ตลาดรถจักรยานยนต์ปี 2566 อยู่ที่ 1.75 ล้านคัน จากปี 2565 อยู่ที่ 1.8 ล้านคัน อย่างไรก็ตาม มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายังคงเติบโตต่อเนื่อง โดย พ.ท. ม.ร.ว.พีรานุพงศ์ ภาณุพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตรอม (ไทยแลนด์) จำกัด เล่าว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมายอดจดทะเบียนมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในไทยเพิ่มขึ้นจาก 3,000 คัน เป็น 10,000 คัน และคาดว่าในปี 2566 นี้จะมียอดจดะเบียนประมาณ 22,000 คัน และปีหน้า (2567) คาดว่ามียอดกว่า 40,000 คัน
สำหรับ สตรอม (STROM) เป็นแบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีจุดเริ่มต้นของแบรนด์มาจากการเป็นบริษัท ผู้ผลิตแบตเตอรี่ รองรับตลาดไอที รถกอล์ฟ และแบตเตอรี่อุตสาหกรรม ที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี โดยมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของสตรอม พัฒนาโดยคนไทยและใช้ชิ้นส่วนผลิตประกอบภายในประเทศทั้งหมด
เบื้องต้น แบรนด์เริ่มทำตลาด B2B โดยจะเจาะไปตลาด โลจิสติกส์ โดยเฉพาะแบรนด์ที่เริ่มหันมาสนับสนุนใช้พลังงานสะอาด อาทิ ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ที่ใช้รถจักรยานยนต์ในการขนส่งเป็นจำนวนมาก โดยคาดว่าประเทศไทยมีไรเดอร์รวมทุกแบรนด์ไม่ต่ำกว่า 4-5 แสนราย
“เรามองตลาดโลจิสติกส์เป็นตลาดเริ่มต้น เพราะเห็นโอกาสเติบโตมากที่สุด นอกจากไรเดอร์เราก็มองไปที่กลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ ที่คาดว่ามีกว่า 2 แสนคันทั่วประเทศ เฉพาะในกรุงเทพฯ ก็มีกว่า 9 หมื่นคัน” พ.ท. ม.ร.ว.พีรานุพงศ์ กล่าว
คาดว่าปี 2024 จะมียอดขาย 2,000 คัน หรือคิดเป็นรายได้ 140 ล้านบาท เติบโต 8-10% โดยที่ผ่านมา บริษัทได้มีการเซ็นสัญญากับ แกร็บ (Grab) นำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของสตรอมไปใช้กับทดลองกว่า 1,000 คัน และแบรนด์ The Pizza Company จำนวน 200 คัน และคาดว่าจะได้ Robinhood และ Foodpanda เป็นลูกค้าในอนาคต
“หากมองการเติบโตตลาด เรามองว่าเป้าหมายที่วางไว้ไม่เกินจริง ซึ่งเรามั่นใจว่าตอนนี้เราเป็นแบรนด์ไทยอันดับ 1 และเป็น Top 5 ของตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โดยเรามีจุดเด่นของเราคือสามารถคัสตอมไมซ์แบตฯ ตามระยะทางที่จะใช้ได้ และมีประสิทธิภาพตอบโจทย์การใช้งาน มีความเร็วตั้งแต่ 60-140 กม./ชั่วโมง” พ.ท. ม.ร.ว.พีรานุพงศ์ กล่าว
พ.ท. ม.ร.ว.พีรานุพงศ์ กล่าวว่า ตลอด 7 ปีที่บริษัทผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เป็นการจำหน่ายเองทั้งหมด แต่ปัจจุบันตลาดมีความพร้อมมากขึ้น ทำให้บริษัทหา ตัวแทนจำหน่าย โดยบริษัทเลือก วีเอสที อีซีเอส ผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอทีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะเป็นผู้บริหารการจัดจำหน่ายแบบครบวงจร อาทิ เป็นศูนย์ Charging Station ซ่อมและขายอะไหล่ นำระบบการจัดการด้านไอที เข้าไปดูแลทางพาร์ตเนอร์คนขับตั้งแต่การทำสัญญา การรับรถ บริการหลังการขาย รวมไปถึงการรับชำระค่าเช่าครบวงจร
“ที่เราเลือกวีเอสที อีซีเอสเป็นตัวแทนจำหน่าย เพราะเรามีความร่วมมือกันมานาน และเราไม่ได้ก็มองว่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ไอทีชิ้นหนึ่งมากกว่าเป็นยานพาหนะ เพราะมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไม่ได้มีอะไหล่เยอะเหมือนมอเตอร์ไซค์สันดาป มีอะไหล่เพียง 5 หน่วย นอกนั้นเปลี่ยนใหม่ไม่ต้องซ่อม” พ.ท. ม.ร.ว.พีรานุพงศ์ กล่าว
เบื้องต้น วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) มีแผนเปิดตัวโชว์รูมสตรอมตามหัวเมืองใหญ่ ไม่ต่ำกว่า 10 จังหวัดทั่วไทย ภายในครึ่งปีแรกของปี 2567 โดยจะเป็นโชว์รูมที่ให้ลูกค้า หรือผู้ที่สนใจได้ทดลองขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสตรอมได้ทุกรุ่น รวมไปถึงสามารถสั่งปรับแต่งมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความเร็วของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า การเพิ่มหรือลดความจุของแบตเตอรี่ ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์แต่งมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ หรือการใช้งานลูกค้า
“ที่เราเจาะตลาด B2B ก่อน เพราะมองว่าถ้ามีไรเดอร์ใช้เยอะ ๆ จะสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคทั่วไป โดยอยากเป็นผู้บุกเบิกทำให้ผู้บริโภคเปิดใจกับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ซึ่งเรามองว่าตอนนี้ตลาดเริ่มพร้อม อย่างสถานีชาร์จเราก็มีพาร์ตเนอร์รวมกว่า 2,000 แห่งทั่วไทย”
ตราบใดที่อินฟาสตักเจอร์พร้อม ผู้บริโภคเข้าถึงได้ ตลาดจะยิ่งเติบโต แต่ต้องยอมรับว่าราคายังสูงกว่า แต่ถ้าใกล้เคียงกับสันดาปจะยิ่งเจริญเติบโต
]]>