ทั้งนี้ ช่วง 2 ปีที่เปิดให้บริการ มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษารวม 48,000 คน โดยคลินิกที่มีผู้รับบริการมากที่สุด 5 ลําดับ ได้แก่

• คลินิกเลเซอร์ผิวหนังและความงาม
• ศูนย์ตรวจสุขภาพ
• คลินิกอายุรศาสตร์
• ศูนย์ถันยรักษ์
• คลินิกสุขภาพหญิง

จากปีแรก SIRIRAJ H SOLUTIONS มีจำนวนผู้ป่วยเฉลี่ย 100 คน/วัน ปีที่สองเติบโต 100% โดยมี ผู้ป่วยวันธรรมดา 250-300 คน/วัน และวันเสาร์-อาทิตย์ 400-500 คน/วัน เข้าใกล้เป้าหมายที่ตั้งไว้ราว 800-1,000 คน/วัน โดยมียอดใช้จ่ายอยู่ที่ 1,500-3,000 บาท/คน/ครั้ง

โดยช่วงครึ่งแรกปี 2568 ได้เปิด 2 คลินิกใหม่ (เพิ่มเติมจาก 17 คลินิกเฉพาะทางเดิม) ได้แก่ คลินิกทันตกรรม และคลินิก Sleep @SIRIRAJ H SOLUTIONS รักษาอาการเกี่ยวเนื่องกับการนอน อาทิ นอนไม่หลับ นอนกรน เป็นต้น คาดช่วยหนุนจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่ม 20%

โดยพบว่า ปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้า แบ่งเป็น คนไทย 90% และคนต่างชาติ 10% ส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา และชาวเมียนมา (จ่ายเงินเอง) เข้าใช้บริการในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะคลินิกทันตกรรมที่ไทยมีค่าบริการถูกกว่าในต่างประเทศ

ส่งผลให้ ศิริราช หันมาโปรโมตบริการทางการแพทย์ในกลุ่มลูกค้าชาวต่างมากขึ้น ส่วนหนึ่งเพื่อขานรับนโยบายผลักดัน “ประเทศไทย” ศูนย์การทางการแพทย์ (Medical Hub) ระดับภูมิภาค และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างมาตรฐานทางการแพทย์ระดับนานาชาติของ รพ.รัฐ

ไทย ขึ้นชื่อเรื่องการแพทย์ ต่างชาติบอกกันปากต่อปาก และมีราคาถูกกว่าสิงคโปร์ (ที่เน้นการแพทย์เช่นกัน) เช่น การผ่าตัดเปลี่ยนตับ ที่สิงคโปร์ราคา 15 ล้านบาท ส่วน รพ.รัฐในไทยราคา 5 แสนบาท และ รพ.เอกชนในไทยราคา 3-5 ล้านบาท ถูกกว่าสิงคโปร์ 3-5 เท่าตัว

พร้อมกันนี้ ศิริราช ได้เตรียมแผนการรองรับกลุ่มผู้ป่วยชาวต่างชาติ ผ่านการพัฒนา “โครงการสถาบันการแพทย์ศิริราช ระดับนานาชาติ” มูลค่ารวม 16,000 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ 13 ไร่ ตั้งอยู่บนทำเลบางโพ ปัจจุบันอยู่ระหว่างขอใบอนุญาตด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) วางระยะเวลาก่อสร้างแล้วเสร็จระหว่างปี 2566 – 2574

“โดยปกติ ผู้ป่วยชาวต่างชาติจะคิดค่ารักษาสูงกว่าคนไทยราว 25% ซึ่งเราหวังว่ารายได้จากชาวต่างชาติ จะเป็นเข้ามาจุนเจือ รพ.ศิริราช นำมาช่วยผู้ป่วยไทย 100% (ไม่มีแบ่งงบให้ชาวต่างชาติ) ซึ่งปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยในศิริราชมีกลุ่มที่จ่ายเงินรักษาเองเพียง 10% เท่านั้น”

นอกจากนี้ ศิริราช เตรียมดึงแพทย์ไทยจากต่างประเทศ หลักร้อยคน อาทิ แพทย์ที่ลาพักร้อนกลับไทย ระยะ 3 เดือน ซึ่งกลุ่มนี้เมื่อมาไทยจะเข้ามาช่วยสอนนักศึกษาแพทย์และช่วยงานใน รพ. หมุนเวียนกับบุคลากรที่ทำงานประจำในศิริราช และ SIRIRAJ H SOLUTIONS

ควบคู่กับ การทำโรงเรียนแพทย์หลักสูตรอินเตอร์ 6 ปี เพื่อผลิตแพทย์ รองรับแผนขยายผู้ป่วยชาวต่างชาติ แต่ยังสอดแทรกภาษาไทยบางส่วนเพื่อให้สอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ที่ใช้ข้อสอบเป็นภาษาไทยได้

จากปัจจุบันเห็นเทรนด์เด็กเรียนหลักสูตรอินเตอร์จำนวนมาก และเด็กบางคนไปต่อคณะแพทยศาสตร์ในต่างประเทศ จึงอยากทำหลักสูตรเพื่อดึงเด็กกลุ่มนี้เรียนในไทย แก้เพนต์พอยต์การขาดแคลนแพทย์อีกด้วย

ดังนั้น เพื่อรองรับแนวโน้มดังกล่าว รพ.ศิริราช ได้เตรียมงบประมาณลงทุนราว 20,000 ล้านบาท ในระยะ 6 ปี สำหรับทำ 3 โปรเจกต์ใหญ่ ประกอบด้วย

1.อาคารสถานีรถไฟศิริราช (RWS03) มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท เป็นโครงการพัฒนาร่วมกัน ระหว่าง คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)

โดยจะสร้างเป็นอาคารสูง 15 ชั้น สำหรับให้บริการดูแลผู้สูงอายุ คาดเปิดให้บริการปี 2570

2.สถาบันโครงการสถาบันการแพทย์ศิริราช ระดับนานาชาติ มูลค่ารวม 16,000 ล้านบาท

มีขนาดโครงการ 13 ไร่ ตั้งอยู่บนทำเลบางโพ ขณะนี้อยู่ระหว่างขอใบอนุญาตด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) วางระยะเวลาก่อสร้างแล้วเสร็จระหว่างปี 2566 – 2574

3.โครงการอาคารผู้ป่วยใน (IPD) หลังใหม่ ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก โดย รพ.ศิริราช ได้ของบประมาณแผ่นดิน 1,000 ล้านบาท และได้รับอนุมัติงบฯ สัดส่วน 60%

ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง พร้อมจัดการอุปกรณ์บริการทางการแพทย์ต่างๆ ซึ่งยังต้องใช้งบประมาณจากการระดมทุนอีกจำนวนหนึ่ง

จากแผนงานดังกล่าว ส่งผลให้ รพ.ศิริราช มีเครือข่ายโรงพยาบาลในกลุ่มให้บริการ 5 แห่ง ประกอบด้วย

• โรงพยาบาลศิริราช (เขตบางกอกน้อย)
• โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ (เขตบางกอกน้อย) ซึ่งวางโพสิชันนิ่งเป็น รพ.เอกชน
• ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล (อำเภอพุทธมณฑล นครปฐม)
• ศิริราช เอช โซลูชั่น ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันและบูรณาการสมดุลชีวิต (SIRIRAJ H SOLUTIONS) อาคารไอซีเอส ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์ (เขตคลองสาน)
• สถาบันโครงการสถาบันการแพทย์ศิริราช ระดับนานาชาติ (ยังไม่เปิดบริการ)

อย่างไรก็ตาม แม้ รพ. ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ จะเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่มีผลประกอบการและกำไรต่อปีราว 1,300 ล้านบาท แต่ต้องนำรายได้ดังกล่าวมาจัดสรรสัดส่วน 50% ทั้งด้านต้นทุนการดำเนินกิจการและนำไปสนับสนุนให้กับมูลนิธิในเครือโรงพยาบาล เพื่อใช้ดูแลผู้ป่วยกลุ่มเปราะบางที่ขาดทุนทรัพย์การรักษาพยาบาล

นอกจากนี้ ปัจจุบัน รพ.ศิริราช มีผู้ป่วยเข้าบริการราว 16,000-17,000 คนต่อวัน, โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ราว 4,000 คนต่อวัน, ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกฯ ราว 1,200 คนต่อวัน และ ศิริราช เอช โซลูชั่น มากกว่า 200 คนต่อวัน

โดยมีคนไข้เข้ารับการรักษา (Admit) ราว 12,000 คน และบุคลากรในเครือข่ายให้บริการทั้งหมดประมาณ 22,264 คน