วิตามินซี – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 17 Nov 2021 12:26:54 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “ไฮ่!” งัดไม้ตายจับมือ DHC วิตามินซีตัวท็อปจากญี่ปุ่นลงขวดครั้งแรกของโลก! https://positioningmag.com/1362642 Wed, 17 Nov 2021 10:17:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1362642 ตลาดน้ำวิตามินซียังหอมหวาน มีผู้เล่นหน้าใหม่ลงตลาด ทำให้การแข่งขันในตลาดดุเดือด “ไฮ่!” จากค่าย TCP จึงของัดไม้ตาย ด้วยการจับมือกับ DHC แบรนด์วิตามินชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น อาศัยความเป็นวิตามินตัวท็อปสร้างจุดขาย ตั้งเป้ามีส่วนแบ่งตลาดติด Top 3 ให้ได้

สร้างจุดขายด้วย DHC วิตามินในตำนาน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริ้งก์เริ่มกลับมามีสีสัน และมีการเติบโตมากขึ้น เนื่องจากคนสนใจดูแลสุขภาพมากขึ้น แต่เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา มีการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ยิ่งเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ตลาดนี้กลับมาบูมยิ่งขึ้น ทำให้ได้เห็นผู้เล่นตลาดเครื่องดื่ม หรือไม่ได้อยู่ในตลาดนี้ ต่างออกเครื่องดื่มผสมวิตามินทั้งสิ้น จับเทรนด์การดูแลสุขภาพ สร้างภูมิคุ้มกันมากขึ้น

จะเห็นได้ว่าปีที่ผ่านมามีเครื่องดื่มมากหน้าหลายตาออกสู่ตลาดจนเต็มเชลฟ์ มีทั้งน้ำผสมวิตามิน หรือ Vitamin Water รวมถึงน้ำวิตามินซีแบบช็อต เรียกว่าเป็นเครื่องดื่มดาวรุ่ง เพราะหลายคนมองหาวิตามิน หรืออาหารเสริม เพื่อต้องการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

ค่าย TCP เองก็ไม่ตกขบวนน้ำวิตามินซี ได้ออกแบรนด์ “ไฮ่!” ในปีที่แล้ว น้ำวิตามินซี 200% เมื่อไม่นานมานี้ได้ “อั้ม พัชราภา” เป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วย

แต่ด้วยการแข่งขันที่ดุเดือด ปัจจุบันมีผู้เล่นในตลาดมากกว่า 10 แบรนด์ แต่ละแบรนด์ต่างชูจุดเด่นเรื่องวิตามินซี 200% เหมือนกัน สร้างภูมิคุ้มกันเหมือนกัน มีรสชาติใกล้เคียงกัน ทำให้ TCP ต้องแก้เกมใหม่ ด้วยการหาจุดขายใหม่ที่แตกต่างจากพวก

งานนี้จึงได้จับมือกับ DHC วิตามินในตำนานจากประเทศญี่ปุ่น เปิดตัวเป็น ไฮ่! x DHC ปรับสูตรใหม่โดยได้ผสมวิตามินจาก DHC เพิ่มเติม มีทั้งหมด 3 รสชาติ ได้แก่ มิกซ์เบอร์รี่ เลมอนเซโตซิ และส้มยูซุ

เบื้องหลังของดีลนี้ ทาง TCP บอกว่าได้ปรึกษาแลพูดคุยกับทาง DHC เป็นเวลาพอสมควร ใช้เวลาร่วมปี ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค จนออกมาเป็นน้ำวิตามินซีร่วมกัน ในครั้งนี้ถือว่าเป็นการออกน้ำวิตามินซีแบบขวดครั้งแรกของโลกของ DHC เช่นเดียวกัน เป็นดีลแบบเอ็กซ์คลูซีฟ

ประไพภักตร์ ไวเกิล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโกลเบิล (F&B) กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า

“ในช่วงการระบาดของ COVID-19 ผู้บริโภคได้เปลี่ยนพฤติกรรมจากการดูแล และรักษาสุขภาพมาเป็นการป้องกันมากขึ้น การเป็นพันธมิตรกับ DHC แบรนด์อาหารเสริมอันดับหนึ่งที่ได้รับความเชื่อถือในระดับสากลจากประเทศญี่ปุ่นนี้ ทำให้เราสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพแก่ผู้บริโภคในราคาที่จับต้องได้ ไฮ่! X DHC จะช่วยผลักดันการเติบโตให้กับกลุ่มธุรกิจ TCP โดยเป็นหนึ่งในสามแบรนด์ที่ขายดีที่สุดในตลาดเซกเมนต์นี้ และเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 50% ในปีหน้า”

DHC เป็นแบรนด์อาหารเสริมอันดับ 1 ในญี่ปุ่น ทำตลาดมา 20 ปี ปัจจุบันมียอดขาย 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้แบรนด์ค่อนข้างน่าเชื่อถือ มีฐานลูกค้ากว่า 15.47 ล้านคนในญี่ปุ่น มีดีลเลอร์มากกว่า 72,708 รายทั่วญี่ปุ่น

สำหรับในประเทศไทยก็ถือว่ารู้จักแบรนด์ DHC เป็นอย่างดี ใครที่ได้เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นก็ต้องมีหยิบ DHC ติดไม้ติดมือกลับบ้านมาทานเอง หรือเป็นของฝาก เพราะมีวิตามินที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทั้งชายหญิง และทุกช่วงวัย อีกทั้งยังราคาไม่แรงเท่าไหร่นัก

คนไทยสนใจสร้างภูมิคุ้มกัน

จากเทรนด์การดูแลสุขภาพของคนไทย ทำให้ตลาดฟังก์ชันนอลดริ้งก์มีการเติบโตเฉลี่ย 10% มาโดยตลอด เพียงแต่ในปีนี้คาดว่าจะลดลง 5% มีมูลค่า 8,600 ล้านบาท เนื่องจากมีการล็อกดาวน์นานกว่าปีที่แล้ว แต่คาดการณ์ว่าปีหน้าตลาดจะกลับมาเติบโต 9% หรือมีมูลค่า 9,330 ล้านบาท

ทาง TCP ได้นำผลการศึกษาจากกันตาร์ พบว่ากลุ่มตัวอย่างทั่วโลกให้ความสำคัญในการเพิ่มภูมิคุ้มกัน 70% ส่วนในประเทศไทยให้ความสำคัญถึง 80% เรียกว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยในระดับโลก หรือ 4 ใน 5 คนมองหาโซลูชันที่จะเพิ่มภูมิคุ้มกันมากขึ้น

เมื่อมาดูวิธีการการเพิ่มภูมิคุ้มกันของคนไทย ส่วนใหญ่จะเป็นการพักผ่อนให้เพียงพอ และรักษาสุขอนามัยให้มากขึ้น โดยสิง่ที่น่าสนใจคือคนไทยมองว่าการเข้าถึงสินค้าที่ดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพ ยังเป็นช่องว่างของเขาอยู่ พบว่า 96% ของคนไทยไม่มีเวลาดูแลสุขภาพมากพอ 47% ดูแลสุขภาพผ่านการกินอาหาร และเครื่องดื่มต่างๆ หาโซลูชันง่ายๆ ให้ตัวเอง

กลายเป็นว่าการดื่มเครื่องดื่มวิตามิน น้ำวิตามินซี หรืออาหารเสริม จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์คนไทยในยุคนี้ หลายคนมองว่าสะดวก และเข้าถึงได้ง่าย จากผลสำรวจพบว่าคนไทยมีความถี่ในการดื่มเฉลี่ย 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือดื่มเกือบทุกวัน

อีกหนึ่งความน่าสนใจก็คือ การออกไฮ่! x DHC ในครั้งนี้ จะไม่มีการใช้พรีเซ็นเตอร์เหมือนการเปิดตัวสินค้าในปีที่แล้ว ประไพภักตร์บอกว่า 2 แบรนด์นี้เป็นพระเอกอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีพรีเซ็นเตอร์ พร้อมกับตั้งเป้าจะมีส่วนแบ่งตลาดติด Top 3 ในตลาดให้ได้

]]>
1362642
ไม่ตกขบวน! ไทยดริ้งค์ ส่ง “วี-บูสท์” เขย่าตลาดเครื่องดื่มวิตามินซี จับเทรนด์สร้างภูมิต้านทาน https://positioningmag.com/1306748 Thu, 19 Nov 2020 07:30:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1306748 ไทยดริ้งค์ ขยายพอร์ตเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เปิดตัว “วี-บูสท์” เครื่องดื่มวิตามินซี แถมชูจุดเด่นด้วยผสมเบต้ากลูแคน บุกตลาดฟังก์ชันนัลดริ้งก์ 6,500 ล้านบาท

เครื่องดื่มวิตามินซียังหอมหวาน

ด้วยเทรนด์ดูแลสุขภาพที่มาแรงอยู่แล้ว แต่เมื่อเจอวิกฤต COVID-19 เข้าไป ยิ่งทำให้เทรนด์นี้มาแรงขึ้นไปอีก หลายคนต้องการสร้างภูมิต้านทานให้ตัวเองมากขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดโรคภัยต่างๆ

ทำให้ในปีนี้เราได้เห็นแบรนด์เครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ในไทย ต่างกันพาเหรดออกสินค้าใหม่ในกลุ่มเครื่องดื่มวิตามินทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำผสมวิตามิน หรือจะเป็นเครื่องดื่มวิตามินซีแบบช็อต เพื่อจับตลาด และจับความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการดูแลตัวเองมากขึ้น

ล่าสุด “ไทยดริ้งค์” บริษัทกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในเครือไทยเบฟเวอเรจ ได้ร่วมขบวนนี้กับเขาด้วย เปิดตัว “วี-บูสท์” บุกตลาดตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริ้งก์ 6,500 ล้านบาท ที่มีการเติบโตกว่า 13%

วี-บูสท์ ได้วางจุดยืนเป็นเครื่องดื่มวิตามินซี 200% เหมือนกับเจ้าอื่นๆ ในตลาด แต่สร้างความแตกต่างด้วยการชูส่วนผสม “เบต้ากลูแคน” จากสหรัฐอเมริกาที่มีผลวิจัยรับรองว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระ มาพร้อม 2 รสชาติ รสส้ม และรสเลมอน

เจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด กล่าวว่า

“การเปิดตัว วี-บูสท์ ตอบโจทย์วิสัยทัศน์ Passion 2025 ของเครือไทยเบฟเวอเรจ ที่ให้ความสำคัญในเรื่องนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างสร้างสรรค์ในการเป็นผู้นำของธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารในอาเซียน โดย วี-บูสท์ เป็นเครื่องดื่มวิตามินซีผสมเบต้ากลูแคน ให้ความสำคัญกับการป้องกันตัวเอง และครอบครัวให้ปลอดภัยจาก COVID-19 ตามสไตล์ชีวิตวิถีใหม่”

นอกจากนี้ ยังดึง 2 นักกีฬา “หน่อง ปลื้มจิตร์ ถินขาว” นักวอลเลย์บอลทีมชาติไทย และ “ต้น นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม” นักฟุตบอลทีมชาติไทย เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ด้วย

]]>
1306748
C-vitt ยึดหัวหาดเบอร์ 1 เครื่องดื่มวิตามินซีต่อเนื่อง จากกลยุทธ์ “พรีเซ็นเตอร์ที่ใช่” พ่วงกิจกรรม CSR – การตลาด https://positioningmag.com/1296672 Mon, 14 Sep 2020 10:00:45 +0000 https://positioningmag.com/?p=1296672
เครื่องดื่มวิตามินซี C-vitt (ซี-วิท) ยึดบัลลังก์เบอร์ 1 ของตลาดไว้เหนียวแน่น ทั้งในกลุ่มเครื่องดื่มวิตามินซีและตลาดฟังก์ชันนอลดริงก์ โดยตัวสินค้าเองพัฒนามาให้แตกต่างจากคู่แข่ง ทำให้มีจุดแข็งพร้อมเจาะกลุ่มผู้บริโภค และยังได้กลยุทธ์การตลาดช่วยปูทาง ตั้งแต่การเลือกพรีเซ็นเตอร์ที่ใช่อย่าง “เบลล่า-ราณี แคมเปน” จนถึงกิจกรรม CSR – การตลาดที่มีต่อเนื่อง ล่าสุดจัดกิจกรรมร่วมกับ กทม. ปล่อยคาราวานแจก C-vitt ให้คนไทย 1 ล้านขวด ทั้งเป็นการช่วยเหลือสังคมและการตลาดให้คนไทยมีโอกาสได้ลองชิมเครื่องดื่ม C-vitt

ปีนี้เป็นปีทองของ C-Vitt (ซี-วิท) จริงๆ เพราะกระแสรักสุขภาพของคนไทยทำให้ตลาดฟังก์ชันนอลดริงก์เติบโตได้ดี และ C-vitt ซึ่งเป็นผู้นำเบอร์ 1 ในกลุ่มเครื่องดื่มวิตามินซีและฟังก์ชันนอลดริงก์อยู่แล้ว ยิ่งทำยอดขายเติบโตสูงขึ้นและมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้นไปอีก โดยล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 2/63 เครื่องดื่ม C-vitt มีส่วนแบ่งตลาดฟังก์ชันนอลดริงก์ถึง 33.9% (เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 11.9%) และบริษัทวิจัยการตลาด “คันทาร์” ยังยกให้แบรนด์ C-vitt เป็นแบรนด์ดาวรุ่งที่เติบโตสูง มีผู้ซื้อมากกว่า 11 ล้านครั้ง

เครื่องดื่ม C-vitt ออกวางจำหน่ายมากว่า 8 ปี และมาด้วยจุดแข็งของตัวผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่จะสร้างความโดดเด่นในตลาด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ขวดแก้วแทนขวดพลาสติกทำให้แตกต่างชัดเจน เป็นเครื่องดื่มวิตามินซีสูง 200% แบรนด์แรกในไทยไม่ใช่เพียงน้ำผสมวิตามิน รวมถึงพัฒนามาจากแบรนด์ญี่ปุ่น สร้างความน่าเชื่อถือต่อผู้บริโภค

แต่ผลิตภัณฑ์ที่ดีอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องมีกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยส่งแบรนด์ไปได้ไกลด้วย โดย C-Vitt มีการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่เมื่อปีก่อนคือ “เบลล่า-ราณี แคมเปน” นางเอกสาวคนดังแห่งยุค และเป็นหญิงสาวที่มีไลฟ์สไตล์รักสุขภาพ รักการออกกำลังกาย ทำให้เหมาะสมกับการเป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์ ประกอบกับเบลล่ามีภาพลักษณ์และฐานแฟนที่เข้าถึงได้ทุกเพศ ทุกวัย สอดคล้องกับทิศทางการตลาดของ C-vitt ที่กำลังขยับจากฐานผู้บริโภคกลุ่มผู้หญิงวัย 20-30 ปี เป็นตลาดแมสทุกเพศ ทุกวัย ดื่มได้ทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เด็กหรือผู้สูงอายุ

พรีเซ็นเตอร์ที่ใช่ทำให้ C-vitt เจาะฐานผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ขึ้นได้ และกลายเป็นแบรนด์ที่มาเขย่าตลาดเครื่องดื่มวิตามินซีในที่สุด

นอกจากพรีเซ็นเตอร์แล้ว เครื่องดื่ม C-vitt ยังมีกิจกรรมการตลาดมาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาแบรนด์มีการจัดกิจกรรมวิ่งมาราธอนประจำปี C-Vitt Run for Health และ ร่วมสนับสนุนในกิจกรรมเพื่อสุขภาพต่างๆอีกมากมาย เพื่อให้เห็นภาพชัดว่าเป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์เทรนด์คนรักสุขภาพ และมีกิจกรรมขอบคุณผู้บริโภคระหว่างปีเป็นระยะๆ

รวมถึงครั้งล่าสุด แบรนด์ได้จัดกิจกรรม CSR กึ่งการตลาด “กรุงเทพมหานคร และ ซี-วิท ห่วงใยคนไทยการ์ดไม่ตก” ปล่อยรถคาราวานแจกฟรีเครื่องดื่ม C-vitt จำนวน 1 ล้านขวดทั่วกรุงเทพฯ ตามจุดต่างๆ เช่น สวนสาธารณะ โรงเรียนสังกัดกทม. จุดรับส่งผู้โดยสารรถสาธารณะ ตลาดในสังกัดกทม.

เนื่องจากเครื่องดื่ม C-vitt นั้นเป็นเครื่องดื่มวิตามินซี 120 มิลลิกรัม (คิดเป็น 2 เท่า หรือ 200% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) ทำให้มีคุณประโยชน์ทดแทนการรับประทานผลไม้รสเปรี้ยวจำนวนมากได้ภายในขวดเดียว ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยสร้างคอลลาเจน และช่วยซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของร่างกาย ดังนั้น C-vitt จึงจับจุดนี้มานำเสนอว่า แบรนด์นี้คือเครื่องดื่มที่เหมาะสมกับสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ซึ่งคนไทยต้องมีภูมิคุ้มกันให้ตนเองแข็งแรง สู้โรคภัยได้ดีกว่าเดิม

งานครั้งนี้มีการปล่อยรถคาราวานจากด้านหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยมีผู้เข้าร่วมปล่อยรถ ได้แก่ “ธนา ไชยประสิทธิ์” รักษาการณ์ CEO บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) และ “ชิฮิโระ คุระตะ” ประธาน บริษัท เฮ้าส์ โอสถสภา ฟู้ดส์ จำกัด พร้อมด้วย “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ “เบลล่า-ราณี แคมเปน” นางเอกสาวพรีเซ็นเตอร์ของ C-vitt เอง

กิจกรรมครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพดี และยังทำให้คนไทยรู้จักพร้อมได้ลองชิมรสชาติของ C-Vitt เป็นประโยชน์หลายต่อที่น่าจะช่วยให้แบรนด์ครองอันดับ 1 ได้อย่างแข็งแกร่ง

หมายเหตุ : ข้อมูลประกอบเกี่ยวกับตัวเลขในย่อหน้าที่สอง แหล่งอ้างอิงดังนี้
1) ส่วนแบ่งการตลาดและการเติบโต > https://www.set.or.th/dat/news/202008/20091682.pdf
2) แบรนด์ดาวรุ่งแนะนำโดยคันทาร์ > https://positioningmag.com/1284984
]]>
1296672
ยุคทองของวิตามินซี! “สิงห์ เลมอนโซดา” เติมพอร์ตนอนแอลฯ แถมโฆษณาได้ด้วย https://positioningmag.com/1293407 Wed, 19 Aug 2020 15:55:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1293407 “สิงห์” เติมพอร์ตธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ ปลุกตลาดเครื่องดื่มส่ง “สิงห์ เลมอนโซดา” เครื่องดื่มเลมอนผสมโซดา ชูจุดเด่นสดชื่นแบบไม่มีน้ำตาล ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ

จับเทรนด์วิตามินซี

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเทรนด์การดูแลสุขภาพเริ่มมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่มมีการปรับตัวเพื่อรับกับกระแสนี้ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ แคลอรีต่ำ ยิ่งช่วยตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

ยิ่งการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ยิ่งเร่งกระแสของเทรนด์ดูแลสุขภาพให้มีมากขึ้นอีก โดยเฉพาะเครื่องดื่ม หรืออาหารเสริมที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน เครื่องดื่มกลุ่ม “วิตามินซี” จึงได้รับอานิสงส์ใหญ่ มีการเติบโตอย่างรุนแรง เพราะเป็นที่นิยมของผู้บริโภค

สิงห์ เลมอนโซดา

งานนี้ผู้เล่นใหญ่ในตลาดเครื่องดื่มอย่าง “สิงห์” ก็ขอจับตลาดนี้บ้าง เปิดตัว “สิงห์ เลมอนโซดา” (Singha Lemon Soda) เป็นการเสริมพอร์ตโฟลิโอกลุ่มนอนแอลกอฮอล์ โดยใช้โซดาที่เป็นธุรกิจใหญ่ของเครือ มาผสมกับน้ำเลมอน มีวิตามินซี และไม่มีน้ำตาล แคลอรี 0% ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ

ภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า

“ในฐานะองค์กรธุรกิจที่มีอายุมากว่า 87 ปี มีสินค้าทั้งในกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และนอนแอลกอฮอล์ แต่ในปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้บริษัทฯ ต้องพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อให้สอดคล้อง สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ได้มองเห็นโอกาสทางการตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระแสรักสุขภาพที่มาแรงได้กลายเป็นปัจจัยเร่งให้แนวโน้มผู้บริโภคหันมาใส่ใจกับสุขภาพมากยิ่งขึ้น การต่อยอดพัฒนาสินค้าใหม่ จึงปรับเปลี่ยนให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดอีกด้วย”

ภูริต ภิรมย์ภักดี

บิ๊กมูฟ! บุกนอนแอลฯในรอบหลายปี

สิงห์ เลมอนโซดาเป็นสูตรปราศจากน้ำตาล (Sugar Free) และไม่มีแคลอรี ตอบสนองผู้บริโภคสามารถดื่มเพื่อดับกระหาย และยังคงมีสุขภาพที่ดี อีกทั้งยังได้รับเครื่องหมาย “ทางเลือกสุขภาพ” (Healthier Choice) เครื่องดื่มการันตีผลิตภัณฑ์ ผ่านเกณฑ์โภชนาการตามที่กำหนดและปลอดภัยต่อสุขภาพ

ทางด้าน ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มการตลาดแบรนด์ (Chief Marketing Officer – Brand) บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า

“การเปิดตัวเครื่องดื่มสิงห์ เลมอนโซดา (Singha Lemon Soda) นับเป็นการสร้างสีสันให้กับวงการเครื่องดื่มครั้งสำคัญ และถือเป็นบิ๊กมูฟของสิงห์ เนื่องจากเห็นโอกาสการเติบโตของตลาด โดยนำเสนอเครื่องดื่มที่ให้คุณประโยขน์ มอบความสดชื่น และสามารถตอบโจทย์กระแสผู้บริโภครักสุขภาพได้ด้วย”

สิงห์ เลมอนโซดา

ได้วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์เป็นเครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ และเครื่องดื่มดับกระหายให้ความสดชื่น เจาะกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมตลาดใน 2 หมวด แบ่งเป็น เครื่องดื่มน้ำอัดลม มูลค่า 56,000 ล้านบาท และโซดากว่า 15,000 ล้านบาท เมื่อรวม 2 ตลาดคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 70,000 ล้านบาท 

สิงห์ เลมอนโซดาจำหน่ายในรูปแบบกระป๋อง ขนาด 330 มิลลิลิตร ในราคา 16 บาท สามารถซื้อได้ผ่านช่องทางเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขาทั่วประเทศ

สิงห์ เลมอนโซดา

แต่อีกหนึ่งนัยสำคัญของสิงห์ เลมอนโซดา ก็คือ การที่สามารถทำการตลาดผ่านแบรนด์สิงห์ได้ โพสต์รูปลงในเชียลมีเดียได้ เนียนๆ สร้างแบรนด์ให้สิงห์ภายใต้เครื่องดื่มนอนแอลกอฮอลล์ กลายเป็นอีกกลยุทธ์สำคัญของธุรกิจแอลกอฮอลล์ในยุคนี้ไปแล้ว

]]>
1293407