“ผลจากการรุกรานของรัสเซียในยูเครน เราได้ให้การอนุญาตชั่วคราวให้ผู้ใช้งานสามารถแสดงออกทางการเมือง โดยเฉพาะการแสดงออกด้านความรุนแรง เช่น ผู้รุกรานชาวรัสเซียไปตายซะ (death to the Russian invaders) ซึ่งตามปกติแล้วจะเป็นการละเมิดกฎของเรา” แอนดี้ สโตน โฆษกของ Meta แอนดี้ สโตน กล่าวในแถลงการณ์

นอกจากนี้ Facebook ยังอนุญาตให้โพสต์ ‘แช่ง’ ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน รวมไปถึง ประธานาธิบดีเบลารุส อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ได้ในบางประเทศ อาทิ อาร์เมเนีย, อาเซอร์ไบจาน, เอสโตเนีย, จอร์เจีย, ฮังการี, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย, โปแลนด์, โรมาเนีย, สโลวาเกีย รวมทั้งรัสเซียและยูเครนด้วย

อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นข้อความเรียกร้องการก่อความรุนแรงต่อพลเรือนรัสเซีย ทางแพลตฟอร์มจะไม่อนุญาตให้เผยแพร่

ทั้งนี้ การตัดสินใจดังกล่าวนี้เกิดขึ้นไม่กี่วัน หลังจากที่ รัสเซียบล็อกการเข้าถึง Facebook และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ อาทิ BBC, Deutsche Welle, Twitter, Apple และ Google App Store พร้อมระบุสาเหตุว่า แพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้เลือกปฏิบัติต่อสื่อและแหล่งข้อมูลของรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม Nick Clegg ประธาน Meta กล่าวว่า บริษัทกำลัง “ทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อกู้คืนบริการของเราในรัสเซีย”

Source

สำนักข่าวทาซของรัสเซียรายงานว่า หลังจากที่มีการนับบัตรลงคะแนนไปแล้ว 100% คณะกรรมการกลางการเลือกตั้งรัสเซีย CEC แถลงว่า ผลการลงคะแนนพบว่า การแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญรัสเซียได้รับการสนับสนุนเห็นชอบจากผู้มีสิทธิ์จำนวน 77.92% ขณะที่มีเสียงคัดค้านแค่ 21.27% พบมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ราว 65%

ทั้งนี้พบว่าการโหวตทั่วประเทศสิ้นสุดลงในเวลา 21.00 น. ตามเวลากรุงมอสโกในวันที่ 1 ก.ค. ซึ่งกฎหมายรัฐธรรมนูญรัสเซียฉบับแก้ไขจะมีผลบังคับใช้หากว่ามีจำนวนผู้สนับสนุนมากกว่าครึ่งของจำนวนผู้มาออกใช้สิทธิ์

ด้านเครมลินออกมาแสดงความยินดีในความสำเร็จที่ประชาชนชาวรัสเซียสนับสนุนการแก้ไขแบบแลนด์สไลด์ ที่มีจำนวนเกือบ 78% ของผู้มีสิทธิ์เห็นชอบ และจะส่งผลทำให้ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน หากลงรับสมัครรับเลือกตั้งต่อจะสามารถนั่งยาวไปจนถึงปี 2036 ทั้งนี้เขาจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งสมัยปัจจุบันลงในปี 2024

ขณะที่ปูตินได้แสดงความขอบคุณต่อประชาชนชาวรัสเซียโดยกล่าวผ่านทางโทรทัศน์หลังมีการรายงานผลการลงคะแนนให้ทราบไปทั่วแล้ว

“ขอขอบคุณเป็นอย่างมากสำหรับการสนับสนุนของคุณ และความไว้วางใจ”

ในการแถลงปูตินยังคงกล่าวย้ำไปถึงความสำคัญของความจำเป็นที่ต้องมีการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญรัสเซียโดยชี้ว่า เป็นการทำเพื่อปรับปรุงระบบการเมือง เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งต่อการรับรองทางสังคม และความแข็งแกร่งของอธิปไตยประเทศ

แต่อย่างไรก็ตาม เอเอฟพีชี้ว่า ในคำแถลงผู้นำรัสเซียไม่ได้กล่าวไปถึงผลประโยชน์ที่ตัวเขาจะได้รับจากรัฐธรรมนูญที่ได้ถูกแก้ไข ซึ่งจะปลดล็อกการจำกัดการอยู่ในตำแหน่งของปูติน และจะเปิดโอกาสทำให้เขายังคงเป็นประธานาธิบดีรัสเซียได้ต่ออีก 12 ปีหลังจากสมัยการดำรงตำแหน่งปัจจุบันสิ้นสุดลงแล้ว

ปูตินท้าวความไปถึงอดีตสหภาพโซเวียตว่า

“เวลาเล็กน้อยได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วหลังการล่มสลายลงของอดีตสหภาพโซเวียต แต่พวกเรายังคงอ่อนแออยู่ในหลายด้าน เหมือนกับที่ผู้คนจำนวนมากได้กล่าวไว้ มีหลายอย่างได้ถูกเกี่ยวเข้าหากัน เราต้องการเสถียรภาพภายในและเวลาเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งของประเทศและสถาบัน”

ในการแถลงผ่านทางโทรทัศน์ ผู้นำรัสเซียกล่าวไปถึงกลุ่ม 21.27% ที่คัดค้านการแก้ไขโดยชี้ไปถึงปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข อย่างไรกตาม ปูตินย้ำถึงเสียงส่วนใหญ่ที่มีอย่างล้นหลามต่อการเห็นชอบที่เชื่อว่า “เราสามารถทำงานได้ดีขึ้น และรัฐบาลจะต้องทำทุกสิ่งเพื่อพิสูจน์ต่อศรัทธานี้” ผู้นำรัสเซียแถลงทิ้งท้าย

Source