานอาหารเสริมของคนรุ่นใหม่จะเลือกสิ่งที่ทำมาจากสมุนไพรมากกว่า

“การปรับเปลี่ยนแบรนด์ของเรามาได้ไกลพอสมควร แต่เราจะไปให้ไกลกว่านี้ เพราะการแข่งขันในตลาดยาสมุนไพรสูงขึ้นมาก” นิชากล่าว “วันนี้เราจะสร้างความเป็นอ้วยอันโอสถให้ชัด แบรนด์จะมีสีสันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่จะบาลานซ์ให้ได้กับสิ่งที่อ้วยอันโอสถทำมาตั้งแต่รุ่นปู่ คือ เป็นยาสมุนไพรที่ซื่อสัตย์ โปร่งใส่กับผู้บริโภค น่าเชื่อถือ และมีคุณภาพ”

]]>
1425466