Gen Z นักเดินทางสายลุย คล่องตัว และรักอิสระ : จากข้อมูลของ AirAsia MOVE ชี้ว่า

• 20% ของนักท่องเที่ยว Gen Z ชอบ Backpacking และ Solo Travel – ต้องการอิสระในการเลือกที่เที่ยว ไม่อยากผูกมัดกับทัวร์
• 80% เน้นจองผ่านมือถือ – ทุกอย่างต้องสะดวก รวดเร็ว และสามารถจองผ่านแอปได้ทันที
• 30% เลือกที่พักราคาประหยัด – เช่น โฮสเทล บูติกโฮเทล หรือที่พักแปลกใหม่อย่างแคปซูลโฮเทล
• 70% มองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร – เช่น เที่ยวธรรมชาติ ลุยคาเฟ่ลับ หรือเข้าร่วมเวิร์กช็อปท้องถิ่น

จุดหมายปลายทางยอดฮิตของ Gen Z ในช่วงสงกรานต์

• 30% จากเส้นทางในประเทศเลือกไปท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเทียบกับทุกจังหวัดในประเทศไทย – เน้นคอมมูนิตี้ Backpacker, โฮสเทลแนว Eco-friendly และกิจกรรมกลางแจ้ง
• 8% จากเส้นทางต่างประเทศเลือกไปท่องเที่ยวในเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น – เมืองแห่งสตรีทฟู้ด วัฒนธรรมป๊อป และที่พักราคาย่อมเยา
• 5% จากเส้นทางต่างประเทศเลือกไปท่องเที่ยวในเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม – จุดหมายปลายทางชายทะเลที่คุ้มค่า พร้อมกิจกรรม Adventure

Baby Boomers ท่องเที่ยวแบบพรีเมียม สะดวกสบาย และเน้นประสบการณ์เหนือระดับ โดยจากข้อมูลของ AirAsia MOVE พบว่า

• 40% ของนักเดินทางกลุ่มนี้จองแพ็กเกจทัวร์ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน
• มากกว่า 40% เลือกพักโรงแรมระดับ 4-5 ดาว  และรีสอร์ตหรู มุ่งเน้นไปที่ความสะดวกสบายและบริการระดับพรีเมียม

ลักษณะการท่องเที่ยวของ Baby Boomers

• 55% นิยมแพ็กเกจทัวร์หรือการเดินทางที่วางแผนไว้ล่วงหน้า – ต้องการความสะดวกและการเดินทางที่ไร้กังวล
• 35% ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบาย – ที่พักต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน เช่น สปา ห้องอาหาร และบริการรถรับ-ส่ง
• 35 % เลือกที่พักระดับพรีเมียม– โรงแรมหรู วิลล่าส่วนตัว หรือรีสอร์ตแบบ All-Inclusive
• 74% ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมและประสบการณ์เชิงลึก – ชอบการท่องเที่ยวเชิงศิลปะ ประวัติศาสตร์ และการรับประทานอาหารระดับ Fine Dining
• 90% จองล่วงหน้าเสมอ – มากกว่า 50% ของ Baby Boomers จองที่พักล่วงหน้าก่อนเดินทางอย่างน้อย 3 สัปดาห์

ประเทศปลายทางยอดฮิตของ Baby Boomers ในช่วงสงกรานต์

• 14% นิยมเดินทางไป ประเทศญี่ปุ่น – จุดหมายยอดฮิต ได้แก่  เมืองเกียวโต เมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยวัด สวนญี่ปุ่น และเรียวกังหรู
• 12% นิยมเดินทางไป ประเทศเวียดนาม – จุดหมายยอดฮิต ได้แก่ เมืองฮอยอันเมืองมรดกโลกที่มีเสน่ห์แบบดั้งเดิม พร้อมโรงแรมระดับพรีเมียม
• 49% นิยมเดินทางไป ประเทศไทย – จุดหมายยอดฮิต ได้แก่ กรุงเทพฯ ที่พักหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ และกิจกรรมล่องเรือดินเนอร์

ความแตกต่างของ 2 เจนเนอเรชั่น

แม้ว่าทั้งสองกลุ่มจะมีเป้าหมายเดียวกันคือการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด แต่ลักษณะการจองที่พักกลับสะท้อนถึงสไตล์การท่องเที่ยวที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน Gen Z มีแนวโน้มจองที่พักใกล้แหล่งท่องเที่ยวมากกว่า Baby Boomers ถึง 45% แสดงให้เห็นถึงความต้องการความสะดวกในการเข้าถึงสถานที่สำคัญ

ขณะที่ Baby Boomers ให้ความสำคัญกับการพักผ่อนในบรรยากาศเงียบสงบและบริการครบวงจร โดยมีอัตราการใช้บริการ Concierge หรือ Private Tour สูงกว่า Gen Z ถึง 95%

อีกหนึ่งความแตกต่างที่เห็นได้ชัด คือ พฤติกรรมการจองที่พัก มากกว่า 50% ของ Baby Boomers จองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 สัปดาห์ สะท้อนถึงความต้องการความมั่นใจและการวางแผนล่วงหน้า

ในขณะที่ 24% ของ Gen Z เลือกจองที่พักแบบนาทีสุดท้าย ซึ่งบ่งบอกถึงความยืดหยุ่นและความพร้อมในการปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางอย่างอิสระ

“บางคนเลือกความสะดวกสบายและความมั่นใจล่วงหน้า อีกกลุ่มหนึ่งกลับมองหาความตื่นเต้นและความคล่องตัวในทุกการเดินทาง”

โดยคาดว่า ช่วงสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 12-16 เม.ย. 68 (อ้างอิงตัวเลข ททท.) ไทยจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 26,500 ล้านบาท เติบโต 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) แบ่งเป็น

• นักท่องเที่ยวต่างชาติ 476,000 คน เพิ่มขึ้น 3% (YoY) สร้างรายได้ 7,324 ล้านบาท
• นักท่องเที่ยวไทย 4,418,500 คน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 6% (YoY) สร้างรายได้ 19,240 ล้านบาท

สำหรับปี 2568 เซ็นทรัล ใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท เนรมิตงานสงกรานต์ ปี 2568 ที่ศูนย์การค้า 28 แห่งทั่วประเทศ

โดยงานสงกรานต์ปีนี้จะผสมผสาน ประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิม และเอ็นเตอร์เทนเมนต์เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อจับลูกค้าทุก เจเนอเรชั่น เช่น

• ภายในศูนย์การค้า จัดเสริมสิริมงคลสรงน้ำพระ และการแสดงหาชมได้ยาก อาทิ โขน หุ่นละคนเล็ก รำมโนราห์
• ภายนอกศูนย์การค้า เป็นโซนบันเทิง ตั้งแต่ลานเล่นน้ำ สวนสนุกเป่าลม บ่อบอล ตลอดจน Music Festival จากศิลปิน 300 ชีวิต โดยเซ็นทรัลเวิลด์ จะจัดงาน centralwOrld Songkran Fest 2025 ดึงศิลปินแรปเปอร์ x ศิลปินลูกทุ่ง เช่น โจอี้บอย, ลำไยไหทองคำ, จ๊ะ นงผณี, D Gerrard-Zbing Z. เป็นต้น

ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์รอบนี้เราจับทุกเจเนอเรชั่น โดยดีไซน์กิจกรรมตามอินไซด์แต่ละกลุ่มอายุ

• Gen Z มองสงกรานต์เป็นความสนุก ความบันเทิง การแสดงตัวตนผ่านคอนเสิร์ตและการแต่งตัว
• Gen Y มองหาช่วงเวลาพักผ่อน และการรีเฟรชชีวิต
• Gen X และ Baby Boomers ยึดโยงคุณค่าทางจิตใจผ่านการกลับบ้าน ประเพณีดั้งเดิม เช่น รดน้ำดำหัว การสรงน้ำพระ
• Gen Alpha ต้องการพื้นที่สนุกและปลอดภัย เหมาะกับการทำกิจกรรมทั้งครอบครัว

“อนาคตเราตั้งเป้าดันงานสงกรานต์ เป็นแลนด์มาร์กงานเทศกาลสเกลใหญ่เทียบเท่างานเคานต์ดาวน์ ซึ่งถ้าไปสเกลนั้นอาจต้องมีการปิดถนนบางส่วน ตอนนี้อยู่ระหว่างการเข้าไปพูดคุยกับภาครัฐ คงค่อย ๆ ขยับขยายไป เพราะงานสงกรานต์มีการเล่นน้ำ ต้องสกรีนด้านความปลอดภัยสูงกว่างานเคานต์ดาวน์”

ประเมินว่า งานสงกรานต์ ปี 2568 จะมีทราฟฟิกสูงกว่าปีก่อน 5-10% โดยปีนี้คาดว่าคนไทยจะท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น

ส่วนกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ ที่บริษัทฯ มองในปีนี้ คือ กลุ่ม Short-haul จากจีน มาเลเซีย เกาหลีใต้ อินเดีย และรัสเซีย รวมถึงตลาดใหม่อย่างฮ่องกงและไต้หวัน

ส่วน 5 อันดับศูนย์การค้าที่มียอดทราฟฟิกช่วงสงกรานต์ ประเมินว่า

อันดับ 1 เซ็นทรัล เวิลด์
อันดับ 2 เซ็นทรัล ภูเก็ต
อันดับ 3 เซ็นทรัล พัทยา
อันดับ 4 เซ็นทรัล เชียงใหม่
อันดับ 5 เซ็นทรัล สมุย

ขณะเดียวกัน ปี 2568 เซ็นทรัลได้ Miss Universe และตัวแทนนางงามจากแต่ละทวีป มาช่วยเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์งานสงกรานต์ปี 2568 คาดเป็นส่วนหนึ่งของการประชาสัมพันธ์เทศกาลไปสู่ระดับโลกได้กว้างขึ้น

“ด้านภาพรวมการใช้จ่ายผู้บริโภค ช่วงเดือน ม.ค. – ก.พ. ค่อนข้างดี ถัดมาเดือน มี.ค. ลดลงเล็กน้อย จากหลายเหตุการณ์ อาทิ แผ่นดินไหว ส่วน เม.ย. มีเทศกาลสงกรานต์ และ Pride Month เข้ามาช่วย น่าจะดีขึ้น”

• พัทยา
• หัวหิน
• กทม.
• ชลบุรี

พัทยาดึงดูดนักท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ได้เป็นจำนวนมาก จากวันไหลที่จัดงานสงกรานต์ยาวถึงวันที่ 18-19 เม.ย. 68 ขณะที่พื้นที่อื่นจัดเพียง 13-15 เม.ย. 68

นอกจากนี้ ชลบุรียังติดอันดับครั้งนี้ด้วย โดยอาจเป็นผลมาจากกระแสความน่ารักของ “หมูเด้ง” ฮิปโปแคระที่กลายเป็นขวัญใจของนักเดินทางชาวไทย

ส่วนนักเดินทางชาวต่างชาติ ที่เดินทางร่วมเทศกาลสงกรานต์ในไทย จุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่

• กรุงเทพฯ
• พัทยา
• ภูเก็ต
• หาดใหญ่
• เชียงใหม่

ทั้งนี้ ประเทศไทยยังมีหลากหลายกิจกรรมที่น่าสนใจในช่วงสงกรานต์ อาทิ “มหาสงกรานต์ ปี 68” จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระหว่างวันที่ 11 – 15 เม.ย. 68 ที่ ท้องสนามหลวง ตลอดจน “SIAM Songkran Music Festival 2025” ที่มีการแสดงจากศิลปินชื่อดังจากทั่วโลกอีกด้วย

สำหรับนักเดินทางชาวไทยที่วางแผนเดินทางไปต่างประเทศในช่วงสงกรานต์ พบจุดหมายยอดฮิต ดังนี้

• โตเกียว
• ฮ่องกง
• โอซาก้า
• เซี่ยงไฮ้
• โซล

“เซี่ยงไฮ้ได้เข้ามาเป็นอันดับ 4 แทนที่สิงคโปร์ซึ่งเป็นอันดับ 5 ในปีที่ผ่านมา และในปีนี้สิงคโปร์ไม่ได้ติดอันดับใด ๆ ซึ่งการที่เซี่ยงไฮ้ขึ้นมาติดอันดับนั้นอาจจะเป็นผลมาจากนโยบายการยกเว้นวีซ่าที่จีนประกาศใช้เมื่อปีที่แล้ว ทำให้เกิดความสนใจเพิ่มขึ้นจากนักเดินทางชาวไทย”