รัฐบาลสหรัฐฯ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 22 Jan 2021 06:45:17 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Amazon ส่งจดหมายถึงไบเดน เสนอตัวช่วย “กระจาย” วัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดสใน 100 วัน https://positioningmag.com/1315749 Fri, 22 Jan 2021 06:15:34 +0000 https://positioningmag.com/?p=1315749 Amazon ส่งจดหมายถึงประธานาธิบดีคนใหม่ “โจ ไบเดน” เสนอตัวช่วยเหลือการขนส่งกระจายวัคซีนป้องกัน COVID-19 เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลใหม่ที่จะกระจายวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดสภายใน 100 วันหลังจากรับตำแหน่ง แต่มีความเป็นไปได้ว่า อาจเป็นการต่อรองเพื่อให้พนักงาน Amazon ได้ฉีดวัคซีนก่อน

Reuters รายงานการส่งจดหมายจาก “เดฟ คลาร์ก” ซีอีโอของ Amazon ต่อ “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า บริษัท “มีความพร้อมที่จะช่วยเหลือให้คุณไปถึงเป้าหมาย” ตามที่ไบเดนประกาศว่าจะนำส่งและทำให้คนอเมริกันได้ฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดสให้ได้ภายใน 100 วันแรกหลังรับตำแหน่ง

“Amazon พร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากการดำเนินงาน เทคโนโลยีข้อมูล และความเชี่ยวชาญรวมถึงความสามารถในการสื่อสารของเรา เพื่อช่วยเหลือความพยายามในการฉีดวัคซีนของรัฐบาล” เป็นส่วนหนึ่งจากจดหมายจากซีอีโอคลาร์ก และยังระบุว่าขนาดของบริษัท “จะทำให้เราสร้างผลเชิงบวกได้อย่างมีนัยยะสำคัญและทันที”

อย่างไรก็ตาม บริษัท Amazon เป็นบริษัทขนาดมหึมาที่ว่าจ้างพนักงานมากเป็นอันดับ 2 ของสหรัฐฯ และก่อนหน้านี้บริษัทมีการเซ็นสัญญากับบริษัทบริการด้านสาธารณสุขแห่งหนึ่งไปแล้ว โดยยินยอมให้ใช้พื้นที่คลังสินค้าของบริษัททั่วสหรัฐฯ เป็นจุดรับการฉีดวัคซีน

(Photo by Sean Gallup/Getty Images)

บริษัทยังได้ร้องขอไปก่อนหน้านี้ว่าต้องการให้พนักงาน Amazon ได้ฉีดวัคซีนก่อน เพราะเป็นงานที่ไม่สามารถทำงานจากบ้านได้ คาดว่าอาจเป็นแรงกดดันจากพนักงานที่ออกมาโจมตีว่า Amazon มีสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัยจากโรค COVID-19 และไม่อนุญาตให้หยุดงานอยู่บ้านหากพนักงานรู้สึกเจ็บป่วย บริษัทยังใช้เวลานานหลายเดือนกว่าที่จะยอมเปิดเผยตัวเลขพนักงานที่ติดเชื้อซึ่งมีทั้งหมด 19,816 คน (ตัวเลข ณ เดือนตุลาคม 2020)

Amazon มีความสามารถในการขนส่งแค่ไหน? BBC รายงานมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญว่าบริษัทกลายเป็นธุรกิจโลจิสติกส์ที่สามารถแข่งขันได้กับ Fedex แล้ว โดยเมื่อปี 2019 บริษัทขนส่งพัสดุไปถึง 2.3 พันล้านชิ้นในเขตทวีปอเมริกาเหนือ และเมื่อเดือนก่อน บริษัทเพิ่งจะซื้อฟลีตเครื่องบินกลุ่มแรกมาใช้เพื่อขยายประสิทธิภาพการขนส่งทางอากาศ จากเดิมที่มีฟลีตรถบรรทุกและรถตู้ขนส่งอยู่แล้ว

Photo : Amazon

ข้างฝ่ายรัฐบาลไบเดนก็อาจจะต้องยอมพิจารณา เพราะที่ผ่านมาการกระจายวัคซีน COVID-19 เป็นเรื่องปั่นป่วนมากในสหรัฐฯ หลายรัฐตำหนิถึงการกระจายวัคซีนที่มาไม่ถึงทันตามกำหนด ยกตัวอย่าง เมืองนิวยอร์ก ต้องขอยกเลิกนัดฉีดวัคซีนให้ประชาชน 23,000 คนเมื่อวันพุธที่ 20 ม.ค. 2021 เพราะอยู่ๆ การขนส่งวัคซีน Moderna ก็มาไม่ถึงโดยไร้คำอธิบาย

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 ม.ค 2021 ทั้งผู้ว่าการรัฐมิชิแกน วิสคอนซิน และมินนิโซต้า ต่างเขียนเอกสารถึงทรัมป์ (ยังเป็นประธานาธิบดี ณ ขณะนั้น) ว่าพวกเขาอาจจะต้องยกเลิกกำหนดการปูพรมฉีดวัคซีนที่กำลังจะมาถึง หากรัฐบาลกลางไม่ช่วยเหลือมากกว่านี้ในการจัดหาและกระจายวัคซีนให้ทั่วถึง

Photo : AFP

งานแรกที่ไบเดนจะทำคือการกระจายวัคซีน 100 ล้านโดสใน 100 วันคืองานสำคัญยิ่ง นอกจากการกระจายวัคซีนแล้ว ไบเดนยังเตรียมใช้กฎหมายพิเศษเพื่อควบคุมการผลิตขวดแก้วใส่วัคซีนและเข็มฉีดยา รวมถึงจะตั้งจุดรับการฉีดวัคซีนที่สนับสนุนโดยรัฐบาลกลางให้ได้ 100 แห่งภายใน 1 เดือนแรกที่เขาขึ้นสู่ตำแหน่ง เห็นได้ว่า ไบเดนเข้ามาเปลี่ยนวิธีจัดการจากยุคทรัมป์ที่เน้นให้แต่ละรัฐดูแลตนเอง เป็นการใช้แขนขาของรัฐบาลกลางเข้าช่วยเหลือ

ทั้งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ Amazon ที่เสนอตัวช่วยรัฐบาล เอกชนเจ้าอื่นก็เริ่มเข้าไปช่วยเหลือแล้วก่อนหน้านี้ โดยเป็นการเจรจาพาร์ตเนอร์กับแต่ละรัฐ เช่น รัฐวอชิงตันมีระบบ PPP กับเอกชน ได้แก่ Costco ซึ่งมีร้านขายยา จะช่วยเรื่องการกระจายวัคซีนในรัฐและฝึกอาสาสมัครให้เป็นผู้ฉีดวัคซีนแก่ประชาชน หรือ Microsoft เข้ามาช่วยด้านเทคโนโลยี

และที่แปลกที่สุดคือ Starbucks มาช่วยในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการเลือก ‘ทำเล’ ที่ตั้งจุดฉีดวัคซีนที่ดีที่สุด บนพื้นฐานข้อมูลที่บริษัทตั้งร้านกาแฟมาแล้ว 33,000 สาขา รวมถึงออกแบบการบริการภายในจุดฉีดวัคซีนด้วยแนวคิดแบบ ‘human-centered’ แบบที่บริษัทใช้กับร้านกาแฟ

Source: Reuters, BBC, Forbes

]]>
1315749
เอาจริง! “ทรัมป์” สั่งห้ามดาวน์โหลด TikTok – WeChat ตั้งแต่วันอาทิตย์นี้ อ้างภัยความมั่นคง https://positioningmag.com/1297915 Sat, 19 Sep 2020 07:11:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1297915 รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งห้ามการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน WeChat และ TikTok โดยจะมีผลตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 20 ก.ย. ด้วยข้ออ้างที่ว่าแอปฯ สัญชาติจีนดังกล่าวเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ

คำสั่งที่สหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ 18 ก.ย. ยังไม่ได้เป็นการแบนอย่างครอบคลุมเสียทีเดียว โดยเฉพาะกับ TikTok เนื่องจากจะทำให้ไม่สามารถดาวน์โหลดแอปฯ ใหม่ หรือทำการอัปเดตได้เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นการผ่อนผันให้ไบต์แดนซ์ (ByteDance) บริษัทแม่สัญชาติจีนของ TikTok ได้มีเวลาหายใจหายคอเพื่อดันข้อตกลงสานต่อธุรกิจในอเมริกาต่อไป

WeChat ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการทั้งการส่งข้อความ, เครือข่ายสังคมออนไลน์ และการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ จะเผชิญข้อจำกัดที่รุนแรงกว่าตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. ในขณะที่ผู้ใช้ TikTok ในอเมริกาจะยังไม่ได้รับผลกระทบมากนักจนกว่าจะถึงวันที่ 12 พ.ย. ซึ่งคำสั่งแบนธุรกรรมทางเทคนิคบางอย่างจะเริ่มมีผลบังคับอย่างจริงจัง

“เราไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ และรู้สึกผิดหวังที่สหรัฐฯ จะห้ามการดาวน์โหลดแอปฯ ตั้งแต่วันอาทิตย์ และแบนการใช้ TikTok ในสหรัฐฯ หลังวันที่ 12 พ.ย. เราจะยังคงเดินหน้าคัดค้านคำสั่งบริหารที่ไม่เป็นธรรมนี้ต่อไป” ไบต์แดนซ์ ระบุในถ้อยแถลง

Photo : Shutterstock

ด้านกระทรวงพาณิชย์จีนก็ออกมาประกาศ “คัดค้านอย่างแน่วแน่” และเรียกร้องให้สหรัฐฯ หยุดพฤติกรรมข่มขู่และการกระทำที่ไม่ถูกต้องเสีย

“ถ้าฝ่ายสหรัฐฯ ยังดึงดันที่จะใช้วิธีนี้ จีนก็จะใช้มาตรการตอบโตที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทจีน” กระทรวงพาณิชย์จีนระบุ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

ระหว่างให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ผู้นำสหรัฐฯ ไม่ได้เอ่ยชัดเจนว่าเขาสนับสนุนดีล TikTok หรือไม่ แต่บอกว่าเรื่องนี้อาจจะดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ “อย่างรวดเร็ว”

“เรามีทางเลือกที่ยอดเยี่ยมอยู่บ้าง และบางทีเราอาจจะทำให้คนจำนวนมากแฮปปี้ได้ เราจำเป็นต้องปกป้องอเมริกาให้ปลอดภัยจากจีน” ทรัมป์ บอกกับสื่อมวลชน

วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยืนยันกับฟ็อกซ์บิสสิเนสว่า “แอปฯ TikTok แบบเบสิกจะยังคงใช้งานได้ไปจนถึงวันที่ 12 พ.ย.”

Photo : Shutterstock

ทั้งนี้ คำสั่งห้ามดาวน์โหลดอาจถูก ทรัมป์ สั่งยกเลิกก่อนจะมีผลบังคับใช้ก็ได้ ถ้าระหว่างนี้ไบต์แดนซ์ และออราเคิล (Oracle) สามารถบรรลุข้อตกลงที่ตอบสนองข้อกังวลต่างๆ ของสหรัฐฯ เกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้

รัฐบาล ทรัมป์ พยายามกำจัดสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็น “แอปฯ จีนที่ไม่น่าไว้วางใจ” ให้หมดไปจากเครือข่ายดิจิทัลในสหรัฐฯ ท่ามกลางความตึงเครียดกับปักกิ่งทั้งในเรื่องสงครามการค้า, ปัญหาสิทธิมนุษยชน รวมไปถึงการช่วงชิงความเป็นหนึ่งในด้านเทคโนโลยีระหว่าง 2 มหาอำนาจ

สำหรับคำสั่งแบน WeChat นั้นจะทำให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากระบบการโอนเงิน จ่ายเงิน ที่อาจล่าช้าหรือติดขัดตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ที่ 20 ก.ย. เป็นต้นไป

เทนเซ็นต์ โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาแอปฯ WeChat วิจารณ์คำสั่งของสหรัฐฯ ว่าเป็นเรื่อง “น่าเสียดาย” แต่ก็ยืนยันว่าพร้อมจะเจรจากับวอชิงตันและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในสหรัฐฯ เพื่อแสวงหาทางออกในระยะยาว

Source

]]>
1297915