รองเท้าวิ่ง – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 29 Apr 2025 02:49:29 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “รองเท้า On” ก่อนจะมาเป็นขวัญใจวัยรุ่น เคยเป็นรองเท้าผู้สูงอายุมาก่อน https://positioningmag.com/1519306 Wed, 23 Apr 2025 11:57:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1519306
  • ด้วยความที่รองเท้า On มีความเบา ใส่สบาย ใส่ง่าย ไม่ต้องผูกเชือก จึงถูกวาง Positioning จับตลาดผู้สูงอายุก่อน 
  • แต่ในตอนหลังภาพลักษณ์เริ่มเปลี่ยนไป เริ่มเห็นคีย์แมนระดับผู้บริหารอย่างผู้ว่าฯ ชัชชาติ, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และกลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่ใส่รองเท้า On มากขึ้น
  • และเริ่มมีคอลเลกชันคอลแล็บส์กับโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ หรือแบรนด์หรูอย่าง LOEWE ยิ่งติดสปีดความเติบโตให้ On กลายเป็นรองเท้ายอดนิยมแห่งยุคนี้
  • เส้นทาง 8 ปี On Thailand 

    รู้หรือไม่ว่า รองเท้า On ที่ฮอตฮิตอยู่ในทุกวันนี้เคยเป็นรองเท้าที่จับตลาดผู้สูงวัยมาก่อน แม้กระแสของ On เพิ่งจุดติดได้ไม่นาน แต่จริงๆ แบรนด์ได้ทำตลาดในไทยได้ 8 ปีแล้ว โดยบริษัท เมนทาแกรม เป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย

    เมนทาแกรม ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้า สปอร์ต-แอคทีฟ ไลฟ์สไตล์ ก่อตั้งเมื่อปี 2553 โดย “ณัฐพล ปัทมพงศ์” ผู้มีบทบาททั้งนักธุรกิจ ผู้บริหาร นักไตรกีฬา และผู้ที่ชื่นชอบกีฬาเอาท์ดอร์ตัวยง เมนทาแกรมได้ตัดสายสะดือ Gopro แบรนด์แอคชั่นคาเมร่าให้เป็นที่รู้จักในไทย นำเข้าสินค้า Gopro เป็นตัวแรกของบริษัท เพราะณัฐพลมีความชอบเป็นการส่วนตัว ในไทยยังไม่มีผู้เล่นในตลาดนี้ หลังจากนั้นเริ่มมีอุปกรณ์กีฬาอื่นๆ จักรยาน บอร์ด เป็นสินค้าจากไลฟ์สไตล์ที่ชอบ

    on running

    ได้นำเข้ารองเท้า On เมื่อปี 2560 หรือเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ตอนนั้นคนไทยยังไม่ค่อยรู้จักมากนัก เพราะกระแสของรองเท้าสนีคเกอร์ยังไม่บูมเท่าที่ควร ตลาดใหญ่ยังเป็นแบรนด์ใหญ่อย่าง Nike และ Adidas เทรนด์การวิ่งก็ยังไม่ค่อยนิยมในหมู่กว้าง 

    แรกเริ่มรองเท้า On ได้เริ่มจับตลาด “ผู้สูงอายุ” ก่อน พราะตัวรองเท้ามีความเบาสบาย ใส่ง่าย ไม่ต้องผูกเชือก ผู้ใหญ่มาเห็นแล้วชอบก็ซื้อใส่กัน คล้ายกับสเก็ตเชอร์สที่เบาสบายจนกลายเป็นรองเท้าสำหรับผู้สูงวัยไปแล้ว

    on running

    อันที่จริงรองเท้า On ได้ถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์นักกีฬาโดยเฉพาะ เพราะเจ้าของแบรนด์เป็นนักไตรกีฬา แต่ก็มีการทำตลาดแบบค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ สร้างการรับรู้แก่คนไทย

    ณัฐพล เล่าว่า “On ทำตลาดมาได้ 8 ปีแล้ว ตอนนี้เป็นแบรนด์ฮีโร่อีกตัวของบริษัท ตอนแรกเราเริ่มจับตลาดผู้สูงอายุ เพราะรองเท้าเบามาก ใส่ง่าย ไม่ต้องผูกเชือก ผู้ใหญ่ชอบ หลังจากนั้นเริ่มมีคอลเลกชันคอลแล็บส์กับโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และ LOEWE แบรนด์ก็โตอย่างก้าวกระโดด”

    จุดเปลี่ยนช่วง COVID-19 คนสนใจรองเท้าวิ่ง

    แต่ก่อนในตลาดสนีคเกอร์ หรือรองเท้าออกกำลังกาย มีเจ้าตลาดหลักเป็น 2 แบรนด์อย่าง Nike และ Adidas แต่ในช่วงหลายปีมานี้เริ่มเห็นแบรนด์ใหม่ๆ มีบทบาทมากขึ้น ทั้ง Hoka, Saucony, Brooks, New Balance, Asics และอื่นๆ อีกมากมาย ผู้บริโภคก็เปิดใจรับแบรนด์ใหม่ๆ มากขึ้นด้วย เพราะเทคโนโลยีและความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล เช่น หน้าเท้ากว้าง, อุ้งเท้าสูง, เท้าแบน หรือต้องการรองเท้าที่วิ่งในโอกาสที่แตกต่างกัน วันซ้อม วันแข่ง วิ่งระยะยาว วิ่งโซน 2 เป็นต้น

    จุดเปลี่ยนสำคัญของ On ก็อยู่ในช่วง COVID-19 เพราะในช่วงนั้นคนเริ่มหันมาออกกำลังกายมากขึ้น ทำกิจกรรมใหม่ๆ เป็นโอกาสของแบรนด์สปอร์ตที่ทำการตลาดแรงขึ้น ในตอนนั้นตลาดอื่นๆ ที่ดรอปลง แต่ตลาดรองเท้าวิ่งกลับเติบโตสวนกระแส 

    ณัฐพล ปัทมพงศ์
    ณัฐพล ปัทมพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมนทาแกรม จำกัด

    “ตอนช่วง COVID-19 คนเริ่มหันมาวิ่งเยอะขึ้น และเริ่มเปิดใจลองรองเท้าใหม่ๆ ที่ไม่ใช่ 2 แบรนด์ใหญ่ พอคนได้ลองรุ่น Cloud 5 พบว่าใส่สบาย ดีลเลอร์ก็เริ่มถามหามากขึ้น เริ่มขายในอีคอมเมิร์ซ ซึ่ง On เป็นแบรนด์ที่ Niche มากๆ มีความพรีเมียม และจุดเด่นที่ Swiss Made ใส่แล้วไม่เหมือนใคร ตอนนั้นเริ่มมีกลุ่มผู้บริหารใส่มากขึ้น จนคนทั่วไปก็อยากใส่ตาม เรียกว่าเติบโตจนสินค้าขาดตลาด ขายได้ประมาณ 12,000 คู่”

    นอกจากคอลเลกชันคอลแล็บส์ที่ทำให้ภาพลักษณ์ดูพรีเมียมขึ้น อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ On เติบโต เป็นเพราะการบอกต่อแบบปากต่อปากด้วย มีการแนะนำต่อๆ กันในกลุ่มนักวิ่งที่ต้องการซัพพอร์ตเท้า หรือต้องการความเร็ว ยังมีการแนะนำต่อๆ กันในกลุ่มนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น จะเห็นในโลกโซเชียลที่หลายคนมักบอกต่อๆ กันว่า ใส่รองเท้า On แล้วเดินเที่ยวทั้งวันก็ยังสบายเท้า ซึ่งญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องการเดินเที่ยวอยู่แล้ว จึงเกิดเป็นกระแสคนไทยแห่ซื้อ On ที่ญี่ปุ่น 

    แบรนด์สวิส แต่ที่ญี่ปุ่นถูกที่สุด

    On เป็นแบรนด์สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ถ้าใครรู้จักแบรนด์นี้จะรู้ดีว่าถ้าไปซื้อที่บ้านเกิดจะแพงกว่าที่อื่น ณัฐพลบอกว่าประเทศที่หาซื้อ On ได้ถูกที่สุดคือประเทศญี่ปุ่น ถูกกว่าประเทศไทย 30% เพราะบริษัทแม่ลงทุนที่ประเทศญี่ปุ่นเยอะ อีกทั้งที่ญี่ปุ่นยังไม่มีภาษีนำเข้าเลยทำราคาได้ถูก แถมยังขึ้นชื่อว่าเป็น Shopping Destination จึงมีราคาได้ถูกกว่าที่อื่น

    ส่วนผลงานของ On ในประเทศไทยก็ไม่ได้น้อยหน้าแต่อย่างใด ขึ้นชื่อว่าตลาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเอเชียรองจากญี่ปุ่นด้วยซ้ำ ตลาดใหญ่พอๆ กับประเทศจีน 

    on running

    “ในประเทศไทยตอนแรกเป็นรองเท้าที่ผู้ใหญ่ใช้เยอะ หลังจากนั้นเน้นไลฟ์สไตล์มากขึ้น ใส่ได้ทุกโอกาส คนไทยจึงใส่เยอะขึ้น ทั้งใส่เดิน ใส่วิ่ง เพราะเมื่อ 2 ปีก่อนบริษัทแม่ได้เข้าตลาดฯ จึงได้ออกสินค้าใหม่เยอะ”

    ในประเทศไทย 3 รุ่นที่ขายดีที่สุด ได้แก่ On Cloud 6, Cloudmonster และ Cloudtilt โดยรองเท้ามีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 5,400-7,000 บาท สีที่ขายดีที่สุด ได้แก่ ขาว, ดำ และครีม ลูกค้ามีการซื้อเฉลี่ย 2 คู่/บิล

    เปิด MLAB มัลติแบรนด์ แอคทีฟ ไลฟ์สไตล์

    แต่เดิมเมนทาแกรมมีธุรกิจหลักเป็นดิสทริบิวเตอร์ หรือผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายเท่านั้น ซึ่งการเลือกแบรนด์เข้ามาทำตลาดก็เน้นจากความชอบส่วนตัวของณัฐพล และดูเทรนด์ของตลาด แต่การมาของ COVID-19 ทำให้ตลาดเปลี่ยนแปลงทั่วโลก เมนทาแกรมก็ต้องปรับกระบวนท่าเปิดตัวธุรกิจรีเทลของตัวเอง

    เมนทาแกรมได้เปิดตัว MLAB เป็นร้านมัลติแบรนด์ที่รวมแบรนด์สปอร์ต-แอคทีฟ ไลฟ์สไตล์ ซึ่งเป็นแบรนด์ในเครือไว้ด้วยกัน จะมีทั้งสินค้ากีฬา แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ

    mlab

    ณัฐพลบอกว่า มองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจรีเทลเป็นของตัวเอง เพราะมี Pain Point จากช่วง COVID-19 ที่ร้านค้าต่างๆ ปิด จึงเกิดช่องทางออนไลน์ เลยมาคิดว่าถ้าไม่มีร้านก็ทำให้ธุรกิจชะงัก เลยเริ่มทำรีเทลช็อปของตัวเอง แต่เริ่มจากอีคอมเมิร์ซก่อน 

    “ผมทำดิสทริบิวเตอร์มา 10 กว่าปี ไม่อยากทำรีเทลเอง เพราะไม่อยากแข่งกับดีลเลอร์ แต่พอ COVID-19 มา ทุกคนไม่ลงทุนอะไรใหม่ ตอนนั้นเลยต้องแจ้งกับดีลเลอร์ว่าต้องมาทำอีคอมเมิร์ซเอง แล้วพอช่วงปี 2565 ตลาดก็ยังไม่กลับมาเหมือนเดิมเท่าไหร่ เลยคิดว่าต้องมีหลายช่องทาง เปิดร้านมัลติแบรนด์ตั้งชื่อ MLAB เพราะต้องการให้คนมาลองหลายแบรนด์ รวมสินค้า สปอร์ต ไลฟ์สไตล์ แอคทีฟ แฟชั่น ไว้ด้วยกัน” 

    MLAB รวมแบรนด์ต่างๆ เช่น On รองเท้าวิ่งที่มีเทคโนโลยี CloudTec®, Sunski แว่นกันแดดผลิตจากวัสดุรักษ์โลกจากซานฟรานซิสโก, Flower Mountain แบรนด์รองเท้าแฟชั่นสัญชาติญี่ปุ่น, Birkenstock รองเท้าแตะจากเยอรมนี, Athletics FTWR รองเท้าที่ผสานแฟชั่นเข้ากับฟังก์ชันการใช้งาน, Hyperice อุปกรณ์ฟื้นฟูร่างกายที่มาในรูปแบบของเครื่องนวดที่มีให้เลือกหลายรุ่นหลายขนาด และ Cannondale แบรนด์จักรยานที่โดดเด่นด้านเทคโนโลยี

    ปัจจุบัน MLAB มี 12 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, สยามพารากอน, เอ็มโพเรียม, แฟชั่นไอส์แลนด์, เมกาบางนา, เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ, เซ็นทรัลลาดพร้าว, เซ็นทรัลเวสต์เกต, สเปลล์ รังสิต, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ และเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต เตรียมแผนขยายเพิ่มอีก 5 สาขาในปีนี้ 

    สัดส่วนรายได้ของเมนทาแกรม แบ่งเป็น On 50% สินค้าแกดเจ็ต 30% สินค้าไลฟ์สไตล์ 20%

    ในปีนี้เมนทาแกรมจะนำเข้าอีก 3 แบรนด์ ได้แก่ Flower Mountain, Nixx และ Lomer

    ]]>
    1519306
    “พรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา” กับการปั้น REV RUNNR ร้านมัลติแบรนด์รองเท้าวิ่งที่ใหญ่สุดในอาเซียน https://positioningmag.com/1397287 Tue, 23 Aug 2022 08:51:02 +0000 https://positioningmag.com/?p=1397287 Highlight
    • เรฟ อีดิชั่น ก่อตั้งได้ 22 ปีแล้ว เกิดจากแรงบันดาลใจในการสร้างร้านกีฬาในคอนเซ็ปต์สโตร์ เปิด Nike Flagship Store แห่งแรกในไทย
    • พรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา เกิดในครอบครัวนักกีฬา ในความชื่นชอบในกีฬา หลงใหลในการวิ่ง จึงทำธุรกิจเกี่ยวกับกีฬา
    • เริ่มทำร้าน REV RUNNR ได้ราวๆ 4 ปี ปัจจุบันมีแบรนด์ในเครือ 11 แบรนด์ มีแบรนด์ที่สร้างยอดขายสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ HOKA, Saucony และ Kailas

    กีฬาวิ่งเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก เราได้เห็นงานวิ่งจัดกันแทบทุกสัปดาห์ ในประเทศไทยเองก็เกิดกระแสรันนิ่งฟีเวอร์เช่นกัน เนื่องจากเป็นการออกกำลังกายที่ง่าย สามารถวิ่งคนเดียวได้ วิ่งแถวบ้านก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เยอะ (แต่บางคนก็พร็อพเยอะ) หรือต้องนัดรวมกลุ่มเหมือนกีฬาอื่นๆ ที่ต้องเล่นเป็นทีม

    “พรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา” ผู้ที่มีแพชชั่นในการวิ่งอย่างแรงกล้า เป็นทั้งนักวิ่งเอง และได้แปรผันแพชชั่นไปสู่การทำธุรกิจ เริ่มต้นจากการเป็นตัวแทนนำเข้าแบรนด์รองเท้า ไปจนถึงการปั้นผุดร้านมัลติแบรนด์สำหรับรองเท้าวิ่ง

    รันวงการสปอร์ตรีเทล ด้วยมัลติแบรนด์อุปกรณ์กีฬา

    ย้อนกลับไปเมื่อปี 2543 เป็นจุดเริ่มต้นของ Sport Revolution เป็นชื่อดั้งเดิมของ REV RUNNR คำว่า REV ย่อมาจาก Revolution ที่มาของชื่อเป็นเป้าหมายของการตั้งบริษัท คือ ต้องการปฏิวัติวงการกีฬาประเทศไทยในมุมมองของรีเทล จากตลาดการขายกีฬาแบบดั้งเดิม นำคอนเซ็ปต์สโตร์ใหม่ๆ วิธีการนำเสนอประสบการณ์ของแบรนด์ต่างๆ ให้ลูกค้า

    rev runnr

    พรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรฟ อีดิชั่น จำกัด เริ่มเล่าว่า

    “เรฟ อีดิชั่น เริ่มต้นเกิดจากกลุ่มคนที่ชอบเล่นกีฬา ชอบไปร้านกีฬาต่างๆ ที่ต่างประเทศ ได้เป็นร้านที่สื่อถึงตัวตนแต่ละแบรนด์ พอกลับมาเมืองไทยรู้สึกอยากเอาร้านกีฬาแบบนั้นมาอยู่ในไทยบ้าง เพราะช่วงนั้นร้านกีฬาในไทยเป็นแบบดั้งเดิม รองเท้ากีฬาต่างๆ ห่อพลาสติกโชว์บนผนังไม้ ถ้าเป็นเสื้อของแท้จะอยู่ในไม้แขวนเสื้อ มีพลาสติกคลุม แขวนเรียงเป็นแถวหรือแม้กระทั่งแผนกกีฬาในห้างสรรพสินค้าก็หนีไม่พ้นรูปแบบดั้งเดิม”

    โมเดลต้นแบบที่พรศักดิ์ปิ๊งไอเดียในการเข้ามาเปิดในเมืองไทย ก็คือ Nike Town ของแบรนด์ Nike แบรนด์ฮอตฮิตระดับโลก จึงเริ่มติดต่อแบรนด์เพื่อขอเปิดร้านคอนเซ็ปต์ช็อปในเมืองไทย ถือเป็นดีลเลอร์ Nike เจ้าแรกในเมืองไทยที่ทำคอนเซ็ปต์สโตร์

    พรศักดิ์เสริมอีกว่า ได้เริ่มคุยตั้งแต่ต้นปี 2543 ใช้เวลาพรีเซนต์ตัวเอง 6 เดือน และใช้เวลาอีก 6 เดือนพูดคุยสร้างความมั่นใจถึงความพร้อมของตลาดเมืองไทย ใช้เวลาเกือบปีกว่าจะได้เปิดร้านแรก วันที่ 15 ธันวาคม 2543 เป็นไนกี้คอนเซ็ปต์สโตร์ ตรงข้ามห้างเอ็มโพเรียม ขนาดตึกแถว 8 ห้อง พื้นที่รวม 500 ตารางเมตร ถือเป็น Nike Flagship Store แห่งแรกในประเทศไทย และใหญ่ที่สุดในอาเซียน

    rev runnr

    ถึงแม้จะมั่นใจในระดับหนึ่ง แต่ถือว่าเสี่ยงพอสมควร เพราะต้องลุ้นว่าลูกค้าตอบรับคอนเซ็ปต์ช็อปกีฬามากน้อยแค่ไหน และพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยชอบเดินศูนย์การค้า ตากแอร์เย็นๆ แต่ร้านนี้เป็นสแตนด์อโลนอยู่ริมถนนสุขุมวิท ซึ่งถือเป็นความท้าทาย แต่ที่สุดผลตอบรับดีมาก

    หลังนำร่องแบรนด์แรกได้เกือบปี REV เริ่มขยายสาขาที่อาคารลิเบอร์ตี้ย่านสีลม และเซ็นทรัลพัทยา และติดต่อแบรนด์ทำคอนเซ็ปต์ช็อปเพิ่มขึ้น แต่ ณ เวลานั้นลูกค้าไม่รู้จัก REV เท่าไหร่ รู้แค่ว่าเป็นร้านไนกี้ ร้านอาดิดาส ร้านพูม่า และร้านคอนเวิร์ส ซึ่งเป็น 4 แบรนด์หลักในช่วง 5 ปีต่อมา รวมถึงการเปิดช็อปในห้างสรรพสินค้า เช่น เดอะมอลล์ เอ็มโพเรียม พารากอน

    จากนั้น REV เริ่มนำเข้าสินค้าเป็นดิสทริบิวเตอร์ หรือตัวแทนจำหน่าย ไม่ใช่แค่การอยู่เบื้องหลัง และรุกเข้าสู่สินค้าไลฟ์สไตล์แฟชั่น เป็นผู้นำเข้ารองเท้า CROCS และทำตลาดสินค้ากีฬากอล์ฟจากญี่ปุ่น เครือซูมิโตโม รวมถึงอเมริกา

    เจาะเซ็กเมนต์วิ่งจริงจัง

    จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ในปี 2559 บริษัทคว้าแบรนด์เข้ามาอยู่ในพอร์ตมากขึ้น เช่น ASICS, UNDER ARMOUR โดยเฉพาะ UNDER ARMOUR เป็นการร่วมทุนกับบริษัทแม่ในสหรัฐอเมริกา เพื่อตั้งร้าน UNDER ARMOUR ประเทศไทย ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ฮอตมากในช่วงนั้น รวมถึงการแตกไลน์ธุรกิจซอฟต์เสิร์ฟ Yogurtland

    rev runnr

    อีกจุดเปลี่ยนสำคัญอีกช่วงหนึ่งก็คือ การตัดสินใจเจาะตลาดรองเท้าวิ่งอย่างจริงจัง เริ่มคิกออฟ Multi-brand Store ภายใต้แบรนด์ REV RUNNR (เรฟรันเนอร์) จับกลุ่มสำหรับผู้รักการวิ่งโดยเฉพาะ เพราะถือเป็นเซ็กเมนต์ที่ใหญ่ที่สุด และขายดีที่สุด

    “เราเริ่มนั่งคิดใหม่ ที่ผ่านมาทำคอนเซ็ปต์ช็อปแบรนด์เดียวมาตลอด เราเห็นต่างประเทศมีร้านวิ่ง Running Specialty วงการกีฬาบ้านเราแทนที่จะเป็นร้านกีฬารวมๆ ควรมีร้านค้าที่นำเสนอทั้งสินค้า และบริการเกี่ยวกับการวิ่ง เปิดประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้า”

    Pain Point หลักที่ทำให้ REV RUNNR ต้องแก้ปม ก็คือ เวลาอยากดูรองเท้ายี่ห้อหนึ่งต้องไปมุมหนึ่งของเมือง อยากดูอีกยี่ห้อต้องข้ามไปอีกมุมหนึ่งของเมือง จึงเป็นคอนเซ็ปต์ให้ร้านรวมรองเท้าวิ่ง และอุปกรณ์วิ่งหลายๆ แบรนด์ ประกอบกับช่วงนั้นมีแบรนด์วิ่งน้องใหม่แจ้งเกิดหลายแบรนด์ เช่น HOKA

    นักวิ่งไทยมีพัฒนาการมากขึ้น ให้ความสำคัญกับสเปก และเทคนิคของรองเท้าสูงที่สุดในโลก ยกตัวอย่างในอเมริกา ลูกค้า 100 คนเข้าร้านขายรองเท้าวิ่ง มีไม่เกิน 50 คนที่ถามเรื่องเทคนิคของรองเท้า สเปก โฟม ความหนา น้ำหนัก แต่นักวิ่งไทยให้ความสำคัญมาก เข้าร้าน 100 คน ถามคำถามเหล่านี้เกิน 70 คน นักวิ่งไทยให้ความสำคัญและให้รายละเอียดมากๆ

    รวมไปถึงนักวิ่งยุคนี้ ย่อมมีรองเท้าวิ่งหลายคู่ ซึ่งจะมีวัตถุประสงค์แตกต่างกันออกไป หลักๆ จะเป็น รองเท้าใส่ซ้อม และรองเท้าใส่วันแข่ง (วันที่มีงานวิ่ง) และในรองเท้าใส่ซ้อมก็จะแบ่งย่อยไปอีก วันวิ่งเบาๆ วิ่งระยะยาว (Long Run) วิ่ง Tempo หรือวิ่ง Interval ทำให้แต่ละคนมีโรค “รองเท้างอก” มากขึ้นเรื่อยๆ

    Saucony ลูกรักอันดับ 1

    ปัจจุบัน REV RUNNR มีแบรนด์ที่ทำตลาดรวม 11 แบรนด์ โดยมี 3 แบรนด์อยู่ Top 3 ได้แก่ HOKA, Saucony และ Kailas มียอดขายสูงที่สุด ถ้าถามว่าแบรนด์ไหนเป็นแบรนด์ลูกรัก หรือแบรนด์ที่พรศักดิ์รักที่สุด หนีไม่พ้น Saucony แบรนด์รองเท้าวิ่งในตำนานสัญชาติอเมริกัน

    เหตุผลที่พรศักดิ์ชื่นชอบแบรนด์ Saucony เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์ 123 ปี ถือว่าเป็นแบรนด์สามัญประจำบ้านของชาวอเมริกัน เรียกว่า 80% ต้องมีรองเท้า Saucony ประจำบ้าน REV RUNNR ได้ทำตลาด Saucony ในไทยได้ 3 ปีแล้ว

    แรกเริ่มแบรนด์ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในเมืองไทยมากเท่าไหร่ จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่การออกคอลเลกชัน Endorphin นอกจากจะทำให้คนไทยจะรู้จักมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ตลาดประเทศไทยจากที่อยู่อันดับท้ายๆ ในเอเชีย ขึ้นมาอยู่ Top 3 เป็นรองแค่ จีน และญี่ปุ่น

    ล่าสุดได้เปิดตัวรุ่นล่าสุด Endorphin Pro 3 รองเท้าเจาะกลุ่มนักวิ่งขาแรง มาพร้อมนวัตกรรมแผ่น carbon-fiber plate และพื้นกลางจากโฟม PWRRUN PB (พาวเวอร์รัน พีบี) ที่หนาขึ้นกว่าเดิม มีการปรับจูนใหม่กว่ารุ่นก่อน

    พร้อมกับจัดงาน House of Speed BKK 2022 เป็นงานใหญ่ระดับภูมิภาค Asia Pacific ไทยเป็นประเทศที่ 2 ที่ได้จัดงานนี้ ต่อจาก House of Speed ที่ Paris Fashion week แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของตลาดประเทศไทย

    ปัจจุบันแบรนด์ Saucony มีส่วนแบ่งตลาดในไทยอยู่ราวๆ อันดับ 4-5 ทางพรศักดิ์ตั้งเป้าขึ้น Top 3 ทั้งในตลาดไทย และระดับโลกให้ได้ 2 แบรนด์แรกหนีไม่พ้นแบรนด์ใหญ่อย่าง Nike และ Adidas

    พรศักดิ์บอกว่า ทั้งแบรนด์ Saucony และ HOKA เป็นแบรนด์ที่มาแรงทั้งคู่ ตั้งเป้าขึ้น Top 3 ในตลาดด้วยกัน ไม่ได้เป็นการแข่งกันเอง แต่อาจจะไปเบียด 2 อันดับแรกก็ได้ แม้จะไม่ง่าย แต่ก็มีโอกาส มีช่องว่างอยู่ เพราะคนไทยใส่ใจรายละเอียดเยอะ 5 ปีก่อนลูกค้ายังไม่ค่อยรู้จักรองเท้าแบรนด์อื่นๆ ตอนนี้นักวิ่งเปิดโอกาสให้แบนด์ใหม่ๆ เยอะ ใส่ใจกับเทคนิคมากขึ้น 

    ตอนนี้ Saucony มีรายได้รวม 250 ล้านบาท ตั้งเป้าอีก 3 ปีจะต้องมีรายได้ 500 ล้านบาท จะเติบโต 5-6 เท่า อีกสามปี 500 ล้าน ปีนี้ 250 ล้าน โต 5-6 เท่า

    ปัจจุบัน REV RUNNR มีสาขารวม 34 แห่ง ปีนี้วางแผนขยายเพิ่ม 5-6 สาขา ถือเป็นร้านรองเท้าวิ่งอันดับ 1 ในอาเซียนในแง่จำนวนสาขาที่มากที่สุด

    ทั้งนี้ REV เตรียมเปิดช็อปใหม่ แบรนด์แว่นตากันแดดสำหรับนักวิ่ง RUN goodr มีเทคโนโลยี สีสันสวยสดใสใช้แต่งตัวได้ ราคาจับต้องได้ ใช้งานสมบุกสมบันได้ ราคาเพียง 1 พันบาทต้นๆ เตรียมเผยโฉมสาขาแรกในเมกาบางนาช่วงไตรมาส 4 ปีนี้

    ]]>
    1397287
    ความท้าทายของ HOKA กับการไต่ขึ้นเบอร์ 3 ในตลาด “รองเท้าวิ่ง” https://positioningmag.com/1391767 Thu, 07 Jul 2022 15:02:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1391767 ถือว่าเป็นแบรนด์รองเท้าวิ่งน้องใหม่ในไทย สำหรับ HOKA เพิ่งทำตลาดได้ 5 ปี แต่เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เป้าหมายสุดยิ่งใหญ่ ขอเบียดขึ้นเบอร์ 3 ในตลาดรองเท้าวิ่ง เคียงคู่แบรนด์ยักษ์ใหญ่ในตำนานอย่างไนกี้ และอดิดาสให้ได้

    HOKA (โฮก้า) แบรนด์รองเท้าวิ่งสัญชาติฝรั่งเศส ได้เริ่มทำตลาดในระดับโกลบอลได้ 13 ปี ถือว่ามีอายุน้อยเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นในตลาดที่อยู่มาหลาย 10 ปีแล้ว ส่วนในไทยได้ทำตลาดได้ 5 ปี โดยบริษัท เรฟ อีดิชั่น จำกัด เป็นผู้บริหารลิขสิทธิ์ และตัวแทนจัดจำหน่ายในไทย

    เรียกว่าเป็นแบรนด์รองเท้าวิ่งสาย Performance ที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ มีจุดเด่นที่ผสมผสานรองเท้าแนวคูชั่นนิ่ง (Cushioning) ที่รองรับแรงกระแทกได้อย่างดี จะเห็นได้ว่าเป็นรองเท้าวิ่งที่มีพื้นค่อนข้างหนา เพื่อเน้นความสบาย สวนกระแสเทรนด์ของรองเท้าวิ่งในสมัยนี้ที่นิยมความบางเบา

    แต่เดิม HOKA แจ้งเกิดจากสายวิ่งอัลตร้า หรือวิ่ง 100 กิโลเมตร รวมไปถึงสายวิ่งเทรล จะมีกลุ่มแฟนที่แข็งแกร่งมาก เพราะวิ่งสายเทรลจำเป็นต้องมีรองเท้าที่รองรับโดยเฉพาะ ต้องซัพพอร์ตอย่างดี แต่ในปัจจุบันเริ่มมีฐานแฟนจากนักวิ่งทั่วไปมากขึ้น เพราะมีรองเท้าหลายรุ่นออกมาเพื่อจับกลุ่มนักวิ่งให้ครบทุกกลุ่ม

    ในปีนี้เป็นอีกปีที่ได้เห็นการรุกตลาดมากขึ้นของ HOKA ได้เปิดแคมเปญใหญ่ FLY HUMAN FLY เป็นแท็กไลน์ใหม่ของแบรนด์ที่จะใช้ในการสื่อสารในปีนี้ด้วย จากเดิมที่ใช้แท็กไลน์ว่า Time to Fly เพื่อสื่อสารว่าคนที่ใส่ HOKA เหมือนบินได้

    พร้อมกับเปิดตัวรองเท้ารุ่น Mach 5 (มัคไฟฟ์) ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดในตระกูล Mach (มัค) อีกหนึ่งแฟล็กชิพสำหรับรองเท้าสายวิ่งถนน สำหรับนักวิ่งที่อยากเพิ่มสปีดของตัวเอง

    พรินทร ติยะวุฒิโรจน์ ผู้บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เรฟ อีดิชั่น จำกัด เล่าว่า

    “แบรนด์ HOKA เพิ่งอยู่ในไทยได้แค่ 5 ปี แต่ถือว่าเติบโตเร็ว ภาพรวมทั่วโลกมีการเติบโตถึง 300% ในปีนี้จะเริ่มทำแคมเปญกับดีไซเนอร์ในต่างประเทศ และทำเรื่องสีสันมากขึ้น รวมไปถึงจับกลุ่มลูกค้าที่ไม่ใช่แค่นักวิ่งมากขึ้น สามารถใส่ในชีวิตประจำวันได้ เป็น Comfort Shoes ที่ใส่แล้วสบาย”

    ส่วนสถานการณ์ COVID-19 มีส่งผลกระทบต่อวงการวิ่งบ้าง แต่พรินทรบอกว่านักวิ่งก้ยังคงวิ่งต่อเนื่อง แต่อาจจะวิ่งระยะสั้นลง เพราะไม่มีจัดงานวิ่ง อาจจะไม่มีเป้าหมายในการวิ่งมากนัก แต่วิ่งเพื่อออกกำลังกายมากกว่าแนวโน้มตลาดงานวิ่งเริ่มกลับมาคึกคัก โดยปกติงานวิ่งในไทยมีเฉลี่ย 3,000-4,000 งาน/ปี มีเซ็กเมนต์หลากหลายมาก

    แม้จะเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดไม่นาน พรินทรหมายมั่นปั้นมือที่จะให้ HOKA ขึ้นแท่น Top 3 ในตลาดรองเท้าวิ่ง ทั้งในแง่ของส่วนแบ่งตลาด และ Top of Mind ของผู้บริโภค โดยที่ปัจจุบันอยู่ในอันดับ Top 5 ถือว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทายอย่างมาก เพราะต้องสร้างลอยัลตี้กับนักวิ่งให้ได้

    ในปีนี้คาดว่าตลาดรองเท้าวิ่งน่าจะกลับมาคึกคักตามงานวิ่งที่เริ่มเปิดมากขึ้น ตั้งเป้าภาพรวมของ HOKA เติบโต 30%

    ]]>
    1391767