ลาบูบู้ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 05 Nov 2025 11:19:49 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘POP MART’ ไม่หวั่นสงครามกล่องสุ่ม ชี้แบรนด์กำลังก้าวข้ามรีเทลสู่ ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์’ ด้วย ‘ออริจินอลคาแรกเตอร์’ https://positioningmag.com/1545618 Wed, 05 Nov 2025 09:33:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1545618 ต้องยอมรับว่ากระแสของ อาร์ตทอย (Arttoys) หรือ กล่องสุ่ม ในไทยถูกจุดติดด้วย ป๊อปมาร์ท (POPMART) จนปัจจุบันป๊อปมาร์ทต้องเผชิญกับคู่แข่งที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างล่าสุด มินิโซ (MINISO) ร้านไลฟ์สไตล์ยักษ์ใหญ่จากจีนก็ได้เปิดตัว MINISO LAND แต่ ศิริพร แผลงจันทึก Country General Manager บริษัท ป๊อป มาร์ท (ประเทศไทย) ก็พร้อมรับมือกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นนี้

มั่นใจ IP ยังแข็ง

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา MINISO ร้านไลฟ์สไตล์ยักษ์ใหญ่จากจีน ที่ตอนนี้มีสาขากว่า 7,600 แห่ง ในกว่า 120 ประเทศ ได้เปิดตัว MINISO LAND ร้านระดับสูงสุดครั้งแรกในไทย ซึ่งมีพื้นที่กว่า 1,000 ตร.ม. มีสินค้า IP มากกว่า 8,300 รายการ และคาแรกเตอร์กว่า 80 ตัว

ซึ่งทางด้าน ศิริพร มองว่า แม้จะเริ่มเห็นคู่แข่งเพิ่มมากขึ้น แต่จุดแข็งที่สุดของ POP MART ก็คือ ทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property : IP) ที่ออกแบบโดยศิลปิน ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างจากคู่แข่งที่ใช้การซื้อไลเซนส์มาผลิต ดังนั้น นี่จึงเป็นสิ่งที่ POP MART มองว่ายัง กุมความได้เปรียบ อยู่

นอกจากนี้ POP MART วางตำแหน่งตัวเองว่าอยู่ใน Entertainment Industry ไม่ใช่แค่ธุรกิจ ค้าปลีก (Retail) โดยจะเห็นได้ว่าแบรนด์มี POP LAND ธีมปาร์ค (Theme Park) ที่ตั้งอยู่ในปักกิ่ง ประเทศจีน และกำลังมีแผนขยายอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่กว่าการทำแค่ร้านค้าปลีก เช่น การเปิดตัวเกม (Game) หรือแอนิเมชัน (Animation) ในอนาคต

“ถ้าเทียบกัน เรามองว่าเรากับคู่แข่งมี landscape ต่างกัน อย่างคู่แข่งเขาไม่ได้มี IP ของตัวเอง เช่น Labubu, Skullpanda, Molly ฯลฯ ต่างจากเขาที่ต้องซื้อลิขสิทธิ์มา นอกจากนี้ เราไม่ได้มองว่าเราเป็นรีเทล แต่เป็น Entertainment Industry”

เดินหน้าคอลแลปพาร์ทเนอร์

อย่างไรก็ตาม ศิริพร ยอมรับว่า กระแสของแบรนด์นั้นมีทั้งช่วงขึ้นลง แต่ความท้าทายของแบรนด์ก็คือ การรักษาโมเมนตั้ม ดังนั้น ศิริพร จึงพยายามพาตัวละครของ POP MART เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันผู้บริโภคโดยการ Cross-Industry Collaboration อาทิ Uniqlo (เสื้อผ้า), Vans (รองเท้า), KBank (บัตรเดบิต), Samsung (เครื่องใช้ไฟฟ้า) เพื่อให้ IP เหล่านี้เป็น Top of mind ในใจผู้บริโภค

“เราเองเรามีไลเซนส์กับแบรนด์อื่น ๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ภาพของ POP MART หรือคาแรกเตอร์ใน IP ของเราหายไป โดยเราจะเข้าไปอยู่ในแทรกซึมอยู่ในหลาย ๆ อุตสาหกรรม ไปอยู่ในชีวิตประจำวัน และเมื่อไหร่ที่ IP ของเราเป็น Top of mind เขาก็จะสะสม”

ปัจจุบัน กลุ่มแฟนของ POP MART ไม่ได้มีแค่อายุ ช่วงอายุ 20 – 30 ปี แต่หลังจากที่คาแรกเตอร์อย่าง Crybaby และ Labubu โด่งดังอย่างมาก ฐานแฟนคลับได้ขยายไปสู่ ทุกช่วงอายุ ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ ทำให้เกิดการเชื่อมความสัมพันธ์ (Generation Gap) ภายในครอบครัวผ่านความชอบในการสะสมของเล่น

จัดอีเวนต์ใหญ่อย่างน้อยปีละครั้ง

นอกจากนี้ อีเวนต์ ก็เป็นอีกกลยุทธ์ที่แบรนด์ใช้ เพื่อพยายามสร้างสรรค์เรื่องราวใหม่ ๆ และความตื่นเต้นให้ลูกค้า  โดยล่าสุด POP MART THAILAND ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สยามพารากอน และสยามเซ็นเตอร์ จัดงาน POP LAND EXCLUSIVE FESTIVE EVENT IN THAILAND ซึ่งเป็นงาน Outdoor Pop-Up Event ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่รวมกว่า 1,000 ตร.ม. ครอบคลุมสยามพารากอน และสยามเซ็นเตอร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. นี้ ถึง 11 ม.ค. 2569

“เราอยากจัดอีเวนต์ใหญ่ให้ได้อย่างน้อยปีละครั้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับทางเฮดควอเตอร์จะอนุมัติด้วย อย่างอีเวนต์ POP LAND แม้จะไม่ได้จัดขึ้นครั้งแรกในภูมิภาค แต่ถือเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะงานครั้งแรกที่จัดที่สิงคโปร์มีเพียง 10 วัน และใช้พื้นที่น้อยกว่าไทยมาก แสดงให้เห็นว่าเฮดควอเตอร์ให้ความสำคัญกับไทยมาก”

ทั้งนี้ คาดว่างาน POP LAND จะมีผู้ชมกว่า 1,000 คน/วัน เชื่อว่าจะดึงดูดทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ในส่วนยอดขายยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากมีปัจจัยเรื่องของซัพพลายสินค้าที่อาจไม่ได้เพียงพอต่อความต้องการ

ตลาดไทยยังอยู่อันดับ 2 ของโลก

ปัจจุบัน POP MART มีสาขาทั้งหมดรวมป๊อป-อัพสโตร์ที่ 13 สาขา โดยยอดขายในประเทศไทยคิดเป็นสัดส่วน 10% ของยอดขายทั่วโลก (ไม่รวมจีน) เป็นรองเพียง สหรัฐอเมริกา ที่มีสัดส่วนยอดขาย 50% โดย ศิริพร มั่นใจว่า ยอดขายในปีนี้ของ POP MART จะเติบโตได้ 2 หลัก โดย ศิริพร มองว่า แม้เศรษฐกิจไม่ดี กำลังซื้อหดตัว แต่ POP MART เป็นสินค้าที่ขับเคลื่อนด้วย อารมณ์ ดังนั้น จึงไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจ

“คนไทยมี Passion ในการสะสมสูงมาก เรียกได้ว่าไม่แพ้ชาติใดในโลก คือ ของมันต้องมี เขาพร้อมจะ ตามหาสินค้าคอลเลกชันที่ขาดอยู่ให้ครบ”

ปัจจุบัน IP ที่ขายดีที่สุดในไทย ได้แก่

  1. Labubu
  2. Crybaby
  3. Molly
]]>
1545618
ดอยแล้ว! พ่อค้า Resale ‘ลาบูบู้’ ในสหรัฐฯ ยอม ‘หั่นราคา’ เกินครึ่งเพื่อเทขาย หลังแนวโน้มเทรนด์กำลังซบเซา https://positioningmag.com/1540114 Mon, 29 Sep 2025 14:00:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1540114 ช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ตุ๊กตาปีศาจตัวจิ๋วที่มีชื่อว่า ลาบูบู้ (Labubu) ได้สร้างกระแสความคลั่งไคล้ไปทั่วโลก ด้วยเสน่ห์ความน่ารักปนความวุ่นวาย จนทำให้ราคาขายต่อพุ่งสูงลิ่วถึงขั้นที่นักเก็งกำไรรายวันหรือคนขายต่อโรเล็กซ์ยังต้องอาย อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนฟองสบู่ลาบูบู้ในสหรัฐฯ กำลังจะแตก เห็นได้จากบรรดา พ่อค้า Resale รีบลดราคาครึ่งหนึ่งเพื่อเท

Nomura รายงานว่า กล่องสุ่มลาบูบู้ บางรุ่นเคยถูกขายในราคาสูงกว่าราคาขายจริงถึงกว่า 2,000% และเมื่อเดือนที่แล้ว เพิ่งมีรายงานการปล้นกล่องสุ่มลาบูบู้มูลค่า 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในแคลิฟอร์เนีย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เริ่มมีสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดซื้อขายต่อกำลังซบเซาลง จนเหล่าพ่อค้า Resale ต่างพากันเทขาย บางราย หั่นราคาทิ้งไปครึ่งหนึ่ง หรือมากกว่านั้น จากราคา Resale ที่ตั้งไว้

ทางด้าน Pop Mart บริษัทสัญชาติจีนผู้สร้างปรากฏการณ์นี้ ยืนยันว่า การที่ราคาขายต่อลดลง คือ สิ่งที่พวกเขาต้องการ โดย Pop Mart ชี้แจงว่า “ผลิตภัณฑ์ของเราถูกสร้างมาเพื่อคนที่เชื่อมโยงกับงานศิลปะและความสุขที่มันมอบให้อย่างแท้จริง และเรายินดีที่ได้เห็นความหลงใหลนั้น หัวใจสำคัญของเราคือการทำให้งานศิลปะนี้ เข้าถึงได้ง่าย หากการซื้อมีเป้าหมายเพียงเพื่อ ทำกำไร โมเดลธุรกิจแบบนี้ก็จะล้มเหลวในที่สุด”

Pop Mart กล่าวว่า ราคา Resale ของลาบูบู้เริ่มลดลง หลังจากที่บริษัทได้เร่งการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของแฟน ๆ โดยปัจจุบัน Pop Mart สามารถผลิตเจ้าลาบูบู้ได้ประมาณ 30 ล้านชิ้นต่อเดือน ซึ่งสูงกว่าระดับการผลิตของปีที่แล้วถึง 10 เท่า

โดย Hao Hong ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Lotus Asset Management มองว่า บรรดาพ่อค้า Resale กำลังระบายสินค้าคงคลัง เพราะพวกเขากลัวว่าหากเก็บสต็อกไว้มากเกินไป และจะไม่สามารถขายได้

Ashley Dudarenok ผู้ก่อตั้งบริษัทวิจัย ChoZan แสดงความเห็นว่า ก่อนหน้านี้ Pop Mart ปล่อยให้ราคาขายต่อพุ่งสูงเพื่อสร้างความต้องการ แต่ตอนนี้พวกเขากำลังเปลี่ยนไปใช้โมเดลที่มั่นคงและยั่งยืนกว่าเดิม

“ตลาดซื้อขายต่อของลาบูบู้ช่วยส่งเสริมความนิยมของของเล่นตัวนี้อย่างมาก แต่ในระยะยาวแล้วมันไม่ดีต่อธุรกิจ เพราะมันจะทำให้ลูกค้าตัวจริงของคุณรู้สึกแปลกแยก ซึ่ง Pop Mart ไม่ต้องการเป็นเพียงกระแสที่มาไวไปไว”

อย่างไรก็ตาม บททดสอบที่แท้จริงของ Pop Mart ไม่ใช่การที่ลาบูบู้จะยังคงเป็นที่นิยมหรือไม่ แต่เป็นการที่พวกเขาจะสามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ได้อีกครั้งหรือไม่

Source

]]>
1540114
‘POP MART’ เตรียมปล่อย ‘Mini Labubu’ ใช้ห้อยมือถือ พร้อมปักเป้ารายได้ปีนี้ทะลุ ‘แสนล้าน’ เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีก่อน https://positioningmag.com/1534710 Thu, 21 Aug 2025 05:13:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1534710 เรียกได้ว่ามีของใหม่ออกมาละลายทรัพย์แฟน ๆ กันอีกแล้วสำหรับ POP MART โดยยังคงเป็นการเข็นคาแรกเตอร์ที่ฮิตไปทั่วโลกอย่าง ลาบูบู้ (Labubu) แต่มาในไซส์ มินิ ขณะที่ตัวซีอีโอมั่นใจว่าปีนี้ บริษัทสามารถทำรายได้ปีนี้แตะ 3 หมื่นล้านหยวนได้ไม่ยาก หลังครึ่งปีแรกเติบโตกว่า 200%

POP MART แบรนด์ผู้ผลิตของเล่น ของสะสม ได้เปิดเผยผลประกอบการครึ่งปีแรกว่า บริษัทมีรายได้ 1.388 หมื่นล้านหยวน (ราว 6.3 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น +204.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นพุ่งอยู่ที่ 4.57 พันล้านหยวน (ราว 2 หมื่นล้านบาท) พุ่งขึ้นถึง +396.5% ซึ่งทั้งผลประกอบการและกำไร สูงกว่าที่บริษัทเคยคาดไว้ว่า รายได้จะโตอย่างน้อย 200% และกำไรจะพุ่งขึ้น 350%

ด้วยผลประกอบการสุดแข็งแรงในช่วงครึ่งปีแรก ทำให้ Wang Ning ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ POP MART เชื่อว่า ผลประกอบการปีนี้จะแตะที่ 3 หมื่นล้านหยวน (ราว 1.36 แสนล้านบาท) ได้ไม่ยาก ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นถึง เท่าตัว เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 1.3 หมื่นล้านหยวน (ราว 5.9 หมื่นล้านบาท)

ล่าสุด POP MART ก็เตรียมวางขายคอลเลกชันใหม่ Mini Labubu ที่จะออกวางจำหน่ายภายในสัปดาห์หน้า โดยเจ้า Mini Labubu จะสามารถใช้ ห้อยโทรศัพท์มือถือ ได้ ที่ผ่านมา การเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ของบริษัทสามารถทำยอดขายหมดภายในไม่กี่นาที ทำให้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันล่ม และมีคนมาต่อแถวรอนอกร้านเป็นเวลานานหลายชั่วโมง

ที่ผ่านมา เจ้า Labubu ได้กลายเป็นเครื่องประดับยอดนิยมไปทั่วโลก หลังจากที่มีคนดังระดับโลกต่างก็สะสมเจ้า Labubu ไม่ว่าจะเป็น Lisa BLACKPINK, Rihanna, Dua Lipa เป็นต้น

ทั้งนี้ แม้รายได้ส่วนใหญ่ของ POP MART จะมาจากประเทศจีน แต่ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ รายได้จากประเทศอื่น ๆ กำลังพุ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในทวีปอเมริกาที่เพิ่มขึ้น +1,142% ในยุโรปและภูมิภาคอื่น ๆ เพิ่มขึ้น +729% ส่วนยอดขายในเอเชีย (ไม่รวมจีน) เพิ่มขึ้น +258% แสดงให้เห็นถึงกระแสความคลั่งไคล้ Labubu เริ่มได้รับความนิยมไปทั่วโลก ซึ่งยอดขายเจ้า Labubu คิดเป็นมากกว่า 1 ใน 3 ของรายได้ทั้งหมด

จากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และสินค้าใหม่ที่กำลังจะออกสู่ตลาด ทำให้ราคาหุ้นของ POP MART พุ่งขึ้นกว่า +12% หลังปิดตลาดเมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา

SCMP / nytimes

]]>
1534710
ไม่แผ่ว! ‘POP MART’ คาด ครึ่งปีแรกรายได้โต 200% กำไรพุ่ง 350% https://positioningmag.com/1530145 Wed, 16 Jul 2025 04:30:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1530145 บริษัทผู้ผลิตของเล่นจีน POP MART เตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตไปอีกขั้น หลังจากความสำเร็จอย่างล้นหลามของเจ้า Labubu ในตลาดจีนและต่างประเทศ โดยคาดว่ารายได้และกำไรครึ่งแรกของปีจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

หลังจากที่ในเดือนเมษายน POP MART ได้เปิดเผยว่า รายได้ไตรมาสแรกของบริษัทเพิ่มขึ้น +170% จากปีที่แล้ว โดยการเติบโตหลัก ๆ มาจากตลาดต่างประเทศที่เติบโตขึ้นเกือบ +480% และเติบโตเกือบ +100% ในประเทศ

ล่าสุด ในการยื่นเอกสารต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อวันอังคาร POP MART คาดว่า กำไรในช่วง ครึ่งปีแรก จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย +350% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว และรายได้จะเพิ่มขึ้นมากกว่า +200%

โดยบริษัทระบุว่า การเติบโตในครึ่งแรกของปีมาจากการรับรู้ที่เพิ่มขึ้นของแบรนด์ POP MART และทรัพย์สินทางปัญญาในระดับโลก รวมถึงหมวดหมู่สินค้าที่มีหลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ รายได้จากตลาดโลกก็เติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

ส่งผลให้หุ้นเพิ่มขึ้น +1.8% เป็น 268 ดอลลาร์ฮ่องกงในช่วงเช้าของการซื้อขายวันพุธ โดยทาง Nomura ธนาคารการลงทุนสัญชาติญี่ปุ่น ได้ปรับเพิ่มการประเมินราคาหุ้นของ POP MART ขึ้น +13% เป็น 330 ดอลลาร์ฮ่องกง จาก 291 ดอลลาร์ฮ่องกง ในขณะที่ Jefferies ธนาคารการลงทุนสหรัฐ ก็ได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย +55% เป็น 315.20 ดอลลาร์ฮ่องกง จาก 203 ดอลลาร์ฮ่องกง เพื่อสะท้อนกำไรครึ่งแรกที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ 

“เราชอบกลยุทธ์ของผู้บริหารที่มุ่งเน้นไปที่ IP หลักและการลงทุนใน IP เหล่านี้ผ่านสื่อต่าง ๆ นอกจากนี้ IP ของ POP MART ไม่ได้มีแค่กล่องสุ่ม แต่ยังรวมถึงเกม ภาพยนตร์ และหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ซึ่งอาจช่วยยืดระยะเวลาของ IP หากประสบความสำเร็จ” Annie Ling นักวิเคราะห์จาก Jefferies กล่าว

ทั้งนี้ การขยายตลาดในต่างประเทศ ทำให้แบรนด์มี economies of scale ที่มากขึ้น ส่งผลให้บริษัทสามารถลดต้นทุน เพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น 

ย้อนไปในปี 2024 แบรนด์ POP MART สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด หลังจากที่ ลิซ่า BLACK PINK ได้อวด ลาบูบู้ (Labubu) หนึ่งในคาแรกเตอร์อาร์ตทอยของ POP MART ใน Instagram ส่งผลให้เกิดเป็นกระแสไปทั่วโลก ทำให้ลาบูบู้กลายเป็นสินค้าหายาก จนราคาเคยพุ่งไปหลายเท่าตัว

แม้จะมีการเติมสต๊อกครั้งใหญ่ที่ทำให้ราคารีเซลของเจ้าลาบูบู้กลับมาสู่ภาวะปกติ แต่กระแสดังกล่าวก็ทำให้หุ้นของ POP MART เติบโตขึ้น +343% ในปี 2024 และในปีนี้ มูลค่าหุ้นของ POP MART เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า

Source

]]>
1530145
จับกระแส ‘ลาบูบู้’ จะร้อนแรงได้นานแค่ไหน? เมื่อไทยเริ่มเย็น แต่ทั่วโลกยังเดือด https://positioningmag.com/1526328 Tue, 17 Jun 2025 06:00:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1526328 ย้อนไปช่วงต้นเดือนเมษายน 2024 กระแสของเจ้า ลาบูบู้ (Labubu) ก็ถูกจุดติดในชั่วข้ามคืนโดย ลิซ่า BLACKPINK ที่อวดพวงกุญแจ Labubu Macarons (ลาบูบู้มาการอง) หรือ The Monster Exciting Macaron จาก POP MART แบบยกกล่องโชว์ลง IG Story กันไปเลย จากนั้นกระแสของเจ้าลาบูบู้ รวมถึงอาร์ตทอยทั่วโลกก็พุ่งกระฉูด

ฟันกำไรเป็นหมื่นล้านเพราะลาบูบู้

เชื่อว่านับตั้งแต่ที่เกิดจาก ลิซ่า BLACKPINK อวดพวงกุญแจ Labubu Macarons ทำให้คนที่ไม่รู้จักเจ้าลาบูบู้ หรือแบรนด์ POP MART ก็คงได้ทำความรู้จัก และจากกระแสดังกล่าวก็ทำให้ปี 2024 POP MART สามารถรายได้ 61,041 ล้านบาท มีกำไร 15,487 ล้านบาท และแน่นอนว่าสินค้าในกลุ่ม THE MONSTERS ที่ลาบูบู้เป็นหน่งในคาแรกเตอร์ สามารถโกยยอดขายได้เป็นอันดับ 1 ที่ 14,235 ล้านบาท

และเมื่อเจาะลึกการเติบโตของยอดขายในแต่ละภูมิภาภาค จะพบว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เติบโตสูงสุดที่ +619.1% ตามด้วย อเมริกาเหนือ +556.9%, ยุโรป ออสเตรเลีย และอื่น ๆ +310.7%, เอเชียตะวันออก และฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน +184.6%

กระแสต่างประเทศยังแรง

แม้ว่าเวลาจะผ่านไปแล้วกว่า 1 ปี นับจากกระแสที่เกิดจาก ลิซ่า BLACKPINK จนราคาในไทยกลับมาสู่ภาวะปกติที่ราว ๆ Box Set ละ 3,300 บาท จากที่เคยพุ่งไปถึงเซ็ตละ 1 – 2 หมื่นบาท เพราะต้องยอมรับว่า ลาบูบู้ ไม่ใช่สินค้า Limited เมื่อมีความนิยม ทาง Pop mart ก็ยิ่งผลิตออกมาจำหน่าย ทำให้สินค้า มีเพียงพอ กับความต้องการ บวกกับกระแสที่ซาลง ทำให้บรรดาพ่อค้า-แม่ค้ารีเซล เลยเลิกตุนสินค้าไว้ขาย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากระแสลาบูบู้ในไทยจะเบาบางลงไป แต่ในระดับโลกก็ยังเป็นยังคงเป็นที่พูดถึง และมีกระแสความนิยมให้เห็นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อ Vogue Italia และ Teen Vogue เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของ ลิซ่า ที่ทำให้ลาบูบู้ เป็นที่นิยมมากขึ้น จนทำให้เกิดความต้องการเพิ่มขึ้นทั่วโลก และทำให้ลาบูบู้กลายเป็น สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ต้องมี

แม้แต่ คาซิง ลุง (Kasing Lung) ศิลปินผู้ออกแบบเจ้าลาบูบู้ยังออกมายกเครดิตให้กับลิซ่า และได้ส่งตุ๊กตาลาบูบู้ที่มีตัวเดียวในโลกให้ลิซ่าไปเลย อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับก่อนว่า ความนิยมของเจ้าลาบูบู้ไม่ได้เกิดจากแค่ตัวลิซ่าเท่านั้น แต่เพราะมีสินค้าบางคอลเลกชั่นที่ผลิตแบบ Limited ทำให้เกิดความต้องการสูงและกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายเพื่อ เก็งกำไร

บางประเทศต้องหยุดขายเพราะตีกัน

ย้อนไปเมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ร้าน POP MART ใน อังกฤษ ทั้งหมด 16 สาขา ได้ประกาศหยุดจำหน่ายลาบูบู้เป็นการชั่วคราว หลังเกิดเหตุลูกค้าทะเลาะแย่งสินค้ากันอย่างรุนแรง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต้องการที่สูงมากจนเกิดปัญหา ซึ่งความนิยมของลาบูบู้ในอังกฤษนั้น มีการตั้งแคมป์ค้างคืนเพื่อรอซื้อลาบูบู้กันเลยทีเดียว

ไม่ใช่แค่อังกฤษ แต่ POP MART ใน เกาหลีใต้ ก็ได้ระงับการขายลาบูบู้แบบออฟไลน์ด้วยเช่นกัน เนื่องจากมีคนไปต่อคิวยาวเพื่อกว้านซื้อทำกำไร

เช่นเดียวกับในจีน ในศูนย์การค้า Tianhe ในเมืองกว่างโจว ที่บรรดาแฟนคลับและกลุ่มนักเก็งกำไรแห่เข้าคิวแน่นร้าน Pop Mart เพื่อชิงซื้อ Labubu Soft Vinyl Plush Clip ซีรีส์ใหม่ล่าสุดที่เปิดขายแบบจำกัดจำนวน จนทำให้ราคาพุ่งถึง 2,500 หยวน หรือราว 12,500 บาท จากราคาหน้าร้าน 199 หยวน (ประมาณ 995 บาท) แม้แต่คิวต่อแถวก็ยังขายได้เลยทีเดียว

และอีกกรณีในจีนอีกเช่นกัน แต่ไม่ใช่การซื้อเป็นการ แจกลาบูบู้ โดยธนาคาร เพื่อใช้ดึงดูดลูกค้าให้มาเปิดบัญชีฝากเงิน จนทำให้สำนักบริหารกำกับดูแลการเงินจีนได้สั่งห้ามธนาคารแจกลาบูบู้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของลาบูบู้ที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้

ขนาดเท่าคนจริงประมูลจบ 5 ล้านบาท!

อีกจุดที่สะท้อนถึงความคลั่งไคล้ (หรืออาจเป็นโอกาสเก็งกำไร) ก็คือการ ประมูลลาบูบู้ขนาดเท่าคนจริง ที่กรุงปักกิ่ง และสามารถทำราคาได้สูงเกือบ 1.08 ล้านหยวน (ราว 4.87 ล้านบาท) โดยความพิเศษของเจ้าลาบูบู้ตัวนี้ไม่ใช่แค่ขนาดเท่าคนจริง แต่ลาบูบู้ตัวดังกล่าวเป็นรุ่นพิเศษ สีเขียวมิ้นท์ ความสูง 131 เซนติเมตร และที่สำคัญคือ มีเพียงหนึ่งตัวในโลก เพราะเป็น ตัวต้นแบบ ที่ถูกดีไซน์โดยดีไซเนอร์และนำมาแสดงในงานอีเวนต์ของร้าน

โดยรวมแล้ว ลาบูบู้ยังคงเป็นปรากฏการณ์ที่ร้อนแรงในตลาด Art Toy และเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง ทั้งในแง่ของความนิยม กระแสการเก็งกำไร แต่ก็ต้องยอมรับว่าส่วนสำคัญที่ทำให้กระแสลาบูบู้ถูกจุดติดไปทั่วโลกก็คือ ดารา เซเลบคนดัง โดยเฉพาะ ลิซ่า ดังนั้น แม้กระแสจะยังแรง แต่หลายคนก็กำลังมองถึงความยั่งยืนของความนิยมในระยะยาว ว่าจะสามารถรักษาความสนใจของผู้บริโภคไว้ได้นานแค่ไหน เพราะไทยก็เป็นอีกตัวอย่างที่ดีถึงกระแสที่ค่อย ๆ หายไปจนกลับสู่ภาวะปกติ

]]>
1526328
‘Wang Ning’ ผู้ก่อตั้ง ‘POP MART’ เชื่อ ‘ไทย’ จะเป็น ‘บ้านหลังที่ 2 ของลาบูบู้’ หลังทำยอดขายสูงสุดในโลก https://positioningmag.com/1481393 Thu, 04 Jul 2024 11:43:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1481393 หลังจากที่เปิดตัวสาขาแรกไปเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2023 ที่ผ่านมา ยังไม่ทันครบปี ป๊อป มาร์ท (POP MART) ก็สามารถขยายสาขาไปถึง 5 สาขา โดยล่าสุดได้มาเปิดสาขาใหม่ ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ที่ย่านทำเลทองอย่าง เมกา บางนา (MEGA BANGNA) โดย Wang Ning ผู้ก่อตั้ง ก็ได้มาร่วมเปิดสาขาใหม่ด้วยตัวเอง ยิ่งย้ำถึงความสำคัญของตลาดไทย

เชื่อไทยจะเป็นบ้านหลังที่ 2 ของลาบูบู้

ในที่สุด POP MART Store สาขาที่ 5 ของไทยก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ศูนย์การค้าเมกา บางนา ชั้น 1 โซนหน้า IKEA โดยใช้ ลาบูบู้ (LABUBU) เป็นธีมหลักในการออกแบบและตกแต่ง นอกจากนี้ ยังได้เปิด POP MART CONCEPT STORE ในธีมลาบูบู้ครั้งแรกของโลก และใหญ่ที่สุดในอาเซียนอีกด้วย

โดยในการเปิดตัวนี้ Wang Ning ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ POP MART ได้มาร่วมงานเปิดตัว โดยระบุว่า งานดังกล่าวถือเป็น งานลาบูบู้แรกที่จัดในไทย และเชื่อว่าอนาคต ลาบูบู้จะมีไทยเป็นบ้านหลังที่ 2 พร้อมกับย้ำว่า จากนี้ก็จะมีสินค้าและบริการออกมาเพื่อให้แฟน ๆ ได้เซอร์ไพรส์

“ตอนนี้เราอยู่ระหว่างเตรียมพร้อม โดยอนาคตจะมีสินค้าลาบูบู้มาเปิดตัวที่ไทยอีกแน่นอน เพราะไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญของ POP MART” Wang Ning ย้ำ

Wang Ning ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ POP MART

ไทยขายลาบูบู้ดีสุดในโลก

ศิริพร แผลงจันทึก Country Manager บริษัท ป๊อป มาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ถ้าออกนอกตลาดจีน ไทยถือเป็นประเทศที่ลาบูบู้ขายดีที่สุด เมื่อเทียบกับอีก 30 ประเทศทั่วโลก โดยสามารถขายหมดได้ภายในวันเดียว และไทยถือเป็นประเทศที่ได้สต็อกมากที่สุดในอาเซียน นี่จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เฮดควอเตอร์ยอมให้ เปิดสโตร์ในธีมลาบูบู้เป็นที่แรกของโลก 

“ไทยเป็นประเทศที่คลั่งลาบูบู้ที่สุดเมื่อเทียบกับทุกประเทศทั่วโลก และที่เราเลือกเปิดที่เมกา บางนา เพราะมีฐานกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มครอบครัวและคนรุ่นใหม่ ซึ่งแมตช์กับลาบูบู้ ทางเฮดควอเตอร์เลยอนุมัติให้เปิดสโตร์ธีมลาบูบู้”  ศิริพร อธิบาย

โดยสาเหตุที่ทำให้ลาบูบู้เป็นคาแรกเตอร์ยอดนิยมในไทย เกิดจากหลายปัจจัยประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นจาก อินฟลูเอนเซอร์ โดยเฉพาะ ลิซ่า ประกอบกับคอลเลกชั่น มาการอง ที่เป็น พวงกุญแจ ทำให้สถานะเปลี่ยนจากของสะสมเป็น accessory ที่ไปอยู่ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งปัจจุบัน ลาบูบู้และครายเบบี้ (Cry Baby) ถือเป็น 2 คาแรกเตอร์ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด ตามด้วยฮิโรโนะ (Hirono), มอลลี่ (Molly) และสคัลแพนด้า (Skull Panda)

“คนไทยค่อนข้างเปิดรับเทรนด์ใหม่ง่าย ๆ ทำให้กระแสอาร์ตทอยในไทยเริ่มมา ซึ่งตอนนั้นคนไทยไม่ได้ชอบลาบูบู้เป็นอันดับ 1 แล้วพอน้องลิซ่าชอบ ทำให้ตลาดขยายไปในวงกว้าง เข้าถึงทั้งเด็ก, ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ทำให้ตั้งแต่นั้นมีของเท่าไหรก็ไม่เคยพอ”

ลิซ่า และ ชมพู่ อารยา อวดลาบูบู้ลงโซเชียล

ไทยผู้สร้างแรงกระเพื่อมให้อาเซียน

ไทยถือเป็นประเทศที่เฮดควอเตอร์ให้ความสำคัญ ไม่ใช่แค่ยอดขายในตลาดไทยเท่านั้น แต่วัดจากทั้งการที่แฟน ๆ ไปรอต้อนรับศิลปิน หรือการที่ คนไทยไปซื้อสินค้าในสโตร์ต่างประเทศ ซึ่งไทยถือเป็นประเทศที่ สร้างแรงกระเพื่อมให้ตลาดอาเซียน ซึ่งปัจจุบันสต็อกสินค้า ไทยก็ได้มากที่สุด

“เฮดควอเตอร์มองเห็นกระแส มองเห็นว่าคนไทยชอบ อย่าง POP MART สาขาใหม่ในเวียดนาม ก็มีคนไทยรอข้ามคืนเพื่อซื้อของ ซึ่งเราพยายามเพิ่มการสั่งซื้ออยู่ตลอด แต่ตอนนี้เต็มคาปาซิตี้การผลิตของโรงงานแล้ว ”

ปีนี้อาจเห็นสาขาใหม่อีก 1 สาขา

สำหรับแผนการขยายสาขา ไม่ได้มีตายตัวว่าจะขยายปีละกี่สาขา แต่ต้องการให้คลอบคลุมในกรุงเทพฯ ก่อน เพราะขึ้นอยู่กับความพร้อมของโลเคชั่น แต่ในสิ้นปีอาจเห็นสาขาใหม่อีก 1 สาขา หรืออย่างช้าก็เป็นต้นปีหน้า เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการพูดคุย

ทั้งนี้ บริษัท ไม่ต้องการน้นปริมาณ แต่ต้องการให้ POP MART แต่ละสาขาเป็นจุดมุ่งหมายของโลเคชั่นนั้น ๆ และแต่ละสาขาก็จะ ตกแต่งไม่เหมือนกัน เพื่อสร้างความตื่นเต้นและให้แฟน ๆ ไปให้เยือนให้ครบทุกที่ โดยปัจจุบัน สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นสาขาที่ขายดีที่สุด ส่วนอีก 4 สาขามียอดขายใกล้เคียงกัน โดยเฉลี่ยแต่ละสโตร์มีผู้เข้าชมประมาณ 1 พันคน/วัน

POP MART
POP MART สาขา 2 ในไทยที่ Terminal 21 อโศก

พยายามสร้างระบบให้แฟร์กับนักสะสม

ศิริพร ย้ำว่า ไม่ได้มองว่า ตลาดรีเซลล์เป็นปัญหา ตราบใดที่ทำตามกติกา เพราะเชื่อว่าส่วนใหญ่ก็เป็นนักสะสมมาก่อน โดย POP MART ประเทศไทยก็พยายามทำให้ แฟร์ กับนักสะสมทุกคน ไม่ว่าจะเป็นระบบ จองคิวออนไลน์ และต้องยืนยันสิทธิ์ให้ตรงตามบัตรประชาชนที่ลงทะเบียน รวมถึงการเพิ่มระบบ POS เพื่อให้ร้านบริหารจัดการได้เร็วขึ้น

“เราเองก็พยายามทำมาตรการให้แฟร์ที่สุดสำหรับทุกคน และเราก็เข้าใจถึงปัญหาเว็บล่ม แต่ต้องอธิบายว่ามันทั้งคนลงทะเบียนเยอะ และมีผู้ไม่หวังดีโจมตี เราเองก็ลงทุนกับไอทีตลอด เพราะต้องคอยเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ไม่ให้ถูกโจมตี” 

LANG (หลาง) ศิลปินชาวจีนผู้ออกแบบคาแรกเตอร์ฮิโรโนะมาเยือนไทย

พยายามสร้างเซอร์ไพรส์ใหม่ ๆ เพื่อกระตุ้นกระแส

ในส่วนของเซอร์ไพรส์ใหม่ ๆ ศิริพร ยืนยันว่า มีแน่นอน แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยที่ผ่านมา POP MART ก็พยายามดึงศิลปินให้มาทำกิจกรรมที่ไทย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับศิลปินจะไปอีเวนท์ของประเทศไหน เพราะศิลปินต้องเวียนไปทำกิจกรรม POP MART ทั่วโลก

ในส่วนของการผลัดดันศิลปินไทยก็ทำเต็มที่ แต่ผู้ตัดสินคือ เฮดควอเตอร์ที่จะเลือกคาแรกเตอร์จากศิลปินคนไหนไปผลิตสินค้า ซึ่งไทยเองก็ต้องแข่งขันกับศิลปินจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นจีน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นต้น

“เราดันเต็มที่ แต่ตัวตัดสินคือ คุณภาพของคาแรกเตอร์ที่ศิลปินออกแบบ เพราะ POP MART ก็อยากได้ของมาขาย ซึ่งปัจจุบัน POP MART มีคาแรกเตอร์ในมือกว่า 10 IP และมีสินค้าใหม่ออกทุกวันศุกร์”

]]>
1481393